Group Blog
 
All Blogs
 

โภชนาการกับโรคมะเร็ง

"มะเร็ง" เป็นโรคร้ายติดอันดับที่คร่าชีวิตประชากรโลกมา แล้วอย่างมากมาย ซึ่งมะเร็งบางชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้ถ้าตรวจพบในระยะเริ่มแรก

สำหรับการเกิดโรคมะเร็งนั้นมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอยู่หลายประการทั้งจากภายในร่าง กาย เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม และจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารเคมี รังสี ไวรัส พยาธิบางชนิดตลอดจนความไม่สมดุลทางภาวะโภชนาการ

จากการศึกษาพบว่าอาหารอาจมีส่วมสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งได้ประมาณ 30-50 % แต่ในขณะเดียวกันอาหารประเภทพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช และเครื่องเทศต่างๆ ก็มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ จึงเป็งหนทางหนึ่งซึ่งสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้

อาหารที่มีคุณสมบัติป้องกันโรคมะเร็ง

      1. อาหาร ที่มีกากมาก ได้แก่ ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชต่างๆ

      2. อาหารที่มีเบต้า-แคโรทีนสูง ได้แก่ ผัก ผลไม้ที่มีสีเหลืองสดหรือสีส้ม เช่น ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก แตงโม แครอท และผักสีเขียวเข้ม เช่น ตำลึง คะน้า บรอคโคลี และผักขม เป็นต้น

      3. อาหารที่มีไวตามินซีสูง ได้แก่ ผักสดและผลไม้ เช่น ฝรั่ง ส้ม ขนุน และมะละกอสุก

      4. ผัก ตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า และบรอคโคลี

      5. เครื่อง เทศต่างๆ ได้แก่ กระเทียม ขมิ้น

อาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคมะเร็ง

      1. อาหาร ที่มีราขึ้นโดยเฉพาะราสีเขียว-สีเหลือง

      2. อาหารไขมันสูง

      3. อาหาร เค็มจัด และอาหารที่ถนอมด้วยเกลือดินประสิว

      4. ส่วนที่ไหม้เกรียม ของเนื้อสัตว์ ปิ้ง ย่าง ทอด รมควัน

      5. อาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาน้ำจืดดิบๆ เช่น ปลาขาว ปลาตะเพียน หรือปลาแม่สะแด้ง เป็นต้น




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 13:59:06 น.
Counter : 315 Pageviews.  

(เคล็ดลับ) ฮวงจุ้ย 128 ข้อ

1. บ้านพักที่ใหญ่โตเกินไป แต่ในบ้านมีคนพักน้อย ไม่เป็นมงคลจะทำกินไม่ขึ้น ในครอบครัวจะดีมาก ทำให้อบอุ่น ทำกินร่ำรวย

2. บ้านที่มีหลังบ้านข้างบ้านมีตึกสูงกว่าดี แต่อย่าชิดเกินไป

3. บ้านสองบ้านที่เล็งกัน บ้านฝั่งที่ต่ำกว่านับว่าไม่เป็นมงคล, บ้านที่สร้างขวางทางยาว แต่กินที่แคบไม่ลึกไม่เป็นมงคล

4. บ้าน ใดที่ปลูกต้นไผ่ แล้วคนภายนอกมองไม่เห็นคนในบ้าน จะทำให้คนอยู่อาศัยจะพบความเจริญ

5. บ้านของลูก ๆ ไม่ควรสร้างในลานบ้านของพ่อแม่ ครอบครัวจะยากจนลง แต่ลูกคนโตไม่เป็นไร ให้หันประตู6. บ้าน ตามรหัสราศีปีเกิด หรือตามทิศของโป้ยข่วย คือ ทิศตะวันออก

7. บ้านที่มีตึกสูงอยู่ใกล้ แสดงถึงมีผู้มาให้ความช่วยเหลือคุ้มครองและอย่านำต้นไม้ที่เป็นรากมาประดับ โดยแขวน รากชี ฟ้าจะไม่เป็นมงคล

8. บ้านที่มีลานโล่งห้าม ล้อมรั้วกลางลานโล่งจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคตา หัวใจ

9. บ้านที่อยู่รวมกัน ห้ามเอาหลังคาชนกันจะไม่เป็นมงคล บ้านชั้นเดียว ถ้าคับแคบให้ปลูกเพิ่มเติม ต้องแก้เคล็ด

10. บ้านควรปลูก เป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่ควรปลูกส่วนเกิด ส่วนขาด จะเป็นอัปมงคล เสียหาย

11. บ้านอย่าแขวงเครื่องประดับมากเกินไป โดยเฉพาะนอแรด เขากระทิง หัวสัตว์ที่ดุร้ายไม่ควรแขวนเลย เพราะ วิญญาณมักจะตามมาทวงและรบกวนเจ้าของบ้าน

12. บ้านเล็กอย่าสร้างประตูใหญ่จะเกิดปากเสียงทำกินไม่ขึ้น

13. บ้าน ไม่ควรเจาะหลังคา นะไม่เป็นมงคล ถ้ากลัวว่าทึบก็ให้ใช้กระเบื้องใสแทน

14. บ้านหลังเดียว ควรมีประตูหลังบ้านถึงจะเป็นมงคล

15. บ้าน ผู้ดีมีเงินมักสร้างศาลาพักผ่อนยื่นออกมา ตามหลักฮวงจุ้ยห้ามสร้างบ้านยื่น ขาด เว้า แหว่ง จะมีอันเป็นไป ต้อง ปลุกต้นไม้รับตัวบ้านและศาลาที่สร้างต้องรวมกันให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม

16. บ้านที่มีกำแพงเก่าควรทาสีให้ใหม่เสมอ เวลากลางคืนควรติดไฟให้สว่างจะพบแต่ความเจริญ

17. บ้านที่มี ที่ดินด้านหลังบ้านแคบหน้าบ้านกว้างไม่เป็นมงคลให้แก้เคล็ดโดยการติดกระจก บริเวณที่แคบทั้งสองด้าน เพื่อเวลามองแล้วจะรู้สึกกว้าง ลึก

18. บ้านที่มีหน้าบ้านแคบแต่หลังบ้านกว้างเป็นถุงเงินถุงทองดี บ้านที่ปลูกแล้วดูเป็นรูป W, L ไม่เป็นมงคล

19. บ้านที่มี กำแพงสูงมากเกินไป เช่นสูงเกิน 2 เมตร ไม่เป็นมงคล (เหมือนคุก)

20. บ้านที่สร้างแล้วมีความลึกมากกว่าความกว้างงอยู่แล้วจะเจริญรุ่งเรือง, บ้านที่สร้างตามความลึกเป็นมงคล

21. บ้านที่มีการปลูกหน้า บ้านยาวแต่แคบไม่เป็นมงคล , บ้านหรือที่ดินบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสเป็นมงคลยิ่ง

22. บ้าน สร้างบ้านอยู่บนเนินเขา ไม่ดี, บ้านสูงต่ำ เล่นระดับ ไม่ดี, บ้านมีห้องใต้ดินอยู่กลางบ้าน ไม่ดี

23. บ้านที่แหว่งบางส่วน คนในบ้านจะมีอันเป็นไป เช่น ถ้าแหว่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หมายถึงแม่หรือหญิงเจ้าของ บ้าน ถ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือคือ พ่อ หรือชายเจ้าของบ้าน

24. บ้าน ที่แหว่งทิศตะวันออก และตะวันตกผลกระทบ คือลูกชายคนโต และลูกสาวคนเล็ก ไม่เป็นมงคล ต้องแก้เคล็ด

25. บ้านหรือพื้นที่เว้าแหว่ง ทิศเหนือและใต้จะเสียหายแก่ลูกสาวงคนกลาง (ทิศใต้) ลูกชายคนกลาง (ทิศเหนือ) จะมีเรื่องคดีความ, บ้านด้านหนึ่งมีปล่องควันปล่องควันแทนก้านธูปไหว้คนตายไม่ดี

26. บ้านที่ตะวันออกเฉียงเหนือแหว่งจะเกิดเสียหายแก่ลูกชายคนเล็กและระบบ ย่อยอาหาร

27. บ้านหรือที่ดินที่เว้า แหส่ง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีผลกระทบกับพ่อ หรือชายเจ้าของบ้าน และผู้คนในครอบครัว บ้านที่เป็นรูปทรงหน้ากว้างหลังแคบจะเก็บเงินไม่อยู่ จะยากจน

28. บ้านที่แหว่งจะทำให้ครอบครัวไม่มีความเจริญ รุ่งเรือง และถ้าแหว่งทางทิศตะวันออกจะมีผลกระทบเกี่ยวกับลูกชายคนโต บ้านที่มีหลังคาด้านซ้ายยาว ด้านขวาสั้น ภายในครอบครัวจะพบภัยพิบัติ

29. บ้านเวลาปลูกอย่าตั้งเสาข้างหนึ่งสูงข้าง ข้างหนึ่งเตี้ย จะแสดงถึงการทำกิน ธุรกิจง่อนแง่น

30. บ้านที่เก่าถ้าจะเข้า ไปอยู่ใหม่ควรทาสีให้ใหม่ กลอนประตูควรจะเปลี่ยนใหม่ จะนำโชคลาภมาให้

31. บ้านถ้าอยู่ใกล้สุสานไม่ดี , บ้านที่มีสะพานพุ่งแทงเข้ามาให้แก้เคล็ดโดยปลูกต้นไม้ไผ่บังสายตา

32. บ้านที่มีบ่อน้ำที่มีมุมแหลมพุ่งตรงสู่หน้าบ้านไม่เป็นมงคล ควรแก้เคล็ดโดยปลูกต้นไม้บังบ่อตรงมุมแหลม จะพบความสุข , บ้านที่มีหลังคาเป็นรูปโค้งไม่ดี

33. บ้านที่มีบ่อน้ำอยู่ หลังให้ระวังเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เช่น โรคท้อง

34. บ้านที่เพดานเฉียง ไม่ดี, บ้านมีคาน ไม่ดี, บ้านที่มีคานไม่เสมอกัน ไม่ดี, บ้านสร้างคล้ายรูปตัวยู ไม่ดี

35. บ้านที่มีถนนโค้งออก อยู่แล้วไม่เจริญ , บ้านที่มีถนนล้อมรอบทั้ง 4 ด้านไม่เป็นมงคล , บ้านที่มีทางโค้งออกอยู่ไปจะทำให้ยากจน, บ้านที่อยู่ใกล้สี่แยกให้ตั้งประตูใหญ่ให้ถูกรหัสราศีของเจ้าของบ้าน และอีกส่วนด้านให้ปลูกต้นไม้แทนภูเขาเพื่อแก้เคล็ด

36. บ้านที่อยู่ใกล้สี่แยกระวังขโมยขึ้นบ้านบ่อย และถ้าถนนตัดกับทิศตะวันตกเฉียงใต้ คนในบ้านมักจะมั่วกาม

37. บ้าน มีสองบันได ไม่ดี , บ้านรูปทรงตัว H ถือว่าบ้านเว้าแหว่ง จะเสียทรัพย์ เสียชื่อเสียง

38. บ้านเว้าแหว่ง รูปทรงกากบาท หมายถึงป่วย ความตาม ไม่ดี

39. บ้านที่มีรูปทรงแปลก ๆ ผิดปกติ เฉียงเอียงเว้าแหว่งล้วนไม่ดี, บ้านมีคนพักอาศัยมากจะทำให้คนในบ้านอบอุ่น

40. บ้านที่มีลานหน้าบ้านกว้าง เป็นฮวงจุ้ยที่ดี, บ้านถูกทางแทง ไม่ดี ต้องแก้ไข

41. บ้านเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียกว่าถังขยะ ธุรกิจเจ๊ง เป็นมะเร็ง อัมพาต

42. บ้านแตกร้าว ในบ้านจะเกิดปากเสียง ไม่ดี, บ้านตรงข้ามโบสถ์ จะมีแต่ความเสื่อมเสีย มีเรื่องชู้สาว

43. บ้านรูปแปดเหลี่ยมดี บ้านที่มีเหลี่ยมตึก หน้าจั่วแทงด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา ไม่ดี

44. บ้านที่อยู่ใกล้เสาไฟแรงสูง อันตรายเวลาฝนตก, บ้านอยู่ตรงข้ามโรงไฟฟ้าไม่ดี ต้องแก้ไข

45. บ้านติดโรง พยาบาลไม่ดี การค้าสะดุด การเงินเป็นหนี้ สุขภาพไม่ดี

46. บ้าน ร้างที่อยู่ใกล้บ้านใหม่ จะทำให้บ้านใหม่ไม่ดีไปด้วย, หน้าบ้านมีกองขยะ หรือสิ่งรก ๆ ไม่ดี

47. บ้านที่อยู่ระหว่างช่องว่างของตึก สูง เรียกว่าลมพิฆาต ไม่ดี วิบัติรุนแรง

48. บ้านมีต้นไม้เอียงเบนห่างออก ไม่ดี ขาดผู้สนับสนุน, บ้านถูกทางน้ำ หรือบันไดแทง ไม่ดี

49. หน้าบ้านที่มีบ้านมุมบ้านแหลม หันมาแทงบ้านของตัวเอง, หน้าบ้านมีบ่อรูปสามเหลี่ยม ไม่ดี

50. หน้า บ้านมีบ่อน้ำสองบ่อ เรียกว่าบ่อน้ำตา ไม่ดี, หน้าบ้านห้ามมีศาลเจ้า โบสถ์ วัด

51. หน้าบ้านทางด้านซ้ายมือมีสระน้ำอยู่มุมมังกรเขียว ผู้อยู่อาศัยจะเจริญรุ่งเรือง

52. หน้าบ้านถ้ามีต้นไม่ใหญ่ ตายยืนควรจะโค่นตัดทิ้งเลย มิฉะนั้นจะพบความยากจน

53. หน้า บ้านมีรูปเหมือนรูปปืนที่ยิงใส่หน้าบ้านตลอด อยู่ใกล้ไปจะยากจน , หน้าบ้านมีท่อระบายน้ำหรือแทงค์น้ำอยู่ไม่ดี

54. หน้าบ้านมีเสาเครื่องหมายจราจรอยู่ไม่ดี,หน้าบ้านมีทางเข้าออกของรถ ของบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ตรงกัน แทงกันเองไม่ดี

55. หน้าบ้าน มีต้นไม้ใหญ่เหมือนมีมีดมาฟันบ้าน ไม่ดี, ประตูใหญ่อย่าสร้างประตูเล็กไว้ 2 ข้าง แต่ให้สร้างข้างเดียวคือ หันหน้าอกสร้างตรงซ้ายมือ (มุมมังกรเขียว) , ประตูตรงกันไม่เป็นมงคล,ประตู เสา และฝาบ้าน ต้องเลือกไม้ที่ไม่มีตามาก ๆ

56. ประตูหน้าบ้านห้ามตรงกับประตูห้องน้ำไม่ดี จะเกิดโรคฝีหรือโรคมะเร็งได้, ประตูบ้านที่มีซุ้มสูงกว่าหลังค่าไม่เป็นมงคล ให้แก้ไข จะได้พบแต่ความสุข, ประตูที่ทำซุ้มแบบซุ้มประตูของศาลเจ้าหรือมูลนิธิ บ้านคนธรรมดาห้ามสร้างจะไม่เป็นสิริมงคล, ประตูบ้านไม่ควรจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลางประตู

57. ประตู หน้าบ้านมีสะพานพุ่งเข้าหน้าบ้านไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับเตียงนอนไม่ดี, ประตูใหญ่ตรงประตูห้องน้ำไม่ดีจะทำให้เงินเข้าบ้านไม่ดี สุขภาพไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับประตูห้องน้ำไม่ดี จะเกิดโรคภัย ธุรกิจสะดุด

58. ประตูใหญ่ตรงกับประตูห้องนอน จะเกิบเงินไม่อยู่ มีปากเสียง ไม่ดี, ประตูรั้วบ้านฝั่งตรงข้ามใหญ่กว่าบ้านเราไม่ดี

59. ประตูตรงกันหลายบาน ตรงกับเตา ทำให้ร้อนเงิน มีปากเสียง ไม่ดี, ประตูตรงห้องนอนห้ามตรงกับบันได ไม่ดี

60. ประตูห้องส้วมตรง กับเตียงนอนไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับประตูครัว ทำให้เกิดปากเสียงเงินเก็บไม่อยู่

61. ประตูด้านซ้ายควรใหญ่ กว่าด้านขวา, ประตูรั้วสูงกว่ากำแพงไม่ดี

62. บันไดตรงกับประตูห้องนอน ไม่ดี, บันไดตรงประตู ไม่ดี, บันไดตรงห้องน้ำ ไม่ดี, บันไดอยู่กลางบ้านตรงประตูเข้าออก ไม่ดี

63. ห้องนอนติดกับเตา หรือห้องครัวไม่ดี, ห้องนอนของคนชราควรอยู่ชั้นล่าง เพราะอายุมากกระดูกไขข้อเริ่มเสื่อม

64. ห้องนอนควรที่จะ เก็บแต่เสื้อผ้าใหม่และข้องใหม่ จะเป็นมงคล, ห้องนอนควรอยู่ให้ถูกกับรหัสราศีของตัวเอง

65. ห้องนอน ผ้าห่ม หมอน ควรที่จะแห้ง สะอาดอยู่เสมอ, ห้องนอนอยู่ใต้ห้องน้ำจะเจ็บป่วย

66. ในห้องนอนเจ้าบ้านควรอยู่ทิศในรหัสราศีของตัวเองถึงจะเป็นมงคล

67. ห้องนอนประตูห้องนอนไม่ควรตรงกับประตูหน้าบ้าน, ห้องนอน เตียงนอนไม่ควรจะตรงกับประตูห้องหนอและไม่ควรเป็นห้องเก็บของ จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ

68. กระจกอย่าวางไว้ที่หัวนอน เพราะจะทำให้เสียสุขภาพ

69. เตียงนอนอยู่บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ดี ไม่เป็นมงคล

70. ใต้เตียงนอนไม่เหมาะที่จะเก็บถ้วย ชามที่ร้าว จะทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพ

71. เตียงนอนตรงกับ ประตู ไม่ดี, เตียงนอนห้ามตั้งอยู่บนเตาไฟ จะทำให้คนนอนสุขภาพไม่ดี

72. เตียงนอนห้ามอยู่ใต้บันได เพราะจะมีคนขึ้นลงอยู่ประจำ, การตั้งเตียงเป็นมุมทะแยง ไม่ดี จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ

73. ด้านหัวนอนของเตียงและปลายเท้าห้ามตั้งกระจก, ห้ามนอนเอาเท้าหันไปสู่ประตู

74. หิ้งลอย ตู้ลอย ไม่ควรอยู่บนหัวนอน จะทำให้เครียด เกิดโรคทางสมอง

75. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรตั้งตรงบันได หรือใต้บันได ไม่เป็นมงคล, การตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ห้ามเอาหลังอิงห้องน้ำ ไม่เป็นมงคล

76. ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรตั้งในห้องนอน ถ้าเป็นคนโสดไม่เป็นไร ถ้ามีคู่แล้วห้าม

77. สิ่งศักดิ์ สิทธ์ตั้งอยู่บนห้องน้ำ เป็นสิ่งไม่สมควร ควรแก้ไข

78. สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ห้ามตั้งอยู่ใต้คาน รวมทั้งคนด้วยเช่นกันก็ห้ามอยู่ใต้คาน

79. ห้องพระไม่ควรรวมกับห้องนอน ถ้าที่คับแคบจำเป็นต้องรวมให้กั้นฉากเป็นสัดส่วน ห้องนอนอย่าอยู่หน้าห้องรับแขก

80. บ่อน้ำไม่ควรเป็นที่ทิ้งขยะ ไม่ดี, บ่อน้ำอยู่หลังบ้าน หรือหลังเตียงนอน ไม่ดี

81. คานอยู่หน้าประตูไม่ดีจะส่งพลังกดทับทำให้เงิน หรือพลังไม่คล่อง คานต่ำ เพดานต่ำ จะทำให้ชี่ (เงิน) เข้าบ้านไม่สะดวก

82. คานห้ามอยู่บนหัวนอน จะเป็นมะเร็งในสมอง เส้นโลหิตในสมองแตก, คานทับเตาไฟ ทำให้เงินขาดมือ

83. ห้องน้ำอยู่บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เป็นมงคล, ห้องน้ำอยู่บนประตูใหญ่ไม่ดี ทำให้เงินไม่ไหลเข้า, ห้องน้ำอยู่เหนือเตาไฟ ไม่ดี

84. ด้านหลังของเตียงเป็นห้อง น้ำไม่ดี

85. ห้องน้ำกลางบ้านไม่ดี, เครื่องซักผ้าตรงกับเตาไม่ดี, ห้องครัวถ้ามีขื่อพาดอยู่ ไม่ดีจะเจ็บป่วย ยากจน

86. ห้องครัวห้ามอยู่ติดกับห้องนอน ถ้าจำเป็นจะตั้องกั้นผนังห้องครัวและห้องนอนอย่าให่มีอากาศเข้าถึงกันได้

87. เตาตรงกับประตู เท้ากับชักนำเพื่อนเข้ามากิน แล้วก็จากไป แต่ตัวเราจะจนลง ไม่ดี

88. เตาแก๊สห้ามตั้งติดกับก๊อกน้ำหรืออ่างล้างชาม ไม่ดี

89. การตั้งเตาควรหันที่ปิดเปิดให้ถูกโฉลกและเป็นมงคล กับเจ้าบ้าน

90. หัวเตาแก๊สควรมี 3, 5, 7 เตาดีที่สุด, ไม่ควรสร้างเตาไฟเล็งไปที่ประตู

91. ไม่ควรวางเตาไว้บนท่อระบายน้ำหรือท่อ น้ำประปา, ด้านหลังเตาแก๊สห้ามมีบ่อน้ำ

92. ด้านหลังเตาอย่าให้ห่างผนังมากเกินไป

93. ครัวเตาไฟไม่ควร จัดไว้หน้าบ้าน จะไม่มีทรัพย์สินเก็บจะมีคนในบ้านตายทุก 3 ปี

94. ตัวเตาในบ้านอย่าให้คนนอกบ้านเห็นจะไม่เหลือเงินเก็บ, การตั้งเตาอย่าใกล้สระน้ำ หรือน้ำประปา

95. หน้าเตาไฟหันไป สู่ทิศตะวันออก หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ดี เป็นมงคล แต่ถ้าจะให้ดีต้องถูกรหัสราศีทิศของเจ้าของบ้านด้วย

96. ไม่ควรสร้างเตาในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน แต่ควรหันหัวเตาให้ถูกโฉลกรหัสราศีของเจ้าของบ้าน

97. ห้อง นั่งเล่นโซฟารูปสามเหลี่ยมไม่ดี, ข้างบ้านมีเครื่องระบายความร้อนพุ่งมาหาบ้านอีกฝ่ายหนึ่งไม่ดี

98. ต้นไม้ชิดบ้านเกินไปไม่ดี แต่ถ้าห่างประมาณสิบเมตรดี จะมีผู้สนับสนุน, หลังบ้านมีบ่อน้ำตรงกับเตา ไม่ดี

99. ห้องนั่งเล่นเป็นหลุมเป็นแอ่งกระทะ ไม่ดี, ท่อน้ำอยู่ใต้เตาไม่ดี เพราะน้ำกับไฟเป็นศัตรูกัน

100. การตั้งโต๊ะทำงาน ควรตั้งในมุมทรัพย์ จะร่ำรวยมาก, ถ้าด้านซ้ายมือของบ้านมีสะพานให้แก้เคล็ด

101. ถ้าสุสานอยู่ทางทิศตะวีนออกของบ้านให้แก้เคล็ด, หลังบ้านอย่าให้มีรอยแตกร้าว จะเป็นอัปมงคล

104. หลังคา เพดานบ้าน อย่าให้รั่ว ถ้ารั่วให้รีบซ่อมเสีย ถ้าไม่แก้ไขเงินทองจะเก็บไม่อยู่ยากจน

105. ขื่อบ้านถ้าร้าว หักควรรีบแก้ไข เพราะไม่เช่นนั้นในบ้าน จะเกิดขาดผู้ช่วยสนับสนุนเงิน ทองร่อยหรอลง เจ็บไข้ได้ป่วย

106. ในบ้านมีหญิงมีครรภ์ ไม่ควรต่อเติมบ้าน หรือย้ายเตียง ถ้าฝืนทำแล้วหญิงในบ้านอาจแท้งบุตรได้ หรือบุตรคลอดออกมาไม่สมประกอบ

107. พื้นที่นอกบ้านควรจะต่ำกว่าพื้นในบ้าน จึงเป็นมงคล, ห้ามทำราวตากผ้าผ่านเตาไฟ จะเป็นอัปมงคล

108. โรงรถควรจะมี ความกว้างเสมอกับบ้านอย่าให้ยื่นเกินออกมา

109. ผู้ที่เกิด ราศีทิศตะวันออก ธาตุไม้ ไม่ควรหันหน้าบ้านไปสู่ราศีตะวันตก ธาตุทอง เพราะเป็นศัตรูธาตุ

110. ผู้ที่เกิดราศีทิศเหนือ ธาตุน้ำ ห้ามหันเข้าสู่ทิศใต้ ธาตุไฟ เพราะเป็นสัตรูธาตุ

111. ผู้ ที่เกิดราสีทิศตะวันตก ห้ามมีหน้าบ้านหันสู่ทิศตะวันออก เพราะเป็นคู่ศัตรูกัน

112. ผู้ที่เกิดราศีทิศใต้ ธาตุไฟ ห้ามมีหน้าบ้านหันสู่ทิศเหนือ เพราะเป็นทิศคู่ศัตรูกัน

113. จำนวนห้องที่กั้นในบ้าน ควรกั้นเป็นเลขที่เป็นมงคล คือ 1, 2, 5, 6, 7 ห้องดีเป็นมงคล

114. ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไม่ควรสร้างห้องนั่งเล่นจะไม่เป็นมงคล, ห้องนั่งเล่น หรือรับแขกตั้งอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นมงคล

115. การสร้างบันไดตรงดิ่งลงมาที่หน้าประตูอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นมงคล

116. ตรงกลางบ้านห้ามทำเป็นห้องน้ำ หรือห้องส้วม ทำเป็นห้องนอนดีที่สุด

117. หน้าต่างมีได้ทุกทิศดีที่สุด แต่หน้าต่างและประตู ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ตรงกัน

118. วงกบ เสาบ้าน ไม่ควรคดงอ จะทำให้เกิดเรื่องอัปมงคล, หน้าต่างหรือประตูควรจะสร้างกันสาดถึง จุเจริญรุ่งเรือง

119. กำแพงบ้านอย่าสูงเกินไป (เกิน 2 เมตร) หรือต่ำเกินไป (1.40 เมตร)

120. ตำแหน่งกำแพงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออย่าให้ชำรุดจะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล

121. สร้างบ้านไม่ควรสร้างกำแพงหรือภูเขาก่อนจะทำให้ยากจน หรือถูกคุมขัง

122. กำแพงบ้านไม่ควรเจาะเป็นหน้าต่าง จะไม่เป็นมงคล, กำแพงบ้านสร้างเป็นรูปโค้งดีกว่าสร้างกำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยม

123. ไม่ควรสร้างกำแพงบ้านให้ชิดบ้านเกินไป, ตัวที่ดิน หรือตัวบ้าน ข้างหน้าแคบข้างหลังกว้างไม่เป็นมงคล

124. ที่ดินที่เคยมีต้นไม้ใหญ่อยู่หนาแน่น ควรจุขุดรากถอนโคนให้หมดเสียก่อนค่อยปลูกบ้าน

125.ทิศตะวัน ออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสะพานจะดีแต่แรก จะแย่ในภายหลัง

126. ร้านค้าหรือบ้านไม่ควรนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คนภายนอกเห็น เพราะจะมีคนแกล้งเอาของสกปรกมาทำลายสิ่งศักดิ์สิทธ์

127. ร้านค้าใดถ้าหากมีสะพานพุ่งตำเข้ามาหา จะเป็นทิศใดก็ตาม ควรประกอบอาชีพประเภท ขายอาวุธ ของมีคม ขายเนื้อ ซึ่งต้องใช้ของมีคมประจำ ถึงจะเจริญรุ่งเรือง

128. ร้านค้าใดก็ตามควรจะตั้งหน้าบ้านให้ถูกรหัสราศีกับเจ้าของบ้านและตั้งเตาให้ ถูกรหัสราศีของเจ้าของบ้านด้วย

หมายเหตุ การแก้ไขฮวงจุ้ยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากตกแต่งถูกทิศร้ายประจำปี เดือน วัน หรือ เวลาที่ไม่ดี จะนำเภทภัยเรื่องร้ายเข้ามาภายใน 1 วัน ถึง 3 เดือน




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 9:54:14 น.
Counter : 342 Pageviews.  

รักษาสิวจากภายในด้วย "วิตามินและแร่ธาตุ"

      "สิว" จะเริ่มพบได้ตั้งแต่เด็ก แต่ส่วนใหญ่มักพบมากในช่วงวัยรุ่นที่กำลังเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ซึ่งเกี่ยวเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายในร่างกาย ได้แก่ เทสโทสเตอร์โรน จะไปมีผลทำให้ต่อมไขมันขยายใหญ่ขึ้น และการหลั่งน้ำมันมากขึ้น ขณะที่แอนโดรเจน จะไปกระตุ้นการสร้างผิวชั้นนอก จึงทำให้เกิดการอุดตัน

      ขณะเดียวกันก็จะทำให้เชื้อแบคทีเรียในรูขุมขนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และแบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายสารไขมัน ให้เปลี่ยนเป็นกรดไขมันทำให้มีผลต่อผิวหน้าโดยทำให้เกิดอาการระคายเคือง รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบตามมาในรูปของตุ่มหนอง

กลุ่มแร่ธาตุที่ ช่วยลดการอักเสบของสิว

      1. แร่ธาตุสังกะสีหรือซิงค์ ช่วยปรับสมดุลความมันบนใบหน้าจากภายในร่างกาย และยังช่วยลดการอักเสบของสิว โดยมีการศึกษาพบว่า ธาตุสังกะสีสามารถออกฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ถึง 70 % จึงไกล้เคียงกับยาปฏิชีวนะ

      การรับประทานร่วมกับอาหารที่มีกากใยสูง เช่นถั่วเหลือง จะทำให้การดูดซึมของแร่ธาตุสังกะสีลดลง

      2. โครเมี่ยม มีคุณสมบัติปรับสภาพผิว และสมานผิวจากรอยแผลเป็น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของแร่ธาตุสังกะสี

กลุ่มวิตามิน ปกป้องผิวจากรอยแผลเป็น

      วิตามิน E ช่วยชะลอความเสื่อมพร้อมเสริมสร้างเซลล์ผิว ทำให้แผลเป็นหายเร็ว และเสริมการทำงานของสาหร่าย ดี ซาลิน่า และวิตามินซี

      วิตามิน C ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนทำให้แผลเป็นตื้นขึ้น และช่วยยับยั้งการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสี จึงทำให้ลบเลือนรอยดำคล้ำ เป็นผลให้ผิวหน้าเนียนใส ไร้รอยแผลเป็น

      เบต้าคาโรทีน สกัดจากสาหร่าย ดี ซาลิน่าแหล่งของวิตามินเอ ธรรมชาติ จะช่วยปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดสิว




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 12:00:03 น.
Counter : 281 Pageviews.  

น้ำมันปลา คืออะไร?

น้ำมันปลา คือ น้ำมันที่สกัดจากส่วนของเนื้อปลา หนัง หัว และหาง ของปลาทะเลน้ำลึกโดยเฉพาะปลาในเขตหนาว ในน้ำมันปลามีกรดไขมันหลายชนิด แต่ที่สำคัญและมีการนำมาใช้ ทางการแพทย์ คือ กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6 ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fatty acid = PUFA)

กรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 มีกรดที่สำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ EPA (Eicosapentaenoic = กรด ไอ-โคซาเพนตาอีโนอิก) และ DHA (Docosahexaenoic acid = กรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิก) เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ไม่ได้มาจากแหล่งอาหารทะเล เพียงอย่างเดียว ในพืชบางชนิดที่มีกรดแอลฟาไลโนเลนิค (alpha linolenic acid) เมื่อรับประทานเข้าไป ร่างกายจะสามารถเปลี่ยนกรดชนิดนี้เป็นกรด EPA และ DHA ได้ แต่การสร้างนี้เกิดขึ้นได้ช้าและจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่ขาดเอนไซม์ในขบวน การเมตาโบลิซึมนี้ พืชที่พบ คือ น้ำมันลินสีด (linseed oil) ผลวอลนัทและน้ำมันวอลนัท แฟลกซ์สีด (flaxseed) เรปสีด (rapeseed) น้ำมันคาโนล่า น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด ผักขม (spinach) และ ผักกาดเขียว

กรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 6 เป็นกรดที่สำคัญอีกชนิด หนึ่งซึ่งมีผลในการลดไขมันในเส้นเลือด พบมากในน้ำมันพืชหลายชนิด เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น

แหล่งน้ำมันปลาในธรรมชาติที่ดีที่ สุด คือ ปลาทะเล, หอยนางรมแปซิฟิก และปลาหมึก ปลาทะเล เช่น แซลมอน ทูน่า ซาบะ ซาร์ดีน เฮอร์ริ่ง แองโชวี่ ไวท์ฟิช บลูฟิช ชอคฟิช ปลาเทร้า แมคเคอเรล เป็นต้น ปลาทะเลที่มีน้ำมันปลามาก คือ ปลาทู ปลาสำลี ปลารัง ปลากระพง เป็นต้น

พบว่าปลาที่จับได้ในธรรมชาติจะมี ปริมาณกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนปลาที่เลี้ยงในบ่อจะมีปริมาณของกรดโอเมก้า 6 มากกว่า โอเมก้า 3

ความสำคัญของ น้ำมันปลาในช่วงวัยต่างๆ

ทารกและสตรีมีครรภ์

DHA มีความจำเป็นต่อการพัฒนาของจอตาและสมองของทารก แต่ทารกไม่สามารถสังเคราะห์ DHA ได้ด้วยตนเอง ต้องอาศัยจากน้ำนมแม่ โดย FAO และ WHO ระบุว่า ทารกแรกเกิดควรได้รับ DHA ไม่ต่ำกว่าวันละ 40 มิลลิกรัมต่อ น้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม จากการศึกษายังพบว่า เด็กที่คลอดก่อนกำหนด เมื่อได้รับนมเสริม DHA จะสามารถมองเห็นได้ชัดเร็ว กว่าเด็กที่ไม่ได้รับอีกด้วย มารดาและหญิงที่ให้นมบุตรจึงควรบริโภค DHA อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ DHA ที่ ได้รับ ส่งต่อไปยังลูกโดยผ่านทางรกและน้ำนม

เด็กวัยเรียนรู้

DHA เป็น ส่วนหนึ่งของเซลล์สมองและเซลล์ประสาทซึ่งมีผลต่อสติปัญญา หากร่างกายขาด DHA จะทำให้เซลล์สมองและเซลล์ประสาทขาดประสิทธิภาพไปด้วย เด็กในวัยนี้จึงควรได้รับ DHA ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของสมอง

วัยทำงาน

คนในวัยทำงานมักประสบความเครียดอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะสมองทำงานหนักเกินไป หรือ อีกนัยหนึ่งเป็นเพราะร่างกายขาด DHA ใน ปริมาณที่เหมาะสม, DHA จะผ่านเข้าไปเสริมสร้างการ เจริญเติบโตของปลายประสาทของเซลล์สมองที่เรียกว่า เดนไดรท์ (Dendrite) ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมอง ด้วยกัน ทำให้สมองทำงานดีขึ้น หากรับประทานอาหาร ที่มี DHA จำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สัดส่วนของ DHA ในสมองสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่า ความเครียดจะลดลง และทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุจะเกิดภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ได้ง่ายกว่าคนในวัยอื่นๆโดยไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุ อะไร แต่จากการทดลองโดยการให้ DHA แก่ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในโรง พยาบาล คิชิไคกัน ประเทศญี่ปุ่น ปรากฎว่า เมื่อได้มีการทดสอบความฉลาดด้านภาษาและกิริยาท่าทาง เช่น ความสามารถในการคำนวณ ความสามารถในการตัดสินใจ และประสิทธิภาพระดับสูง

กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ DHA เป็นเวลา 6 เดือนจะมีขอบข่ายอาการที่ดีขึ้นมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับ DHA อย่างเห็นได้ชัด




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 11:41:59 น.
Counter : 334 Pageviews.  

"อาหาร" ต้านอาการหิว ...

      วัยรุ่นยุคนี้มักกินจุบกินจิบ เพราะรู้สึกว่าตัวเองหิวอยู่บ่อยๆ พฤติกรรมที่ว่าเกิดจากอะไร ลองมาสังเกต ตัวเอง แล้วปรับเปลี่ยนสักนิดเพื่อสุขภาพที่ดีกว่ากันไหมคะ

      เมื่อกินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมาก ร่างกายจะผลิตอินซูลินออกมามากเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเมื่อระดับน้ำตาลลดลงอย่างรวดเร็ว ก็รู้สึกอยากกินโน่นกินนี่ขึ้นมาอีก

      วันนี้ขอแนะนำอาหารที่อุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่จะมา ช่วยลดพฤติกรรมเหล่านี้ค่ะ

      ข้าวกล้อง - ข้าวกล้องและธัญพีชที่ไม่ขัดขาว อุดมไปด้วยโครเมียมที่ช่วยปรับระดับน้ำตาลใน เลือดให้คงที่ มีแมกนีเซียมที่ช่วยปรับระดับอินซูลิน แถมด้วยวิตามินบี ที่จำเป็นต่อระบบเมแทบอลิซึม

      อาหารทะเล - ลองหันมากินปลา หอย ปลาเล็กปลาน้อยที่มีซีลีเนียม แมกนีเซียม แคลเซียม และสังกะสี แร่ธาตุเหล่านี้ช่วยรักษาสมดุลของสารสื่อประสาท ทำให้ไม่หิวบ่อย

      ถั่ว - ของกินเล่นช่วยให้อารมณ์ดีที่อุดมด้วยวิตามินบีและแมกนีเซียม ช่วยในการปรับระดับอินซูลิน และช่วยการทำงานของระบบประสาท

      แอปเปิ้ล -มีเส้นใยอาหารมาก ทั้งชนิดที่ละลายน้ำได้และชนิดที่ไม่ละลายน้ำ กินแล้วอยู่ท้อง รสชาติไม่หวานจัด และเป็นผลไม้ที่ดีต่อร่างกายทุกส่วน

      ลูกพรุน - อุดมด้วยโครเมียม กินครั้งละน้อยๆจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้ คงที่ได้

      ลูกเกด - กินเป็นของว่าง ทำให้ไม่คิดถึงขนมขบเคี้ยว ลูกเกดมีแมงกานีสที่ี่ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างช้า ๆ ทำให้ไม่หิวบ่อย

ที่มา : hibalanz.com




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 11:00:32 น.
Counter : 392 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

quosego
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add quosego's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.