Samsung UN65ES8000 65-Inch 3D Slim LED HDTV

SmileySamsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV

Cheap Price !!! Samsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV If you finding bestseller of the Samsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV in this Store. You can Buy Samsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV in stock. We Sale the best Samsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV on Retail & Wholesale.Quick & Easy to Shops , Purchase Online & Secure Check out. Visit here you will be found the Best of Samsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV , for Save Prices? We have Great deals for "Samsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV" In Our Site You can read reviews from real customers and You can check Prices Comparision before you buy with easy. We are Guarantee you will recieve a discount prices or Special offer for Samsung UN65ES8000 65-Inch 1080p 240Hz 3D Slim LED HDTV

[Technical Details/Product Features]

 

  • Smart TV with Smart Interaction
  • Smart Content with Signature Services
  • Built-in WiFi
  • Full HD 2D or 3D
  • Built-in camera

 






Create Date : 19 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2555 0:38:57 น.
Counter : 3428 Pageviews.

20 comment
7 อาหารบำรุงผิวให้เปล่งประกายจากภายใน
อาหารเพื่อผิวสวย



D D D D D D D D

          ถ้าอยากมีผิวสวย จะบำรุงกันแต่ภายนอกด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ผิวสุขภาพดียังต้องได้มาด้วยการบำรุงจากภายใน ซึ่งก็ไม่ได้ดูแลยากอะไร แค่ใส่ใจกับอาหารที่คุณกินให้มากขึ้นเท่านั้นเองค่ะ วันนี้เราก็เลยคัดเอาอาหาร 7 ชนิด ที่มีรสชาติอร่อย แล้วก็มีประโยชน์ต่อผิวมาก ๆ มาฝากคุณกัน

1. ฝรั่ง

          เป็นที่รู้กันดีว่า วิตามินซี นั้นดีต่อผิว ทั้งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทั้งยังทำให้ผิวแข็งแรง ป้องกันอันตรายจากรังสียูวีได้ดีขึ้นด้วย และเมื่อพูดถึงแหล่งอาหารที่อุดมวิตามินซี ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวทั้งหลาย แต่ความจริงแล้ว ผลไม้บ้าน ๆ ของเมืองไทยเราอย่าง "ฝรั่ง" นี่แหละค่ะ มีวิตามินซีสูงกว่าผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลซิตรัสเสียอีกนะ หาซื้อก็ง่ายมีขายแทบตลอดปี ถ้ากินได้บ่อย ๆ ทุกวันจะดีต่อผิวมาก ๆ เลยล่ะ

2. อะโวคาโด

          อโวคาโดรสชาติมัน ๆ เอามาใส่สลัดก็อร่อย หรือกินกับซูชิก็ดี ผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated fatty acids) รวมทั้งยังมีวิตามิน เอ ซี อี และ เค อีกต่างหาก ซึ่งล้วนแต่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นมีน้ำมีนวลน่าสัมผัส แถมยังนำไปใช้ทำเป็นมาส์กเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับเส้นผม และผิวหน้าได้ด้วย

3. วอลนัท

          ถั่วชนิดนี้ดีต่อผิวนักแล แต่หากคุณไม่โปรดปรานวอลนัทนัก ก็ยังมีเพื่อน ๆ ของมัน อย่างอัลมอนด์ พีแคน เมล็ดทานตะวัน และเมล็ดฟักทอง ที่จะช่วยบำรุงผิวของคุณได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้าใครที่ชอบวอลนัทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขอบอกว่านอกจากคุณจะได้ประโยชน์จากกรดโอเมก้า 3 แล้ว ยังได้วิตามินบี ที่ช่วยเรื่องการควบคุมระดับฮอร์โมนความเครียดด้วยนะ

อาหารเพื่อผิวสวย

4. ธัญพืช

          ธัญพืชทั้งหลายนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินบี และรูติน ซึ่งเป็นสารประกอบฟลาโวนอยด์ อันจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยธัญพืชตัวที่นิยมรับประทานกันมากก็คือ บัควีต และ จมูกข้าวสาลี

5. มะม่วงสุก

          ผลไม้เมืองร้อนอย่างมะม่วง โดยเฉพาะมะม่วงสุก มีเบต้าแคโรทีนอยู่มาก ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ที่จะช่วยลดความเสื่อมของเซลล์จากอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูเต่งตึงและสุขภาพดี

6. หอยนางรม

          อาหารที่ขึ้นชื่อว่าบำรุงกำลังวังชาให้ปึ๋งปั๋งอย่างหอยนางรม ที่จริงแล้วก็ยังดีต่อผิวด้วย เพราะว่ามันอุดมไปด้วย ซิงค์ ที่คอยต่อต้านการเกิดสิว และยังช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของผิวอีกต่างหาก คราวนี้ไปร้านอาหารไหนอย่าลืมสั่งเมนูหอยนางรมมาด้วยนะจ๊ะ (และการสั่งเมนูนี้อาจทำให้แฟนหนุ่มของคุณตกใจก็ได้นะ อิอิ)

7. มันฝรั่ง

          มันฝรั่งนั้นดีกับผิวของคุณแน่ เพราะมันเต็มไปด้วย ซิงค์ คอปเปอร์ และมีวิตามินซีด้วย ทุกตัวล้วนช่วยบำรุงผิว แต่การเลือกรับประทานก็ขอให้เป็นเมนูมันฝรั่งอบนะจ๊ะ ถ้าเป็นมันฝรั่งทอดกรอบ หรือว่าเฟรนช์ฟรายล่ะก็ คุณจะพาลได้น้ำมันกับเกลือมาอีกตรึมเลยล่ะ


ได้วัตถุดิบอาหารบำรุงผิวชั้นดีกันแล้ว ก็นำไปเลือกสรรค์ปั้นแต่งเมนูกันได้เลย คราวนี้ก็ได้อร่อยลิ้น อิ่มท้อง แถมผิวสวยไปในตัวด้วย และนอกจากวิตามินและแร่ธาตุที่ได้จากอาหารแล้ว ก็อย่าลืมดื่มน้ำเยอะ ๆ ด้วยนะคะ เพื่อให้รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณ ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี อันซึ่งช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้ จึงช่วยให้ผิวดูสดใสได้อีกทางหนึ่งด้วย



Create Date : 28 ตุลาคม 2555
Last Update : 28 ตุลาคม 2555 16:38:21 น.
Counter : 1006 Pageviews.

0 comment
10 วิธี เพิ่มเสน่ห์เติมความหวานให้กับความรัก
10 วิธี เพิ่มเสน่ห์เติมความหวานให้กับความรัก


สำหรับผู้หญิงที่กำลังรู้สึกว่าแฟนตัวเองไม่ค่อยสนใจเหมือนก่อน ก็อย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจไป เพราะไม่ได้หมายความว่าเขาหมดรักคุณหรอก แต่ความเคยชินของคุณสองคนอาจทำให้ความหวาน ความน่าสนใจ และความตื่นเต้นลดน้อยลงก็ได้ เพราะฉะนั้น จากนี้คุณก็น่าจะเพิ่มสีสันและเติมเสน่ห์ให้กับความรักของคุณกันบ้างดีกว่า. . . . . . . .

1. อย่าหยุดที่จะคบหาเพื่อนใหม่ และหากเป็นไปได้ก็ควงเพื่อนหนุ่ม (และแอ๊บหนุ่ม) ออกไปเที่ยวบ้าง เขาจะได้รู้ว่าในชีวิตของคุณไม่ได้มีเขาแค่คนเดียวนะ แต่ยังมีหนุ่ม ๆ อีกมากมายที่ให้ความสนใจคุณ และเขาก็จะไม่เห็นคุณเป็นของตายอีกต่อไป ที่สำคัญการได้ออกไปกับหนุ่ม ๆ ก็ยังทำให้คุณได้เรียนรู้ทัศนคติและความคิดในแบบผู้ชายอีกด้วย

2. ก่อนที่จะทำให้เขาภูมิใจในตัวคุณ คุณก็ควรภูมิใจในตัวเองซะก่อน ทั้งรูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย ความสามารถ และมั่นคงทางความคิด เพราะผู้ชายชอบผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง และมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าผู้หญิงขี้อาย หรือเดินตามเขาแบบไม่ลืมหูลืมตา ฉะนั้น อะไรคุณรู้สึกไม่เห็นด้วย หรือไม่สะดวกใจที่จะทำก็ปฏิเสธไปบ้าง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ไม่ทำให้คุณกับเขาเลิกกันหรอกค่ะ

3. หากแฟนชวนคุณออกไปเที่ยวก็เล่นตัวบ้างอะไรบ้าง ไม่ควรออกไปทุกครั้งที่เขาเอ่ยปากชวน เพราะหากคุณว่างให้เขาตลอด ไม่ว่าจะรถติดฝนตกแค่ไหนก็อุตส่าห์มา ก็ไม่ต่างอะไรกับของเล่นของเขาหรอก ดังนั้น หากตั้งแต่ที่คบกันมาคุณไม่เคยปฏิเสธเขาเลย คราวหน้าก็ลองปฏิเสธดูบ้างสักครั้ง แล้วคุณจะเห็นว่าเขาสนใจคุณมากขึ้นจริง ๆ

4. เวลาอยู่ต่อหน้าเขาพยายามทำให้ตัวเองดูดีและมีความสุขเข้าไว้ ทั้งการแต่งตัว การพูดการจา รวมไปถึงความคิด เพราะใคร ๆ ก็อยากจะอยู่ใกล้ ๆ คนที่สดชื่น สดใส ร่าเริง มากกว่าคนที่ทำหน้าตาบูดบึ้งตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะผู้หญิงแบบแรกมีเสน่ห์กว่าเป็นไหน ๆ ยิ่งมีมุกขำ ๆ มาเล่าให้ฟังด้วยยิ่งทำให้คุณน่าสนใจมากขึ้น...รู้แบบนี้แล้วก็ยิ้มโลดเลยจ้า

5. ก็เข้าใจดีว่าผู้หญิงต้องการความมั่นคงในชีวิต เห็นคู่อื่นแต่งงานก็รู้สึกอยากจะแต่งบ้าง แต่ทั้งนี้คุณควรเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจซะก่อน แล้วรอให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มพูดเองดีกว่า เพราะหากคุณพูดออกไปตอนที่เขายังไม่พร้อม ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากับคุณเลิกกันได้ง่าย ๆ เลยนะ ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาดีกว่า

6. ถึงแม้คุณจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องให้คนอื่นมาปกป้องดูแลเสมอไป เพราะหากคุณทำแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากภาระเลย ดังนั้น จากนี้ก็ควรแสดงให้เขารู้บ้างว่าคุณสามารถอยู่ได้ตัวเอง เพราะอย่างน้อยในวันที่เขาไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เขาก็สามารถวางใจได้ว่าคุณสามารถดูแลตัวเองได้ โดยที่เขาไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว

7. อย่าบอกเลิกเขาทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เพราะผู้ชายจะไม่บอกเลิกพร่ำเพรื่อเหมือนผู้หญิง ถ้าเขาพูดแสดงว่าเขาหมายความตามนั้นจริง ๆ และหากคุณพูดบ่อย ๆ ก็จะกลายจะความเคยชิน และบั่นทอนความรักที่เขามีต่อคุณไปเรื่อย ๆ จนหมด สุดท้ายแล้วคนที่เสียใจก็จะกลายเป็นตัวคุณนั่นเอง ฉะนั้น หากทะเลาะหรือโต้เถียงกันก็พยายามข่มใจเอาไว้ สงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันดีกว่า

8. อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขากำลังเศร้าและเสียใจ เพราะเป็นช่วงที่ต้องการกำลังใจมากที่สุด เพื่อที่จะยืนได้อีกครั้ง ฉะนั้นหากคุณรักเขาจริงก็ไม่ควรทอดทิ้งหรือปล่อยให้เขาต้องจมอยู่กับความรู้สึกนั้นเพียงลำพัง ซึ่งถ้าหากคุณปลอบคนไม่เก่ง หรือไม่รู้จะทำอะไร แค่นั่งลงแล้วบอกเขาว่าเราจะผ่านมันไปด้วยกัน...ซึ่งพอแล้วล่ะ

9. ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ผู้หญิงสวยหวาน น่ารักแอ๊บแบ๊วเหมือนคนอื่น ๆ แต่หากเขาทำอะไรเซอร์ไพรส์คุณ หรือมีของพิเศษ ๆ มามอบให้คุณ ก็อย่าวางท่าเก๊กอย่างเดียว ทำท่าเขินบ้างอายบ้าง ก็จะทำให้เสน่ห์ที่มีอยู่ในตัวของคุณเพิ่มขึ้นไปอีก และยังทำให้เขามั่นใจว่าเขานี่แหละที่เหมาะกับคุณมากที่สุดแล้ว

10. อย่างที่รู้ ๆ กันว่าผู้ชายไม่ค่อยพูดอะไรมาก (นอกจากตอนที่อยู่กับกลุ่มเพื่อน) และมักจะเก็บอารมณ์เอาไว้มากกว่าแสดงออกมา ดังนั้น หากเขาพูดหรือแสดงความคิดเห็น คุณก็ควรทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ด้วยการตั้งใจฟัง สบตาทุกครั้งที่พูด และเก็บคำพูดของคุณไว้ เพราะจะทำให้เขารู้สึกว่าคุณจริงใจกับเขาจริง ๆ ที่สำคัญยังได้เรียนรู้ความคิดใหม่ ๆ ด้วย

นอกจากวิธีที่เรานำเสนอไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคุณควรรักตัวเองให้ได้ก่อน ก่อนที่จะหวังให้ใครคนอื่นมารักคุณ และความรักที่คุณให้กับเขาก็จะไม่ใช่ความรักที่ขาดสติอีกต่อไป เพราะอย่างน้อยคุณก็รู้แล้วว่าคุณจะรักเขาได้อย่างไร โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองเจ็บ



Create Date : 19 ตุลาคม 2555
Last Update : 19 ตุลาคม 2555 1:32:10 น.
Counter : 846 Pageviews.

0 comment
ความโกรธทำลายทุกอย่าง
DDDDDDDD


ความโกรธทำลายทุกอย่าง (อักขระบันเทิง)


หากสองฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน ความขัดแย้งมันก็จะไม่ค่อยมีหรือมีน้อยมาก เมื่อคนเรามีความโกรธ เขามักจะทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และหนำซ้ำยังทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องยากขึ้น เพราะฉะนั้น เราจะมีกำไรชีวิต หากรู้จักความโกรธและสามารถควบคุมมันไว้ได้ พูดถึงการควบคุมความโกรธนั้น มองได้สองมุม มุมหนึ่งหากเรากดความโกรธไว้มันอาจจะทำให้คนเราระเบิดได้ แต่หากไม่ควบคุมความโกรธไว้เลย เราก็จะทำเรื่องผิดพลาด ตัดสินใจอะไรเพราะอารมณ์มากกว่าเหตุผล อันเป็นผลเสียต่อการดำรงชีวิตของเรา ถ้าอย่างนั้นมาเรียนรู้วิธีบรรเทา หรือทำให้ความโกรธลดน้อยลงกันดีกว่า...

เราต้องเรียนรู้ที่จะกำจัดความเครียด

          ฟังแล้วเป็นเรื่องยาก แต่ที่จริงการกำจัดความเครียดไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย เพียงแค่เข้าใจปัญหาก็จะเข้าใจเรา เรื่องทุกเรื่องต้องแก้ไปทีละเปลาะ เราไม่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สวยวิไลเหมือนอย่างที่ใจต้องการได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่านั้น การนั่งสมาธิ โยคะจะทำให้ใจเย็นขึ้นและปล่อยวางได้มากยิ่งขึ้น เมื่อเย็นได้ ปล่อยวางได้ เราก็จะมีความเครียดน้อยลง โกรธยากขึ้น ความโกรธมันเกิดขึ้นจากข้างใน ฉะนั้น การเริ่มต้นแก้จากข้างในจึงเป็นวิธีแก้ที่ดี ง่ายและตรงเป้า เข้าประเด็นมากที่สุด

ตั้งเป้าหมายว่าเราจะต้องดูแลตัวเอง

          การดูแลตัวเอง ต้องเริ่มต้นจากการดูแลจิตใจ ไม่ต้องควบคุมหนัก คุมเข้มความรู้สึกตัวเอง เพียงแต่ให้ทำความเข้าใจและมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนเราก็จะเป็นคนอารมณ์เย็น ไม่ฉุนเฉียวง่าย อันจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการดูแลอารมณ์ตัวเองมากกว่าการนั่งควบคุมไม่ให้มีความโกรธ กล่าวคือ แก้ที่ต้นเหตุดีกว่าแก้ที่ปลายเหตุ

เลี้ยงสัตว์ ดูแลสัตว์

          เรียนรู้จากสัตว์เหล่านี้มันจะทำให้เรามีจิตใจเยือกเย็นขึ้น เห็นแก่ตัวน้อยลง เคยสังเกตไหมว่า คนที่ไม่มีความเห็นแก่ตัว หรือมีความเห็นแก่ตัวน้อยนั้น จะเป็นคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวน้อย คนที่ไม่ค่อยอยากได้อยากมี จะไม่ค่อยดิ้นรนให้ตัวเองต้องร้อนใจหรืออารมณ์เสียมีคนเคยบอกไว้ว่า คนที่เลี้ยงสัตว์ อยู่ใกล้สัตว์จะมีความอ่อนโยน และโกรธยากกว่าคนที่ไม่ได้สัมผัสหรือเลี้ยงดูเอาใจใส่ ไม่มีสัตว์เลี้ยง

หัดฟังคนอื่นเสียบ้าง

          เงียบและเปิดหูรับฟังคนอื่นพูดบ้าง การรับฟังเหตุผลคนอื่นจะทำให้ความเครียดของเราน้อยลง อย่าได้เหมาเอาว่าเหตุผลของคนอื่นนั้นเป็นข้อแก้ตัวเสมอไป เพราะบางคนก็มีเหตุผลมากพอที่จะอธิบายว่าอะไร ทำไมหรืออย่างไร เมื่อเราได้รับรู้และรับฟังเหตุผล มันจะทำให้อารมณ์เบาและเย็นลง โกรธน้อยลง เข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น เมื่อเราเริ่มต้นรับฟัง เราก็เถียงน้อยลง เมื่อเถียงน้อยลง ข้อขัดแย้งก็จะมีน้อยลงตามไปด้วย

เราต้องมีความเห็นอกเห็นใจตัวเองให้มาก

          ถ้าคิดว่าเราไม่มีความเห็นอกเห็นใจตัวเอง ไม่ต้องกลัว...ไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่ว่าไม่มีก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีตลอดไป ไม่มีก็ต้องฝืน อะไรที่ไม่มีวันนี้ ก็สามารถฝึกจนมี ฝึกจนเก่งได้ในที่สุด ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัว และเมื่อเรามีความเห็นอกเห็นใจตัวเราเองแล้ว เราจะไม่อยากมีความขัดแย้ง ไม่อยากโกรธ ไม่อยากทะเลาะเบาะแว้งกับผู้คน เพราะความขัดแย้งมันขโมยเอาพลังงานของเราไป มันทำให้เราคิดสร้างสรรค์น้อยลง แต่จ้องจะทำร้ายทำลายกันมากขึ้น

ต้องยอมรับคนอื่นอย่างที่เขาเป็น

          และอย่าพยายามบังคับหรือคาดหวังให้ใครยอมรับเราอย่างที่เราเป็น เพราะการยอมรับคนอื่นนั้นง่ายกว่าเมื่อเรายอมรับเขา เข้าใจเขาได้ เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้เรา และยอมรับเราเองในที่สุด สรุปประเด็นง่าย ๆ ก็คือ ยอมรับเขาให้ได้ก่อนแล้วเขาก็จะยอมรับตัวเราเอง หากสองฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน ความขัดแย้งก็จะลดน้อยลงไปด้วย

เรียนรู้ที่จะให้อภัย

          คนที่ให้อภัยเป็นคือคนที่มีบุคลิกดีและมีความสุขใครจะทุกข์จะร้อน จะเดือดเป็นไฟ หากเราไม่พร้อมจะลงไปวิ่งไปดิ้น ไปเต้นด้วย เราเองนั่นแหละที่มีความสุข หากเราให้อภัยและเข้าใจ ก็เราเองนั่นแหละที่จะมีความสุข

มีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้

          หากเชื่อมั่นว่าเราสามารถดูแลอารมณ์โกรธของเราได้ เราเชื่อว่าฟิวส์เราจะไม่ขาดง่าย ๆ ก็จะประคองอารมณ์สุขและมีความเข้าใจ หากไม่มีความเชื่อมั่นก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ของทุกอย่างในโลกใบนี้มันเคลื่อนไปข้างหน้าเพราะมีผู้กำหนด มีคนขับเคลื่อนที่มีความเชื่อมั่น เมื่อไรไม่มีความเชื่อมั่น เมื่อนั้นชีวิตพัง !

หัวเราะให้บ่อยขึ้น

          ทำอารมณ์ดีเข้าไว้ เอาความสนุกความใจเย็น มองโลกในแง่ดี สยบความรุนแรง เพราะความรุนแรงไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาเลย คนเราไม่สามารถ โกรธไปด้วย แถมยังอารมณ์ดีไปได้ เพราะฉะนั้นหากเรามองมุมดี เอาอารมณ์ดีข่มไว้ อารมณ์เสียมันก็ผุดขึ้นมาได้ยาก (นอกจากเจอประเภทน่าเตะและเหลืออดจริง ๆ) แต่ต้องเลือกหัวเราะเลือกอารมณ์ดีสักนิด บางเวลาไม่ควรหัวเราะ ขืนปล่อยก๊ากออกมา หัวเราอาจจะแตกได้ไม่รับประกัน เพราะเสียงหัวเราะอารมณ์ดีของบางคน (ในขณะที่กำลังโกรธกันอยู่นั้น) มันก็ยั่วประสาทฝ่ายตรงข้ามเสียเหลือเกิน สรุปก็คือเราต้องอารมณ์ดี แต่ต้องอารมณ์ดีให้ถูกจังหวะด้วย

เอาทางพระเข้าข่ม

          ถือขันติเป็นสำคัญ มองโลกแง่ดี และไม่โกรธใครง่าย ๆ ความอดทนทางอารมณ์จะพาให้เรา ผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปได้เอง จำไว้เสมอว่า ตัวเราเองก็มีขีดข้อจำกัดของความอดทนด้วย เมื่อรู้ขีดข้อจำกัดของตัวเราเองแล้วนับว่าเราได้เปรียบ ที่ได้เปรียบก็เพราะจะรู้ว่าควรเดินถอยออกมาเมื่อไร ลุกไปเมื่อไร และยืนอยู่กับที่อย่างไร ความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องสนุกหรือวัดความเจ๋ง ไม่ต้องหลีกเพราะกลัว แต่ต้องหลบเพราะมันไม่ก่อประโยชน์กับใครและเสียเวลา



Create Date : 09 ตุลาคม 2555
Last Update : 9 ตุลาคม 2555 2:45:18 น.
Counter : 732 Pageviews.

0 comment
16 วิธีรักษาชีวิตหลังแต่งงาน ให้คงความสุขเสมอ
บทความความรัก 16 วิธี รักษาชีวิตหลังแต่งงาน ให้คงความสุขเสมอ




มีใครบ้างที่รู้สึกว่าชีวิตหลังแต่งงานมันไม่แฮปปี้เหมือนตอนที่ยังเป็นแฟนกันอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะว่าก่อนแต่งงานคุณมีความคาดหวังเกี่ยวกับความรักเยอะ และยังไม่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนรักอย่างจริงจัง แต่ในเมื่อคนสองคนได้ตกลงที่จะเดินร่วมทางด้วยกันแล้ว ถ้าจะให้ไปได้สวยก็ต้องรู้จักวิธีที่จะทำให้ตัวเองและคนรักรู้สึกมีความสุขไปด้วยกัน

เอ้า! แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรดีนะ ที่จะทำให้ชีวิตรักหลังแต่งงานยังคงแฮปปี้เหมือนกับที่คาดหวังเอาไว้ อยากรู้ก็ตามเราเข้าไปหาคำตอบกันเลยจ้า...

1. การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่ตัวคุณ ไม่ใช่ตัวเขา

            อยากให้เขาช่วยซักผ้าบ้างจัง อยากให้เขาเอาใจมากกว่านี้หน่อย...เรื่องแบบนี้คิดแทบตายก็ยิ่งปวดหัว เพราะรู้แน่ว่าหากไปขอตรง ๆ เขาคงจะไม่ทำให้อย่างใจหรอก เพราะฉะนั้น จึงรอเวลาที่คุณสามีอยากใส่เสื้อตัวโปรด แต่มันยังอยู่ในตะกร้าผ้า แล้วพูดออกไปเลยว่า "อยากให้ฉันช่วยซักไหมคะ มาดูนี่สิ แค่ใช้เครื่องซักผ้าซักง่ายจะตายไป" หรือถ้าอยากให้เขาเอาใจมาก ๆ คุณก็เป็นฝ่ายเริ่มเอาใจเขาก่อนเลย รับรองว่าต้องได้ผลลัพธ์หวาน ๆ หรือลูกอ้อนของคุณสามีกลับมาแน่นอน

2. เล่นตามกฎของเขาบ้าง

เท่าที่ดูจากหลาย ๆ คู่ ผู้ที่ตั้งกฎในบ้านส่วนใหญ่ล้วนมาจากฝ่ายหญิงทั้งนั้น ซึ่งก็ทำให้คุณผู้ชายอึดอัดได้ไม่น้อยเลยล่ะ ลองให้เขาเป็นฝ่ายออกกฎบ้าง จะให้ดีก็ควรจะเป็นคนละครึ่ง ตัวอย่างกฎของเขา เช่น วันเสาร์คือวันสบาย จะไม่มีการจิกให้ลุกขึ้นมาทำงานบ้านเด็ดขาด ถึงจะเป็นกฎที่ฟังดูน่าหงุดหงิดใจสำหรับคุณแม่บ้าน แต่ก็ลงให้เขาสักหน่อยเถอะ มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรนักหนานี่นา

3. เปลี่ยนตัวเองจากภายใน

            หลังแต่งงานชีวิตหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป คุณต้องเปลี่ยนไปอยู่บ้านใหม่ พบเพื่อนบ้านใหม่ มีความรับผิดชอบใหม่ในหน้าที่ภรรยา ฯลฯ หลาย ๆ อย่างที่เปลี่ยนไปอาจทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดใจได้ และในเมื่อคุณไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวที่แวดล้อมคุณอยู่ได้ ทำไมไม่ลองหันมาเปลี่ยนแปลงจากภายในดูล่ะ เช่น เปลี่ยนทัศนคติ ปรับระดับความพึงพอใจให้อยู่ในระดับที่ไปถึงได้ง่าย รับรองจะทำให้มีความสุขมากขึ้นแน่นอน

4. ดูแลตัวเองให้ดูดี

            เรื่องนี้ความจริงแล้วไม่น่ายากสำหรับผู้หญิง ซึ่งเป็นเพศที่รักสวยรักงามและดูแลตัวเองเป็นอย่างดีอยู่แล้ว รักษาผิวพรรณ ผมเผ้า หน้าตา ให้ดูดีเข้าไว้ อย่างน้อย ๆ ก็ให้เหมือนกับตอนก่อนแต่งงาน ต่อให้บอกว่ารักกันเพราะจิตใจ แต่คุณผู้ชายคนไหนก็อยากได้ภรรยาสวย ๆ ทั้งนั้นแหละ
5. เปิดใจพูดตรง ๆ โดยไม่ตั้งแง่หรือโกรธกัน

            ยามที่ทะเลาะกันนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเพราะทนนิสัยหรือพฤติกรรมที่เรา (หรือเขา) คิดว่าอีกฝ่ายทำไม่ดี และจากที่เคยทนมาตลอดมันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เลยทำให้ระเบิดลงจนทะเลาะกันยกใหญ่ ถ้าอย่างนั้นมันจะดีกว่าไหม ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกไม่โอเค ก็พูดกันตรง ๆ แต่ขอให้พูดแบบไม่ชวนทะเลาะ ไม่ชวนโมโห หรือไม่ใช้น้ำเสียงตำหนิ และหากคุณเองที่เป็นฝ่ายโดนติติง ก็อย่าได้ทำตัวเป็นคนขี้แพ้ชวนตีด้วยนะ รับฟังและปรับปรุง หรือไม่ก็ชี้แจงเหตุผลให้อีกฝ่ายเข้าใจด้วยดีนะจ๊ะ

6. ไม่รื้อฟื้นเรื่องความผิดพลาดเก่า ๆ

            เรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นแล้วก็ให้แล้วกันไป จะมีประโยชน์อะไรที่จะขุดคุ้ยเรื่องเดิม ๆ ขึ้นมาต่อว่าให้อีกฝ่ายได้เจ็บช้ำน้ำใจอยู่ไม่จบไม่สิ้น เห็นอยู่บ่อยนักเชียวกับที่คู่รักที่ทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ผ่านไปนานแล้ว ถ้าเรื่องมันเกิดขึ้นนานแล้ว เคลียร์แล้ว จบแล้ว ก็ปล่อยให้มันจบและทิ้งมันเอาไว้ตรงนั้นดีกว่านะ

7. ทำให้มากกว่าพูด

            ยอมรับตัวเองจริง ๆ ว่าเป็นคนชอบพูดชอบบ่น เห็นอะไรขัดหูขัดตาก็ต้องบ่นไปซะทุกครั้ง คุณผู้ชายเขาฟังแล้วก็พาลรู้สึกอารมณ์เสียไปด้วย เปลี่ยนจากการบ่นเป็นการลงมือทำดีกว่าไหม ทำให้มากกว่าพูด...ดูดีกว่ากันเยอะเลย แถมยังได้ผลสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันเห็นผลชัดเจน หรือหากแม้คุณจะพูดมาก บ่นเยอะ แต่ก็ลงมือทำด้วย ถ้าอย่างนั้นคุณก็ทำได้ดีอยู่แล้วล่ะค่ะ เพียงแต่ว่าลดการพูดลงมาอีกสักนิด จะเพอร์เฟคท์เลยทีเดียวล่ะ

8. ยอมรับจุดด้อยของอีกฝ่ายได้

            คนเราเมื่อได้อยู่ด้วยกันก็ทำให้เห็นตัวตนจริง ๆ ของกันและกันมากขึ้น คุณสามีของคุณอาจนอนกรน ซดน้ำแกงเสียงดัง หรือเหงื่อออกง่ายแถมยังมีกลิ่นตัวอีก แหม...ฟังดูแล้วเป็นคุณสมบัติที่ไม่น่าพึงพอใจ แต่ถ้าคุณรับมันได้โดยไม่มีเงื่อนไข มันก็แสดงให้เห็นว่าความรักของคุณมันยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้เรื่องบกพร่องของเขาดูเล็กน้อยไปเลย ซึ่งนี่เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับคนที่ใช้ชีวิตคู่กัน

9. เข้าใจไว้นะ ผู้ชายยังไงก็เหมือน ๆ กัน

            เรื่องบางเรื่องคุณก็ต้องทำใจ ว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยยังไงก็เป็นเหมือนกัน พวกเขาอาจไม่เข้าใจเรื่องละเอียดอ่อน หรือเรื่องที่อ่อนไหวเท่าไหร่ แต่อย่าพาลไปโมโหโทโสเขาเลย นี่เป็นปัญหาที่คุณภรรยาทุกคนต้องเจอไม่ต่างกันเลยจ้ะ

10. ชื่นชมความแตกต่างของเขา

            ถึงแม้หลาย ๆ เรื่องผู้ชายจะเป็นเหมือนกันทุกคน แต่ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องที่มีความแตกต่างกันไปตามแต่ตัวบุคคล เช่น สามีของคุณรักสัตว์ ปลูกต้นไม้เก่ง ทำอาหารรสชาติเยี่ยม ฯลฯ นั่นก็เป็นจุดเด่นของเขาที่คุณควรชื่นชม และเชื่อเถอะว่าคุณผู้ชายจะรู้สึกหัวใจพองฟูมากทีเดียว ยามได้รับคำชมจากปากของคุณว่าเขาเก่ง เขาเจ๋งกว่าใคร ๆ

11. อย่ามองความรักเป็นของตาย

            อย่าคิดว่าเมื่อแต่งงานกันแล้ว ยังไงเสียเขาก็จะเป็นคู่ของคุณตลอดไป การคิดเช่นนี้เสี่ยงที่จะทำให้คุณละเลยการเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เอาใจเขาบ้าง ถนอมน้ำใจเขาหน่อย นี่แหละคือสิ่งที่จะบำรุงความรักของคุณทั้งสองได้ตราบนานเท่านาน

12. การแต่งงานไม่เหมือนการออกเดท

            การแต่งงานไม่ได้มีแต่เรื่องหวานแหววโรแมนติก เหมือนยามที่คุณออกเดทตอนสมัยยังเป็นแฟนกันหรอกนะ ชีวิตคู่จริง ๆ นั้นมีหวาน มีขม มีทั้งความสุขและทุกข์จากปัญหาที่ต้องเผชิญปะปนกันไป ทำความเข้าใจกับมัน และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ทุก ๆ แบบ ทั้งที่ดีและไม่ดีที่จะตามมาดีกว่า ^^
13. หยุดพฤติกรรมชี้นิ้วสั่ง

            คุณอาจติดนิสัยที่ใคร ๆ คอยเอาใจมาแต่ไหนแต่ไร แค่ชี้แล้วสั่งก็มีคนทำให้เสมอมา แต่กับความสัมพันธ์ของคนสองคนนั้น คุณไม่ได้เป็นฝ่ายออกคำสั่งแล้วจะได้ดังประสงค์ตลอดเวลา รับรองว่าขืนทำนิสัยอย่างนี้ ชีวิตแต่งงานเห็นทีจะอยู่กันไม่ยืด อย่าสั่งให้เขาทำอย่างนี้อย่างนั้น แม้ว่าคุณจะพิจารณามาแล้วว่ามันเป็นเรื่องที่สมควรทำ เพราะผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่ชอบถูกใครบังคับ ไม่ชอบการออกคำสั่ง พูดกับเขาดี ๆ อยากให้เขาช่วยอะไรให้ใช้คำเชิงขอร้องที่น่าฟังจะดีกว่านะ

14. ไม่พูดคำที่กระทบความภาคภูมิใจของเขา

เพศชายเป็นเพศที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เรียกว่ามีความภาคภูมิและมีอีโก้อยู่ในตัวเองพอประมาณ อะไรที่เขาทำเต็มที่ เขาย่อมมั่นใจว่ามันจะออกมาดีเสมอ ซึ่งคำพูดบางคำของคุณอาจทิ่มแทงความมั่นใจของเขาได้ แม้คุณจะไม่ตั้งใจก็ตาม หากเขาช่วยคุณกวาดบ้าน ถึงแม้มันจะไม่สะอาดเอี่ยมอ่องก็เถอะ แต่แทนที่จะพูดว่า "ยังมีฝุ่นอยู่เลยนะ" เปลี่ยนเป็น "สะอาดขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย ลองกวาดตรงนี้อีกนิดนึงรับรองเยี่ยมเลยล่ะ" รับรองว่าจะทำตามแบบเต็มใจทีเดียว

15. ไม่เล่นสงครามประสาทกับเขา

            ผู้หญิงเวลางอนมักไม่ชอบบอกว่าเรื่องอะไร ไม่แม้กระทั่งบอกด้วยซ้ำว่าฉันกำลังไม่พอใจอยู่นะ แต่มักจะเงียบ นิ่งเฉย ไม่พูดไม่จา ถามคำตอบคำ เหมือนจะประชดกดดันให้คุณสามีได้รู้ตัวว่าเขากำลังทำอะไรให้คุณไม่ชอบใจอยู่ แต่ผู้ชายกลับเกลียดสงครามประสาทแบบนี้เป็นที่สุด นอกจากจะทำให้เสียบรรยากาศภายในบ้านแล้ว เขาก็ยังไม่รู้ด้วยว่าความจริงแล้วเขาทำอะไรผิดกันแน่ ดีไม่ดีปล่อยคุณงอนเก้อแบบไม่ง้อให้เสียเวลาด้วย เพราะฉะนั้น หากคิดว่าเขาทำอะไรผิดและคุณไม่ชอบใจ ก็บอกเขาไปตรง ๆ เถอะนะ อย่ามาทำปั้นปึงอย่างนี้เลย เวลาเห็นภรรยาเป็นอย่างนี้แล้วสามีคนไหนจะอยากเข้าไปยุ่งด้วย จริงไหม?
16. หยอดคำหวานใส่เขาบ้าง

ผู้ชายก็รักที่จะได้ยินคำหวาน ๆ เหมือนกัน ชมเขาให้ได้ชื่นใจบ้างว่าคุณเป็นคนรักที่ดีจัง หรือไม่ก็หยอดคำชมผสมความเซ็กซี่ลงไปให้รักมันกระชุ่มกระชวย แบบว่า "ที่รักของฉันจูบเก่งจังเลย" หรือ "คุณใส่เสื้อกล้ามแล้วเซ็กซี่จังนะ" รับรองว่ามันสูบฉีดระดับความหวานให้กับรักของคุณได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

แต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้วทั้งที ก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ทำความเข้าใจ และปรับตัวเข้าหากันด้วยบ้าง เขาพยายามครึ่งทาง คุณก็พยายามอีกครึ่งหนึ่ง แล้วอย่างนี้ชีวิตรักหลังแต่งงานจะไม่แฮปปี้ได้อย่างไรล่ะคะ













































TAG Heuer Women's CAH1213.BA0863 Formula One White Diamond Chronograph Watch TAG Heuer Men's WAU1110.FT6024 Formula 1 Black Dial Black Rubber Strap Watch Men's FC Barcelona Limited Edition Sportura Quartz Alarm Chronograph TAG Heuer Men's CAV511A.BA0902 Grand Carrera Chronograph Calibre 17 RS Watch Tissot Men's T0364171705702 T-Sport Watch Jorg Gray President Barack Obama Commemorative Edition Mens Watch JG6500 Casio - Protrek - PRW5100-1 Atomic/Solar watch Chopard Men's 168459-3015 Mille Miglia GT XL Chronograph White Dial Watch TAG Heuer Men's WJF211A.BA0570 Link Automatic Watch CITIZEN ECO-DRIVE Women's EW1824-57D Regent Two-Tone Diamond Watch Citizen Men's CB0020-50E World Perpetual A-T Watch TAG Heuer Men's WAH1111.BA0850 Formula 1 Professional Watch Omega Men's 2225.80 Seamaster Chronograph Dial Watch Tag Heuer Women's WAH121D.BA0861 Formula 1 White Dial Dress Watch Movado Men's 0606501 Sapphire Synergy Chronograph PVD Stainless Steel Case Watch Oris Men's 73576514174MB TT1 Black Day Date Dial Watch Victorinox Swiss Army Men's 241432 Maverick GS Black Chronograph Dial Watch Breitling Men's A2736303/B823BKPT Skyracer Raven Chronograph Watch Raymond Weil Men's 2839-Stc-00209 Moon Face Automatic Date Watch Casio Protrek Quartz Black Dial Atomic/ Solar Men's Watch - PRW5000Y-1 Milus Men's TIRC400 Stainless Steel NEW IWC AQUATIMER COUSTEAU EDITION CHRONO-AUTOMATIC MENS WATCH IW376706 Breitling Men's E7936210/C787 Aerospace Titanium Digital Analog Watch Tissot Men's T0444302103100 PRS 516 Day-Date Calendar Watch Tissot Men's T0144301105700 PRC 200 Black Dial Watch NEW OMEGA SPEEDMASTER MENS WATCH 323.21.40.44.02.001 Luminox Evo Navy Seal Blackout Mens Watch 3051.BLACKOUT Tissot Women's T0482171701702 T-Race White Dial Blue Silicone Strap Watch TAG Heuer Men's CAH1112.BA0850 Formula 1 Chronograph Watch Luminox Men's 8362 EVO Ultimate SEAL Chronograph Watch Hamilton Men's H70455733 Khaki King Watch Tissot Men's T0484172703700 T-Race Quartz White Chronograph Dial Watch Tissot Men's T0484172705102 Nicky Hayden Limited Edition Black and Red Dial Watch Tissot Men's T0356141105100 Couturier Stainless-Steel Automatic Black Dial Watch MontBlanc Timewalker Chronograph UTC Automatic Mens Watch 107303 TAG Heuer Men's WV2115.FC6180 Carerra Calibre 7 Twin Time Automatic Black Dial Black Crocodile Watch Tissot Men's T0664071705700 Seastar 1000 Black Dial and Strap Watch TAG Heuer Women's WAF1310.BA0817 Aquaracer Quartz Watch Citizen Men's CA0260-52H Eco-Drive Titanium Watch Raymond Weil 9576-STC-00200 Men's Tradition Black Leather Watch Hamilton Men's H64715535 Khaki Pilot Black Dial Watch Chanel Women's H2569 J12 Black Ceramic Bracelet Watch Tissot T Race Quartz White / Gold Women's Watch T048.217.27.017.00 Omega Women's 2224.80.00 Seamaster 300M Quartz Watch Montblanc Timewalker Stainless Steel Mens Watch 9668 TAG Heuer Women's WAF1424.BB0825 Aquaracer 28mm 18k Yellow Gold Mother-of-Pearl Dial Watch TAG Heuer Men's WAP2011BA0830 Aquaracer Silver Dial Watch Citizen Men's AT4027-06E Perpetual Chrono A-T Limited Edition Eco-Drive Limited Edition Perpetual Chrono A-T Watch Tissot Women's T0502071611600 Heart Automatic Mother-Of-Pearl Open Dial Watch Victorinox Swiss Army Men's 241494 Black Dial Chronograph Watch



Create Date : 05 ตุลาคม 2555
Last Update : 5 ตุลาคม 2555 17:18:39 น.
Counter : 1060 Pageviews.

5 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

jaideeda1
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



D D D D D D D D .......
Group Blog
All Blog