แบบบ้านชั้นเดียว หลังเล็ก หลังคาหน้าจั่วสามเหลี่ยม

ชมความสวยงามของ แบบบ้านชั้นเดียว หลังเล็ก หลังคาหน้าจั่วสามเหลี่ยม มีกลิ่นอายของบ้านสไตโมเดิร์น ที่ผสมผสานกับความคลาสสิคในการดีไซน์ เป็นบ้านที่ดูเรียบง่าย แต่สวยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก หน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับจัดเก้าอี้ทำเป็นห้องนั่งเล่นกึ่ง Outdoor 2 คู่ 4 ตัว วางได้พอดีกับความกว้างของบ้าน เป็นพื้นที่รองรับแขกได้อย่างดีเยี่ยม ประตูและหน้าต่างติดกระจกใสรอบบ้าน ช่วยให้แสงเข้าถึงภายในบ้านดูสว่างและโปร่งมากขึ้นในตอนกลางวัน

การตกแต่งภายใน บ้านหลังเล็ก หลังนี้ เลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลัก ช่วยทำให้บ้านที่มีพื้นที่จำกัดดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบ้านมีพื้นที่จำกัด การจัดห้องจึงไม่ได้แบ่งแยกเป็นส่วนๆ ไป แต่ได้จัดโซนพื้นที่ไว้ได้อย่างลงตัว มีเตียงนอน โซฟานั่งเล่น รวมไปถึงโต๊ะอาหารและพื้นที่ห้องครัวที่อยู่ใกล้กัน แต่ดูสวยงาม มีระเบียบ ดูน่าอยู่ไม่แพ้บ้านหลังใหญ่ๆ เลยทีเดียว

แบบบ้านชั้นเดียว หลังเล็ก หลังคาหน้าจั่วสามเหลี่ยม

แบบบ้านชั้นเดียว หลังเล็ก หลังคาหน้าจั่วสามเหลี่ยม




 

Create Date : 24 กันยายน 2557   
Last Update : 24 กันยายน 2557 23:02:22 น.   
Counter : 2025 Pageviews.  

5 ไอเดียแต่งห้องนอน แบบประหยัดพื้นที่

5 ไอเดียแต่งห้องนอน แบบประหยัดพื้นที่

ไอเดียดีๆ มีได้ทุกวัน … คำนี้มาจากโฆษณาสินค้าอะไรสักอย่าง เลยเป็นสิ่งที่เรานำมาเกริ่นนำในวันนี้ เพราะมีไอเดียดีๆ สำหรับคนชอบตกแต่งมาฝาก โดยเฉพาะคนที่มีพื้นที่น้อยๆ ใช้สอยประหยัด จะต้องหลงรักคอนเท้นท์นี้ แน่นอนนนนนน …. เฟอร์นิเจอร์บางอย่างเราก็ไม่รู้ว่าหาซื้อได้ที่ไหน แต่ถ้าพื้นที่เล็กจิ๋ว แต่ตังค์ในกระเป๋าไม่จิ๋วแล้ว สั่งบิ๊วท์อินได้เลยค่ะ ^^

5 ไอเดียแต่งห้องนอน แบบประหยัดพื้นที่

1. ห้องนอน กับ ห้องสมุด
Image Source: theownerbuildernetwork

5 ไอเดียแต่งห้องนอน แบบประหยัดพื้นที่

พื้นที่มุมเล็กๆ ของบ้านก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นมุมสารพัดประโยชน์ได้
เพียงแค่คุณเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกกับมุมนั้นๆ อย่างเช่นภาพนี้เป็นต้น เพียงแค่ยกพื้นขึ้นทำเป็นตู้ลิ้นชักเก็บของ
แล้วซ่อนเตียงไว้ด้านล่าง ถ้าเวลาง่วงนอนก็สามารถดึงเตียงออกมานอนได้เลย

2. ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องเก็บของ .. ห้องสารพัดประโยชน์
Image Source: tumidei

5 ไอเดียแต่งห้องนอน แบบประหยัดพื้นที่

เตียงนอนสองชั้นสารพัดประโยชน์ เตียงนอนอยู่ด้านบน
ด้านล่างจะทำไว้เป็นห้องเก็บของ หรือจะทำเป็นห้องนั่งเล่นก็เก๋ไก๋

3. ห้องนอน กับพื้นที่ข้างหน้าต่าง
Image Source: home-designing

dd03

เก็บเตียงนอนไว้ในลิ้นชัก อยากนอนก็ดึงลิ้นชักออกมาเก๋ดีอ่า ห้องดูสะอาดเรียบร้อยอีกด้วย เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด

4. ห้องนอนพร้อมเฟอร์นิเจอร์สุดคูล!
Image Source: dornob

dd04

จิ๊กซอชุดเฟอร์นิเจอร์หรรษา ประกอบได้ตามความชอบ เลิกใช้ก็ซ่อนแอบไว้เป็นพร็อพแต่งบ้านเท่ๆ

5. Overhead Closet is a Great Idea as well.
Image Source: kadir77 , lolalina

dd05

เตียงนอนสีขาวแสนน่ารัก นอกจากจะเป็นเตียงนอนแล้วยังเป็นมุมอ่านหนังสีได้อีกด้วย

เห็นไหมคะว่า ห้องเล็กๆ แต่ก็มีประโยชน์ได้ครบครันได้ แค่รู้จักปรับเปลี่ยนรู้จักใช้พื้นที่ในมุมสูงให้เกิดประโยชน์ หากว่าเราไม่บิ๊วท์อิน แต่จะไปหาซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่งห้องเอง ก็อย่าลืมวัดขนาดห้องไปดีๆ นะคะ เพราะห้องพื้นที่จำกัดนั้น หากเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมาใหญ่กว่ากันแม้เพียงแต่นิดเดียว เจ้าของห้องอาจมีเครียดกันได้ง่ายๆ … แต่ไม่ว่ายังไงขอให้สนุกกับการแต่งห้องนะคะ

Content from //www.amazinginteriordesign.com




 

Create Date : 12 มิถุนายน 2557   
Last Update : 12 มิถุนายน 2557 2:48:53 น.   
Counter : 1342 Pageviews.  

เคล็ดลับการสร้างมุมพักผ่อนนอกบ้านแบบมีสไตล์


1. หาชิงช้ามาติดตั้ง

เพื่อให้บรรยากาศนอกตัวบ้านดูมีกลิ่นไอแบบชนบทหน่อย ๆ ลองหาชิงช้ามาแขวนไว้บริเวณระเบียงบ้าน เอาไว้นั่งเล่น อ่านหนังสือ พร้อมจิบน้ำชายามบ่ายกับครอบครัวได้ โดยหาเชือก (หรือโซ่ก็ได้ แต่เชือกจะดูมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า) ที่มีความแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักได้ดี มาผูกกับเก้าอี้ไม้ตัวยาวแล้วแขวนไว้กับคานไม้ด้านบน จากนั้นหาหมอนอิงเล็ก ๆ สักใบสองใบมาไว้หนุนนอนก็เริ่ดแล้ว


2. หาโคมไฟมาแขวน

เพิ่มลูกเล่นหน้าบ้านของคุณให้ดูโดดเด่นขึ้นในตอนกลางคืน โดยการนำโคมไฟหรือตะเกียงดีไซน์เก๋ ๆ  มาแขวนไว้ที่เพดานหรือวางบนโต๊ะ เพื่อให้แสงสว่างในยามค่ำคืน และช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติกขึ้นมาได้

3. นำพรมมาตกแต่งพื้น

หาพรมขนสัตว์แบบเรียบ ๆ สีเข้ม มาปูรองพื้นบริเวณระเบียงบ้านก่อนวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ เพราะช่วยให้พื้นที่ตรงระเบียงนั้นดูมีมิติมากขึ้น ให้คุณสบายเท้าขณะที่อิงแอบอยู่กับธรรมชาติ อย่างไม่ต้องกลัวสกปรก

4. ตกแต่งชานนอกบ้านด้วยแผ่นหิน

ใครที่ชอบอุปกรณ์พวกโต๊ะม้าหินอ่อน สามารถเปลี่ยนมุมพักผ่อนนอกบ้านด้วยแผ่นหินได้ เพราะนอกจากจะดูแมทช์กับชุดโต๊ะม้าหินที่คงทนแล้ว คุณยังสามารถนำพวกกระถางต้นไม้ หรือของแต่งบ้านที่มีน้ำหนักมาก ๆ มาวางบนแผ่นหินได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นจะเป็นรอยแต่อย่างใด

5. หากระถางต้นไม้เก๋ ๆ มาวางประดับ

นอกจากเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งระเบียงบ้านให้ดูสวยงามแล้ว ลองหากระถางต้นไม้เก๋ ๆ มาวางประดับเพิ่มเติม เพื่อเสริมบรรยากาศให้ดูมีความร่มรื่น และสบายตามากขึ้น อาจใช้กระถางที่ทำจากกระเบื้อง พลาสติก หรืออะไรก็ได้ที่ดูเข้ากันกับฉากหลังโดยรวมของระเบียงบ้าน

6. นำกระจกมาตกแต่ง

ให้หากระจกแบบแขวนติดผนัง ดีไซน์เก๋ ๆ มาตกแต่งสักบาน เวลาเปิดโคมไฟหน้าบ้านจะได้มีเงาสะท้อนสวย ๆ ฉายออกมาให้เห็น นอกจากนี้ยังเอาไว้ส่องเช็คสภาพหน้าตาของตัวเองได้อีกด้วยนะ

7. ปลูกไม้เลื้อยประดับระเบียง

หาพันธุ์ไม้เลื้อยมาปลูกตกแต่งบริเวณคานด้านบน หรือรั้วระแนงไม้ริมระเบียง เพื่อเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้าน ทั้งยังช่วยกันแดด กันฝนได้เล็กน้อยอีกต่างหาก ระเบียงของคุณก็จะสดชื่นและไม่ดูโล่งจนเกินไป

8. เปลี่ยนสีกำแพงให้ดูโดดเด่น

หากเบื่อกับกำแพงขาวสีเดิม ๆ ที่ตอนนี้มีสภาพด่างพร้อย ไม่ขาวสะอาดเหมือนเคย ถ้างั้นลองหาสีมาทาใหม่ ช่วยให้กำแพงดูสดใสขึ้น เช่น สีแดง - ชมพู เหมือนบีทรูท เป็นต้น เพราะจะทำให้กำแพงบ้านดูมีมิติมากกว่าเดิม

9. ใช้กระเบื้องมาตกแต่ง

ไม่จำเป็นที่บริเวณลานหน้าบ้านจะต้องเป็นสนามหญ้าเสมอไป โดยสามารถเปลี่ยนสไตล์รูปแบบการตกแต่งได้ด้วยการนำแผ่นกระเบื้องเล็ก ๆ รูปทรงต่าง ๆ มาปูพื้น เพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ให้ดูเป็นระเบียบ และยังทำให้ลานหน้าบ้านดูสวยงามยิ่งขึ้น

10. หาต้นไม้มาลงรอบ ๆ บ้าน

เพิ่มความเขียวขจี และความร่มรื่นภายในบริเวณบ้านให้ดูน่าอยู่ขึ้น โดยหาต้นไม้สายพันธุ์หลากชนิดมาลงรอบ ๆ บ้าน ทั้งปลูกลงพื้นดิน และใส่กระถาง นอกจากให้ร่มเงาแล้ว ยังทำให้รอบ ๆ บ้านเย็นขึ้นอีกด้วย




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2557 0:07:51 น.   
Counter : 870 Pageviews.  

10 ข้อควรเลี่ยงในการสร้างบ้าน

1. กะขนาดพื้นที่ไม่เหมาะกับแอร์

          อาจจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน จึงทำให้คนที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่ คิดเรื่องการติดเครื่องปรับอากาศกันเป็นอันดับต้น ๆ แต่สิ่งที่มักทำพลาดกันบ่อย ๆ ก็คือ การกะขนาดห้องกับเครื่องปรับอากาศได้ไม่พอดีกัน โดยส่วนมากจะเป็นปัญหาเรื่องโครงสร้างของห้องหรือขนาดพื้นที่ที่กว้างมากเกินไป ทำให้เวลาติดเครื่องปรับอากาศก็จะให้ความเย็นได้ไม่ทั่วถึง จนต้องปรับอุณหภูมิให้ต่ำลง หรือต้องติดเครื่องปรับอากาศหลายเครื่อง เป็นเหตุเปลืองไฟไปเปล่า ๆ ดังนั้นอย่าลืมดูค่า BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้องด้วยนะคะ

2. ออกแบบพื้นที่ไม่เหมาะสม

          หลัก ๆ แล้วพื้นที่ภายในบ้านหลังหนึ่งจะประกอบไปด้วยห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องโถง ห้องเก็บของ แต่บางบ้านที่มีพื้นที่กว้างพออาจจะเพิ่มห้องแต่งตัว ห้องทำงาน ห้องพระ ห้องออกกำลังกาย ห้องอาหารเข้าไปด้วย ซึ่งประเด็นก็คือ หลายบ้านออกแบบพื้นที่ต่าง ๆ เหล่านี้ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สร้างห้องแต่งตัวใหญ่ไป จนกินพื้นที่ห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องรับแขก หรือประหยัดพื้นที่ห้องต่าง ๆ เกินไปจนห้องโถงกว้างโล่งดูไม่สมดุล ดังนั้นก่อนจะลงมือสร้างก็ควรคำนึงถึงความพอดี และการใช้งานของแต่ละห้องด้วย หรือแบ่งพื้นที่ว่างโล่งไว้บ้าง เผื่อวันข้างหน้าหากมีโครงการต่อเติมพื้นที่ในบ้านขึ้นมาจะได้ไม่วุ่นวาย

3. สร้างบ้านโดยไม่คำนึงถึงอนาคต

          อย่างที่บอกไปว่าการออกแบบบ้านค่อนข้างต้องใช้ความรอบคอบ และสายตาที่กว้างไกล มองให้ไกลไปถึงอนาคต ในขณะที่ก็คำนึงถึงประโยชน์และความสะดวกสบายของทุกคนในบ้านด้วย อย่างเช่นบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือคนชราก็ควรจะเลือกสร้างห้องหรือโครงสร้างบ้านที่ดูปลอดภัย ไม่ต้องมีพื้นต่างระดับให้เสี่ยงอุบัติเหตุ หรือมีห้องนอนชั้นล่างเพื่อความสะดวก รวมไปถึงต้องมองยาวไปถึงอนาคต ว่าอาจจะต้องต่อเติมบ้าน หรือเราจะต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า คิดเผื่อไว้ก่อนวันข้างหน้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรจะได้ไม่ลำบากจ้า

4. บ้านทึบเกินไป

          ถ้าต้องการสร้างบ้านให้ประหยัดพลังงาน อย่างแรกที่เราไม่ควรพลาดเลยก็คือการออกแบบให้บ้านมีหน้าต่าง หรือติดกระจกที่กำแพงบ้าน ให้แสงส่องเข้ามาได้ เพราะนอกจากพลังงานแสงจากธรรมชาติอย่างแสงแดดจะช่วยให้เราประหยัดไฟแล้ว ยังสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียในบ้านได้ด้วย และหากบ้านมีกระจกหรือหน้าต่างเยอะ ก็จะได้ถือโอกาสเปิดรับลมให้บ้านในช่วงกลางวัน ให้บ้านได้ระบายอากาศ และความอับชื้นได้อีกทาง แต่ต้องไม่ลืมดูทิศทางของลมและแสงแดดให้ดีด้วย

5. ห้องที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน

          สำหรับบ้านที่มีพื้นที่มากพอจะทำห้องต่าง ๆ ได้หลายห้อง ก็อาจจะเผลอออกแบบห้องด้วยความเพลิดเพลิน จนทำให้มีห้องเกินความจำเป็นต่อการใช้งาน ฉะนั้นจึงอยากแนะนำให้ใคร่ครวญให้ดี และเลือกสร้างบ้านตามความจำเป็นดีกว่า ห้องไหนที่ไม่คิดว่าจะได้ใช้งาน หรือไม่ค่อยมีความจำเป็นสักเท่าไร ก็ระงับการสร้างไว้ก่อน แล้วเปลี่ยนใจมาสร้างห้องที่สามารถเปลี่ยนใช้งานได้ตามความเหมาะสมเถอะ จะได้ไม่เกิดเหตุประเภทห้องออกกำลังกายกลายเป็นห้องตากผ้า หรือที่แขวนเสื้อผ้านะคะ และหากตัดห้องไม่สำคัญออกไปบ้าง อาจทำให้พื้นที่ในห้องอื่น ๆ ขยายกว้างขึ้นได้ด้วย


6. จัดวางระบบน้ำไม่ถูกต้อง

          ระบบน้ำหลัก ๆ ของบ้านอย่างก็อกน้ำต่าง ๆ คงไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่ต้องระวังเพราะมักจะพลาดกันเป็นส่วนใหญ่ก็คือการจัดวางตำแหน่งเครื่องซักผ้า และท่อน้ำทิ้ง ซึ่งถ้าวางระบบไม่ดีก็อาจจะเกิดปัญหาท่ออุดตัน น้ำล้น หรือน้ำท่วมบ้านในภายหลัง ดังนั้นจึงอยากให้ศึกษาตำแหน่งจัดวางเครื่องซักผ้าโดยปรึกษากับวิศวกรหรือผู้รับเหมาให้ดี ว่าควรจะวางระบบซักล้างไว้ในตำแหน่งไหนของบ้านได้บ้าง เพื่อป้องกันปัญหาจุกจิกที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง

7. เลือกตำแหน่งห้องนอนไม่เหมาะสม

          ห้องนอนควรจะต้องอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากเสียงรบกวน ไม่อยู่ใกล้โรงจอดรถ และไม่มีผนังติดกันกับห้องนั่งเล่นในกรณีที่มีสมาชิกอยู่กันหลายคน หรือถ้าบ้านเป็นแบบบ้าน 2 ชั้น ก็เลือกห้องนอนให้อยู่ชั้นบน แต่ถ้าเป็นแบบบ้านชั้นเดียวควรเลือกตำแหน่งห้องนอนให้อยู่ลึกสุด เพื่อกันไม่ให้มีเสียงดังเล็ดลอดเข้ามารบกวนในขณะที่นอนหลับได้ แต่อย่าลืมว่าต้องไม่อยู่ติดกับห้องครัวด้วยค่ะ เพราะกลิ่นรบกวนและความร้อนจากการทำอาหารจะทำให้นอนไม่สบาย หลับไม่สนิท และอาจเกิดอันตรายจากไฟไหม้ได้

8. ห้องครัวอยู่ผิดที่ผิดทาง

          ห้องครัวเป็นห้องที่ถือว่าถูกใช้งานมากที่สุดห้องหนึ่งในบ้าน อีกทั้งยังมีความวุ่นวายจากการลงมือประกอบอาหาร รวมถึงของข้าวของเครื่องใช้ของมีคมต่าง ๆ อีกมากมาย ดังนั้นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของห้องครัวควรจะเป็นพื้นที่ด้านหลังที่ติดกับโรงจอดรถ และอยู่ใกล้กับห้องรับประทานอาหาร เวลาที่ซื้อของเข้าบ้าน จะได้เดินเข้าทางหลังบ้าน วางของทุกอย่างไว้ในครัวก่อน แล้วค่อยแยกเก็บให้เป็นที่เป็นทาง สะดวกสบาย และเป็นการเลี่ยงการเดินหิ้วของเข้าออกผ่านห้องรับแขกด้วย นอกจากนี้หากห้องครัวอยู่หลังบ้านยังสามารถระบายกลิ่นจากการทำอาหารได้ง่าย โดยไม่ส่งกลิ่นรบกวนมาถึงบริเวณหน้าบ้านด้วย

9. โรงจอดรถอยู่หน้าบ้าน

          ตำแหน่งที่ใช้เป็นโรงจอดรถควรจะต้องติดกับประตูด้านหลังบ้าน ห้องครัว หรือห้องเก็บของ เพราะส่วนมากโรงจอดรถมักจะเป็นสถานที่ที่เรามักจะวางของที่เคลียร์ลงจากหลังรถออกมาวางไว้ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬา ชุดกีฬาที่ยังไม่ได้ซัก หรือข้าวของต่าง ๆ ซึ่งพอเอาลงมาแล้วจะได้หิ้วเข้าทางหลังบ้านไปยังห้องซักล้าง หรือห้องต่าง ๆ ได้สะดวก ไม่ต้องเดินเข้าทางหน้าบ้านให้วุ่นวายเลอะเทอะ ดังนั้นหากเลี่ยงได้ไม่ควรมีโรงจอดรถอยู่หน้าประตูเข้าบ้านโดยตรง แต่ควรอยู่ด้านข้างหรือหลังบ้านมากกว่า


10. ทำตามคำแนะนำจากคนอื่น


          อย่าลืมว่าบ้านนี้เป็นบ้านของคุณและครอบครัว ดังนั้นก็สร้างบ้านตามความเหมาะสมและความจำเป็นที่คุณกับครอบครัวต้องการก็พอ ส่วนสิ่งที่คนอื่นแนะนำก็แค่รับฟังไว้ อันไหนที่คุณเห็นด้วยก็ดีที่จะลองทำตาม หรืออันไหนที่คิดว่าไม่เหมาะกับความต้องการจริง ๆ ก็ปล่อยผ่านไปดีกว่า เพื่อความสะดวกสบายและความเหมาะสมกับการอยู่อาศัยของคุณเองนะคะ ไม่จำเป็นต้องสร้างบ้านตามคำพูดของคนอื่นทุกครั้งและทุกเรื่อง เพราะบางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตของคุณและครอบครัวก็ได้




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2557 4:02:17 น.   
Counter : 711 Pageviews.  

การแต่งห้องสไตล์ญี่ปุ่น

1. กล่องมหัศจรรย์

   เราจะสามารถใช้พื้นที่บนชั้นวางของได้มากอีก 3 เท่า ถ้าเราซื้อตะกร้าหรือกล่องมาใส่เพื่อแบ่งของหมวดต่างๆออกเป็นสัดส่วน เช่น ชั้นวางตู้ในห้องครัว เราอาจแบ่งเป็นตะกร้าของแห้ง ตะกร้าเครื่องปรุงแบบผง ตะกร้าใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตามรูปข้างล่าง


แม่บ้านญี่ปุ่นบางคนหัวใส เอากล่องที่ใส่เอกสารนี่แหละ มาใส่จาน โดยใช้กล่องที่มีความสูงลดหลั่นกันไปตามขนาดจาน การวางจานแนวตั้งแบบนี้ จะทำให้เห็นขนาดจานได้ง่ายขึ้น เวลาหยิบก็หยิบง่าย ไม่ต้องยกจานออกทีละชั้นๆ และที่สำคัญคือ เก็บจานได้มากขึ้นค่ะ

2. ผนังข้าใครอย่าแตะ

คนไทยมองว่า ผนังคือที่แขวนรูปเก๋ๆ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นนั้น ผนังเปรียบเสมือนพื้นที่อันมีค่าที่เราสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บของได้ค่ะ! พลิกผนังเป็นโอกาสได้ง่ายๆ ด้วยตะขอตัวเดียว เอาตะขอมาติดๆๆตามผนัง แล้วคุณก็สามารถแขวนข้าวของต่างๆได้ด้วยค่ะ

หรือสาวคนนี้ เธอพลิกเอาซองพลาสติกที่ใส่พวกกระดาษ โปสการ์ด ปากกา เอามาใส่....รองเท้าเสียนี่ มันก็หยิบง่ายดี และไม่กินที่ด้วย

หรืออย่างหนุ่มคนนี้ เอาแผ่นพลาสติกคล้ายๆกันมาติดฝาตู้ ได้ที่เก็บผ้าเช็ดหน้า เน็คไท และของกระจุ๊กกระจิ๊กมากขึ้นอีก

3. เทคนิคเฉพาะในการจัดตู้เสื้อผ้า

เนื่องจากญี่ปุ่นมีอากาศแต่ละฤดูแตกต่างกันมาก คนญี่ปุ่นเลยมีเสื้อผ้าเยอะและหลายแบบ ทั้งเสื้อแขนสั้นบางๆ จนถึงเสื้อแขนยาว สเวตเตอร์ เสื้อหนาๆ แต่พื้นที่ตู้เสื้อผ้าก็น้อย จะทำไงดีล่ะ

และนี่คือวิธีการแก้ปัญหาของพวกเขาค่ะ เก็บเสื้อผ้าใส่ลิ้นชัก แต่เวลาพับเก็บ ให้วางแนวตั้งแทน และเพื่อไม่ให้เสื้อผ้าล้ม ก็เอาที่วางซีดีมาใส่ไว้ในกล่องลิ้นชัก แล้ววางเสื้อไปตามแนวนั้นเลย (ดิฉันก็พับและวางแนวตั้ง แต่ไม่มีที่วางซีดี ถ้าเสื้อผ้าคุณแน่นลิ้นชักพอ มันก็จะดันกันและตั้งอยู่ได้ค่ะ)

ข้อดี คือ หาเสื้อผ้าใส่ง่าย ไม่ต้องคุ้ยๆจากกองเสื้อผ้าที่พับๆไว้ และใส่เสื้อผ้าได้เยอะขึ้นค่ะ

4. ผ้าอำพราง

อันนี้เป็นเทคนิคที่ดิฉันใช้บ่อยที่สุด ตรงชั้นวางของ เวลาเราวางอะไรรกๆ แล้วมีคนมาที่บ้าน มันจะน่าอายใช่ไหมคะ เราแก้ปัญหาได้ง่ายๆคือ การหาผ้ามาปิดค่ะ เวลาจะหยิบอะไรก็เลิกม่านหยิบของเอา ถ้าคุณเลือกผ้าม่านปิดสีอ่อนๆ ก็จะยิ่งทำให้ห้องคุณดูกว้างเลยล่ะค่ะ

4. เทคนิคส่วนตัว

อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคแต่ละคนเลยค่ะ ว่าจะมีเทคนิคในการวางและจัดของอย่างไรให้ได้มากที่สุด เช่น ภาพล่าง เจ้าของห้องสามารถใส่รองเท้าในตู้เล็กๆไม่ถึง 50 ซม.ได้ถึง 5 คู่! แถม 4 ใน 5 เป็นรองเท้าบู๊ต! แถมวางร่มได้อีก 3-4 คัน บอกได้คำเดียวว่า she อะเมซิ่งมาก

หรือสาวคนนี้ มีรองเท้าเยอะจัด เก็บไว้ในกล่องแล้วจำไม่ได้ว่าคู่ไหนเป็นคู่ไหน ก็เลยถ่ายรูปแล้วปริ๊นท์รูปมาแปะหน้ากล่องรองเท้าซะเลย หาง่ายดี




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2557 1:52:59 น.   
Counter : 878 Pageviews.  

1  2  

MatsuoKung
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add MatsuoKung's blog to your web]