โทษควรระวัง คุณควรสั่งสม
วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๑๓ ได้เวียนมาบรรจบถึงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ คำนวณนับตามวัน เดือน ปีที่ล่วงแล้วได้ ๔๔ ปีบริบูรณ์ นั่นคืออายุของฉัน และ ๑๐ พฤษภา ๑๓ ก็คือวันที่ฉันเกิด ถามว่าวันเกิดควรยินดีไหม ถ้าตอบตามพุทธวจนะจริงๆ ก็ต้องตอบว่า "ไม่น่ายินดี" เพราะพระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า "ชาติ ทุกฺขา ปุนปฺปุนํ : เกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์" ไม่ลองย้อนรอยอดีตดูบ้างว่า แก่ภพกี่ชาติกี่กัปกี่กัลป์ที่เธอเกิดและตาย มันไม่สามารถคำนวณนับว่า กระดูกของเธอแหลกสลายหายไปแบบไม่เหลือร่องรอยเลยได้เท่าไหร่
ดังนั้น เธอจะมาตื่นเต้นยินดีกับวันเกิดการเกิดทำไม (ไม่ใช่เกิดมาไม่คุ้ม มันไม่คุ้มตั้งแต่เกิด) กรรมที่นำมาให้เกิดไม่น่ายินดี ธรรมที่นำไปมิให้เกิดต่างหากที่น่ายินดี ธรรมนั้นคืออะไร เราชาวพุทธทราบกันดี
แต่ทว่าการเกิดที่ถือว่าน่ายินดี เธอยังไม่สิ้นกิเลสอาสวะจึงต้องมาเกิด เพียงแต่เธอเกิดมาทำคุณงามความดีบำเพ็ญบารมีเพื่อนำไปสู่ธรรมที่ทำให้ไม่เกิด
ดังนั้น ถ้าวันคล้ายวันเกิดได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง จึงถือเป็นวาระที่บุญกุศลจะได้เกิดขึ้น "บุญมาปัญญาเกิด" สมควรเหมาะสมที่สุด
วานนี้วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของฉัน ทีแรกฉันก็เฉยๆ และรู้สึกจะยุ่งยากเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อคณะศิษย์กรรมฐานพากันมา โดยเชิญชวนกันเองในกลุ่ม ฉันไม่รู้ว่าใครจะมาบ้าง ก็ให้รู้สึกยินดี และยินดีมากๆเพราะวาระแห่งวันคล้ายวันเกิดของฉันเป็นวาระแห่งการเกิดบุญเกิดกุศลจริงๆ
แต่ทว่าเมื่อวานนี้บุญเกิดแต่ธรรมไม่เกิด เพราะฉันไม่ได้แสดงธรรมตามที่ตั้งใจไว้ เพียงแต่ได้สนทนาธรรมกับศิษย์กรรมฐานบางคนที่ยังอยู่กันต่อจนถึงเย็น
วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ นี้ ฉันจึงถือโอกาสแสดงธรรมย้อนรอยเมื่อวานนี้ ประหนึ่ง "ธรรมะควันหลง" ชื่อเรื่องว่า "ธรรมะ ณ วันเกิด" จะเป็นอย่างไรนั้น ขอเชิญคณะศิษย์กรรมฐานและสาธุชนทั้งหลายรับชมและรับฟังเถิด