สุสานโสเภณี ซ่องผีเฮี้ยนแห่งเมืองกาญจน์

จากเรื่องเล่าสุดเศร้ากลายมาเป็นตำนานสุดสยองขวัญ ที่มีการเล่าขานมานานเพื่อค่อยย้ำเตือนถึงเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของหญิงขายบริการทางเพศ ซึ่งถูกตายอยู่ในซ่องแห่งนี้ ที่เรียกว่า สุสานโสเภณี !!

ชาวบ้านเล่าขานเรื่องราวของสุสานโสเภณีตั้งอยู่ที่ตำบลท่าล้อ ซอย 9 อำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี  ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นซ่องในการกักขังผู้หญิงขายบริการทางเพศ ซึ่งมีหลายคนถูกล่อลวงให้มาทำงานนี้อย่างไม่เต็มใจ

สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมมีแขกเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยหญิงสาวเหล่านั้นจึงแทบไม่มีวันที่จะได้พักผ่อนเลยแม้แต่วันเดียว และหากหญิงสาวใด ขัดขืนหรือไม่ยอมทำงาน จะถูกทำร้ายร่างกายบางรายโดยซ้อมจนถึงขั้นเสียชีวิตบ้างติดโรคร้ายบ้าง ส่วนใครท้องก็จะถูกบังคับให้รีดเด็กออกมาทันที!!!

เมื่อเวลาผ่านไป ซ่องโสเภณีแห่งนี้ก็ประสบปัญหาอยู่ในสภาวะซบเซา จนต้องถูกปิดตัวลงกลายเป็นซ่องร้าง ไม่มีใครทราบว่า หญิงสาวในซ่องนรกนี้เสียชีวิตไปจำนวนเท่าไหร่ ไม่มีใครทราบว่า เด็กทารกที่ถูกรีดออกมีมากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ชาวบ้าน ยืนยัน ผู้เสียชีวิตในที่นี้มีอยู่ในจำนวนไม่น้อย อย่างแน่นอน


หลังจากที่สถานที่บริการทางเพศรของจังหวัดกาญจนบุรีที่ปิดตัวไป ได้กลายเป็นที่รกร้าง ทำให้เกิดมีความน่ากลัว จนกลายเป็นที่กล่าวขาน ของชาวบ้านในละแวกนั้น บางก็ว่าเคยได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ ได้ยินเสียงเด็กสะอื้น


  โดยมีชาวบ้านบางคนใจกล้า เมื่อได้ยินเสียงนั้นจึงวิ่งเข้าไปดู พบว่าไม่มีใคร หรือไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่ในนั้นเลย พร้อมกับเสียงนั้นกลับเงียบลงไปทันที ชาวบ้านจึงพากันเชื่อกันว่าสุสานโสเภณีแห่งนี้ คงเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เพราะใช่ว่าผู้หญิงทุกคนนั้นจะเต็มใจขายบริการ ซึ่งหลายชีวิตล้วนถูกหลอกล่อลวงให้มาทำงาน ณ ที่แห่งนี้




 

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2558   
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2558 21:30:08 น.   
Counter : 2573 Pageviews.  

ผีในโรงแรม

ผมว่า โรงแรม กับ เรื่องเล่าผี ก็เป็นสิ่งที่คู่กันมาช้านาน ผมทำงานโรงแรมมานานพอสมควร ได้ฟังเรื่องผีมาก็เยอะนะครับ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ประทับใจมาก....

เรื่องมีอยู่ว่า........ พี่โจทำงานโรงแรมแห่งหนึ่งในภูเก็ต (สงวนชื่อโรงแรม) สมัยที่โรงแรมนั้นพึ่งจะเริ่มเปิด ซึ่งพี่โจทำงานเป็นพนักงานยกกระเป๋าและเนื่องจากโรงแรมยังไม่เปิด สมัยนั้นพนักงานยกกระเป๋าจะต้องเวียนกันเข้ารอบดึก เพื่อเฝ้าโรงแรมเพราะช่วงนั้นได้มีการขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาไว้ในห้องพักแล้ว งานของพวกพี่โจนอกจากทำงานเฝ้าตามจุดต่างๆแล้ว ยังต้องเดินลาดตะเวนไปยังชั้นต่างๆของโรงแรมด้วย โดยโรงแรมนั้นเป็นลักษณะห้องวน (ไม่รู้อธิบายยังไง)

คือ...ถ้าเรายืนตรงล็อบบี้แหงนหน้ามองก็จะเจอกับหลังคาโรงแรมเลย แต่ถ้าเรายืนตรงระเบียงทางเดินห้องพักแต่ละชั้นมองลงมา เราก้อจะเห็นพื้นล๊อบบี้โรงแรม....ห้องพักก็จะมองเห็นอีกฝั่งตรงข้ามเช่นกันเนื่องจากเป็นตัวยู เข้าใจใช่ป่ะ...โอเค ต่อได้ คืนนั้น...พี่....โจ.....ก็....เดิน....ไป....เรื่อย......เรื่อย.....เพื่.....อ (อะไรนะ...น่ากลัวไปเหรอ เล่าธรรมดาก็พอใช่มะ) เอาใหม่ก็ได้

พี่โจเดินลาดตะเวนกับเพื่อนอีกคน พี่โจจะต้องเดินเปิดประตูทุกห้องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครแอบเสล่ออยู่ในห้องพัก และในแต่ห้องพักก็จะมีเฟอร์นิเจอร์วางกองกันอยู่มุมห้อง พี่โจเดินลาดตะเวนจากข้างล่างขึ้นข้างบน และเพื่อนเดินจากข้างบนลงข้างล่าง กลางคืนตึกก็จะเงียบมาก

เวลาเดินก็จะได้ยินเสียงรองเท้าชัดเจน ปิดประตู เปิดประตูก็ได้ยิน เรียกได้ว่าแทบจะได้ยินเสียงทุกเสียงในตึกกันเลยทีเดียว พี่โจก็เดินเปิดประตูวนไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นที่ห้า

พอจะครบชั้นห้า พี่โจก็ได้ยินเสียงคนมาเปิดประตู ห้องที่แกตรวจแล้ว 

แกก็เดินกลับไปดู ไม่มีอะไร จากนั้นแกก็ตรวจต่อ ได้ยินเสียงย้ายเฟอร์นิเจอร์จากห้องที่แกตรวจแล้วคราวนี้ อีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่คนละฟาก แกหยุดส่องไฟฉายไปยังที่เกิดเสียงแล้วรอดูเผื่อพบคนแต่ไม่มีอะไร

แกเริ่มทำงานแกต่อ จากนั้นก็ได้ยินคนเปิดและปิดประตูอีกครั้ง แกเข้าใจว่าเป็นเพื่อนแกมาแกล้งแน่นอน จึงส่องไฟดูอีกครั้ง

ปรากฎว่า ไม่มีอะไร ประตูปิดเรียบร้อยดี แกกลับมาทำงานแกต่อเพื่อที่จะได้เสร็จชั้นห้านี้ซะที เสียงปิดประตูดังอีกครั้ง แกแน่ใจว่าต้องเป็นเพื่อนแกแน่นอน

แกจึงสบถเสียงออกไป

"เฮ้ย! เล่นเหี้ยอะไรของมึงน่ะ" 

ทั้งตึก.......เงียบ....... 

แกเปิดประตูห้องตรวจ ทำงานแกต่อไป

ทีนี้มีเสียงประตูปิดกระแทกเสียงดังก้องตึกไปหมด แกหันไปยังต้นเสียงทันที!!

ประตูทุกประตูที่แกได้ปิดมานั้นเปิดออก และปิดไล่มาทุกบาน ไล่มาจนห้องสุดท้ายที่แกเพิ่งตรวจไป!!!

freak the shit out!!!!

"แล้วพี่โจทำไงครับพี่" ผมถามด้วยความสงสัย

"กูเหรอ...หึหึหึ ใส่เกียร์หมา วิ่งป่าราบ กลับบ้านเลยว่ะ" พี่โจตอบพร้อมเสยผม

"พี่แม่ง แน่ว่ะ เป็นผมสลบคาที่แน่ๆ"

"วันต่อมา ไข้แดกเลยว่ะ พอหายไข้กูก็กลับไปโรงแรมอีกครั้ง" พี่โจเล่าอดีตให้ฟัง

"โห...พี่ยังกลับไปทำงานอีกเหรอ"

"ปล่าว กูกลับไปลาออก"

ส่วนตัวผมเองก็ไปพานพบมาเช่นกัน ครั้งนั้นผมทำงานที่โรงแรมในเชียงราย

เป็นวันแรกที่มีการเข้ารอบยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นวันแรก และวิชัยได้เข้ารอบดึกเป็นคนแรกของประวัติศาสตร์โรงแรมด้วย

*โรงแรมจะมีสี่รอบโดยประมาณครับ เช้า บ่าย ดึก และควบ เช้าจะเข้าประมาณ 6 โมงเช้าแล้วก็นับไปอีกเก้าชั่วโมง รอบบ่ายจะเข้างานประมาณ 2 โมง และรอบดึกจะเข้าประมาณ 4ทุ่ม จนเช้า ส่วนในวันที่ไม่มีพนักงานหยุดก็จะมีรอบคาบหรือ cover shift ซึ่งแล้วแต่ว่าจะเข้า 11โมงหรือ ห้าโมงเย็น*

วันนั้นยังไม่มีแขกมาพักจริงๆ แต่เป็นการให้พนักงานเริ่มปรับตัวในการเข้ารอบจริงๆ ผมจึงไม่ค่อยมีอะไรทำเท่าไหร่นัก พอสักตีสองหลังจากเข้าเวบสารพัดเวบแล้ว ผมก็เริ่มง่วง

ทำไงดีล่ะ แขกก็ไม่มี นอนดีกว่าวุ้ย.

วิชัยลากเก้าอี้อีกตัวมาพักเท้านอน......

.....

.....

.....

.....

.....

ไม่ไหวว่ะ ตูดคอยไหลอยู่เรื่อย เมื่อยคอด้วย

เอาขามาวางบนโต๊ะทำงาน เอาเสื้อกันหนาวคลุมหน้าแล้วนอน

.....

 .....

 ..

....

ไม่โอ ไม่โอ...หายใจไม่ออก เมื่อยคอ

เดินไปปิดไฟ แต่สวิตซ์ไฟดันเป็นแบบปุ่มเดียวปิดทั้งห้องอีก....

ความง่วงมันเริ่มจู่โจมและเรียกร้องความสนองตอบทางร่างกาย 

ตัดสินใจเดินไปล็อกประตู เคลียร์โต๊ะทำงาน ปิดไฟ และขึ้นไปนอนยาวบนโต๊ะทำงานซะเลย ใช้ได้ว่ะ...แค่ไม่กลิ้งตกโต๊ะเป็นใช้ได้

พอสติเริ่มเข้าสู่ภวังค์หลับ ผมได้ยินเสียงคนเปิดประตูชัดเจน (ทั้งๆที่เราเป็นคนล็อกจากข้างในแล้ว) เสียงร้องเท้ากระทบกับพื้นไม้ดังชัดเจน ค่อยๆใกล้เข้ามา

จมูกผมเริ่มได้กลิ่นของผู้มาเยือน มันเป้นกลิ่นของเหงื่อ

เหมือนคนที่พึ่งออกกำลังกายมา ผมขยับตัวไม่ได้ ลืมตาไม่ได้ ได้แต่นอนฟังฝีเท้าของผู้มาเยือน เสียงฝีเท้าค่อยๆเดินวนมาทางหัวผม

เป็นระบบเสียงสเตอริโอ ดอลบี้โปรโลจิก ไฮไฟ รอบทิศทาง เสียงมาหยุดตรงข้างตัวผม

ผมรู้สึกได้เลยครับว่ามีแรงดึงดูดของสิ่งอดีตมีชีวิตอยู่ข้างๆ ในความรู้สึกผม คุณอดีตมนุษย์ชัดเจนมาก

ตอนนั้นเริ่มออกแรงขยับตัวให้ตื่นจากภวังค์ให้ได้

จนเกร็งกล้ามเนื้อเต็มที ผมจึงหลุดจากอาการจูออนนี้ได้

พอลืมตาขึ้นมา ตั้งสติได้เท่านั้นแหละ คุณเอ้ย!!

รีบไปหาไม้กวาดมากวาดออฟฟิศ ถูพื้น พร้อมกับคิดในใจว่า ผิดไปแล้วค้าบ!!!!!

ลูกช้างจะไม่หลับอีกแล้วค้าบ!!!!

รู้หรือไม่: ในกรณีที่มีคนตายในห้องพักในโรงแรม พนักงานไม่สามารถไปแตะต้องอะไรทั้งสิ้น จนกว่าตำรวจและเพทย์จะมาวินิจฉัย

รู้หรือไม่: ในกรณีที่มีคนตายในห้องพักในโรงแรม ห้องๆนั้นจะถูกปิดไม่ให้คนพักเป็นเวลาอย่างน้อยก็หนึ่งถึงสามเดือน (ตามตำราว่ากัน) และห้องนั้นจะต้องเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ และทาสีใหม่เลย (ถ้าไปพักที่ไหนแล้วรู้สึกว่าห้องเราใหม่กว่าห้องเพื่อนเราข้างๆ หึหึหึ สันนิษฐานได้เลยครับ.....

รู้หรือไม่: อาจารย์การโรงแรมท่านหนึ่งสอนมาว่า จุดที่ฆาตกรมักจะเอาศพไปหมกซ่อนไว้ ไม่ใช่ในตู้เสื้อผ้าหรือห้องน้ำอย่างในหนังแต่จะเป็น...... ในบ็อกสปริง....บ็อกสปริงคืออะไร?

บ็อกสปริงก็คือ ฐานรองเตียงที่มีล้อเลื่อนๆนั่นแหละครับ เพราะฉนั้นต่อไป นอนโรงแรมไหนก็เสียเวลานิดหน่อย ยกตัวฟูกเตียงออกมาดูนิดนึง ให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ถูกหวย มีอะไรหมกอยู่ข้างล่าง




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 23 กรกฎาคม 2557 15:07:54 น.   
Counter : 1071 Pageviews.  

นาซาพบ 'แสงปริศนา' บนดาวอังคาร

ภาพถ่ายล่าสุดจากรถหุ่นยนต์คิวริออซิตี เผยให้เห็นจุดสว่างในบริเวณที่เรียกว่า คิมเบอร์ลี เรียกความสนใจจากนักค้นคว้าเกี่ยวกับยูเอฟโอ


ภูมิประเทศที่ชื่อ คิมเบอร์ลี บนพื้นผิวดาวอังคาร ตั้งชื่อตามพื้นที่แห่งหนึ่งทางภาคตะวันตกของออสเตรเลีย ซึ่งมีชั้นหิน 4 ชิ้นคาบเกี่ยวทับซ้อนกัน นับเป็นจุดน่าสนใจในทางวิทยาศาสตร์


เมลิสซา ไรซ์ แห่งสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย จะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ขุดเจาะและวิเคราะห์ตัวอย่างหินในบริเวณนั้น


ภาพถ่ายจุดสว่างนี้ดึงดูดความสนใจของนักค้นคว้าเรื่องยูเอฟโอ สกอต วอริง "แหล่งกำเนิดแสงซึ่งปรากฏในภาพถ่ายของนาซา บ่งบอกว่า มีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาอาศัยอยู่ใต้ดิน แสงนี้ฉายขึ้นมาจากพื้นดิน"


แต่สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่ดูคล้ายจุดสว่าง อาจเกิดจากความผิดเพี้ยนในการบันทึกภาพก็เป็นได้




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2557   
Last Update : 23 มิถุนายน 2557 16:32:40 น.   
Counter : 953 Pageviews.  

เตียงสองชั้นผีสิง

เรื่องราวของเตียงสองชั้นผีสิงนี่โด่งดังมากเสียจนกลายเป็นเรื่องสุดฮิตในโทรทัศน์ที่ฉายเกี่ยวกับปริศนาที่ยังไม่มีใครไขได้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1987 ใน Horicon รัฐวิสคอนซิน Alan Tallman และ Debby Tallman ซื้อเตียงสองชั้นมาจากร้านของมือสอง และเอาเก็บไว้ในห้องใต้ดิน หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคม ทั้งคู่ก็ย้ายเตียงขึ้นมาไว้บนบ้าน และ 9 เดือนหลังจากนั้นตั้งแต่คืนแรกที่เตียงถูกย้ายขึ้นไป เรื่องสยองก็เกิดขึ้น

เริ่มจากเด็กๆ ในบ้านเกิดป่วยขึ้นมา วิทยุในบ้านก็จะเปลี่ยนคลื่นไปมาเองทั้งๆ ที่ไม่มีใครไปแตะต้อง เด็กสองคนแรกที่นอนบนเตียงบอกว่าเห็นแม่มด ครอบครัว Tallmans เชิญพระมาไล่ผี แล้วทุกอย่างก็ปกติสุขอยู่สักพัก หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากวันคริสมาตในปี ค.ศ.1988 Alan Tallman หลังมาบ้านและได้ยินเสียงเรียกเขาว่า “มานี่” เขาตามเสียงนั่นไปยังโรงรถและพบว่าไฟกำลังไหม้ เขารีบวิ่งไปหยิบถังดับเพลิง แต่เมื่อกลับมายังโรงรถอีกครั้งก็พบว่าไฟได้หายไปแล้ว หลังจากเรื่องราวสยองขวัญที่หลายครั้งต่อมา ครอบครัว Tallmans ก็คิดได้ว่า “พอกันที” แล้วจัดการเผาเตียงนั่นเสีย แล้วไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากนั้นก็ไม่เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นอีกเลย




 

Create Date : 22 เมษายน 2557   
Last Update : 22 เมษายน 2557 16:15:07 น.   
Counter : 926 Pageviews.  

7 เรื่องลี้ลับในโรงเรียนญี่ปุ่น

1.สนามรบคือสนามโรงเรียน!ยามกลางวันมันก็เป็นสนามหญ้าหน้าโรงเรียนกว้างๆสำหรับเข้าแถวเคารพธงชาติแต่ตกดึกประมาณเที่ยงคืนมักจะมีคนพบเหล่ากองทัพซามูไรกำลังพุ่งรบกันอยู่อย่างน่ากลัว บ้างหัวขาดแขนขาดเนื้อตัวเต็มไปด้วนเลือดแต่ก็ไม่รู้วันแพ้ชนะกันสักทีว่ากันว่าที่นี่สมัยก่อนเป็นสนามรบเก่าซึ่งยังไม่มีการสวดส่งวิญญาณ... 

2.วิญญาณฮานาโกะในห้องน้ำ เห็นเขาเล่าว่าเดิมเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่รงเรียนประถม แล้วเกิดไฟไหม้ เธอเลยไปหลบในห้องน้ำด้วยความเป็นเด็ก แล้วพอไฟมาใกล้เข้า เธอเลยคิดจะออกจากตรงนั้น เพื่อหนี แต่ประตูห้องน้ำเกิดเปิดไม่ออก เลยถูกไฟครอกตายในนั้น จากนั้นมีคนพบเธอไปที่ห้องน้ำในทุกๆโรงเรียน ในญี่ปุ่นบ่อยๆ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะชอบลองของกับตำนานนี้ซะด้วยซิ โดนรูปแบบจะมีต่างไปตามเรื่องเล่า คือ

1 ถ้าไปเข้าห้องน้ำที่อาคารเรียนเก่าหลังโรงเรียนตอน 5 โมงเย็นเป็นต้นไปมักจะได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้ทรมานว่า เปิดไม่ออก เปิดไม่ออก...ดังมาจากห้องน้ำสุดท้านทางขวามือและถ้าผู้ใดบังเอิญสงสัยไปเปิดประตูให้ก็จะพบกับฮานาโกะจังสมใจหมาย!!! 
2 ถ้าไปห้องน้ำห้องที่3 ไม่ก็ห้องในสุด เคาะประตู 3 ครั้ง แล้วพูดว่า "ฮานาโกะซังอยู่ไหม " หรือไม่ก็ "ฮานาโกะซังมาเล่นกันเถอะ" สามครั้ง แล้วเปิดประตู หากพบเด็กผู้หญิง กระโปรงแดงในนั้นละก็ นั้นแหละ 

3.รอยคราบที่ดูคล้ายหน้าคน(อาถรรพ์ยามิโกะซัง)เรื่องนี้คล้ายๆกับฮานาโกะที่เล่ามาแต่น่ากลัวกว่ามากว่ากันว่าถ้าใครไปเข้าห้องน้ำหญิงที่อาคารเรียนเก่าชั้นบนสุดจะเห็นรอยคราบที่ดูคล้ายใบหน้าคนอญุ่ในโถส้วมห้องน้ำที่ 2แม้ภารโรงจะลบทำความสะอาดไปกี่ครั้งแต่มันก็กลับเปลื้อนขึ้นมาใหม่อย่างหาสาเหตุไม่ได้ ว่ากันว่าถ้าไปร้องเรียกตามลำพังว่า ยามิโกะซังตื่นเถิดยามิโกะซังตื่นเถิด... ทันใดจะมีเสียงเคาะประตูห้องน้ำทุกห้องดังพร้อมกันปัง ปัง ปัง ปัง !!!! และจะมีมือโผล่ออกมาจากโถส้วมลากเอาตัวลงไปในนั้น 

4.บันไดสยอง 13 ขั้น ถ้ามีใครย่างกรายเข้าไปที่อาคารร้างเก่าและก่อนที่จะถึงดาดฟ้าชั้นบนสุด มักจะมีเรื่องเล่าอยู่เสมอว่า บันไดนั้นมี12 ขั้น แต่ตกดึกทุกๆคืนมันจะกลับกลับเป็น 13 ขั้นอย่างน่าพิศวงและถ้ามีใครไปเหยียบขั้นที่ 13 ที่ว่าก็จะถูกผีเอาตัวไป....(ว่ากันว่าเลข13 เป็นเลขอัปมงคลที่มักจะถูกเกลียด) 

5.รูปปั้นหินมิโนมิยะคินจิโร่ที่หน้าโรงเรียน มีรูปปั้นหินรูปคนสมัยก่อนซึ่งแบกฟืนไว้ข้างหลังและกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ รูปปั้นที่ว่าชื่อมิโนมิยะคินจิโร่ซึ่งเป็นตำนานโด่งดังสมัยก่อน แต่พอตกดึเราปปั้นนี้จะขยับเองได้และออกมาวิ่งไปตามสนามโรงเรียนยามค่ำคืนทุกๆวัน 

6.ต้นคาเมเลียสีเลือด มีต้นคาเมเลียอายุนับร้อยปีตั้งตระหง่านอยู่ที่สวนท้ายโรงเรียนแต่พอถึงวันที่ 15 มิถุนายนของทุกปีใบสีเขียวสดของต้นนี้จะกลับกลายเป็นสีแดงคล้ายเลือดสดๆทั่วลำต้นมีตำนานเล่าว่าเมื่อสมัยสงครามโลกมีองค์หญิงคนหนึ่งถูกจับเป็นเชลยศึกเธอถูกทรมานอยู่ต่างๆนาๆให้บอกความลับของตระกูลตัวเอง แต่เธอกลับไม่ปริปากพูดและในที่สุดวันที่ 15 มิถุนายนเธอก็ถูกสังหารแล้วนำศพมาฝังไว้ใต้ต้นไม้นี้(ใครเกิดววันที่ 15 ก็ ... ไป )


7.วิญญาณในลู่ว่ายที่ 4 ที่สระว่ายน้ำเก่าของโรงเรียนมีเรื่องเล่าว่าเคยมีเด็กตัวแทนนักว่ายน้ำของโรงเรียนคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังแต่โชคร้ายที่เขาเกิดประสปอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนที่จะมาถึงในการแข่งขันรอบสุดท้าน ตั้งแต่นั้นมาตกดึกที่สระว่ายน้ำลู่ที่4จะมีวิญญาณของเขาปรากฏให้เห็นที่ตรงฝั่งของลู่ว่ายและถ้าใครบังเอิญลงไปว่ายทั้งๆที่ไม่รู้ก็จะถูกผีดึงขาจมน้ำไป...




 

Create Date : 20 มีนาคม 2557   
Last Update : 20 มีนาคม 2557 17:58:26 น.   
Counter : 963 Pageviews.  

1  2  

MatsuoKung
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add MatsuoKung's blog to your web]