Group Blog
 
All Blogs
 

เคล็ดลับการอาบน้ำ 'เพิ่มความงาม'

การอาบน้ำ สามารถเรียกความสดชื่นของคุณกลับคืนมา ได้ทันที เราจะรับรู้ได้ถึงความผ่อนคลาย

แถมอารมณ์ก็แจ่มใสขึ้นด้วย แต่การอาบน้ำเพื่อการพักผ่อนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ คือ อุณหภูมิของน้ำ, น้ำมันหอมระเหย, อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เสริมต่างๆ
ทั้ง นี้ อย่าลืมเรื่องอุณหภูมิของน้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักด้วย

น้ำร้อน

น้ำที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 39 องศา จะทำความสะอาดร่างกายได้ดีที่สุด เพราะความอุ่นจะเข้าไปเปิดรูขุมขน ทำให้ผิวหายใจได้มากขึ้น ยิ่งถ้าได้อาบน้ำอุ่นก่อนนอนจะทำให้นอนหลับสบาย แต่ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดๆ หรืออาบน้ำร้อนนั้นบ่อยครั้งนัก และไม่ควรอาบนานเกิน 10-15 นาที เพื่อป้องกันผิวแห้งจากการสูญเสียน้ำมันบนผิวหนัง ยังทำให้หัวใจต้องทำงานมากขึ้นในการขยายเส้นเลือดเพื่อจะช่วยให้ร่างกายเย็น ลง

น้ำเย็น

การอาบน้ำเย็นจะทำให้เป็นหนุ่มสาวอยู่เสมอ เพราะความเย็นของน้ำจะทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังได้มากขึ้น ทำให้เกิดการหมุนเวียนได้ดี อุณหภูมิของน้ำที่ 21-27 องศาเซลเซียส จะทำให้ผิวเย็นสบาย สดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย ปลุกเร้าประสาทสัมผัส ทำให้กล้ามเนื้อสดชื่น และยังเป็นผลดีต่อระบบการหายใจ หลังอาบน้ำใช้ฝ่ามือตบเบาๆ ให้ทั่วตัว เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิว และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

เคล็ดลับการอาบน้ำเพื่อความงาม

1. ปัดถูร่างกายก่อนอาบ
ใช้ แปรงขนนุ่มแห้งและสะอาดถูตัว โดยเน้นข้อศอก, เข่า, ส้นเท้า, เท้า ทั้งนี้ หากไม่มีแปรง คุณก็สามารถใช้ผ้าขนหนูแห้งๆ ถู หรือขัดตัวได้ โดยการจับปลายผ้าทั้งสองข้าง แล้วขัดถูไปตามร่างกายจุดละประมาณ 20 ครั้ง (ไม่ต้องลงน้ำหนักมาก เพราะอาจจะเป็นการทำร้ายผิวอันบอบบางได้) เพื่อเป็นการขจัดคราบไคล ฝุ่น เซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก

2. ขัดผิวขณะอาบน้ำ
แยกผลิตภัณฑ์ หรืออุปกรณ์ให้เป็นสัดส่วน ดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ Scrub สามารถใช้ได้ทั่วทุกส่วนของร่างกาย และใช้ได้ดีกับบริเวณผิวที่ละเอียดอ่อนอย่างหน้าอก, ลำคอ
- อุปกรณ์ประเภทฟองน้ำ, ใยสังเคราะห์ หรือแปรงขัดผิว จะเหมาะกับผิวแขน, ขา, ไหล่, หลัง เพราะคุณสามารถลงน้ำหนักบนผิวบริเวณดังกล่าวได้
- หินขัด, แผ่นขัดเท้า เหมาะกับจุดที่แห้งกร้าน

3. นวดและฉีดน้ำ
เมื่อ ตัวเปียกหรือมีฟองสบู่ ให้นวดไปมาวนเป็นวงกลมหรือยึดหลักเหมือนการนวดน้ำมัน เพื่อเป็นการผ่อนคลาย และหากคุณใช้ฝักบัวในการอาบน้ำ ให้เปิดน้ำแรงๆ ลงบนร่างกายโดยให้วนไปมารอบอก, ย้อนขึ้น-ลง บริเวณแขน-ขา เพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีเปล่งปลั่ง




 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 21:09:04 น.
Counter : 314 Pageviews.  

ปัญหาจาก "รองเท้าคู่ใจ"

ลักษณะของรองเท้าคู่ใจที่คุณเลือกใส่ ในชีวิตประจำวันอาจเป็นสาเหตุของภาวะผิดปกติของเท้าได้ ลองสังเกตอาการเบื้องต้นเหล่านี้ดูนะคะ




  • อาการปวดน่องหรือเป็นตะคริว อาจมีสาเหตุจากการเดินบ่อยๆ หรืออยู่ในท่าเขย่ง จากการสวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวาย( Achilles tendon ) ตึงตัว

  • อาการปวดตึงหลังส่วนล่าง เป็นผลจากการใส่รองเท้าส้นสูง ที่ทำให้น้ำหนักของร่างกายเทไปข้างหน้า ร่างกายจึงต้องปรับให้ลำตัวแอ่นไปด้านหลัง เพื่อให้ร่างกายตั้งตรงและทรงตัวได้

  • ภาวะเท้าโก่งหรือหลังเท้านูน มีผลการสำรวจพบว่า การใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งเท้าต้องเขย่งเป็นเวลานาน ส่งผลให้เท้าโก่งจากการดึงรั้งของพังฝืดใต้ฝ่าเท้า(Plantar Fascia)

  • ภาวะเท้าแบน ตามทฤษฎีธรรมชาติกับความเจริญในเมือง (Nature VS Civilization Theory) ของนายแพทย์ฟิลลิป วาสิลี แพทย์เฉพาะทางด้านเท้า ชาวออสเตรเลีย ได้อธิบายไว้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงของเท้าให้บิดเข้าด้านในและอุ้งเท้าแบนลง เมื่อต้องสัมผัสกับพื้นรองเท้าที่แข็งแบน ซึ่งส่งผลให้มีคนทั่วโลกกว่าร้อยละ 70 เกิดภาวะนี้ โดยสังเกตจากอาการปวดเข่า เกิดปุ่มโปนข้างหัวแม่เท้า และปัญหารองช้ำ (Plantar fasciitis) หรืออาการปวดบริเวณอุ้งเท้าจนถึงส้นเท้า โดยเฉพาะก้าวแรกหลังจากตื่นนอนตอนเช้า หรือนั่งนาน ๆ แล้วลุกขึ้นยืน




เทคนิคดูแลเท้า



  • ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า รองเท้าที่ดีควรสูงไม่เกิน 1 นิ้ว และลักษณะส้นไม่ควรเป็นส้นเข็มหรือเล็กเกินไปเพราะนอกจากจะทำให้การทรงตัว เสียสมดุลแล้วยังทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีกด้วย

  • ควรเลือกรองเท้าที่ ยาวกว่าเท้าประมาณ 1 เซนติเมตร และไม่บีบนิ้วเท้าเกินไป เพราะโดยปกติขณะเราเดิน เท้าจะเคลื่อนไปด้านหน้าประมาณ 7 มิลลิเมตร ดังนั้นคนที่ใส่รองเท้าพอดีเกินไปจึงเกิดปัญหากับเล็บและนิ้วเท้าเป็นเหตุ ให้เล็บเสีย นิ้วเท้างุ้มงอ และเบียดกันได้

  • เลือกรองเท้าที่มีพื้น สัมผัสนุ่ม หรือเสริมพื้นรองเท้าเพื่อช่วยลดแรงกระแทก เสริมแผ่นรองส้นหรือกันส้นเพื่อลดการเสียดสี ป้องกันผิวหนังด้านและเกิดตาปลา

  • ควรเลือกซื้อรองเท้า ช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงที่เท้าขยายเต็มที่และควรลองสวมรองเท้าทั้งสองข้าง

  • รองเท้าที่ดีต้องกระชับ ไม่คับหรือหลวมเกินไป ส้นเท้าอาจเลื่อนขึ้นลงได้เล็กน้อยขณะเดินแต่ไม่ควรหลุดจากเท้า และเปลี่ยนความเชื่อที่ว่ารองเท้าคับจะยืดออกเมื่อใช้ไปสักพักเพราะกว่า รองเท้าจะยืดออกเท้าของคุณอาจบาดเจ็บก่อนได้

  • เมื่อมีอาการเจ็บหรือ ปวด ควรรีบหาสาเหตุ เพราะบางครั้งรองเท้าอาจหมดสภาพ หรือไม่เหมาะสมกับโครงสร้างเท้า และคุณอาจผ่อนคลายเท้าโดยการแช่น้ำอุ่น ร่วมกับการบริหารกล้ามเนื้อขาและเท้าอย่างง่าย โดยกระดกปลายเท้าขึ้นให้สุด จนรู้สึกตึงที่น่อง ค้างไว้ 10 วินาที  ทำซ้ำ10 ครั้ง จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้าได้




 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 20:54:35 น.
Counter : 306 Pageviews.  

เทคนิคการเลือกแหวนเพชร

เครื่องประดับ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ สาวๆ เพราะเครื่อง ประดับ นั้น จะทำให้เราดูดี ูมีรสนิยมมากกว่าที่จะแต่งตัวแบบธรรมดาเรียบๆ ไม่มี เครื่องประดับ อะไรเลย โดยเฉพาะ "แหวน" ที่เป็นเครืองประดับพื้นฐานและยังมีความหมายมากสำหรับการเริ่มต้น ชีวิตคู่ แต่คุณสาวๆ บางคนแอบกังวลใจเล็กน้อยในการเลือกซื้อแหวนให้เข้ากับนิ้วมือตัวเอง เพราะ

ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแหวนแบบไหนดี สไตล์ไหนดี เข้ามาสวมใส่นิ้วมือของคุณ แล้วจะทำให้นิ้วมือของคุณแลดูสวยงาม จนทำให้คนรอบข้างอยากสัมผัสอย่ากังวลใจไปเลยค่ะ เรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำให้คุณๆทราบกัน แต่ก่อนอื่นเราต้องดูลักษณะนิ้วมือของเราก่อนว่าเป็นแบบไหนกัน

- นิ้วอวบ-มืออวบ

คนที่มีนิ้วมือที่อวบควรจะ เลือกใส่แหวน ที่ตรงหัวแหวนมีลักษณะรูปทรงไปในทางยาว รูปทรงหยดน้ำรูปทรงไข่ (ทรงมาตรฐานของโลก) หรือรูปทรงสี่เหลี่ยมยาวก็ได้ เพราะรูปทรงยาว ตัวหัวแหวนนี้จะช่วยให้นิ้วคุณดูไม่ทึบไม่สั้น ดูโปร่ง แล้วเรียวยาวมากขึ้นด้วย หรือจะเลือกทรงที่มีตัวเรือนเตี้ยๆ เรียบๆ แต่มีสีสันสดใส หรืออ่อนหวานก็ได้ส่วนบ่าแหวนก็ไม่ควรเลือกที่มีลักษณะใหญ่ทึบ ควรจะเลือกบ่า แหวนที่ดูบางๆ จะดีกว่า อ้อ! และที่สำคัญ คุณอย่าใส่แหวนที่คับเกินไปนะ เพราะนั่นหมายถึงส่วนเกินตรงนิ้วของคุณจะโผล่ออกมาเห็นได้ชัดมากขึ้น

- นิ้วสั้น-มือสั้น

คนที่มีนิ้วลักษณะนี้ ถ้าเลือกรูปทรงหัวแหวนไม่ดีก็จะทำให้นิ้วยิ่งดูสั้นลงไปอีก รูปทรงหัวแหวนที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดสำหรับคนนิ้วสั้น ก็คือรูปทรงสี่เหลี่ยม และลองหันมาใส่ทรงหัวใจที่มีขนาดใหญ่นิดหนึ่ง หรือรูปทรงไม่ยาวมากนักก็กิ๊บเก๋น่ารักดูเป็นสาวหวาน ด้วย ส่วนบ่า แหวนสำหรับ คนนิ้วสั้น ไม่ ควรบางหรือหนาเกินไป เลือกที่พอดีๆ จะดีกว่า

- นิ้วยาว-มือยาว

ส่วนใหญ่คนที่มีนิ้วลักษณะนี้ก็จะเป็นคนที่มีรูปร่างสมส่วน ผอมสูง แต่อย่าเพิ่งอิจฉาคนที่มีนิ้วลักษณะนี้นะ เพราะคนที่มีนิ้วยาวนี้ไม่ได้สวมแหวนแล้วสวยอย่างที่คิด ลองสังเกตดูตรงโคนนิ้วดูจะเห็นว่ามีเนื้อที่โคนนิ้วค่อนข้างน้อย แต่ตรงข้อนิ้วกลับใหญ่ ดูๆ แล้วเหมือนทรงนาฬิกาทราย ทำให้ใส่แหวนยากกว่านิ้วลักษณะอื่น เพราะเมื่อใส่เข้าไปแหวนจะติดตรงข้อนิ้วก่อนจะถึงโคนนิ้ว แล้วจะทำให้หลวมตรงโคนนิ้วแหวนก็จะหมุนไปหมุนมาค ส่วนรูปทรงที่เหมาะกับนิ้วยาวนี้ก็ควรเลือกทรงที่มีลักษณะเป็นเส้น คดโค้งเพิ่มความอ่อนหวาน หรือแบบกว้างและยาวไปจนเต็มข้อนิ้ว เพราะจะทำให้นิ้วคุณดูมีเนื้อ เต็มขึ้น มีน้ำมีนวล และยังช่วยลดความยาวผอมของนิ้วลงด้วย

- นิ้วเรียวงาม-มือเรียว

โอ้ว! เพอร์เฟ็กต์ ถือว่าได้เปรียบกว่านิ้วลักษณะอื่นๆ เลย เพราะไม่ว่าแหวนทรงเรียวยาวตามนิ้ว ทรงแบบขวางนิ้ว ทรงไข่ ทรงสี่เหลี่ยม หรือทรงกลม ก็ดูจะเข้ากับนิ้วลักษณะนี้เสียนี่กระไร แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่นิดหนึ่งคือไม่ควรเลือกแหวนที่มีลักษณะใหญ่ มากคล้ายผู้ชาย เพราะจะให้ความรู้สึกแข็งเกินไปจะทำให้บดบังนิ้วที่เรียวงามดูสวยอยู่แล้ว

นั่นแน่ คุณสาวๆ ก้มดูนิ้วกันใหญ่เลยใช่มั้ย ว่านิ้วของคุณมีลักษณะแบบไหน ในใจลึกๆทุกคนก็อยากมีนิ้วที่เรียวงามกันทุกคน แต่เมื่อนิ้วเราไม่เป็นดั่งใจเราก็ สามารถแก้ไขจุดด้อยของเราได้นะไม่ต้องกังวลไปเพราะเดี๋ยวนี้มีแหวนหลากหลายสไตล์ให้เราเลือกงั้นอย่ารอช้า กลับไปโละแหวนที่ไม่เข้ากับนิ้วของเรากันดีกว่า

TIPS

1. การเพิ่มความชุ่มชื้นที่นิ้วมือ ก็มีส่วนช่วยให้เวลาสวมใส่แหวนแล้วดูสวยเนียน และน่าทะนุถนอม
2. ควรตกแต่งดูแลเล็บอยู่สม่ำเสมอไม่ให้เล็บฉีก หัก หน้าเล็บเป็นหลุมหรือเป็นขุย แม้แหวนที่เราสวม
ใส่จะสวย และเข้ากับนิ้วเพียงใดก็ช่วยอะไรไม่ได้
3. การเก็บรักษาแหวน ถ้าเราคอยนำมาเช็ดหรือเก็บไว้ในที่มิดชิดห่างไกลจากฝุ่นละอองต่างๆ ก็จะช่วยให้
แหวนของเราอยู่คู่นิ้วเราไปนานๆ ได้




 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 16:41:45 น.
Counter : 345 Pageviews.  

ขนาดของ "เครื่องประดับ" ก็สำคัญนะ

สาวร่างเล็กที่คิดจะสวมสร้อย ปะการังอันเบ้อเร่อ เลิกคิดเสียเถอะค่ะ ถ้าไม่อยากให้ใครเห็นว่า คุณเป็น คนแคระ คุณควรเลือกสวมใส่เครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ที่เหมาะกับขนาดตัวมากกว่า ขณะเดียวกัน สาวร่างใหญ่ก็ไม่สมควรใส่เครื่องประดับชิ้นจ้อย เพราะจะกลืนกับรูปร่างคุณเสียจนไม่มีใครสังเกตเห็นค่ะ

หลังจากแต่งตัวพร้อมกับสวมเครื่องประดับจนครบชุดแล้ว อย่าลืมหากระจกเงาบานใหญ่มาดูตัวเองในกระจกด้วย ถ้าหากดูแล้วพบว่าตัวเองเหมือนตู้เพชรเคลื่อนที่ล่ะก็ ตัดใจถอดเครื่องประดับ ออกทีละชิ้นเถอะค่ะ พึงจำไว้ว่าเครื่องประดับที่สวยงามมีสไตล์เพียงชิ้นเดียว หรือชิ้นน้อย ก็เพียงพอที่จะบอกความเป็นตัวคุณแล้ว

ยกตัวเช่น ถ้าคุณสวมต่างหูเป็นพวงระย้ายาวย้อยถึงไหปลาร้า ก็อย่าได้ใส่สร้อยคออีก เพราะถ้าขืนประโคมใส่สร้อยคอเข้าไปด้วยอีกเส้น คนที่พบเห็นคุณคงตาลายเป็นแน่ เห็นใจเขาหน่อยเถอะ!!

ตรงกันข้าม ถ้าหากคุณสวมใส่สร้อยคอเส้นโต ก็ควรจะลดขนาดต่างหูลงเหลือเพียงแค่ตุ้มหู อันเล็กๆ เท่านี้ก็สวยพอสู้เขาได้แล้วล่ะ หรือถ้าคุณอยากจะอวดกำไลอันสวยที่เพิ่งได้มา ก็ให้ลดขนาดของต่างหูให้ ย่อมลงหน่อย และทิ้งสร้อยคอไว้ที่บ้านจะดีกว่าค่ะ

สีสันของเครื่อง ประดับและเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ก็ควรจะไปด้วยกัน โดยไม่มีชิ้นไหนที่ทำให้คน รอบข้างต้องรำคาญสายตา สำหรับคุณที่มีผิวออกสีเหลือง ให้ใช้เครื่องประดับประเภทเงิน ทองคำขาว หรือแพลตตินัม จะช่วยขับสีผิว ส่วนคุณที่มีสีผิวออกชมพู เครื่องประดับที่เหมาะ ก็คือทอง

นอกจาก นี้ควรจะต้องดูกาลเทศะของสถานที่ที่คุณจะมุ่งหน้าไปด้วย ว่าคุณกำลังจะไปงานราตรี สโมสรหรือทำงาน ถ้าหากว่าไปทำงาน เห็นทีคุณควรต้องถอดต่างหูอันยาวไว้ที่บ้านถ้าไม่อยากให้ที่ประชุมมัว แต่จ้องต่างหูของคุณแทนที่จะตั้งใจฟังคุณพรีเซนต์งาน




 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 16:35:16 น.
Counter : 505 Pageviews.  

Shoppnig ร้านแผงลอย ดีอย่างไร?

ใครว่าของถูกแล้วดีจะไม่มีในโลกล่ะค่ะ … ไม่จริงเลยค่ะ ของ ถูกของดีมีอยู่จริงค่ะ อยู่ที่ว่าหลายคนจะรู้จักเลือกรู้จักแหล่งรึเปล่าแค่นั้นเอง

การช้อปปิ้งที่เวิร์กและประหยัดสุดๆ ก็คือการช้อปปิ้งร้านค้าตามริมถนน เพราะนอกจากจะราคาต่ำกว่าในห้างสรรพสินค้าแล้ว เรายังสามารถต่อลองได้อีกด้วย แถมสินค้ายังมีให้เลือกมากมายถ้าเลือกดีๆ เราก็จะได้ของดีมีคุณภาพแต่ราคาถูกมาใช้อีกต่างหาก

ข้อดีและข้อเสีย ของการซื้อของตามแผงลอยข้างถนนมาฝากกันค่ะ

1. มีสินค้าที่ในห้างอาจไม่ได้นำมาขายเช่น สินค้าสินค้ามือสอง เช่น พวกรองเท้า, กระเป๋า และเสื้อผ้านี่ หากน้องๆ อยากได้ของเก๋ๆ เท่ๆ แต่ก็ต้องทำใจว่าบางอย่างก็อาจดูเก่าๆ ไปบ้างก็ต้องทำใจนะคะ แต่ในการซื้อของมือสองก็ต้องดูความเรียบร้อยเรื่องของตำหนิตามตัวสินค้าให้ ดีด้วยนะคะ

สิ่งหนึ่งที่จะทำให้น้องๆ สบายใจได้ก็คือ ยังไง๊ยังไงของมือสองก็ราคาถูกกว่าของใหม่เอี่ยมแน่นอน แถมบางครั้งถ้าตาดีๆ อาจจะเลือกสินค้าที่เจ๋งๆ ประเภทที่ว่ามีอยู่แค่ชิ้นเดียวก็ได้นะคะ

2. มีสินค้าให้เลือกหลากหลายชนิด เชื่อเถอะค่ะว่าเดินกันจนเมื่อยจนเลือกกันไม่หวาดไม่ไหวเชียว เพราะร้านแบกะดินเหล่านี้ มีผู้ค้ารายย่อยจำนวนมากนำสินค้ามาวางขายต่างชนิดและต่างลวดลายมาแข่งกันขาย ดังนั้นจึงมีสินค้าให้เราได้เลือกกันเพียบเลยล่ะค่ะ

3. สินค้า แผงลอยริมถนนสามารถต่อรองราคาซื้อขายกันได้ด้วยถ้าใครชอบซื้อสินค้า แล้วสามารถต่อรองราคาได้ ก็เชิญที่ตลาดนัดแบกะดินนี่ละจ้ะ

4. สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ง่ายกว่าในห้างสรรพสินค้า ถ้าเกิดเราใส่เสื้อตัวที่ซื้อไปไม่ได้ รับรองว่าถ้ารีบนำกลับมาเปลี่ยนจะไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ

แต่ในการช้อปปิ้งแผงลอยริมถนนนั้น อาจจะมีอุปสรรคนิดหน่อยถ้าหากฝนตกขึ้นมา เพราะว่าเหล่านักช้อปทั้งหลายอาจจะหาที่หลบฝนยากซักหน่อยก็แค่นั้นเองล่ะค่ะ … ได้รู้อย่างนี้แล้วก็คงต้องแล้วแต่น้องๆ ก็แล้วกันนะคะว่าอยากช้อปปิ้งแบบนี้ไหม หรืออยากจะไปตากแอร์เย็นๆ ในห้าง แล้วแต่วิจารณญาณของท่านผู้ชมเลยคะ

ที่มา dek-d.com




 

Create Date : 17 เมษายน 2553    
Last Update : 17 เมษายน 2553 16:26:32 น.
Counter : 355 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

quosego
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add quosego's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.