ที่ 01/06 : Lord Jim (1965) บ้านตำหนักหางดง นครแห่งหนองควาย เชียงใหม่ From A_somjai To "DJ - เดช " Date 19-27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 Subject ท่านผู้หาญกล้า รึว่า ....ไอ้หน้าขลาดเขลา... How do you end a bad dream?
เรื่องเล่า Lord Jim ของ โจเซฟ คอนราด แบ่งเนื้อหาสำคัญออกเป็นสองส่วน ส่วน/ภาคแรก เน้นไปที่การผิดพลาดบนยานพาหนะ(เรือ Patna) ของจิม และผลร้ายที่ตามมาจากการกระทำผิดพลาดนั้น
ในหนัง Lord Jim (1965) เมื่อพระเอกอยู่ในวัยหนุ่ม ก็พบกับวิกฤตเรือ Patna ต้นเรือ Jim ร่วมกับกัปตันเรือและลูกเรือคนอื่น ๆ ของ Patna กระโดดลงเรื่อเล็กละทิ้งเรือใหญ่และผู้โดยสารหนีเอาตัวรอด เมื่อลอยเรือเล็กหนีตายกันอยู่กลางทะเล กัปตัน Brown บอกกับต้นเรือหนุ่มจิมที่กำลังซึมเศร้า เหงา มึนงง ด้วยละอายใจต่อการกระทำของตนเองและพรรคพวก ว่า .... Hey, you! Its a lucky thing we jump! You understand? จิมได้แต่เหม่อลอยไม่ตอบสนองต่อคำพูดนั้น
มาร์โลว์อ้างเหตุผล ที่กล่าวกับจิมรุนแรงเช่นนั้นว่า...... Where you belong? Do you realize what youve done here today? Do you know what youve done? เธอ เป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา (ชาวเรือเดินทะเล - a sea man) ความอัปยศอันน่าอดสูของเธอส่องสะท้อน(กลับสู่ตัวตน)ของพวกเราด้วย เธอผลักให้พวกเราตกที่นั่งลำบาก ต้องเจ็บปวด ทรมาน ยากจะปัดเป่าความเสื่อมเสียเกียรติในครั้งนี้! Dont you understand that Jim ตอบว่า: Yes, I understand.
ก็ทำไมชายหนุ่มอย่างจิมจะไม่เชื่ออย่างนั้นล่ะ? ในเมื่อใคร ๆ ต่างก็เชื่อว่า... พระเจ้าอยู่ข้างคนดี และเขาเป็นคนดี เขาเย่อมป็นคนดี ไม่มีใครที่ได้ดูส่วนหลังของหนังเรื่องนี้แล้ว (หรืออ่านหนังสือนิยายเรื่องนี้)ปฏิเสธได้ .... เห็นได้จากการที่ชนชาวพื้นเมืองบอกด้วยคำพูดและพฤติกรรมที่ปฏิบัติต่อคนดีอย่างเขาว่า..... .... God go with you .Tuan Jim. A Tuan is a man of bravery, a man to respect, a lord. Yes. Lord Jim.
อ้า..... พระเจ้าย่อมอยู่ข้างคนดี วีรบุรุษ ผู้กล้าหาญเสมอไป, กระนั้นหรือ? ตลอดเส้นทางที่ผ่านพบ ฯพณฯ Tuan Jim - Lord Jim ผู้คนชาวประชาทั้งหลายต่างเคารพนบไหว้ นอบน้อมถ่อมตน สามัญชนล้วนลดตนลงก้มกราบกราน แซ่ซ้องสรรเสริญยกย่องเชิดชู ...ฯพณฯ Tuan Jim - Lord Jim อยู่มิขาดปาก
ในเรื่องนี้ สไตน์ ผู้สูงวัยนายของ จิม พูดแดกดันเด็กหนุ่มคราวลูกของตนว่า: I know you, master. You dont expect to die. You expect a miracle. Already, you hear the cheering. Already, you hear ..การปรบมือแสดงความชื่นชมก่อนการสิ้นลมหายใจ . the applause before the dead.
แต่ทว่า เจ้ารู้ตัวบ้างไหม ฯพณฯ Tuan Jim - Lord Jim เอ๋ย...... Your kinds of hero need victims. เป็นใครก็ย่อมชอบให้ผู้อื่นชื่นชม เคารพนับถือ ...เพราะเขาหรือเจ้าได้ประโยชน์ เมื่อตัวเจ้าเป็นผู้ได้เปรียบ ตัวเจ้าเป็นผู้กอบโกยผลดี เจ้ามีกำไรจากความรู้สึกสิ้นหวังหมดหวังของพวกเขา(คนพื้นเมือง)เหล่านั้น .... You profit by their despair. แล้วใครกันล่ะที่จะต้องตกเป็นเหยื่อ .....And who will be the victim this time?
Stein พูดกับผู้หญิงของจิมว่า : Perhaps there is no best way แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ทางที่ผัวของเธอจะเลือกเดิน ...ทำอะไรก็ทำเสียเต๊อะอีหล้าเหย!... Take him and run."
(แล้วความรู้ภาษาอังกฤษแบบอสรพิษ ๆ fish ๆ มัจฉา ๆ ของข้าพเจ้าก็สามารถนำพาผู้เล่าและผู้ฟัง มาถึงหัวใจ...ของเรื่องเล่าตอนนี้ ในทัศนะของข้าพเจ้าจนได้)
และแล้ว Lord Jim ก็ตั้งคำถามสรุปบทเรียนจากประสบการณ์ที่ตนเองเคยได้รับมาว่า .... Someone else said that: Run, he said. Hide. เจ้าจงแล่น ลี้ หนี คลาน เลื้อยหลบลึกลงไป 20 ฟุต .... อยู่ในรูใต้พื้นดิน และไม่ต้องปรากฏตัวออกมาให้ใครเขาเห็นอีก ....
ท้ายที่สุด Lord Jim ตั้งคำถามให้กับตนเองและเราทุกคนว่า *** HOW DO YOU END A BAD DREAM? ****
------------------ดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim (1965) จบบริบูรณ์------------
A note to folk งานเขียนของ Joseph Conrad มีเรื่องราวและคำคม ที่ครอบคลุมประเด็นแง่มุมทางปัญญาต่าง ๆ ทางจิตวิทยาบุคคลกับกลุ่มสังคมมนุษย์ กินลึกลงไปในด้านศาสนาและปรัชญามากมาย ดังนั้นถ้าจะ ดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim (1965) ต่อไปอีก ก็คงจะได้การบ่น...เล่า...ที่ยาวมาก ข้าพเจ้าจึงขอยุติไว้เพียงเท่านี้ ส่วนท่านที่สนใจกว้างขวาง ก็ต้องไปต่อยอด เสาะหาหนังสือมาอ่านหรือหาหนังมาดูกันเอง ตามอัธยาศัยครับ
ขอฝาก The Quotations Page ของหนัง Lord Jim (1965) ว่าด้วย How do you end a bad dream? ไว้เป็นของแถม ดังนี้
1. The dream is not bad and not good. Not a vice and not a virtue. 2. The dream exits, like the Earth, like the sea. 3. The dream is you. To end the dream, you must, to the destructive element, submit yourself and fight with hands and feet. Fight to make the deep, deep sea keep you up, alive. 4. You must look at yourself as you are. You must face the truth.
และ
5. Ive been a so-called coward and a so-called hero. And theres not the thickness of a sheet of paper between them. May be cowards and heroes are just ordinary man, who for a split second, do something out of the ordinary. Thats all.. 6. Youre like a father to me. Please .. Dont save me. [Help me, Papa.] HELP ME DO WHAT I HAVE TO DO. [We both know what that is.]
ที่ 01/05 : Lord Jim (1965) บ้านตำหนักหางดง นครแห่งหนองควาย เชียงใหม่ from A_somjai to "DJ - เดช " date 15-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 Subject การ: เชื่อ-ถือ- คำมั่นสัญญา
01/05 : Lord Jim (1965) ตอนนี้ว่าด้วย การ: เชื่อ-ถือ- เชื่อมั่น-คำมั่นสัญญา
ตอนที่แล้วคือ 01/04 : Lord Jim (1965) นั้น ทิ้งท้ายไว้อย่างนี้
หัวหน้าชราผิวเหลือชาวพื้นเมือง กล่าวคำพูดสุดท้ายในคราวนั้นกับ ชายชราผิวขาวชาวตะวันตกนามว่า Stein เจ้าของ(ตัวแทน)บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือ ...ผู้เป็นนายจ้างเจ้านายของ Jim ว่า: In the morning if I find him still here .by his own word he owes the law his life.
ประโยคสะเด็ดน้ำนี้ มีคำสำคัญ 2 สองคำ ได้แก่ Word กับ law หรือ the law เสียงกระดูกของคำหลัง ว่า law นั้น บล็อกนี้ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนมากแล้วในตอนที่ผ่านมา (หากว่าใครยังไม่ได้ยิน ก็ต้องกลับไปเงี่ยหูฟังกันเอาเองนะขอรับ...ว่า -- อันว่า กฎหมาย law หรือ the law นั้น มันมีกำเนิดของสี หรือ ความแตกต่างของสี เข้ามาเกี่ยวข้องกับการบังคบใช้แก่ผู้คนในสังคมนั้น ๆ ด้วยหรือไม่? ---แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับบ้านเมืองเราในห่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่นี้ด้วยรึเปล่า ข้าพเจ้าก็มิทราบได้ ---ใครไม่เชื่อตาม ก็ไม่ว่ากัน)
ส่วนวันนี้เราจะมากลับไปเริ่มเข้าลึกเข้าดึกกันที่คำแรกก่อน - Word - โดยเราจะฟังจากเสียงกระดูกลอร์ดจิมตีกัน มันจะเกิดเสียงดัง...ว่าอย่างไรบ้าง
เรื่องเล่าของเรากำลังนี้คือ ดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim (1965) ไปดู ไปฟัง กันเลย ป๊ะ.....
-1. แม้ในวันวัยนักศึกษาของหนุ่มนายจิม มันก็ชัดเจนว่าหนุ่มจิมเป็นบุคคลผู้เชื่อถือได้ ...Jim was the sort of man you would trust. เอาเป็นว่า...แม้เราจะดูและฟังจากหนังไม่ค่อยชัด...เพราะข้อจำกัดด้านความรู้รอบตัวของเราเอง แต่ในฉากสิ้นสุดการสารภาพความจริงต่อสาธารณะ (A public confession) ของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ SS PATNA แล้ว เจ้าหน้าที่หรือกรรมการตัดสินได้ประทับความ... Cancelled ... ยกเลิก ใบรับรองการศึกษาหรือว่าใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเดินเรือของพระเอกจิมด้วย
ในใบรับรองคุณวุฒินั้นมีข้อความโต ๆ เขียนว่า .... First Mate ... ( ว๊าว .. first mate แปลว่า a merchant ship's officer next in rank below the captain, also first officer หยิบจาก Webster's New World College Dictionary , ส่วนพจนานุกรมไทย บอกว่า รองผู้บัญชาการเรือ (รองกัปตัน) นั้นเขาเรียกว่า ต้นเรือ ครับ)
....แล้วขอแถมอีกอย่างหนึ่ง ชื่อฉายาหรือนามแฝงของจิม อย่างเป็นทางการภายใต้สังกัดบริษัท(พาณิชยนาวี)นั้น ปรากฏอยู่ในตอนท้าย ๆ เรื่อง อ่านออกเสียงโดยศาสตราจารย์สไตน์ เป็นข้อความในจดหมายจากบริษัทแม่ส่งมาจากอัมสเตอร์ดัมว่า .... Jim, alias, James, Burke to represent us in Patusan is deniet. เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญ(นักศึกษา)งานเขียนของโจเซฟ คอนราด บอกว่านวนิยาย Lord Jim นั้น "The second part of the novel is based in some part on the life of James Brooke, the first Rajah of Sarawak. Brooke was an Indian-born English adventurer who in the 1840s managed to gain power and set up an independent state in Sarawak, on the island of Borneo. Some critics, however, think that the fictional Patusan is to be found not in Borneo but in Sumatra."
0. ต้นเรือจิม รนรานไต่บันไดขึ้นมาบนท้องเรือ .. หัวหน้าชาวมุสลิมนักแสวงบุญ ผู้โดยสารบนเรือ สีหน้าแตกตื่นวิตกกังวล เปิดปากถามรองผู้บังคับการเรือ Patna ว่า: พวกเราตกอยู่ในอันตรายรึ? ต้นเรือ Jim: Only if you panic. You must let me free the lifeboat. หัวหน้านักแสวงบุญ: ทำไมละ, แล้วคุณจะได้(ละ)ทิ้ง(หน้าที่) (ลอยแพ) พวกเราซีนะ? ต้นเรือ Jim: You believe that? หัวหน้านักแสวงบุญ: No. . (ตระโกนบอก คนอื่น ๆ ) ปล่อยให้เขาผ่านไป, ปล่อยให้เขาผ่านไป
1. (ฉากภายนอกห้อง) เสียงไต่สวนดังจากห้อง การสารภาพความจริงต่อสาธารณะ (A public confession) ของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ SS PATNA กรรมการ: what changed your mind? ( ภายในห้อง) หัวหน้านักแสวงบุญ: เขาได้ทำไปแล้ว กรรมการ: How? หัวหน้านักแสวงบุญ: He gave his word. I trusted him.
ก็เช่นเดียวกับที่อ้างถึงคำพูดของหัวหน้าชาวพื้นเมืองกล่าวกับสไตน์นายจ้างหัวหน้าของจิม ที่พูดว่า .. by his own word he owes the law his life., word ในประเด็นที่กล่าวถึงอยู่นี้ จึงมีความหมายชัดเจน ....แปลว่า a promise, affirmation, or assurance: to give a person one's word คำพูดนี้คือคำมั่นสัญญา นั้นเอง
2. การพบเจรจากันเพียงลำพังเพื่อตกลงสงบศึกระหว่าง ลอร์ด จิม ฝ่ายพระเอก กับ กัปตัน ฝ่ายผู้ร้าย กัปตัน ฝ่ายผู้ร้าย: ...... Really, my lord, you dont have the moral right to spend their lives. Besides, what would you gain by our dead? ลอร์ด จิม ฝ่ายพระเอก: ก็ต้องเป็นอย่างนั้น, การตายของพวกแก
กัปตัน ฝ่ายผู้ร้าย: แก .... ปากมึงมันช่างเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า ....สาบส่าศีลธรรมเคร่งครัด...ซะไม่มี... ถุย... Hypocrite!..คนเสแสร้ง...ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก มือถือสากปากถือศีล คนลวงโลกเอ้ย! / Have you said one word touched with Christian charity and pity? แกมันคนใจซื่อมือสะอาดบริสุทธิ์นักรึไง, ชีวิตของแก่มันไม่มีอะไรน่าเคลือบแคลง น่าสงสัย เลยหรือไง, ไม่มีอะไรที่รู้สึกผิด น่าละอายเลยรึไงวะ? / . ... นี่คือทางเลือก ..Let us go, be rid of us, or fight and be damned .เลือก!
เมื่อลอร์ด จิม ฝ่ายพระเอก ตัดสินใจให้คำมั่นสัญญาต่อกันแล้ว กัปตัน ฝ่ายผู้ร้ายพูดว่า: Yes. Youre white, clean though. In the name of God Almighty himself, I trust you
เมื่อกลับมาพูดกับคนฝ่ายตน, กัปตัน ฝ่ายผู้ร้ายพูดถึงลอร์ด จิมว่า: เขาจะเชื่อใจ ให้ความเชื่อถือ...ไว้วางใจ ...มีความไว้เนื้อเชื่อใจเรา เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเราก็สามารถเชื่อใจ ให้ความเชื่อถือ...ไว้วางใจ ...มีความไว้เนื้อเชื่อใจเขาได้เช่นกัน .... Hell trust us to prove that we can trust him.
กล่าวด้านฝ่ายพระเอกนั้น ข้าราชการกรมเมืองก็ถาม ตวน หรือ ลอร์ด จิม ว่า: You trust there word? คำตอบของลอร์ด จิมคือ ใช่ นายห้างสไตน์ ถามจิมว่าคำสัญญาข้อตกลงต่อกันนั้น เกี่ยวข้องกับการติดค้างต่อกันแต่หนหลังหรือไม่ ความว่า: What is he to you or you to him? เธอไม่มีอะไรต้องยอมมัน ลอร์ด จิม: เรื่องนี้ ตัวผมยินยอมเองครับ, ไม่ใช่มัน สไตน์: Word. Even for the cleanest mouth, words are a poor security. คำมั่นสัญญาต่างก็มากับความด้อยหลักประกันความมั่นใจไร้กังวลด้านความปลอดภัย
ในที่สุดพระเอก ลอร์ด จิม ก็ให้คำมั่นสัญญาต่อกลุ่มหัวหน้าชาวพื้นเมือง: ตกลง....ถ้ามีคนผู้ใดผู้หนึ่งในหมู่พวกเราแม้แต่เพียงคนเดียว ต้องสูญเสียชีวิต..ต้องตายลงไป ..because of what I ask. ...ด้วยเหตุแห่งคำขอร้องของข้า Ill forfeit my own life....ข้าฯ จะชดใช้คืนด้วยชีวิตของข้าเอง
ที่ 01/04 : Lord Jim (1965) บ้านตำหนักหางดง นครแห่งหนองควาย เชียงใหม่ from A_somjai to "DJ - เดช " date 12-18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 Subject ฝันร้ายหรือว่ากฎหมาย มีหลายสี?
ช่วงฟิตเดินท่องเดินทนหนแรก ๆ นั้น เลยพลอยมือพลอยเท้า ก้าวเดินไปก็คิดนึกไป มีอยู่หลายวันนึกถึงอีตา Forrest gump เอามาก ๆ บางเวลาก็นึกถึงงานแปลเรื่อง "ที่เห็นและเป็นอยู่ ; Being there (1971) written by Jerzy Kosiński เรื่องนี้เมื่อเป็นหนังข้อมูลที่ค้นได้เขาว่า Being There is a 1979 American comedy-drama film directed by Hal Ashby (ผมยังไม่ได้ดู) กับแนวเสียดสีอีกเรื่องชื่อไทยว่า แผ่นดินนี้เราจอง (ได้อ่านพ๊อกเก็ตบุ๊ค แปล ชื่อภาษาอังกฤษ จำไม่ได้แล้ว อ้า --- ค้นเจอแล้ว คือ แผ่นดินนี้เราจอง งานแปลของ เทศภักดิ์ นิยมเหตุ มาจาก Pioneer, Go Home! is a satirical novel by Richard P. Powell, first published in 1959. หนังสือฉบับแปลดีมาก ได้อ่านตั้งกะเรียนอยู่ปี 2 แหนะ, เล่มนั้นก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ข้อมูลล่าสุดบอกว่า มีพิมพ์ครั้งใหม่แล้ว เลขหนังสือ ISBN 974-321-649-9 สำนักพิมพ์มติชน (๒๕๔๒) ๒๑๐ บาท ๓๓๕ หน้า)
3. แล้วบางครั้งหนัง The Truman Show (1998) ก็ผุดขึ้นมาหยอกล้อกับความบ้าบิ่นของตัวเราเอง.... ก็เลยนึกอยากเขียนเรื่องอะไรของเราเอง จากบทสนทนากับตนเองขณะ "เดินออกกำลัง และได้มองเห็นภาพและเสียงกระดูกลั่นก้องออกมาจากข้างทาง ประสานเสียงกับเสียงกระดูกเส้นเอ็นของเราขบกัน ...บ้าง คงมันดี" สำนวนนี้คิดได้ไงว่ะ?
4. Forrest Gump is a 1994 American comedy-drama film based on the 1986 novel of the same name by Winston Groom.นั้นผมมีแล้ว แต่....The Truman Show (1998) ยังไม่มี หากอ้ายเดชมี ก็รบกวนส่งให้อาตมาภาพ (ฮา) อีกสักเตื้อเต๊อะเนาะ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่ว่ามานั้น หากหามาสู่กันดู สู่กันฟังได้ก็ดี ... อิอิ
ด้วยระลึกถึงและนับถือเสมอ A_somjai
มาต่อเข้าเรื่องราวที่เราได้จาก การดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim (1965) กันเลย ชื่อตอนนี้ว่า ฝันร้ายหรือว่ากฎหมาย มีหลายสี?
-1. ราตรีหนึ่ง ท่ามกลางท้องทะเลมหาสมุทร ฟ้ามืดมิด...พายุโหมกระหน่ำ คลื่นน้ำกระแทกรุนแรงโถมใส่เรื่อ SS Patna ที่บรรทุกลูกเรือพร้อมคนโดยสารเป็นผู้แสวงบุญชาวมุสลิม 800 ชีวิต เดินทางมุ่งสู่นครเมกกะ แล้วเจ้าหน้าที่...นายเรือจิม... ก็พบว่า ..ห้องเครื่องเรือมีปัญหาชำรุด ผนัง(กาบ)แตกหักเสียหาย น้ำทะเลไหลทะลักเข้าท้องเรืออย่างรวดเร็ว ลูกเรือห้องเครื่องกระหืดกระหอบบอกเจ้าหน้าที่จิมด้วยเสียงหวาดหวั่น....ว่า: Theres no time, clear thinking, sir. สถานการณ์คับขัน ในความมืด โดยลำพัง อย่างนี้....ยามนี้เป็นใคร.....ใครก็ไม่อาจคาดการณ์อะไรได้ There in the dark, alone with the unexpected. Jim was finally infected with the other mans terror. His imagination made him see what he feared to see.
0. เจ้าหน้าที่จิม รนรานไต่บันไดขึ้นมาบนท้องเรือ .. หัวหน้าชาวมุสลิมนักแสวงบุญ ผู้โดยสารบนเรือ สีหน้าแตกตื่นวิตกกังวล เปิดปากถามเจ้าหน้าที่จิมว่า: Are we in danger? เจ้าหน้าที่ Jim: Only if you panic. You must let me free the lifeboat. หัวหน้านักแสวงบุญ: ทำไมละ, แล้วคุณจะได้(ละ)ทิ้ง(หน้าที่) (ลอยแพ) พวกเราซีนะ? เจ้าหน้าที่ Jim: ท่านเชื่ออย่างนั้นรึ? หัวหน้านักแสวงบุญ: ไม่ . (ตระโกนบอก คนอื่น ๆ ) Let him pass, Let him pass.
1. การสารภาพความจริงต่อสาธารณะ (A public confession) ของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ SS PATNA
Charles Marlow เป็นหนึ่งในกรรมการไต่สวนครั้งนี้ด้วย (คงเป็นเพราะว่า กับตันมาร์โลว์ เป็นผู้การเรือที่รับผิดชอบต่อ การรับจิมเข้าทำงานอาชีพชาวเรือ บนเรือในรับผิดชอบของเขา และนำจิมมาสู่ทะเลตะวันออกเป็นครั้งแรก แล้วปล่อยให้จิมลงรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณขา ณ โรงพยาบาลบนเกาะชวา ต่อมาจิมก็ได้ทำงานบนเรื่อ SS PATNA จนเกิดเรื่อง ฝันร้าย นี้ขึ้น)
หนึ่งในกรรมการ: ท่านคือผู้กู้เรือนี้ ให้รอดพ้นภัย (salvage) จากการล่มจมทะเล ใช่หรือไม่? / ท่านพูดได้ไหมว่า ...the ship was in danger of sinking?
คำให้การของ The French officer: ขอรับท่าน. Possibly, when we towed her in.
มาร์โลว์ (พูดแทรกขึ้นมา) : That is not the point. / Danger is never the barometer of an officers conduct. Will you admit, lieutenant that his behavior was the unmitigated, inexcusable act of coward?
The French officer: มันไม่ใช่เรื่องที่กระผมจะไปกล่าวหา ผู้ใดว่าเป็นคนขี้ขลาดตาขาวได้ดอกขอรับ มาร์โลว์: ก็การกระทำแบบนั้น มันไม่ได้บ่งบอกถึงความกล้าหาญสักน้อยนิดเลย แม่นบ่?
The French officer: ในสงคราม, ต่อหน้าผู้คนอื่น ๆ, เป็นใครก็ถูกคาดหวังให้เขามีความกล้าหาญ. กิจการสงครามอยากให้เป็นเช่นนั้น
มาร์โลว์: At sea, were always at war with the elements. Officers are expected to go down with the ship. Honour demands it. The French officer: ความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่? การซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล? ขอรับ
มาร์โลว์: Very well. The law demands it. The French officer: What law? Wheres such law written?
มาร์โลว์: ในหมู่อารยชนผู้เจริญแล้ว, theres such a thing as the unwritten law. The French officer: ความคิดแบบนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยพวกบริษัทประกันฯ ตะหากเล่า. มันเป็นสิ่งจำเป็นเพราะว่า... if even one crewmen ...หากว่าพวกลูกเรือยังยืนหยัดอยู่บนเรือแล้ว . the ship can not be claimed as salvage.
กรรมการ Charles Marlow: Then loyalty. What about loyalty? The French officer ผู้ให้ปากคำ: เรื่องทำนองนั้น, มันเป็นความซื่อตรง ความศรัทธา ความภักดีต่อเรือที่จมอยู่ใต้พื้นดิน ....but when ship changed to steam, perhaps men changed too.
Marlow: เป็นคุณ.... ท่านจะทำอย่างเดียวกันกับที่เขาได้กระทำลงไปแล้วงั้นรึ .... Could you do what he did? ผู้การเรือชาวฝรั่งเศส : ใครจะไปทราบได้ละขอรับ? Under certain conditions fear will come to any man, Its always there, waiting for us.
กรรมการ: ความกลัว. ----- Thank you very much, lieutenant.
2. Lord Jim บอกให้ลูกชายหัวหน้าชนพื้นเมืองชาวตะวันออกแห่งเมือง Patusan ปล่อยพวกคนร้าย: Let him go away.
ลูกชายหัวหน้า: Why? Those men broke the law. Now they must answer to the law.
ข้าราชการกรมเมือง Patusan ยืนยันความจริงข้อนี้: That law is the oldest of our land. The law of survival .. Death for death.
Lord Jim ตอบว่า: Theres more than one kind of law. ข้าราชการกรมเมือง: Which kind? Your prevail law? Colonial justice? Or is if perhaps your Christian conscience?
Lord Jim: บางที
ข้าราชการกรมเมือง: บางที. คุณธรรม ศีลธรรม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคุณ อาจเป็นสิ่งที่มีสีผิวพรรณ(คนขาว)ของคุณ (เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย) ...Your conscience is coloured by your skin.
คอนราดเขียนเรื่องสั้น "Youth - วัยหนุ่ม" ในรูปแบบการเล่าอัตชีวประวัติ เมื่อปี ค.ศ. 1898 แล้วก็ตีพิมพ์รวมเรื่องสั้นชื่อชุด Youth, a Narrative, and Two Other Stories ในปี 1902 ในรวมเรื่องสั้นชุดนี้ มีเรื่องดัง ๆ ของนักประพันธ์ท่านนี้รวมอยู่ด้วย (เราต้องกล่าวไว้ เพราะมันจะเกี่ยวของกับ ดูหนัง ฟังกระดูก ที่จะคุยถึงกันในภายหน้า ...ก็หวังว่ายังงั้นล่ะ) ได้แก่ Heart of Darkness and The End of the Tether, ซึ่งทุกเรื่องที่กล่าวมานี้คอนราดล้วนเขียนเล่าเรื่องผ่านปากคำของชายชราจัดเจน นามว่า Charles Marlow ทั้งสิ้น (ก็อย่างที่เคยเขียนไว้ที่บล็อกตอนที่ผ่านมาอ้างถึงเรื่อง Heart of Darkness, Lord Jim and Chance ที่ตัวข้าพเจ้าเองก็ยังไม่เคยอ่านผ่านสายตามาเลยนั้นแหละ 555)
เรื่องสั้น "Youth - วัยหนุ่ม" เป็นการเล่าเรื่องเฉพาะเจาะลึกลงรายละเอียด การเดินทางสู่ตะวันออก(เอเชีย)ของชายหนุ่มผู้หนึ่ง - a young man's first journey to the East เรื่องของเรื่องก็คือถ้าเชื่อตามเจ้าของบล็อกนี้ว่า เรื่องเมื่อวัยหนุ่มของ Charles Marlow คนเล่าในนิยาย ก็คือ เรื่องบทสนทนากับตนเอง (ระหว่างตอนวัยหนุ่มกับตอนวัยผ่านมาแล้ว)ของคนแต่งเรื่องนาม Joseph Conrad นั้นเอง
ที่เกริ่นเรื่องมาดังกล่าวข้างต้นนั้น นอกจากการเข้าร่วม...ก๊วนลูกช้างแก่...ขอบ่นด้วยคนแล้ว* คนเขียนยังมีเจตนาเฉพาะด้วย นั้นคือการนำเข้าสู่ความต่อเนื่องของ ดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim (film 1965)
เมื่อต้นเรื่อง Jim ก็คือ นายจิม ที่ยังไม่ได้เป็นท่าน Lord อะไรที่ไหนกับเขาดอกในเรื่องก็ไม่ได้บอกเกี่ยวกับนามสกุล และพื้นเพครอบครัวของเขา รู้แต่ว่าพระเอกหนุ่มจิม - Jim (Peter O'Toole) ในหนังหล่อมาก เป็นชาวอังกฤษ หนังเล่าว่าหนุ่มจิมมีชีวิตอยู่ในช่วง ยุคสมัยพระราชินีวิคตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรขยายอาณานิคมไปกับการค้าและการพาณิชย์โดยทางเรือ และจิมก็ได้รับการฝึกฝนจนเข้าสู่งานลูกเรือพาณิชนาวี ได้เดินทางออกทะเลมาตะวันออกกับเรือลำหนึ่ง ระหว่างทางเขาได้รับบาดเจ็บจึงได้ถูกปล่อยตัวลงไปรักษาที่โรงพยาบาลบน ชวา Java (อินโดนีเชีย) แล้วเขาก็ได้งานใหม่กับเรือลำใหม่ ซึ่งจะเกิดเรื่องเป็นวิกฤตการณ์สำคัญต่อชีวิตของหนุ่มนายเรือจิมพระเอกของเรา อันเป็นปมประเด็นปัญหาของเรื่อง Lord Jim นวนิยายบทประพันธ์ของ Joseph Conrad โจเซฟ คอนราด
Joseph Conrad จึงเป็นนักเขียนอังกฤษเชื้อสายโปลิช (a Polish British novelist), เขามีวัยเยาว์กับครอบครัวชาวโปแลนด์ซึ่งได้รับการส่งเสริมการอ่านภาษา Polish และ French อย่างมาก จากพ่อผู้เป็นนักเขียนในแนวการเมือง (จึงถูกทางการจับตัว เป็นเหตุให้ลูกชายต้องย้ายไปอยู่กับลุง ดังกล่าว) ภายหลังได้เข้าทำงานบนเรือของบริษัทเดินเรือพาณิชย์อังกฤษ แล้วก็เลยได้เรียนภาษาอังกฤษ แบบว่า.... Crucially for his future career, he "began to learn English from East Coast chaps, each built to last for ever and coloured like a Christmas card." กระทั้งต่อมาเขาได้รับสัญชาติอังกฤษ
ว่ากันรวบ ๆ คอนราด ... Conrad served a total of sixteen years in the merchant navy เรื่องเขาเล่าไว้ในบทประพันธ์ต่าง ๆ จึงกล่าวได้ว่าเป็นดอกผลของประสบการณ์สิบหกปีกับงานพานิชนาวี นับตั้งแต่วัยหนุ่มจนถึงวัยกลางคนของตนเอง
ตัวตนคนหนุ่มของ Joseph Conrad ผ่านพระเอก Jim ในหนัง Lord Jim (film 1965) เล่าไว้รวบ ๆ สั้นเพียง 4-5 นาที ดังนั้นถ้าหากเราจะลงลึกไปตามหา บทสนทนาเรื่องวัยหนุ่มของคนเล่าเรื่อง ก็ต้องนี้เลยครับ เรื่องสั้นอันโด่งดังเรื่องหนึ่งของคอนราด ชื่อ "Youth - วัยหนุ่ม"
เราจะนำ "Youth - วัยหนุ่ม" มาเสริมการเล่าเรื่อง ดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim (film 1965) ในตอนนี้กันพอเป็นกระสาย