|
มีความสุขทุกวันได้ไหมเนี่ย โดย วานวาน
ไม่ได้เขียนรีวิวหนังสือเสียนาน คราวนี้ต้องบอกว่าฤกษ์งามยามดี เพจ wanwan.th จัดกิจกรรมแจกตุ๊กตาให้คนที่เขียนรีวิวหนังสือเรื่องนี้ลงบล็อก 5 คน ไอ้เราก็แฟนหนังสือวานวานเหนียวแน่น ตามสะสมจนครบทุกเล่มนี่นา อีกอย่างชอบอยู่แล้วค่ะเล่นเกมที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างนี้ ว่าแล้วก็หาเรื่องอัพบล็อกไปเลยแล้วกัน
สำหรับ "มีความสุขทุกวันได้ไหมเนี่ย" เป็นการรวมเรื่องราวที่วานวานซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ดังของไต้หวันได้เขียนเล่าประสบการณ์และมุมมองส่วนตัว เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน การรับมือกับความล้มเหลวในเรื่องต่างๆ การจัดสรรเวลา การรู้จักประหยัด และเรื่องอื่นๆ ที่อ่านไปก็อมยิ้มไปได้ทั้งเล่ม เหมือนเวลาอ่านผลงานทุกๆ เล่มที่วานวานเขียน
สิ่งที่เราชอบในเล่มนี้คือ หลังจากจบเนื้อหาแต่ละบท จะมีการปิดท้ายบทด้วยประโยคที่สรุปใจความของบทนั้นๆ อาจไม่ใช่คำคมเชิงปรัชญาสูงส่ง แต่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ที่สำคัญ มันทำให้เราเข้าใจตัววานวานมากขึ้นด้วยว่าเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก และหามุมมองที่ดีให้กับเรื่องไม่คาดฝันได้อยู่เสมอ นี่เป็นตัวอย่างประโยคปิดท้ายบทที่ชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ:
"ความสุขไม่ได้มาจากการมีมากกว่าใคร แต่มาจากการอยากได้น้อยกว่าเขา"
"ความล้มเหลวทำให้บาดเจ็บแค่นิดหน่อย แต่มันโค่นคุณไม่ได้ ให้โอกาสตัวเองบุกฝ่าไปอีกนิดสิ"
"อยากให้คนอื่นมารัก ต้องรู้จักรักตัวเองให้ดีก่อน"
"อย่าถ่อมตัวว่าเดินช้า อย่างน้อยคุณก็เดินเร็วกว่าคนที่ไม่คิดจะก้าว"
"ทุกสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้จะไม่มีวันไร้ความหมาย เพราะมันจะกลายเป็นต้นทุนของชีวิตในอนาคต"
ส่วนตัวเราเอง บทหนึ่งที่อ่านแล้วโดนใจที่สุด มีชื่อบทว่า สเต็กกับของหวาน ซึ่งประเด็นหลักของบทนั้นไม่ใช่เรื่องของกิน แต่เพราะว่าพอวานวานเริ่มมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง มีครั้งหนึ่งนักข่าวมาสัมภาษณ์และถามถึงงานของวานวานว่าทำไมไม่วาดภาพสไตล์สวยหรู เนื้อหาลึกซึ้งเหมือนนักเขียนดังอีกคนของไต้หวัน (ซึ่งเรารู้ว่าหมายถึงใคร ผลงานของเขาคนนั้นก็มีแปลเป็นภาษาไทยหลายเล่ม) วานวานตอบสัมภาษณ์ไปว่าจะพยายามเรียนรู้ แต่มาคิดใคร่ครวญได้ทีหลังว่าเรื่องสไตล์การเขียนนี้เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว เราไม่สามารถนำสไตล์ของใครมาตั้งเป็นมาตรฐานได้ แต่มองว่ามันเป็นความแตกต่างเหมือนสเต็กกับของหวานดีกว่า เพราะก็รสอร่อยทั้งคู่ คนอ่านจะได้เลือกกินอะไรที่หลากหลายด้วย เราในฐานะที่เขียนนิยายอยู่บ้าง แล้วก็เคยโดนคอมเม้นต์เปรียบเทียบกับงานคนอื่นมาแล้ว เลยคิดว่าเข้าใจความรู้สึกของวานวานตอนโดนถามด้วยคำถามนี้ ก็แหม...ถ้าเกิดวานวานดังตั้งแต่ต้นเพราะเขียนงานที่คล้ายกัน ก็คงไม่พ้นโดนหาว่าลอกเลียนแบบจริงไหม อีกอย่างสิ่งที่ทำให้งานของวานวานเข้าถึงคนอ่านได้ทุกเพศทุกวัยก็เพราะรูปที่วาดง่ายๆ เนื้อหาที่ทำให้รู้สึกเหมือนอ่านเรื่องของตัวเองหรือของเพื่อนนี่แหละ ดังนั้นเนื้อหาบทนี้ นอกจากจะอินแล้ว เรายังรู้สึกเห็นด้วยกับวานวานมาก เพราะเป็นประสบการณ์ตรงของตัวเองนี่ล่ะค่ะ
"สไตล์การเขียนนั้นนำมาเปรียบเทียบได้ยากยิ่งนัก เหมือนสเต็กกับของหวาน กินเนื้อรสอร่อย แล้วตามด้วยของหวานสักหน่อยไม่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าหรือ"
คาดว่านักอ่านในเมืองไทยที่ไม่รู้จักวานวานคงมีน้อย เพราะอย่างน้อยก็ต้องเคยผ่านตาตัวการ์ตูนหัวโล้นไม่ใส่เสื้อ มีผมหยิกม้วนหนึ่งเส้นกันมาบ้างตามเว็บบอร์ดต่างๆ หรือตามร้านหนังสือ แต่บางคนอาจไม่เคยอ่านไดอารีคอมิคของวานวานสักเล่ม อยากบอกว่าเป็นหนังสือที่อ่านคลายเครียดได้ดี อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ นะ (ส่วนตัวเราชอบอ่านก่อนนอน) สำนวนคนแปลคือคุณเบียร์ อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี และคุณก้อย พัณณ์ชิตา ธนวีร์กิตติโชติก็ทำให้อ่านแล้วรื่นไหล น่ารักเข้ากับบุคลิกของหนังสือด้วย ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอ่านงานของวานวานจากเล่มไหนดี เริ่มจากเล่มนี้ก่อนเลยก็ได้ค่ะ
Create Date : 06 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2556 20:08:56 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2818 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Nutnicha IP: 125.25.41.181 วันที่: 7 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:39:13 น. |
|
|
|
โดย: Sab Zab' วันที่: 7 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:58:48 น. |
|
|
|
โดย: หมูย้อมสี วันที่: 8 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:55:15 น. |
|
|
|
| |
|
|