|
|
จอมบึงมาราธอนครั้งที่ ๒๔ ปีพ.ศ.๒๕๕๒
หลังจากติดค้างไว้นานว่าจะเขียนเล่าประสบการณ์ไปร่วมแข่งขันรายการจอมบึงมาราธอนวันที่ ๑๘ มกราคมที่ผ่านมา....วันนี้ได้ฤกษ์เขียนซักทีภายหลังจากฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯจบลงด้วยธรรมศาสตร์ชนะ ๒-๐
ตอนบ่ายๆวันเสาร์ที่ ๑๗ มกราคมผมขับรถไปอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เพื่อร่วมแข่งขันรายการจอมบึงมาราธอนครั้งที่ ๒๔ ในวันที่ ๑๘ มกราคม
ยังไม่เคยแข่งรายการฮาล์ฟมาราธอนในเมืองไทยมาก่อน แต่เคยแข่งรายการระยะนี้มาแล้วในญี่ปุ่น ได้ยินเสียงลือว่าคอร์สวิ่งของจอมบึงมาราธอนโหดมาก...อยากลองดูว่าโหดขนาดไหน?
ผมเข้าพักในหอพักของมหาวิทยาลัยราชภัฏจอมบึงเพราะอยู่ใกล้จุดปล่อยตัว ไม่ต้องตื่นเช้ามากนัก นักศึกษาเขาต้อนรับแขกได้ดีมาก มีการขี่มอเตอร์ไซด์ไปส่งแขกถึงหอ การประสานงานต้อนรับแขกของคณะผู้จัดงานทำได้ดี มีอาหารไว้ต้อนรับนักวิ่ง มีคนมาเข้าร่วมการแข่งขันมาราธอนระยะต่างๆราวๆ ๒,๐๐๐ กว่าคน
เข้านอนเช้ากว่าปกติ....เพราะเขาปล่อยตัวตอนตี ๕ ครึ่งสำหรับระยะฮาล์ฟมาราธอน ราวๆ ๓ ทุ่มก็เข้านอนแต่ต้องตื่นเช้ามากๆ
เราตื่นเต้นกับการแข่งขันจนตื่นก่อนเวลาที่ตั้งนาฬิกาปลุก อากาศตอนกลางคืนหนาวทีเดียว นอนหลับๆตื่นๆเป็นระยะ
แต่งตัวเสร็จก็ทำการยืดกล้ามเนื้อ การแข่งขันที่นี่ใช้มาตรฐานชิพในการจับเวลา ผูกชิพเข้ากับข้อเท้า ตัวชิพนี้จะเป็นตัวจับเวลาเน็ตของนักวิ่งแต่ละคน ถือว่าการแข่งขันจอมบึงมาราธอนได้มาตรฐานกว่าการแข่งขันมาราธอนรายการอื่นอีกหลายรายการ 
ได้ยินคณะผู้จัดงานรายงานว่ามีนักวิ่งรายการฮาล์ฟมาราธอนอยู่ที่ ๕๐๐ กว่าราย เขาเริ่มปล่อยตัวตอนตี ๕ ครึ่ง อากาศกำลังเย็นสบายๆ ก่อนปล่อยตัวมีการตีกลองเชิดสิงโตของนักศึกษาสถาบันราชภัฏจอมบึง มีกองเชียร์ของนักศึกษาบนแสตนด์เชียร์ช่วยกันส่งเสียงเชียร์ 
พอวิ่งก็พยายามรักษาเวลาในการวิ่ง...พบว่าระยะ ๑ กิโลเมตรแรกผมทำเวลาได้ราวๆ ๕ นาที ๒๐ วินาที ระหว่างทางมีเด็กชั้นประถมมาเต้นตามจังหวะเพลงที่เขาเปิด...ได้บรรยากาศสีสันของมาราธอนแบบไทยๆ ระหว่างทางที่วิ่งมีกองเชียร์ตีกลองยาว ตีฉิ่งฉาบ เด็กนักเรียนมาเต้นตามจังหวะ...ตบมือตามเพลง...และคอยยื่นมือมาตบกับนักวิ่ง เด็กพวกนี้จะถูกเกณฑ์มาเชียร์รึเปล่าไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆเด็กๆรู้สึกสนุกที่ได้เชียร์นักวิ่งที่วิ่งผ่าน นี่อาจจะเป็นสีสันของมาราธอนที่ต่างไปจากรายการมาราธอนที่เคยแข่งขันมา ผู้คนที่นี่ดูเป็นมิตรกับนักวิ่ง
เวลาที่ใช้ในการวิ่งเริ่มตกลงตามระยะทางที่เพิ่มขึ้น จากกิโลเมตรละ ๕ นาทีกว่าเป็นเฉียดๆ ๖ นาที เริ่มหอบในระหว่างวิ่ง ใช้จังหวะในการหายใจเป็นตัวกำหนดสร้างสมาธิระหว่างวิ่ง
วิ่งจนถึงระยะ ๑๒ กิโลเมตรก็เห็นกลุ่มที่วิ่งนำหน้าวกกลับมาแล้ว สิ่งที่สะดุดตาและคงจะเป็นจอมบึงมาราธอนเท่านั้นที่มีหลวงพ่อมาประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่นักวิ่งเพื่อเป็นสิริมงคลในโอกาสปีใหม่ และนี่อาจจะเป็นเสน่ห์ของจอมบึงมาราธอน
คราวนี้แตกต่างจากมาราธอนทุกครั้ง ถึงแม้จะปวดกล้ามเนื้อในระหว่างวิ่งแต่ว่ายังคงวิ่งได้ตลอดระยะทาง ๒๑.๐๙๕ กิโลเมตรโดยไม่เป็นตะคริวเลย เส้นทางวิ่งจริงๆไม่ได้ขึ้นลงเนินมากอย่างที่เขาเล่าลือกัน วิ่งสบายๆ แข่งจอมบึงมาราธอนคราวนี้แล้วต้องบอกว่า "อย่าเชื่อเพราะเขาบอก"
ความเร็วเริ่มตกลงเรื่อยๆ...อดทนวิ่งต่อเนื่องจนถึงเส้นชัย ทำเวลาดีกว่าตอนซ้อมแต่ว่าไม่ได้เวลาใหม่ที่ดีที่สุด (My best time) ทำเวลาระยะฮาล์ฟมาราธอนคราวนี้ได้ ๒ ชั่วโมง ๑๓ นาที ๒๐ วินาที ไม่เลวร้ายแต่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับปีใหม่
มีโอกาสได้เจอปู่เป็ง เพิงสา นักวิ่งมาราธอนชายไทยที่อายุมากที่สุด
คุณปู่เป็งอายุ ๙๕ ปีนี้ ปู่เป็งเคยลงแข่งรายการมาราธอนมาหลายรายการแล้ว คุณปู่เคยวิ่งระยะฟูลมาราธอนในรายการจอมบึงมาราธอนมาแล้ว แกเป็นคนจอมบึง และตัวอย่างของแกที่อายุมากแต่ยังแข็งแรงและสามารถวิ่งมาราธอนครบระยะ ๔๒.๑๙๕ กิโลเมตรได้กลายเป็นตัวอย่างให้ผู้คนจำนวนมากหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งกันมากขึ้น
ถือว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้ลงแข่งจอมบึงมาราธอนปีนี้เพราะว่าปู่เป็งแข่งจอมบึงมาราธอนปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว ถ้าปีหน้ามาแข่งก็ไม่มีโอกาสได้แข่งรายการนี้กับปู่เป็งอีก เห็นปู่เป็งแล้วบอกกับตัวเองว่าถ้ายังสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนเท่าปู่เป็งก็อยากจะวิ่งมาราธอนต่อไปเรื่อยๆ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้วิ่งกับปู่เป็งแม้ว่าคนละระยะก็ตาม ได้ยินลูกสาวปู่เป็งบอกว่าปู่เป็งวิ่งระยะ ๑๐ กิโลเมตรปีนี้ทำเวลาได้ ๑ ชั่วโมง ๒๐ นาทีถือว่าเป็นเวลาที่ดีสำหรับคนในวัยขนาดนี้
รายการจอมบึงมาราธอนมีการจัดการที่น่ายกย่องหลายๆอย่าง ปกติใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าแข่งขันกว่าจะได้รับกันก็หลายเดือน แต่สำหรับจอมบึงมาราธอนระยะฮาล์ฟ และ ๑๐ กิโลเมตร นักวิ่งที่ถึงเส้นชัยแล้วสามารถไปรอรับได้เลยที่หอประชุม มีเจ้าหน้าที่จัดการพิมพ์ใบประกาศนียบัตรให้นักวิ่งทันที
ผมได้รับใบประกาศนียบัตรทันทีภายหลังเข้าเส้นชัย
ที่น่าชื่นชมอีกอย่างคือบรรดากองเชียร์ที่ยังคงเชียร์อย่างต่อเนื่องแม้ว่าการแข่งขันจะผ่านไปหลายชั่วโมง เขายังคงเชียร์ไปเรื่อยๆตราบเท่าที่ยังมีนักวิ่งมาราธอนวิ่งเข้าเส้นชัย
มีคนแต่งตัวแฟนซีมาร่วมแข่งขันด้วย พี่ผู้ชายคนนี้แกวิ่งเอามัน ใส่ชุดนักรบไทยมาวิ่ง วิ่งไปก็เป่าแตรไป สร้างบรรยากาศครึกครื้นไปอีกอย่าง
เสร็จจากการแข่งขันแล้วก็มีโอกาสแวะไปชมความงามของถ้ำจอมพลที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยราชภัฏจอมบึง มีภาพความสวยงามภายในถ้ำจอมพลมาฝากกันครับ
ผมมีโอกาสแวะไปถ้ำเขาบินที่อยู่ห่างออกไป ได้ภาพบรรยากาศความสวยงามอีกอย่าง เพียงแต่ภายในถ้ำเขาบินอากาศอบอ้าวกว่าเยอะ
 เอาภาพภายในถ้ำเขาบินมาฝากกันครับ
| Create Date : 31 มกราคม 2552 |
| Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 21:29:06 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 2233 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: กลุ่มเพื่อน 5.63 อ.ต. IP: 210.246.186.9 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:44:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ระหว่างทางที่วิ่งมีกองเชียร์ตีกลองยาว ตีฉิ่งฉาบ เด็กนักเรียนมาเต้นตามจังหวะ...ตบมือตามเพลง...และคอยยื่นมือมาตบกับนักวิ่ง เด็กพวกนี้จะถูกเกณฑ์มาเชียร์รึเปล่าไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆเด็กๆรู้สึกสนุกที่ได้เชียร์นักวิ่งที่วิ่งผ่าน นี่อาจจะเป็นสีสันของมาราธอนที่ต่างไปจากรายการมาราธอนที่เคยแข่งขันมา ผู้คนที่นี่ดูเป็นมิตรกับนักวิ่ง
เอาภาพภายในถ้ำเขาบินมาฝากกันครับ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [