วิจารณ์ Super 8 (2011)
Super 8
ผู้กำกับ 'เจเจ เอบรัมส์' ถือเป็นหนึ่งในผู้กำกับยุคใหม่ขวัญใจของผมคนหนึ่ง หลังจากปลุกปั้นซีรีย์ Lost (2004 - 2010) จนกลายเป็นซีรีย์ระดับตำนาน และรีบูทหนังไซไฟอย่าง Star Trek (2009) จนประสบความสำเร็จมาแล้ว มาครั้งนี้เฮียเจเจก็ยังเลือกงานไซไฟแนวถนัด แถมเชิญผู้กำกับชั้นครู 'สตีเฟน สปีลเบิร์ก' มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วย ได้นักแสดงเด็กหน้าใหม่ใสปิ๊งอย่าง โจเอล คอร์ทนีย์, แอล แฟนนิ่ง และอีกเพียบมาร่วมเปิดซิงการแสดง ร่วมด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่เกรดบี แบบที่บอกชื่อไปก็แทบไม่มีคนรู้จัก ที่น่าสนใจคือ ผู้กำกับเจเจยังคงใช้การตลาดแบบลับ ลวง พราง เน้นปิดบังซ่อนเม้มความลับในเรื่อง โดยปล่อยข้อมูลสะเปะสะปะในอินเตอร์เน็ทให้คนดูไปเชื่อมต่อกันเอาเอง แบบเดียวกับที่เคยทำมาแล้วใน Cloverfield (2008)
เรื่องราวหลักในเรื่องย้อนกลับไปยังยุค 80 เมื่อเด็กประถมกลุ่มหนึ่งที่ตั้งใจทำหนังซอมบี้ส่งเข้าประกวด แต่แล้วกลางดึกคืนหนึ่ง ระหว่างที่พวกเขากำลังถ่ายทำหนังกันด้วยกล้อง Super 8 ที่รางรถไฟนอกเขตเมือง เรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถยนต์คันหนึ่งวิ่งสวนรางรถไฟ พุ่งเข้าชนกับรถไฟจนระเบิดสนั่นหวั่นไหว แถวหลังจากนั้นเหตุการณ์แปลกๆ ก็เกิดขึ้นในเมืองอย่างต่อเนื่อง เมื่อบรรดาสัตว์เลี้ยงและผู้คนในเมืองเริ่มหายตัวไป ไฟฟ้าในเมืองดับไปเป็นวันๆ โดยไม่มีสาเหตุ ตามด้วยการเข้ามาวุ่นวายของกองทัพทหารลึกลับ แต่แล้วคำตอบก็เริ่มปรากฏ เมื่อเด็กๆ นำฟิล์มที่บันทึกภาพการถ่ายทำหนังมาเปิดดูกันก่อน และพบว่ารถไฟคันที่ถูกชนมีสิ่งมีชีวิตลึกลับอยู่ด้วย !?!
ก่อนอื่นต้องบอกกับคอหนังที่คาดหวังจะได้เห็นหนังไซไฟอลังการ เอเลี่ยนนอกโลกสุดโหด และฉากตื่นเต้นลุ้นระทึกเสียก่อน ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังไซไฟ ก้าวผ่านวัย ที่เน้นให้คนดูกลับไปสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ของหนังไซไฟของสปีลเบิร์กยุค 80 เช่น Close Encounters of the Third Kind (1977) หรือ E.T. (1982) ที่ไม่ได้หวือหวาตื่นตาตื่นใจเหมือนหนังไซไฟปัจจุบัน ผสมกับหนังลึกลับ - ระทึกขวัญยุคใหม่แบบ Dreamcatcher (2003) และตัวละครกลุ่มเด็กนิสัยหลากหลายที่ทำให้นึกไปถึงการ์ตูนชุด 20th Century Boys อีกด้วย
หนังเริ่มเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเหล่าตัวละครเด็กประถม ด้วยการเล่าเรื่องแบบโบราณ ประกอบกับภาพบนจอที่ทำให้ดูเหมือนหนังยุคเก่า พลอยทำให้คนดูนึกไปถึงหนังที่เคยดูผ่านม้วนวีดีโอ แต่ที่ทันสมัยกว่าคือบทหนังที่ค่อนข้างเดายาก และไม่ปะติดปะต่อกันเท่าไรนัก รวมไปถึงการให้พล็อตรองให้หนังมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการก้าวผ่านวัยเด็กวัยรุ่น, ความลับของการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในอดีต, การปล่อยวาง และความรักของสถาบันครอบครัว น่าเสียดายที่หนังใส่ประเด็นมาเยอะ แต่กลับทำได้ไม่สมบูรณ์นักในช่วงเฉลยปม จนทำให้คนดูยังรู้สึกค้างคา และไม่อิ่มเต็มที่นักเมื่อหนังดำเนินไปถึงบทสรุป นอกเหนือไปจากนี้ หนังยังไม่สามารถเก็บปมปัญหาที่ปูเอาไว้ได้หมด และไม่สามารถอธิบายหลากฉากหลายช่วงที่เกิดขึ้นในเรื่องให้สมเหตุสมผลได้ด้วย
Super 8 ถือเป็นหนังไซไฟร่วมสมัยที่ทำขึ้นเพื่อคารวะหนังไซไฟยุคเก่า แม้จะดึงบรรยากาศและอารมณ์ร่วมของคนดูได้อยู่บ้าง แต่กลับยังทำได้ไม่ดีนักในการสร้างความสนุกให้คนดู และไม่สามารถขมวดปมให้สมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น สำหรับผมแล้ว Super 8 จึงถือเป็นงานมือตกของผู้กำกับเจเจ เอบรัมส์ หากเทียบกับหนังเก่าๆ ทั้งหมดของเขา
6.75/10
Create Date : 10 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2554 12:56:51 น. |
|
3 comments
|
Counter : 945 Pageviews. |
|
|
|
|