Group Blog
 
All blogs
 
รายงาน : สวมปี๊บสมาชิกสภารับของโจร รับประชุมสภานัดแรก


เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 24 ตุลาคม 2549 16:50:19 น.


วันนี้ (24 ตุลาคม 2549) เมื่อเวลา 10.00 นาฬิกา ที่หน้ารัฐสภา ถนนอู่ทองใน เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร จัดชุมนุมคัดค้านสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่าเป็นสภารับของโจร ตามสัญญาที่เคยให้ไว้เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2549 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย



ในวันประชุมวันแรกของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกของเครือข่าย 19 กันยาฯ ได้ผลัดกันขึ้นอภิปรายโจมตี การยอมรับเข้าดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จากกลุ่มตัวแทนของ นักประชาธิปไตย นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ สื่อมวลชน ผู้นำแรงงาน ฯลฯ รวมทั้งโจมตีการทำงานของรัฐบาลภายใต้การควบคุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช) อีกด้วย

คุณสมบัติ บุญงามอนงค์ ตัวแทนกลุ่มเครือข่าย 19 กันยาฯ ได้อ่านแถลงการณ์ต้านเผด็จการเนื่องในโอกาสเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาตินัดแรก (อ่านได้ด้านล่าง) ทั้งยังตั้งสมญานามสภาชุดนี้ว่าเป็น "สภารับของโจร" ก่อนที่จะมีการผลัดกันขึ้นอภิปรายโจมตีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคมช โดยตัวแทนที่ขึ้นอภิปรายมีทั้ง คุณสรวุฒิ จากตัวแทนองค์กรพัฒนาเอกชน, คุณเล็ก จรรยา ตัวแทนจากโครงการรณรงค์เพื่อแรงงาน และคุณพงศธร อดีตเลขาธิการสนนท



ผู้อภิปรายได้มีการกล่าวถึงวงจรอุบาทว์ ซึ่งเป็นคำที่นิยามโดย ศ ดร. ชัยอนันต์ สมุทวานิช แต่ครั้งนี้ตัว ศ ชัยอนันต์เอง กลับเข้าไปอยู่ในวงจรอุบาทว์เสียเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ,นอกจากนี้คมช ยังมีคำสั่งแต่งตั้งสมาชิกสภาฯ บางคนโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งต้องถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล และเป็นการใช้คำสั่งอย่างที่กลุ่มผู้มีอำนาจเคยชิน

การอภิปรายของ คุณเล็ก จรรยา เป็นไปอย่างเผ็ดร้อน เป็นการอภิปรายสองภาษา สลับภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ เพราะเห็นว่าสื่อไทยไม่ค่อยเผยแพร่ข่าวกลุ่มผู้ต่อต้านคณะรัฐประหาร ในขณะที่เธอให้ความเห็นว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าไปเทียบเท่ากับประเทศพม่า และยังกล่าวขอบคุณตัวแทนจากรัฐบาล EU ที่ไม่รับรองการทำรัฐประหารในครั้งนี้



ในช่วงระหว่างการอภิปราย มีการแสดงการ "สวมปี๊บเลียแข้งเลียขาทหาร" ของตัวแทนจากกลุ่มเครือข่าย 19 กันยาฯ อีกด้วย




ในขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า นายมีชัย ฤชุพันธ์ ได้รับเลือกเป็นประธานสภานิติบัญญัติ ด้วยคะแนนท่วมท้น 167 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 238 คน ทิ้งห่าง น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ได้รับการลงคะแนน 47 เสียงซึ่งมาเป็นอันดับสอง และ ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ที่ได้รับการลงคะแนน 21 เสียง มาเป็นลำดับที่สาม

ท่ามกลางกระแสข่าวการเคลื่อนไหวต่อต้านการบล็อกตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติของนายมีชัย จากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มสื่อมวลชน ตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยอ้างเสียงประชาชน หวั่นระบอบทักษิณจะกลับมา ทั้งที่ตัวแทนสถาบันสื่อมวลชนเองก็เข้ามามีตำแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนได้รับการคัดค้านอย่างหนักจากกลุ่มตัวแทนสื่อมวลชนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เรียกร้องให้รักษาระยะห่างระหว่างสื่อกับรัฐบาล





แถลงการณ์ต้านเผด็จการ
เนื่องในโอกาสเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาตินัดแรก


ในที่สุดพวกเรา "เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร" ก็ "มาตามสัญญา" ที่ให้ไว้เมื่อ 14 ตุลาคม 2549 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่าจะมาเยี่ยมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติในคราวเปิดประชุมนัดแรก ต่อไปนี้เราจะเรียกสภานี้ว่า "สภารับของโจร" เพราะสมาชิกสภาเหล่านี้ทำตัวเยี่ยงคนรับของโจร สมรู้ร่วมคิดกับโจร คือ คมช. (คปค. กลายพันธุ์) ที่ปล้นชิงประชาธิปไตย ฉีกรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ฯลฯ



รัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย คือ สภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนหาใช่สภาที่มาจากการแต่งตั้งของเผด็จการ ดังนั้นสภารับของโจรจึงเป็นได้แค่ "สภาร่างทรง-หุ่นเชิด-ตรายาง-ต่างตอบแทน" เท่านั้น

เหล่าชนชั้นนำจากหลากหลายอาชีพต่างเต็มใจรับตำแหน่งสมาชิกสภารับของโจร โดยไม่สนใจว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับการยึดอำนาจและยังค้ำจุนการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ตลอดจน “การปรับโครงสร้างสังคม-การเมืองไทย” ในระยะยาว ผลร้ายที่สุดที่จะตามมาคือประชาชนจะต้องอ่อนแอลงเพราะเกมส์แห่งการจัดสรรอำนาจนี้ได้กีดกันประชาชนส่วนใหญ่ออกไป หากแต่เปิดช่องให้แก่ชนชั้นนำจากภาคราชการทั้งทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน ชนชั้นนำจากภาคธุรกิจเอกชนที่แต่เดิมมีอำนาจล้นฟ้าอยู่แล้วในสังคมไทยได้มีโอกาสเพิ่มพูนอำนาจ ตลอดจนการจัดสรรทรัพยากรเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องยิ่งๆขึ้นไป

เหล่าสมาชิกสภารับของโจรทำตัวเยี่ยง “นักข่มขืนหมู่” ที่รอต่อคิวข่มขืนประชาชนซ้ำหลังจากที่ คมช.ได้ข่มขืนไปเรียบร้อยแล้วรอบหนึ่ง ผลร้ายอันสุดประมาณจากการข่มขืนดังกล่าว คือ การทำหน้าที่ออกกฏหมายที่อยู่ภายใต้การบงการของกฏหมู่ที่ คมช.อยู่เบื้องหลัง กฏหมายเหล่านี้จะมีผลบังคับแก่ประชาชนคนไทยไปอีกนานแสนนาน กล่าวอีกอย่างก็คือ สภารับของโจรกำลังทำตัวเป็น “สภาเรียงคิว” และ “สภาข่มขืนต่อเนื่อง/ข่มขืนมาราธอน” โดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของประชาชน

เหล่าสมาชิกสภารับของโจรต่างยอมทรยศหักหลังต่อ “หลักการ” ของตน ไม่ว่าจะเป็นนักประชาธิปไตย นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ สื่อมวลชน ผู้นำแรงงานฯลฯ ต่างยอมตนเป็นข้ารับใช้เพื่อแลกกับตำแหน่งหน้าที่และผลประโยชน์อันน้อยนิดแต่ก่อภัยพิบัติอันมหาศาลต่อประชาชนในระยะยาว แม้พวกเราจะเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่ามีสมาชิกสภารับของโจรจำนวนหนึ่งคิดจะเข้ามาคลี่คลายแก้ปัญหาทางการเมืองครั้งนี้ผ่านช่องทางที่มีอยู่ แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวนอกจากจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้วยังเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้เลวร้ายลงไปอีก

ข้อเสนอของเราคือ สมาชิกสภารับของโจรทั้งหลายที่มีสำนึกเหลืออยู่บ้างจง “ลาออก” ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ยกเลิกกฏอัยการศึก และคืนอำนาจให้ประชาชนกลับไปเลือกตั้งภายใต้กติการัฐธรรมนูญปี 2540 โดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นจึงเริ่มกระบวนการปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน


แถลงเมื่อ 24 ตุลาคม 2549
ณ หน้ารัฐสภา ถนนอู่ทองใน
เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร






หมายเหตุ:

กิจกรรมต่อเนื่องตลอดกาล จนกว่าเผด็จการจะออกไป-ประชาธิปไตยจะกลับมา
สภาต้านรัฐประหาร ทุกเย็นวันเสาร์ 4 โมงเย็น ณ ลานโดม ข้างสนามฟุตบอล ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ใครใคร่พูด ได้พูด ใครใคร่ร้อง ได้ร้อง ใครใคร่รำ ได้รำ ใครใคร่เต้น ได้เต้น ใครใคร่วาด ได้วาด แล้วแต่จะเตรียมกันมาอย่างไร เริ่มครั้งแรก เสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2549


Create Date : 30 ตุลาคม 2549
Last Update : 30 ตุลาคม 2549 0:33:13 น. 2 comments
Counter : 358 Pageviews.

 
เง้อ

พม่า







โดย: jengly วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:17:03:39 น.


โดย: ฮันโซ วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:0:33:44 น.  

 
รักขี้เร่


โดย: สืบต้นรุง IP: 124.157.156.33 วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:13:40:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฮันโซ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สหายสิกขา Lite version

สหายสิกขาตั้งคำถามกับการเป็นอยู่ของสรรพสิ่งตรงหน้า พร้อมกันนั้นก็เปิดรับแนวคิดของคำตอบในมุมมองที่แตกต่างอย่างเท่าเทียมกัน

สหายสิกขาจะมีความยินดียิ่ง หากคุณได้นำความรู้ที่ได้จุดประกายนี้ไปตีความต่อให้ลึกซึ้งยิ่งๆขึ้น เพราะยิ่งแลกเปลี่ยนยิ่งถกเถียงยิ่งสนทนาก็สามารถแตกประเด็นไปอีกได้มาก

สหายสิกขาต้องการกระตุ้นให้คนอ่านได้คิด และสัมผัสถึงขอบเขตที่ไม่สิ้นสุดแห่งจินตนาการ

พร้อมกันนั้นสหายสิกขา ก็พร้อมอยู่เป็นเพื่อนคู่คิด เพื่อนสนทนา เพื่อจับมือกันเรียนรู้ไปในโลกกว้าง ...ด้วยกัน

CC Developing Nations
Friends' blogs
[Add ฮันโซ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.