Group Blog
 
All Blogs
 

ผลวิจัยระบุ 7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว

      ศูนย์วิจัยเนสท์เล่ สวิตเซอร์แลนด์ รายงานผลการศึกษาวิจัยของ ดร. สเตฟานี สติวเดนสกี้ แห่งโรงเรียนแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพิสเบิร์ก ในการประชุมวิชาการเรื่อง "ความทรงจำที่ยืนยาว" ระบุว่าสมองมีพัฒนาการ อย่างเต็มที่ในช่วงวัยรุ่น สามารถต้านการเสื่อมของความจำได้ ลักษณะเดียวกับการสร้างมวลกระดูกในช่วงวัยรุ่นที่สามารถช่วยป้องกันกระดูก หักในวัยชรา

      ดร. สติวเดนสกี้ กล่าวว่า เซลล์สมองมีพัฒนาการมากในช่วงต้นของชีวิต มีหลักฐานแสดงให้เห็นชัดเจนว่าการสร้างเซลล์สมองขณะที่มีอายุน้อยมีส่วน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมองที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละวัน ดังนั้นแม้เมื่อเข้าสู่วัยชราสมองก็ยังสามารถทำงานต่อได้ สำหรับเคล็ดลับในการรักษาสติปัญญาในวัยชรา คือ

      1. กินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ เลือกอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำแต่อุดมไปด้วยผักและผลไม้ รวมทั้งกลุ่มวิตามินบีควรกินปลาหลายๆ ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะปลาที่มีกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า

      2. ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดิน เต้นรำ ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ทำสวน อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์

      3. ไปพบแพทย์เป็นประจำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

      4. นอนหลับให้เพียงพอ หากนอนน้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง ทำให้ความจำและสมาธิไม่ดี

      5. ลดความเครียด ด้วยการออกกำลังกาย สวดมนต์ และทำสมาธิ

      6. คิดและใช้สมอง ยิ่งใช้สมองมากยิ่งทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกมคอร์สเวิร์ด เข้าร่วมอภิปรายกลุ่ม เข้าเรียนพัฒนาตนเองในคอร์สต่างๆ เรียนเปียโน หรือเรียนภาษา ฯลฯ

      7. เข้าสังคมเพื่อให้สมองตื่นตัว เช่น พบเพื่อนใหม่ เข้าร่วมเป็นสมาชิกหรืออาสาสมัคร หรือทำงานนอกเวลา

ที่มา: matichononline.com




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 23:04:47 น.
Counter : 290 Pageviews.  

ภัยจากการใช้ Small Talk

ถ้าผลกระทบหรืออันตรายต่อสมองของมนุษย์เกิดเนื่องมาจ ากคลื่นที่ ถูกปล่อยออกมาจากตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ การใช้ hands-free และนำตัวเครื่องโทรศัพท์ติดไว้บริเวณเข็มขัดหรือใส่ใ นกระเป๋าเสื้อ, กางเกงจะทำให้ตัวเครื่องโทรศัพท์อยู่ไกล จากบริเวณศีรษะ ช่วยลดผลของความแรงของคลื่นที่จะแผ่เข้าสู่สมองได้ เราจะได้ใช้มือถือได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล?? ถ้าใครกำลังคิดอย่างที่ว่านี้อยู่ลองมาอ่านบทความเรื ่องนี้ดูกันมีการศึกษา และทดสอบในประเทศอังกฤษหลายครั้งที่ยืนยันว่า

ตัวเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่จะทำงานที่ ระดับกำลังส่งที่สูงขึ้นและแผ่รังสีออกมาในปริมาณมาก ขึ้นเมื่อวางตัวเครื่อง โทรศัพท์อยู่ในระดับต่ำลง(เช่นเหน็บไว้ที่เอว) ส่วนการใช้ hands-free นั้นคลื่นจะสามารถเคลื่อนที่ผ่านไปตามสายที่ต่อกับตั วหูฟังและเข้าสู่สมอง โดยผ่านทางช่องหูโดยตรงและเมือเรานำตัวเครื่องโทรศัพ ท์มาติดไว้บริเวณ เข็มขัด ขณะเราใช้งานรังสี (RF) ที่แผ่ออกมาจากตัวเครื่องก็จะแผ่เข้าสู่บริเวณที่อยู ่รอบๆซึ่งในบริเวณดัง กล่าว ร่างกายจะสามารถดูดซับปริมาณรังสี ได้มากกว่าบริเวณศีรษะเนื่องจากเนื้อเยื่อและอวัยวะบ ริเวณนั้นเช่น ตับและไตจะได้รับปริมาณรังสีโดยตรงไม่เหมือนบริเวณสม องที่ยังมี กะโหลกศีรษะห่อหุ้มป้องกันอยู่ จึงอาจทำให้เกิดความผิดปกติในอวัยวะบริเวณนั้นได้อีก ด้วย(รายละเอียดเพิ่ม เติมของการวิจัยได้ที่ //www.rfsafe.com/Danger_of_
Hands_free_kits.htm)

จากบทความข้างต้นคงจะเห็นว่า hands-free คงไม่ได้ช่วยคุณให้ปลอดภัยจากรังสี RF (microwave) ที่ปล่อยออกมาจากตัวเครื่อง โทรศัพท์และอาจจะทำให้เกิดอันตรายมากขึ้นถ้าใช้ไม่ถู กวิธี ดังนั้นการใช้โทรศัพท์เฉพาะเวลาที่จำเป็นและไม่คุยนา นเกินไป ก็คงจะเป็นทางป้องกันที่ดีที่สุดทั้งสุขภาพกายและก็ส ุขภาพเงินในกระเป๋าของ เราด้วยนะจ๊ะ




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 23:10:05 น.
Counter : 275 Pageviews.  

10 ของกินเล่น ที่ไร้คุณค่าทางอาหาร


ในประเทศอเมริกานั้น อาหารว่าง หรืออาหารทานเล่น ดูจะสร้างความวิตกกังวลมากขึ้นทุก ๆ ปี เพราะว่าส่วนประกอบของอาหารเหล่านี้นั้นส่วนมากจะเป็ นพวกน้ำตาล สารเคมี สี และไขมัน เป็นส่วนใหญ่ และเป็นสาเหตุของโรคอ้วน และไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเอาซะเลย

มาดูกันดีกว่าว่า อาหารว่าง 10 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด ได้แก่อะไรบ้าง

เฟรนซ์ฟรายส์ (French Fries)

เรา ๆ ท่าน ๆ นั้นอย่าเพิ่งมั่นใจกับสิ่งที่ร้านอาหาร บอกว่า มีการเปลี่ยนน้ำมันสำหรับทอดบ่อย ๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ มันฝรั่งนั้นส่วนประกอบหลักเต็มไปด้วยแป้ง และเมื่อนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด และปรุงรสชาตินั้น อาจจะเป็นอาหารว่างที่อันตรายที่สุด

โดนัท (Donuts)

โดนัทคือ ขนมปังที่นำไปทอด อาหารชนิดนี้ก็เต็มไปด้วยแป้ง และเมื่อนำไปทอดก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ามันฝรั่งทอดเ ลย

มันฝรั่งทอด (Chips)

สิ่งนี่ก็คือมันฝรั่งทอดในรูปแบบอื่นที่แตกต่างออกไป ที่ถูกนำไปใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์นั่นเอง แต่เราสามารถที่จะควบคุมอันตรายจากอาหารประเภทนี้ได้ คือการนำไปอบแทนการทอด ซึ่งมันฝรั่งประเภทที่ใช้การอบแทนนั้น สามารถหาซื้อได้จากร้านอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ใช่อาหารที่ดี และควรรับประทานบ่อย ๆ อยู่ดี

โซดา (Soda)

บางคนอาจจะสับสนกับการรวมสิ่งนี้เข้าไปเป็นกลุ่มอาหา รด้วย สิ่งนี้ไม่เพียงไม่มีคุณค่าทางอาหาร ยังรวมไปถึงสารเคมีอีกมากมายที่ถูกบรรจุอยู่ในผลิตภั ณฑ์อีกด้วย

คัพเค้ก (Cupcakes and Snack Cakes: whipped cream)

เค้กที่มีไส้ครีมมันเยิ้ม และส่วนประกอบหลัก ๆ ก็มีแต่ แป้ง น้ำตาล และสารปรุงแต่งกลิ่น รส ซึ่งไม่มีคุณค่าอาหารเลย

ช็อกโกแลตสอดไส้ถั่ว (Candy Bars)

กับเจ้าสิ่งนี้อาจจะยังพอมีคุณค่าทางอาหารให้เราอยู่ บ้าง กับโปรตีนประมาณ 1-2 กรัม จากถั่วที่เป็นส่วนผสม แต่ว่าปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่นั้น ไม่สามารถนำมาทดแทนคุณประโยชน์ได้เลย เพราะความแตกต่างนั้นมีมากกว่ากันเยอะเลย แต่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในประเภทเดียวกันคือ energy bars ซึ่งมีปริมาณแคลอรี่น้อยกว่าถึง 1 ใน 3 มีโปรตีนมากกว่า และมีไขมันน้อยกว่าอีกด้วย แต่ยังไงก็มีคุณค่าสู้อาหารปกติไม่ได้อยู่ดี

เบคอน หรือแคบหมู (Pork Rinds)

หรือแคบหมูทอดในบ้านเรานั่นเอง ซึ่งข้อนี้คงไม่ต้องบอก ใคร ๆ ก็คงทราบดีถึงสิ่งที่ได้รับจากเจ้าสิ่งนี้ว่ามีแต่ไข มันสัตว์

คุกกี้ไร้ไขมัน (Fat-Free Cookies)

สินค้าเหล่านี้เป็นที่น่าสงสัยในแง่ของโภชนาการ เพราะว่าถ้าดูเพียงผิวเผินอาจจะดูเหมือนอาหารเพื่อสุ ขภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อาหารที่ปราศจากไขมัน ไม่ได้หมายความว่าจะปราศจากแคลอรี่ไปด้วย ดังนั้นสรุปก็คือ ไม่สมควรรับประทานอีกนั่นแหละ

แครกเกอร์ (ers)

แครกเกอร์เต็มไปด้วยไขมันชนิด Trans ดังนั้นควรอ่านฉลากดูให้ดีก่อนซื้อ โดย Trans Fat หรือไขมันทรานส์ คือ ไขมันแบบ Polyunsaturated ที่วางขายตามท้องตลาด มีการเติมธาตุไฮโดรเจนสังเคราะห์ เพื่อให้มีสถานะแข็งที่อุณหภูมิห้อง ไขมันแบบนี้ มีคุณภาพต่ำ เพราะไปลดปริมาณ HDL และเพิ่มปริมาณ LDL ในเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใ จมากยิ่งขึ้น

เพรซเซล (Pretzels)

อาหารกลุ่มนี้เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะเป็นอาหารที่ไม่มีไขมัน แต่ไม่มีไขมันไม่ได้หมายความว่าเป็นอาหารที่ดี เพราะเพรซเซลนั้นเต็มไปด้วยแป้ง และน้ำตาล ซึ่งแอบแฝงให้ดูเหมือนอาหารเพื่อสุขภาพ

ที่มา : INN News




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 22:26:52 น.
Counter : 725 Pageviews.  

"ผักหวาน" ผักพื้นบ้าน



วันนี้จะพาไปรู้จักกับ "ผักหวาน" ผักพื้นบ้านของทางภาคเหนือและภาคอีสานที่มีรสชาติอร่ อยถูกปากนักกินทั้งหลาย ก่อนหน้านี้ผักหวานก็เป็นพืชที่รู้จักกันเฉพาะชาวบ้า นเท่านั้น แต่ด้วยความอร่อยหวานกรอบของมัน รวมทั้งมีให้กินเฉพาะฤดูกาลในช่วงหน้าร้อนเท่านั้น ก็ทำให้ผักหวานเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงตามไปด้วย

ผักหวานที่เรากินกันนี้เรียกว่าเป็นผักหวานป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดไม่ใหญ่นัก นิยมนำส่วนที่เป็นยอดและใบอ่อนมาทำเป็นอาหารกิน โดยอาหารที่นิยมทำกินกันก็คือแกงผักหวานใส่ไข่มดแดง แกงผักหวานปลาย่าง แกงอ่อม นำมาผัดน้ำมันกินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือนำมานึ่งจิ้มกินกับน้ำพริกก็อร่อยได้เช่นกัน

พูดไปพูดมาน้ำลายก็ชักจะไหล มาดูสรรพคุณของผักหวานบ้างดีกว่า ผักหวานจัดเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงชนิดหนึ่ ง โดยมีทั้งโปรตีน วิตามินซี รวมทั้งยังมีเส้นใยมากพอสมควร ช่วยในการขับถ่ายให้ดีขึ้น แต่สำหรับผู้ที่จะเก็บผักหวานมากินก็ต้องระวังนิดหนึ ่ง เพราะจะมีผักชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายกับผักหวานป่า หรือเรียกว่า ผักหวานเมา กินแล้วจะทำให้เกิดอาการเมา วิงเวียน อาเจียนได้ วิธีแก้ของชาวบ้านก็คือการใส่ข้าวสารลงไปขณะต้มแกงด้ วย ก็จะแก้ฤทธิ์เมาได้

แต่สำหรับนักกินชาวกรุงที่ไม่ได้ไปเก็บผักหวานเอง แค่เตรียมหาเมนูเด็ดๆ ไว้จัดการกับผักหวานจานอร่อยก็พอแล้ว

ที่มา : siamdara.com




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 19:06:24 น.
Counter : 775 Pageviews.  

ดื่มน้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือนม หลังกินยาได้ไหม?


หลังกินยาควรดื่มน้ำตามเพื่อช่วยให้ยาไม่ติดค้างในลำคอหรือหลอดอาหาร และให้ยาลงไปสู่กระเพาะและลำไส้ได้ดีขึ้น น้ำที่ดื่มหลังจากกินยาควรเป็นน้ำเปล่าจะดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยา ของยากับเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ไม่ใช่น้ำ

อย่างไรก็ตาม ยาบางชนิดสามารถดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลมหรือนมแทนน้ำได้ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่มีผลต่อความคงตัวของยาหรือไม่มีผลต่อการถูกดูด ซึมของยาในทางเดินอาหาร แต่ยาบางชนิดเมื่อถูกกับกรดในน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลมจะทำให้ยาสลายตัวได้ และมียาบางชนิดที่นมจะลดการดูดซึมของยา

ยาบางชนิดห้ามกินยาพร้อมนม ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ

      1. ยา ลดการดูดซึมยา โดยยาจะจับกับแคลเซียมในนมกลายเป็นสารประกอบเชิงซ้อนทำให้การดูดซึมยาในทาง เดินอาหารลดลง ตัวอย่างเช่น ยาปฏิชีวนะเททราไซคลีน (tetracycline) และ ดอกซีไซคลีน (doxycycline) แต่ยาดอกซีไซคลีนได้รับผลจากนมน้อยกว่าเททราไซคลีน นอกจากนี้ยังมียาต้านเชื้อแบคทีเรียกลุ่มควิโนโลน (quinolone) เช่น นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin), ซิโปรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin) และ โอฟลอกซาซิน (ofloxacin) เป็นต้น ดังนั้นต้องกินยาเหล่านี้ให้ห่างจากการดื่มนมอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

      2. นม อาจทำให้ระบบเคลือบป้องกันยาบางชนิดถูกทำลายก่อนเวลาที่เหมาะสม กล่าวคือ ยาบางชนิดถูกทำลายในสภาวะที่เป็นกรดจึงถูกเคลือบด้วยสารพิเศษที่ไม่ให้ละลาย ในกรด แต่ให้ละลายในด่าง โดยสารเคลือบนี้สามารถละลายในลำไส้ซึ่งมีในสภาพเป็นด่าง และทำให้เกิดการปลดปล่อยตัวยาออกมาได้ที่ลำไส้เล็ก หากกินยานี้พร้อมนมซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างจะทำให้สารที่เคลือบยาไว้ละลายออกและ ปล่อยตัวยาออกมาก่อนในกระเพาะทำให้ยาถูกทำลายได้ ตัวอย่างยารูปแบบนี้ เช่น ยายับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะชื่อโอมิพราโซล (omeprazole) ดังนั้นต้องกินยาที่เคลือบแบบนี้ให้ห่างจากการดื่มนมอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

นอกจากนี้ผู้ป่วย ที่ไม่สามารถกินอาหารทางปากได้ และได้รับอาหารทางสายยางทางจมูก หรือได้รับอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหารหรือลำไส้โดยตรง ก็ต้องระวังเช่นกัน เพราะอาหารปั่นหรืออาหารทางการแพทย์ที่ให้ทางสายเหล่านี้อาจมีนมเป็นส่วน ประกอบ และทำให้เกิดปัญหากับยาบางชนิดได้

ดังนั้น หลังจากกินยา หากท่านต้องการดื่มน้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือนมแทนน้ำ ควรสอบถามเภสัชกรให้แน่ใจก่อนว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่มีผลต่อยาที่ท่านจะ กิน หากไม่แน่ใจให้ดื่มน้ำเปล่าจะเหมาะสมที่สุด




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 19:00:11 น.
Counter : 286 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

quosego
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add quosego's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.