<<< a_somjai a_somjai's blog === อ่านเขียนบล็อก อ่านเขียนโลก <<<== a_somjai อ่านเขียนบล็อก a_somjai a_somjai's blog
Group Blog
 
All Blogs
 
01/05 : Lord Jim (1965)


Lord Jim
By Resclassic2




ที่ 01/05 : Lord Jim (1965)
บ้านตำหนักหางดง นครแห่งหนองควาย เชียงใหม่
from A_somjai
to "DJ - เดช "
date 15-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
Subject การ: เชื่อ-ถือ- คำมั่นสัญญา

ส่งข่าวก่อน:
1. ผมได้รับแผ่นหนัง Apocalypse Now (1979) กับ Hearts of Darkness: FMA (1991) พร้อมทั้ง Burma VJ (2008) แล้วด้วยความขอบคุณและดีใจมากครับ เห็นอ้ายเดชว่าเรื่องเมืองพม่าบางตอนมีฉากเชียงใหม่ด้วย แต่ต้องเก็บไว้ดูหลังจากกลับจากอีสานบ้านเกิดก่อน จากนั้นจึงจะทยอยดูหนัง ฟังกระดูก พร้อม ๆ กันไปกับหนังเกี่ยวกับเขมร(แดง), ทบทวนหนังจากมองโกเลีย, และหนังเรื่องของ Rwandas อีกรอบ ก็จะได้ภาพรวมการเปลี่ยนแปลงไปในโลกปัจจุบันในภูมิภาคเขตประเทศอินโดจีนซึ่งมีไทยเรารวมอยู่นี้พร้อมกันไปด้วย... งานคงหนักพอดูแหละ ---- แต่ว่าก็สนุกดี ตนเองจะได้ฝึกนึกคิดไปด้วย (คงจะต้องรีบยุติ ฟังกระดูกลอร์ดจิม เอาไว้ได้แล้ว---- จบตอนนี้แล้ว ต่ออีกตอนหน้าก็โอเค.แล้ว)
2. เรื่องขัดข้องการโพสต์รูปภาพในส่วนของคอมเมนต์บนบล็อกแก๊งนี้ จะทำได้ต้องสมัครสมาชิกเว็บพันทิปเขาก่อนนั้น ถ้าหากอ้ายไม่อยากสมัครฯ ก็ส่งเมลพร้อม Attachments .. photo File มาที่ผมก็ได้ จะโพสต์ให้ครับ
3. อนึ่ง ที่ต้องขอบคุณมาก ๆ ก็ แผ่นฝึกเรียนดนตรี Bottleneck Slide Guitar ทั้ง 2 แผ่น, นี่กำลังเก็บตั้งซื้อกีต้าร์ชนิดนี้อยู่ ไปเลียบ ๆ เคียง ๆ ดูที่ร้าน (M.I.W) แถวถนนช้างคลาน เขาว่ามาตัวละตั้ง 12,000.- บาท (แหนะ..... ก็บ้านเราไม่มีใครเขาทำขาย แล้วเครื่องดนตรีนำเขาจากต่างประเทศ รัฐบาลเราก็ดันไปเก็บภาษีเขาแพงอีกตะหาก นี่เนาะ ... ไม่ทราบว่าพวกกระทรวงวัฒนธรรมจะเข้าใจประเด็นนี้รึเปล่า .. ไม่เก็ต....ก็ช่างหัวมันเต๊อะ)

ขอให้รักษาสุขภาพ และหวังว่าอ้ายเดชคงฟื้นตัวได้สมบูรณ์เร็วขึ้น นะครับ

ด้วยระลึกถึงและนับถือเสมอ
A_somjai







01/05 : Lord Jim (1965)
ตอนนี้ว่าด้วย “การ: เชื่อ-ถือ- เชื่อมั่น-คำมั่นสัญญา”

ตอนที่แล้วคือ 01/04 : Lord Jim (1965) นั้น ทิ้งท้ายไว้อย่างนี้

หัวหน้าชราผิวเหลือชาวพื้นเมือง กล่าวคำพูดสุดท้ายในคราวนั้นกับ ชายชราผิวขาวชาวตะวันตกนามว่า Stein เจ้าของ(ตัวแทน)บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือ ...ผู้เป็นนายจ้างเจ้านายของ Jim ว่า: “In the morning if I find him still here ….by his own word … he owes the law … his life.”

ประโยคสะเด็ดน้ำนี้ มีคำสำคัญ 2 สองคำ ได้แก่ Word กับ law หรือ the law
เสียงกระดูกของคำหลัง ว่า law นั้น บล็อกนี้ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนมากแล้วในตอนที่ผ่านมา
(หากว่าใครยังไม่ได้ยิน ก็ต้องกลับไปเงี่ยหูฟังกันเอาเองนะขอรับ...ว่า -- อันว่า กฎหมาย law หรือ the law นั้น มันมีกำเนิดของสี หรือ ความแตกต่างของสี เข้ามาเกี่ยวข้องกับการบังคบใช้แก่ผู้คนในสังคมนั้น ๆ ด้วยหรือไม่? ---แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับบ้านเมืองเราในห่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่นี้ด้วยรึเปล่า ข้าพเจ้าก็มิทราบได้ ---ใครไม่เชื่อตาม ก็ไม่ว่ากัน)


ส่วนวันนี้เราจะมากลับไปเริ่มเข้าลึกเข้าดึกกันที่คำแรกก่อน - Word - โดยเราจะฟังจากเสียงกระดูกลอร์ดจิมตีกัน มันจะเกิดเสียงดัง...ว่าอย่างไรบ้าง

(--แล้วเรื่องนี้ มันจะเกี่ยวอะไรกับบ้านเมืองเรา ที่เห็นและเป็นอยู่ช่วงนี้ว่า... เหล่าชนชั้นสูงชั้นนำต่างเสนอหน้าออกมาพูดมาประชาสัมพันธ์เน้นไปที่ ความเชื่อถือ....เชื่อมั่น.... ร่วมสร้างความเชื่อมั่นเพื่อก้าวเดินไป...ให้เกิดความมั่นคงขึ้นแก่เราและประเทศของเรา... อยู่เต็มหน้าสื่อโฆษณาทุกรูปแบบเกลื่อนไปหมด ... จนอดสงสัยไม่ได้ว่าหรือว่าประเทศเรา—สังคมไทยเรา กำลังเผชิญหน้ากับ วิกฤตการณ์ความเชื่อถือ-ชื่อมั่นในการนำของพวกเขาเหล่านั้นไปมากจน.... ไม่รู้ว่าจะเรียกคืน “ความ....เชื่อ-ถือ-มั่น” กลับมาได้อีกหรือไม่ประการใดนั้น ข้าพเจ้าก็มิทราบอีกแหละ ... 555 ...ข้าฯ ฟู้ภาษานักการเมืองเป็นกะเขาด้วยแฮะ --- (ฟู้ เป็นภาษาเขียนพบในจารึกโบราณของล้านนา, ผมเข้าใจเองว่า ฟู้=เว้า+อู้+พูด,) ---)


การเชื่อ ความเชื่อ การเชื่อถือ ความเชื่อถือ ความเชื่อมั่นของคน ๆ หนึ่ง หรือหลาย ๆ คนต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือสิ่งใด ๆ นั้นเกี่ยวข้องกับนามธรรม เพราะมันเป็นเรื่องเนื่องกันกับความนึกคิด คาดหวังของบุคคลหรือกลุ่มคนว่า สิ่ง(สมมติหรือสัญลักษณ์)นั้นเป็นความจริง หรือเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงตามที่เขาเชื่อ(หรือมีคนบอกให้เขาชื่อถือตาม)นั้น

แต่เอาเต๊อะ ... หากว่าคนเราเชื่อ_ถืออะไรมาก ๆ จนเกินเหตุมันก็ทำให้เกิดเรื่องยุ่ง, ไม่เชื่อถือ_ไม่เชื่อมั่นอะไรเลย เรื่องมันก็ยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ (คือกันแหละเนาะ)

และในทางกลับกัน .... ฝ่ายคนหรือสิ่งอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อ_แห่งการเชื่อถือ ความเชื่อมั่นนั้น หากว่า มีคนเขาเชื่อ-ถือมาก ๆ ก็ยิ่งยุ่งทั้งเขาทั้งเรา, และ/หรือ หากว่า มีคนเขาไม่เชื่อ-ไม่ถือ-ไม่มั่นด้วยแล้ว-เอาเสียเลย นั้น... อาจหมายถึงมีจำนวนคนที่เชื่อถือสิ่งนั้นมีอยู่น้อยคน(ลง) หรือ มีคนจำนวนมากเชื่อถือสิ่งนั้นว่าเป็นจริงน้อยมาก ---ก็ยิ่งยุ่ง(ตายหะ--แม่นบ่)

ผิดกันแต่ ไอ้ที่ว่ายุ่ง ๆ นั้น
มันจะยุ่งดี หรือ ยุ่งร้าย
ก็ต้องค่อยไปว่ากันเป็น กรณี ๆ ไป


เรื่องเล่าของเรากำลังนี้คือ ดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim (1965)
ไปดู ไปฟัง กันเลย ป๊ะ.....

-1.
แม้ในวันวัยนักศึกษาของหนุ่มนายจิม มันก็ชัดเจนว่าหนุ่มจิมเป็นบุคคลผู้เชื่อถือได้ ...Jim was the sort of man you would trust. เอาเป็นว่า...แม้เราจะดูและฟังจากหนังไม่ค่อยชัด...เพราะข้อจำกัดด้านความรู้รอบตัวของเราเอง แต่ในฉากสิ้นสุดการสารภาพความจริงต่อสาธารณะ (A public confession) ของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ SS PATNA แล้ว เจ้าหน้าที่หรือกรรมการตัดสินได้ประทับความ... Cancelled ... ยกเลิก ใบรับรองการศึกษาหรือว่าใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเดินเรือของพระเอกจิมด้วย

ในใบรับรองคุณวุฒินั้นมีข้อความโต ๆ เขียนว่า .... First Mate ... ( ว๊าว .. first mate แปลว่า a merchant ship's officer next in rank below the captain, also first officer หยิบจาก Webster's New World College Dictionary , ส่วนพจนานุกรมไทย บอกว่า รองผู้บัญชาการเรือ (รองกัปตัน) นั้นเขาเรียกว่า ต้นเรือ ครับ)

....แล้วขอแถมอีกอย่างหนึ่ง ชื่อฉายาหรือนามแฝงของจิม อย่างเป็นทางการภายใต้สังกัดบริษัท(พาณิชยนาวี)นั้น ปรากฏอยู่ในตอนท้าย ๆ เรื่อง อ่านออกเสียงโดยศาสตราจารย์สไตน์ เป็นข้อความในจดหมายจากบริษัทแม่ส่งมาจากอัมสเตอร์ดัมว่า .... “Jim, alias, James, Burke to represent us in Patusan is deniet.” เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญ(นักศึกษา)งานเขียนของโจเซฟ คอนราด บอกว่านวนิยาย Lord Jim นั้น "The second part of the novel is based in some part on the life of James Brooke, the first Rajah of Sarawak. Brooke was an Indian-born English adventurer who in the 1840s managed to gain power and set up an independent state in Sarawak, on the island of Borneo. Some critics, however, think that the fictional Patusan is to be found not in Borneo but in Sumatra."



James, The Rajah of Sarawak (born James Brooke; 29 April 1803 – 11 June 1868) was the first White Rajah of Sarawak. อ้างตาม Lord Jim From Wikipedia, the free encyclopedia)





ข้อสังเกตอีกอย่างคือ จิมไม่ยอมบอกชื่อจริง ภายหลังถูกยกเลิกใบประกอบวิชาชีพแล้วจึงต้องใช้นามแฝง และอีกอย่างคือ จิมจะไม่แต่งเครื่องแบบนายเรือ-ต้นเรืออีกเลย จนกระทั่งฉากท้ายเรื่อง ดังภาพนี้





(หากใครอยากรู้ว่าทำไมจิมจึงแต่งเครื่องแบบอีก ก็ต้องไปหาแผ่นหนังเรื่องนี้มาดูแล้วล่ะ)




0.
ต้นเรือจิม รนรานไต่บันไดขึ้นมาบนท้องเรือ……..
…… หัวหน้าชาวมุสลิมนักแสวงบุญ ผู้โดยสารบนเรือ สีหน้าแตกตื่นวิตกกังวล เปิดปากถามรองผู้บังคับการเรือ Patna ว่า: “พวกเราตกอยู่ในอันตรายรึ?”
ต้นเรือ Jim: Only if you panic. You must let me free the lifeboat.
หัวหน้านักแสวงบุญ: “ทำไมละ, แล้วคุณจะได้(ละ)ทิ้ง(หน้าที่) (ลอยแพ) พวกเราซีนะ?”
ต้นเรือ Jim: You believe that?
หัวหน้านักแสวงบุญ: “No.” …. (ตระโกนบอก คนอื่น ๆ ) “ปล่อยให้เขาผ่านไป, ปล่อยให้เขาผ่านไป”


1.
(ฉากภายนอกห้อง) เสียงไต่สวนดังจากห้อง การสารภาพความจริงต่อสาธารณะ (A public confession) ของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ SS PATNA
กรรมการ: what changed your mind?
( ภายในห้อง) หัวหน้านักแสวงบุญ: “เขาได้ทำไปแล้ว”
กรรมการ: How?
หัวหน้านักแสวงบุญ: “He gave his word. I trusted him.”

• ก็เช่นเดียวกับที่อ้างถึงคำพูดของหัวหน้าชาวพื้นเมืองกล่าวกับสไตน์นายจ้างหัวหน้าของจิม ที่พูดว่า ….. by his own word … he owes the law … his life.”, word ในประเด็นที่กล่าวถึงอยู่นี้ จึงมีความหมายชัดเจน ....แปลว่า a promise, affirmation, or assurance: to give a person one's word คำพูดนี้คือคำมั่นสัญญา นั้นเอง


2.
การพบเจรจากันเพียงลำพังเพื่อตกลงสงบศึกระหว่าง ลอร์ด จิม ฝ่ายพระเอก กับ กัปตัน ฝ่ายผู้ร้าย
กัปตัน ฝ่ายผู้ร้าย: “...... Really, my lord, you don’t have the moral right to spend their lives. Besides, what would you gain by our dead?”
ลอร์ด จิม ฝ่ายพระเอก: ก็ต้องเป็นอย่างนั้น, การตายของพวกแก

กัปตัน ฝ่ายผู้ร้าย: “แก .... ปากมึงมันช่างเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า ....สาบส่าศีลธรรมเคร่งครัด...ซะไม่มี... ถุย... Hypocrite!..คนเสแสร้ง...ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก มือถือสากปากถือศีล คนลวงโลกเอ้ย!” / “Have you said one word touched with Christian charity and pity? แกมันคนใจซื่อมือสะอาดบริสุทธิ์นักรึไง, ชีวิตของแก่มันไม่มีอะไรน่าเคลือบแคลง น่าสงสัย เลยหรือไง, ไม่มีอะไรที่รู้สึกผิด น่าละอายเลยรึไงวะ? ” …/…. “... นี่คือทางเลือก ..Let us go, be rid of us, or fight and be damned ….เลือก!”


เมื่อลอร์ด จิม ฝ่ายพระเอก ตัดสินใจให้คำมั่นสัญญาต่อกันแล้ว กัปตัน ฝ่ายผู้ร้ายพูดว่า: Yes. You’re white, clean though. “In the name of God Almighty himself, I trust you”

เมื่อกลับมาพูดกับคนฝ่ายตน, กัปตัน ฝ่ายผู้ร้ายพูดถึงลอร์ด จิมว่า: “เขาจะเชื่อใจ ให้ความเชื่อถือ...ไว้วางใจ ...มีความไว้เนื้อเชื่อใจเรา เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเราก็สามารถเชื่อใจ ให้ความเชื่อถือ...ไว้วางใจ ...มีความไว้เนื้อเชื่อใจเขาได้เช่นกัน .... He’ll trust us to prove that we can trust him.”


กล่าวด้านฝ่ายพระเอกนั้น ข้าราชการกรมเมืองก็ถาม ตวน หรือ ลอร์ด จิม ว่า: “You trust there word?” คำตอบของลอร์ด จิมคือ “ใช่”
นายห้างสไตน์ ถามจิมว่าคำสัญญาข้อตกลงต่อกันนั้น เกี่ยวข้องกับการติดค้างต่อกันแต่หนหลังหรือไม่ ความว่า: … What is he to you or you to him? เธอไม่มีอะไรต้องยอมมัน
ลอร์ด จิม: “เรื่องนี้ ตัวผมยินยอมเองครับ, ไม่ใช่มัน”
สไตน์: “Word. Even for the cleanest mouth, words are a poor security. …คำมั่นสัญญาต่างก็มากับความด้อยหลักประกันความมั่นใจไร้กังวลด้านความปลอดภัย”

ในที่สุดพระเอก ลอร์ด จิม ก็ให้คำมั่นสัญญาต่อกลุ่มหัวหน้าชาวพื้นเมือง: “ตกลง....ถ้ามีคนผู้ใดผู้หนึ่งในหมู่พวกเราแม้แต่เพียงคนเดียว ต้องสูญเสียชีวิต..ต้องตายลงไป ..because of what I ask. ...ด้วยเหตุแห่งคำขอร้องของข้า I’ll forfeit my own life....ข้าฯ จะชดใช้คืนด้วยชีวิตของข้าเอง”

3.
หัวหน้าเผ่าคนพื้นเมืองชาวตะวันออกแห่ง Patusan ประคองกอดศพลูกชายสุดแสนรักของตน ด้วยอาการเศร้าโศกสีหน้าสุดแสนอาลัย...

Stein ชายชราผิวขาวชาวตะวันตก, เจ้าของบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือ ...เจ้านายของจิม, เดินเข้ามาในห้อง ....สไตน์นั่งลงข้าง ๆ หัวหน้า

Stein: Sometime, from a good intention come evil, if God wills it so.

หัวหน้าชาวพื้นเมือง: This was not done by the hard of God.
Stein: Not by Jim.
หัวหน้าชาวพื้นเมือง: มือของคน คนนี้ ไม่ขาวสะอาดอีกต่อไปแล้ว

Stein: การตัดสินของท่าน เจือปนไปด้วยพิษความโกรธของบิดาผู้สูญเสียบุตร
หัวหน้าชาวพื้นเมือง: เป็นพ่อคนเสียก่อน, ค่อยมาตัดสินโทษความโกรธของพ่อ

Stein: แต่กฎหมายนั้น ปราศจากความโกรธ. บุตรของท่านได้ตายไปพร้อมกับความโกรธกระนั้นรึ?
………
หัวหน้าชรากล่าวคำพูดสุดท้ายในคราวนั้นกับ Stein ว่า: “In the morning if I find him still here ….by his own word … he owes the law … his life.”




(เก็บความจากการดูหนัง ฟังกระดูก Lord Jim มาเรียงร้อยเล่าใหม่ ....โดย a_somjai / Based on บทภาพยนตร์ Lord Jim (1965) )









Create Date : 21 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2553 10:50:23 น. 0 comments
Counter : 757 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

a_somjai
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add a_somjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.