Group Blog
 
All blogs
 
ปัจจัยที่ห้า..หรือเปล่า



ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันไม่มีอินเตอร์เน็ทแบบง่ายดายให้เล่น เรื่องของเรื่องคือ ฉันยกเลิกผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทอันเก่า ซึ่งก็คือ AT&T และเปิดใช้บริการใหม่กับ Time Warner ซึ่งมีหลายคนบอกกับฉันว่า Time Warner เครือข่ายอินเตอร์เน็ทเค้าเจ๋งกว่าเยอะมาก ไม่มีสะดุด ไม่มีปัญหาสัญญาณตกหล่น แม้จะวาง router กับพรม ทั้งๆ ที่บ้านฉันไม่มีพรมก็เหอะ

ปัญหาอยู่ที่ว่า มีเวลาคาบเกี่ยวกันที่ทำให้บ้านฉันเล่นอินเตอร์เน็ทไม่ได้เลย เพราะสายเคเบิลของหมู่บ้านลากมาหยุดอยู่หน้าบ้านฉันเท่านั้น ไม่ยอมลากลามเลียเข้ามาในบ้าน ทำให้ฉันแทบจะแดดิ้นเพราะขาดปัจจัยที่ห้าไป โชคของฉันยังดีที่ช่วงนี้ฉันปิดเทอมซัมเมอร์ เลยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ทในการทำการบ้านและรายงาน

จริงๆ แล้ว อินเตอร์เน็ทเป็นเหมือนอุปกรณ์สื่อสารสำหรับฉันเลยก็ว่าได้ เพราะฉันแชทกับเพื่อนทั้งที่อยู่ด้วยกันที่อเมริกานี้ และเพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งแม่ฉันที่เมืองไทย พูดแล้วจะหาว่าคุย ก่อนหน้านี้แม่ฉันออนไลน์ ตั้งกล้องแชทคุยกับฉันเลยนะ แต่ตอนหลัง ด้วยความที่งานเยอะ ทำให้แม่ฉันไม่มีเวลาคุยกันผ่านกล้องเหมือนเคย และแม่ฉันก็ลืมเลือนไปแล้วว่าวิธีแชทมันต้องทำยังไงบ้าง

ฉันรู้สึกว่าฉันติดอินเตอร์เน็ทมากใช้ได้เลยหล่ะ เพราะบ้านฉันมีทีวีก็จริง แต่ไม่ได้ติดเคเบิลสำหรับทีวี ไม่ใช่ว่างกหรอกนะ เคยติดแล้ว แต่ไม่มีใครอยู่บ้านได้ดูกันเลย ทุกคนทำงานและเรียนหนังสือกันหมด บ้านฉันเลยดูเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกที่เค้ามีโทรทัศน์จอแบน มีบลูเรย์อะไรเริ่ดๆ กัน ซึ่งบ้านฉันขอบาย พวกเราดูข่าว ดูหนังผ่านเน็ทแทน ถ้าอยู่เมืองไทยก็คงแปลกพิลึก แต่นี่อยู่อเมริกา ฉันว่ามันเลยดูปกติ ดีเสียอีกที่ดูผ่านเน็ท ไม่มีโฆษณามาคั่นนานๆ แต่ฉันก็อดคิดถึงโฆษณาที่เมืองไทยไม่ได้นะ เพราะฉันว่าโฆษณาเมืองไทยครีเอทีฟดีใช้ได้ ฉันเคยดูบางอันผ่านยูทูป ฮาก๊อกแตกไปเลย

สรุปแล้วตอนที่ฉันไม่มีอินเตอร์เน็ทใช้นั้น ฉันรู้สึกว่าใจฉันมันดิ้นๆๆๆๆ นี่ถ้าฉันอายุน้อยกว่านี้สักเยอะๆ ฉันก็คงจะลงไปดิ้นๆๆๆ แถมกรี๊ดๆๆ เหมือนเด็กสามขวบแล้วบอกว่า จะเอาๆๆๆ ไปแล้ว แต่นี่ด้วยวัยวุฒิ ทำไปก็อายเด็กข้างบ้าน เดี๋ยวเค้าจะหาว่าคนไทยนี่ พอโตแล้วบ๊องๆ ทำอะไรเหมือนเด็กๆ ฉันเลยสงบเสงี่ยมเรียบร้อย

แต่นั่นก็ทำให้ฉันได้มีโอกาสหยิบดีวีดีหนังมาดูหลายเรื่องแทนการเล่นเน็ท แถมหยิบหนังสือนิยายในตู้มาอ่าน จบไปหลายเล่มเลยเช่นกัน นอนเช้าตาเป็นแพนด้ากันไปเลย ที่เจ๋งกว่าคือวันแรกที่ฉันรู้ว่า อ้าว ไม่มีเน็ทเหรอ หลังจากฉันสาแก่ใจเห็นใจตัวเองดิ้นเหมือนปลาโดนทุบหัวแล้ว ฉันก็นั่งสมาธิซะ แปลกดีที่ตอนแรกใจฉันเหมือนเต้นเบรคแด๊นซ์ได้ แต่ไม่นานใจฉันกลับสงบนิ่งอย่างประหลาด และฉันก็ได้เรียนรู้ว่า อะไรที่ฉันยึดติดว่า ฉันติดมันมากมายกระจายแด๊นซ์นั้น จริงๆ แล้วฉันไม่ได้ติดมันสักเท่าไหร่หรอก ฉันแค่รู้สึกว่า "ฉันต้องใช้มัน" เหมือนเป็นความเคยชินแค่นั้นเอง ซึ่งพอเราไม่ได้ทำเหมือนที่เราเคยทำ มันก็ไม่ได้หนักหนาสักเท่าไหร่

นึกๆ ไปก็เหมือนเรื่องนาฬิกาของฉัน เมื่อก่อนฉันติดนาฬิกาข้อมือมาก เรียกได้ว่าฉันขาดอะไรก็ได้ แต่ขาดนาฬิกาไม่ได้เลย วันไหนฉันไม่ใส่นาฬิกาข้อมือ ฉันก็มักจะชอบนักแล หยิบข้อมือคนข้างๆ ไม่ว่าใคร ถ้าเดินเข้ามาใกล้รัศมีการหยิบของฉัน ฉันจะหยิบๆๆๆ ข้อมือคนๆ นั้นมาดูเวลาทุกห้านาที ปกติฉันใส่นาฬิกาข้อมือเอง ฉันก็ไม่ใคร่จะดูเวลาเท่าไหร่ แต่พอไม่มีนี่ ฉันโหยหา อยากรู้เวลาแทบทุกนาทีเลย ให้ตายเหอะ แต่พอฉันเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง อยากรู้ว่าฉันจะขาดมันไม่ได้จริงๆ เหรอ ทำให้ทุกวันนี้ ฉันไม่ใส่นาฬิกาข้อมือเลย ยกเว้นตอนทำงานเพื่อดูเวลาสำหรับลูกค้าเข้าและออก นอกนั้นฉันไม่ใส่นาฬิกาเลย ก็แปลกดี ว่าแล้วก็ไปหยิบนาฬิกาข้อมือคนข้างๆ มาดูดีกว่าว่ากี่โมงแล้ววววววว


Create Date : 07 กรกฎาคม 2552
Last Update : 7 กรกฎาคม 2552 15:17:54 น. 10 comments
Counter : 699 Pageviews.

 
ตอนนี้ผมก็ติดเนทเหมือนกันครับ ส่วนนาฬิกาผมไม่ค่อยติดครับ แต่จะดูเฉพาะใกล้เลิกงานนะ ไม่รู้ใกล้เลิกงานทำไมเวลามันเดินช้าจัง 555


โดย: nongmalakor วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:31:32 น.  

 
คิดว่าตอนนี้เป็นปัจจัยแรกของส้มเลยนะ


โดย: somphoenix วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:53:21 น.  

 
ติดเนทด้วยคน เวลาเนทที่บริษัทขัดข้องจะรู้สึกเหมือนทำไมเวลามันผ่านไปช้าจริงๆค่ะ


โดย: หมูน้อยแก้มใส วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:25:57 น.  

 


ความเสื่อมย่อมเกิดขึ้นกับทุกตัวคน
ทุกหลับตา …ทุกลืมตา
ยังจะประมาทกันอีกหรือ ?????


คุณเดซี่เขียนเล่าได้สนุกค่ะ ป้าอ่านไปเรื่อยๆจบไม่ทันรู้ตัว
ก็เป็นเรื่องธรรมดาละค่ะ อะไรที่เราคุ้นเคยมานาน พอขาดหายมันรู้สึกโหวงๆเบาๆแกว่งๆไป
แต่คุณเดซี่ก็ปรับตัวกับความขาดได้เร็วนะคะ จนสมาธิสงบใจที่เต้นเป็นเบรคแด้นซ์ได้

ช่วงนี้ป้าเข้าบล็อกแบบผลุบๆโผล่ๆเต็มที หากมาเยี่ยมน้อยไปไม่ว่ากันนะคะ
ถึงอย่างไรก็ยังระลึกถึงเสมอค่ะ

คมคำ : รู้สารพัดรู้ แต่ไม่รู้จักตัวเอง ก็ไม่เรียกว่ารู้จริง





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:49:42 น.  

 


ในเวลาที่สูงสุดอาจมีคนอยู่กับเราเป็นร้อย
แต่ในเวลาต่ำต้อยอาจมีน้อยไม่ถึงหนึ่ง



หอบความระลึกถึงมาฝากมากมาย เก็บเข้าบ้านด้วยเน้อ
อย่าเผลอลืมทิ้งไว้นอกบ้านจะโดนฝนจ้าาาาาาาาาาาาา


คมคำ : เบื้องหลังอุปสรรค อาจมีความสำเร็จรออยู่





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:46:30 น.  

 


ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ความรุนแรง
ด้วยความรุนแรงเสมอไป



ช่วงนี้ต่อให้ไม่ชอบหน้ากาก ก็จำต้องสวมหน้ากากเข้าหากัน
มั น แ ป ล ก จ ริ ง เ น๊ อ ะ
…………………………

ดึกแล้วป้าส่งเข้านอนเลยนะ
หลับสบาย…. ฝันดี มีความสุขค่ะ


คมคำ : แค่ขำวันละนิดชีวิตก็ดีขึ้นเยอะ





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:29:38 น.  

 


เพียงปรับเปลี่ยนมุมมองและวิธีคิด
ก็อาจเปลี่ยนใจที่กำลังเป็นถังขยะ
ให้กลายเป็นหิ้งบูชาพระที่งดงามได้



สวัสดีค่ะ ป้าแวะมาเยี่ยม
รักษาสุขภาพและอยู่กับสุขที่อิ่มเย็นนะคะ


คมคำ : ทุกวันที่ทำดีกับผู้มีพระคุณ…นั่นคือวันกตัญญู





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 24 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:21:34 น.  

 


ยืดเส้นยืดสายท่านี้ก็ไม่เลวนะคะ


แวะมาเยี่ยมช่วงค่ำเช่นเคยค่ะ

มีท่ายืดเส้นยืดสายมาฝาก หากว่างลองดูนะคะ
รับรองว่าหายปวดหายเมื่อยจริงๆ


คมคำ : อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน … เกิดเป็นคนอย่ากลัวคำนินทา





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:34:44 น.  

 
มาทักทายครับ เวลาบางครั้งก็ปล่อยมันไปบ้าง แต่ถ้ายากออกกำลังกายก็ต้องวิ่งไล่จับ


โดย: nuguln วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:20:51:36 น.  

 


รักของแม่เหมือนมะลิบริสุทธิ์
กลีบจะรานก้านจะหลุดไม่หยุดหอม
เมื่อโลกร้อนเลวร้ายมารายล้อม
รักแม่หลอมโลกให้….ได้ร่มเย็น

โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


นำความระลึกถึงมาฝากค่ะ
วางไว้บนโต๊ะแถวๆนี้แหละลองหาดู

มีความสุขมากมากนะคะ


คมคำ : เรื่องไม่แปลก…แต่จริง
ลูกมีวันแม่แค่ปีละ 1 วัน แต่แม่มีวันลูกตลอดทั้งปี





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:21:53:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

daisyntulip
Location :
California United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add daisyntulip's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.