ฟรี รับปรึกษาและโค้ชปัญหาชีวิต (ช่วยหน่อยค่า กำลังเรียน เลยต้องการคนมาช่วยฝึกโค้ช) จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ร่ำเรียนมาหกเดือนเต็ม สั่งสมความรู้ แต่ว่าไม่มีลูกค้าให้ฝึกฝนเหมือนกับเพื่อนคนอื่น จึงอยากจะประกาศหาคนมาช่วยเป็นคนถูกโค้ชกันแบบฟรีๆ หากใครคิดว่าตัวเอง 1. มีปัญหาแก้ไม่ตก เช่น อยากลดน้ำหนัก . ไม่มีความสุขกับที่ทำงาน. หรือ อยากเรียนต่อแต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะเลือกเรียนอะไรดี 2. มีความตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และอยากให้มีคนช่วย เราก็ขอปาวารณาตัวเป็นคนใช้การโค้ชเพื่อช่วยเหลือ โดยการให้คำปรึกษาจะทำอาทิตย์ละครึ่งชั่วโมง ทางโทรศัทพ์ เราจะเป็นคนโทรเข้าไปเองค่ะ สามารถโทรได้ทั้งไทยและต่างประเทศ ขอให้มีคนช่วยเราฝึกแล้วกันนะ ติดต่อกันมาเยอะๆนะคะ   Create Date : 03 มิถุนายน 2552     Last Update : 3 มิถุนายน 2552 14:44:41 น. Counter : 524 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Wise words of the day มีคำพูดหลายคำจากที่ได้ฟัง Life Coach คนอื่นๆพูดแล้วเกิดความประทับใจ จึงเอามาใส่ไว้ในบันทึกส่วนตัวอันนี้ --- "When students ready, the teacher will appear." "เมื่อนักเรียนพร้อม ครูจะปรากฏตัว" แปลห่ามไปนิด แต่ได้ใจความ ข้อความนี้ถูกเอ่ยขึ้นเมื่อมีคำถามว่า "แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงจุดเปลี่ยน และใครจะช่วยเรา?" คำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงแก่นความเชื่อของการโค้ชว่า การโค้ชไม่ใช่การแนะนำหรือบังคับให้ทำ แต่ผู้ถูกโค้ชจะต้องมีใจพร้อมในการเปลี่ยนแปลง ---   Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2552     Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2552 10:31:32 น. Counter : 521 Pageviews.   3 comment Share Tweet

หนึ่งวิธีง่ายๆที่ช่วยจัดการกับขยะในใจคุณ สวัสดีปีใหม่ค่ะ แหม ก็จะสิ้นเดือนกุมภาฯอยู่แล้ว หยุดเขียนบล๊อคไปนานเลย แต่ก็ได้ฤกษ์กลับมาเขียนต่อกันซะที ก็ที่เคยติดกันไว้เรื่องการกำจัด Tolerance และ Toleration นั่นแหละค่ะ ผู้ที่ได้ทำแบบทดสอบไปแล้ว ก็จะพอนึกออกว่า ตัวเองนั้น มีอะไรที่ยังถือว่าเป็นอุปสรรคชีวิตอยู่บ้าง เช่นมีเงินเก็บไม่ถึงหกเท่าของเงินเดือน หรือว่ามีหนี้บัตรเครดิต แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องที่"ไม่สะดวก"เหล่านี้ ที่ทำให้ตัวเรานั้น ลึกๆแล้วเกิดความกังวล สิ่งเล็กๆน้อยๆเช่นห้องที่รก หรือว่างานที่คั่งค้าง ก็รวมเป็นสาเหตุแห่งความกังวลเหล่านั้นด้วย เชื่อว่า พอคิดถึงปัญหาเหล่านี้แล้ว ทุกคนก็คงรู้สึกหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม คิดไม่ตกว่าจะขจัดขยะชีวิตพวกนี้ได้อย่างไร จริงๆแล้ว การขจัดขยะชีวิตอย่างนี้ก็มีหลายวิธี แต่ว่าอยากจะนำเสนอวิธีง่ายๆที่สามารถปฏิบัติเองได้ โดยเริ่มจาก 1. อย่ามองปัญหาทุกปัญหาพร้อมกัน ให้เลือกมองปัญหาที่คิดว่าจะแก้ได้ง่ายที่สุดก่อน 2. ถ้าปัญหานั้นมันยังรู้สึกว่าแก้ยากเกินไป ให้ย่อยปัญหานั้นออกมาเป็นขั้นตอนเล็กๆย่อยๆ 3. ตั้งใจจริงในการที่จะแก้ปัญหา 4. เขียนขั้นตอนใส่ในกระดาษเล็กๆ หรือจดไว้ที่ไหนก็ได้ที่จะสามารถดูได้ตลอดเวลา 5. เมื่อปฏิบัติตามที่ตั้งใจไว้ได้ ให้จดความสำเร็จของตัวเองไว้ อาจจดใส่กระดาษ แล้วหย่อนลงในกล่องน่ารักๆ (Box of Success) หรือที่เราคิดจะทำคือจะมาจดไว้ในบล๊อค ( Blog of Success) แชร์ความสำเร็จกับเพื่อนๆ ถ้ามีคนร่วมดีใจด้วย ก็จะยิ่งมีกำลังใจมากขึ้น 6. สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือการฉลองความสำเร็จ ไม่ว่าความสำเร็จนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อยแค่ไหน แต่ความสำเร็จก็คือความสำเร็จ แล้วก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีและก็สมควรแก่การฉลองที่สุด ทำอย่างนี้ ไม่นาน หากกลับไปดูในกล่องฉลองชัยของคุณ คุณก็จะไม่เชื่อสายตาเลยแหละ ว่าทำสิ่งดีๆสำเร็จไปมากมากขนาดไหน อยากให้เพื่อนๆ ลองเริ่มกันแต่วันนี้กันเลยนะคะ แล้วมาเยี่ยมบล๊อคของเราบ่อยๆนะคะ   Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2552     Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2552 23:03:44 น. Counter : 396 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Tolerance and Toleration คือศัพท์สองคำที่จะทำให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น ในการเรียนการสอนของผู้ที่จะเป็นโค้ชให้กับผู้บริหารหรือบุคคลทั่วไป โค้ชจะต้องเริ่มจากการปรับพื้นฐานชีวิตของตัวเองให้มั่นคงก่อน เพราะถ้าหากตัวเองไม่เป็นผู้ปฏิบัติที่ดีแล้ว จะไปแนะนำคนอื่นได้อย่างไร การสร้างพื้นฐานชีวิตนั้น อย่างแรกก็ต้องหันกลับมาดูสิ่งที่เรามีอยู่ก่อนแล้ว ด้วยการดู Tolerance และ Toleration ของเรา ++++ พจนานุกรม Merriam Webster บอกไว้ว่า Tolerance คือ ความสามารถในการอดทนต่อความเจ็บปวดหรือความยากลำบาก (capacity to endure pain or hardship) Toleration คือ การอดทนอดกลั้นต่อบางสิ่งบางอย่าง (the act or practice of tolerating something ) +++ จากคำจำกัดความข้างบน การสร้างพื้นฐานชีวิตก็อยู่ที่ว่าเราจะสามารถสร้าง Tolerance และขจัด Toleration ได้มากแค่ไหน ก่อนอื่น สิ่งที่ต้องทำก็คือการทำแบบทดสอบ Clean Sweep Program เพื่อหาว่า ชีวิตของเรานี้มี Toleration อะไรบ้าง หากบางคนไม่ต้องการทำเทสต์ ก็จะนั่งนึกเอาเองก็ได้ แต่ก็คงไม่ได้มากเหมือนกับตัวเทสต์ เพราะเค้ามีให้ถึง 100 ข้อ ประโยชน์ของการรู้จักตัวเอง ก็จะทำให้เรารู้ว่า บางที สิ่งเล็กๆน้อยๆเช่นการที่บ้านรก หรือการที่ยังไม่ได้จ่ายค่าบัตรเครดิต ก็ทำให้เราเกิดความเครียด ความไม่สบายใจ และก็กระทบไปถึงการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากใครต้องการทำเทสต์ Clean Sweep Program ก็สามารถอีเมล์ขอได้นะคะ เหตุที่ไม่สามารถแจกในที่สาธารณะได้ก็เพราะว่า Clean Sweep Program นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Coach University( ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุดของวงการโค้ช) ซึ่งได้ห้ามการเผยแพร่สาธารณะไว้ แต่สามารถส่งให้ได้เป็นรายบุคคล +++ คราวหน้าเราจะมาพูดกันว่า เมื่อทำเทสต์แล้ว เราจะจัดการกับ Toleration กันยังไง   Create Date : 02 ธันวาคม 2551     Last Update : 2 ธันวาคม 2551 20:12:38 น. Counter : 771 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Coaching คืออะไร? หลายครั้ง หรือเรียกได้ว่าทุกครั้งที่บอกคนอื่นว่าเรากำลังเรียน coaching อยู่ คนก็จะทำหน้างงๆ หรือไม่งั้นก็ทำเนียนแล้วก็ตอบว่า "อืม" เรียกได้ว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่คนรู้จักกันน้อยมาก จริงๆแล้วการ coaching ก็คือการให้คำแนะนำแก่คนที่มีปัญหาให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง คนที่ผ่านการ coach จะรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถในการจัดการปัญหาชีวิตได้ด้วยตัวเอง ทำให้สุขภาพจิตก็ดีขึ้น เพื่อนๆที่เรียนจบมาด้วยกัน ส่วนมากก็หวังไปเป็น business consultant แต่เรารู้สึกว่า ตอนที่ทำงานอยู่ ที่ทำงานก็จ้างที่ปรึกษามา แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้งานมันดีขึ้นซักเท่าไหร่ (แน่นอนว่าที่ปรึกษาเองก็มีข้อดี) สาเหตุที่โครงการที่ที่ปรึกษาเสนอแนะมานั้นไม่ประสบความสำเร็จ มันไม่ได้เป็นความผิดของที่ปรึกษาหรอก แต่เป็นที่การนำไปปฏิบัติของบริษัทต่างหาก เพราะบุคลากรในบริษัทก็อาจจะไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง หรือว่ามองไม่เห็นว่าเป็นปัญหา หรือคิดว่าอาจมีทางอื่นที่ดีกว่าก็ได้ การโค้ชก็เหมือนกับการให้ลูกค้านั้น ได้เรียบเรียงความคิด เรียบเรียงสถานการณ์หรือปัญหาออกมาให้เป็นระเบียบ นอกจากนั้น คนเรามักจะมีทางแก้หรือแนวทางปฏิบัติที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว แต่อาจจะไม่ได้คิดออกมาอย่างชัดเจน โค้ชก็จะเป็นคนช่วยให้แผนการแก้ไขหรือแผนการปฏิบัตินั้น เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นด้วยการถามคำถามในแง่มุมต่างๆให้กับลูกค้า สุดท้ายเมื่อได้แนวทางปฏิบัติแล้ว โค้ชจะช่วยให้ลูกค้ามีกำลังใจที่จะปฏิบัติตามแผนด้วยการเชียร์อยู่ข้างๆ และเป็นกำลังใจ รวมถึงอาจจะคอยแนะนำในส่วนที่ทำผิดแผนไป หรือมาช่วยกันปรับแผนกันใหม่ถ้าหากเกิดแผนไม่เวิร์ค +++ วิชาชีพนี้เป็นวิชาชีพใหม่ แต่ก็ได้มีการพัฒนามาตรฐานมาแล้วหลายปี โดยสมาคมที่สำคัญคือ ICF = International Coaching Federation ซึ่งสมาคมจะทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานและให้การรับรองโค้ช และให้การรับรองหลักสูตรฝึกสอนโค้ช ตัวโค้ชเอง กว่าจะได้ใบประกาศจากสมาคม (เราเรียกเอาเองว่าใบประกอบวิชาชีพ เพราะว่ามันเป็นลักษณะนั้นมากกว่า) ก็ต้องผ่านการอบรมในหลักสูตรที่สมาคมรับรองฯ ถึง 60 ชั่วโมง ซึ่งฟังดูเหมือนน้อยแต่จริงๆใช้เวลาเรียนกันอย่างน้อยครึ่งปี นอกจากนั้นก็ยังต้องเก็บชั่วโมงการทำงานอีก 100 ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่ง่ายเช่นกันเพราะชั่วโมงที่จะเอามาคิดได้สำหรับลูกค้าหนึ่งราย จะคิดได้แค่ 1 ชั่วโมงต่อ 1สัปดาห์และจะต้องทำติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพราะสมาคมฯให้ความเห็นว่านี่เป็นเกณฑ์ที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์จากการโค้ชจริงๆ ดังนั้นการดูโค้ชว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ได้หนึ่งวิธีก็คือดูว่ามีใบประกาศจาก ICF หรือเปล่า +++ คราวหน้าจะคุยเรื่องการสร้างพื้นฐานชีวิตให้มั่นคงด้วยการรู้จักกับคำว่า Tolerance และ Toleration   Create Date : 02 ธันวาคม 2551     Last Update : 2 ธันวาคม 2551 19:54:25 น. Counter : 776 Pageviews.   7 comment Share Tweet