รถลีมูซีนสีขาวแล่นมาจอดด้วยเสียงที่ดังลั่น พร้อมเจ้าสาวที่ถูกดึงออกจากรถโดยกลุ่มคนที่ลักพาตัวเธอไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เหมือนในภาพยนตร์ที่คนร้ายฉุดเจ้าสาว แต่แท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในประเพณียอดนิยมที่สร้างสีสันของโรมาเนียเรียกกันว่า “ลักตัวเจ้าสาว” (bride-napping) โดยประเพณีฉุดเจ้าสาวจากเจ้าบ่าวและแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเลี้ยงอย่างคับคั่ง กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกรุงบูคาเรสต์

ทุกคืนวันเสาร์  บรรดาเจ้าสาวทั้งจากกรุงบูคาเรสต์และเมืองต่าง ๆ จะถูกกลุ่มเพื่อนแกล้งทำเป็นลักพาตัว แล้วนำไปไว้ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม จากนั้นตัวประกันจะถูกบันทึกภาพลงกล้องถ่ายรูป ซึ่งพวกเธอจะต้องเต้น หรือไม่ก็ต้องแสดงท่าทียั่วยวน เพื่อให้กลุ่มที่ลักพาตัวนำภาพไปเจรจาต่อรองกับเจ้าบ่าวเพื่อเรียกค่าไถ่  ที่อาจเป็นเหล้าวิสกี้เพียงไม่กี่ขวด หรือให้เจ้าบ่าวทำอะไรก็ได้เกี่ยวกับการแสดงออกที่สุดแสนโรแมนติก เช่น บอกรักเจ้าสาวในที่สาธารณะ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ

ประเพณีการลักพาตัวเจ้าสาวเป็นส่วนหนึ่งของพิธีแต่งงานที่ได้รับความนิยมทั่วอดีตสหภาพโซเวียต ในบางประเทศแขกจะกักตัวเจ้าสาวเอาไว้ หรือนำเธอไปซ่อนที่ห้องด้านหลังในระหว่างพิธีแต่งงาน  เพื่อต้องการให้เจ้าบ่าวจ่ายค่าไถ่ ซึ่งอาจจะเป็นการร้องเพลง  เต้นรำ หรือบางครั้งอาจมีการจ่ายเงินกันจริง ๆ แต่เล็กน้อยพอเป็นพิธี

ในโรมาเนีย ประเพณีดังกล่าวเพิ่งมีขึ้นเมื่อ 2-3 ปีก่อน เริ่มจากนักฟุตบอลชื่อดังคนหนึ่งได้เช่าอาร์ค ออฟ ไทรอัมพ์ ในกรุงบูคาเรสต์  ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2465 เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารโรมาเนียที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และเพื่อฉลองการรวมแคว้นทรานซิลวาเนียของโรมาเนียอีกครั้ง แต่เขาได้เช่าสถานที่ดังกล่าวเพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน ทำให้ที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน แม้ว่าการจัดงานเลี้ยงฉลองในอนุสรณ์สถานจะผิดกฎหมาย แต่ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จะไม่ใส่ใจ

เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว เจ้าสาวราว 20 คน ถูกลักพาตัวมาไว้ที่อาร์ค ออฟ ไทรอัมพ์ แห่งนี้ เจ้าสาวรายหนึ่งถูกพาออกมาจากงานแต่งในเมืองใกล้กรุงบูคาเรสต์ โดยมีแขกเหรื่อตามมาด้วยหลายคน ขณะที่เจ้าสาวบางคนถูกนักรบตาลีบันปลอมใช้ปืนกลเด็กเล่นจี้มา  ซึ่งอลิซาร์  ดราเย่  เจ้าสาววัย 25 ปี บอกว่า การลักพาตัวส่วนใหญ่มีการซักซ้อมกันตั้งแต่ต้นจนจบ บางครั้งแขกที่มาร่วมงานก็ขับรถและบีบแตรไปรอบ ๆ รวมไปถึงการโบกไม้โบกมือและโห่ร้องอย่างสนุกสนาน.

ฮิวแมน

//www.dailynews.co.th/world/154042