เพลงชาติไทย รักกันไว้เถิด

เพลงชาติไทย คือเพลงของประเทศไทย เราทุกคนร้องเพลงชาติไทยได้แต่ยังเด็กๆ เพลงชาติไทยจะถูกร้องในเวลาแปดโมงเช้าและหกโมงเย็น เราจะนำธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาในเวลาเช้า และลดธงลงในเวลาเย็น เพลงชาติไทยมีความหมายให้ทุกคนในชาติรู้รักสามัคคี ช่วยนำพาชาติให้เจริญ




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2559   
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2559 16:49:02 น.   
Counter : 888 Pageviews.  

เรื่องราวซึ้ง ๆ ของรักแท้ (ซึ้งจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่)

คืนหนึ่ง....


saleiicheap.com

ขณะที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
หญิงสาวเอ่ยปากบอกขอเลิกกับชายหนุ่ม
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ตกใจ แต่ก็ยอมรับอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร
หญิงสาวบอกเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ
ชายหนุ่มตอบ 'ใช่ ถ้าคุณมีปัญหาอะไร ผมจะช่วยคุณได้เสมอนะ'
แล้วก็ยิ้มเรียบๆเหมือนปกติ
ชายหนุ่มกับหญิงสาวก็รับประทานอาหารกันต่ออย่างเงียบๆ
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ยังโทรศัพท์หาหญิงสาวทุกวัน เหมือนดังเดิม..
ถามหญิงสาววันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? กลับถึงบ้านรึยัง? ทานอาหารรึยัง?
หญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
ก็ยังยอมรับความห่วงใยของชายหนุ่มที่มีให้เธอ
วันหนึ่ง หญิงสาวอารมณ์ไม่ดีและตอบชายหนุ่มไปว่า
'มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว!!'
ชายหนุ่มก็ตอบเรียบๆ ว่า 'ขอโทษนะ ผมไม่รบกวนคุณนะ'
แท้จริงแล้วหญิงสาวทะเลาะกับแฟนใหม่ของเธอ
ชายหนุ่มเลยกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของเธอไป
วันต่อมา หญิงสาวก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากชายหนุ่ม
เธอรู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เวลาผ่านไปหลายวันชายหนุ่มก็ยังไม่ได้ติดต่อเธอ
หญิงสาวก็คิดในใจว่าทำไมว่า แค่คำสองคำก็โกรธซะนาน
หญิงสาวก็รู้ว่าตัวเองผิด ก็คิดจะโทรหาชายหนุ่ม
และอยากขอให้ชายหนุ่มอย่าโกรธเธอ
หญิงสาวโทรศัพท์ทั้งวันก็ไม่มีคนรับสาย
จนสุดท้ายเบอร์โทรศัพท์นั้นก็โดนยกเลิกไป
หญิงสาวเริ่มรู้สึกแปลกใจมากๆ เธอไปที่บริษัทที่ชายหนุ่มทำงานอยู่
แต่เพื่อนพนักงานเขาบอกว่าชายหนุ่มลาออกจากงานไปนานแล้ว
หญิงสาวถามเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชายหนุ่มว่ารู้ไหมว่าเขาไปไหน
เขาก็บอกไม่รู้ เขาก็กำลังหาชายหนุ่มอยู่
หญิงสาวลองโทรไปที่บ้านของชายหนุ่ม เขาก็บอกว่าชายหนุ่มไปต่างประเทศแล้ว
หญิงสาวก็แปลกใจมากๆ บ้านของชายหนุ่มฐานะก็ไม่ได้ดีมาก
แล้วทำไมถึงให้ชายหนุ่มไปต่างประเทศได้?
(แท้จริงแล้วหญิงสาวบอกขอเลิกก็เพราะสาเหตุนี้)
อีกอย่างถ้าชายหนุ่มไปต่างประเทศจริงๆ
ถึงจะไม่ได้บอกเธอ..เพื่อนของเขาก็น่าจะรู้นะ? แปลกจริงๆ???

หญิงสาวเก็บความสงสัยไว้ในใจ พอกลับถึงบ้านก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง
เธอเปิดออกมาดู.. เป็นจดหมายของชายหนุ่มส่งมา..
ชายหนุ่มบอกเธอว่าเขาไปที่อื่นแล้ว
แต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน ฮึ่ม!!! จะไปก็ไม่บอกสักคำ..
ตั้งแต่นั้นมา ถึงแม้หญิงสาวไม่เคยเห็นชายหนุ่มอีกเลย..
แต่เธอก็ได้รับจดหมายจากเขามาตลอด โดยเฉพาะวันที่สำคัญ อย่างเช่นว่า
วันเกิดของหญิงสาว
เขาจะอวยพรวันเกิดให้เธอพร้อมกับส่งของขวัญมาให้...
วันวาเลนไทน์เขาก็ไม่ลืมที่จะส่งช่อดอกไม้ให้เธอ...
วันคริสต์มาสยิ่งไม่ต้องพูดเลย... ขนาดหญิงสาวไปสอบเอ็น
เขาก็ยังมีส่งการ์ดมาเป็นกำลังใจให้เธอเลย
ถึงแม้ว่านานมากแล้วที่เธอไม่ได้เห็นชายหนุ่ม
แต่เธอก็ได้รับความห่วงใยจากเขามาตลอด..
แต่หญิงสาวพบว่าที่ชายหนุ่มส่งจดหมายมาก็ไม่ได้เขียนที่อยู่มาด้วย
บางทีก็ไม่ได้ติดแสตมป์
เหมือนกับว่ามีใครเอาจดหมายมาใส่ลงในตู้จดหมายของเธอโดยตรง
และเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนๆ ของชายหนุ่มดีต่อเธอมากๆ
วันเกิดเธอก็ได้รับของขวัญจากพวกเขา หรือไม่ก็ชวนเธอออกไปเที่ยวบ่อยๆ
โทรศัพท์หาถามความเป็นมาอยู่เรื่อยๆ

หญิงสาวรู้สึกแปลกใจกับความห่วงใยที่มีจากพวกเขา
แต่นานๆ เข้าเธอก็รู้สึกชินไปเอง ในเวลานั้นเธอมีความสุขมากๆ...
จนกระทั่งวันหนึ่ง หญิงสาวพบว่า นานแล้วที่เธอไม่ได้รับจดหมายจากชายหนุ่ม..
ถึงเธอจะนึกแปลกใจ แต่ก็คิดว่าช่างเถอะ เขาคงไม่ค่อยว่างมั้ง..
เวลาผ่านไปอีกอาทิตย์นึง หญิงสาวก็ยังไม่ได้รับจดหมายเลย
เธอรู้สึกร้อนใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่าเธออยากอ่านจดหมายของชายหนุ่ม..
สองปีที่ผ่านมาชายหนุ่มเขียนจดหมายส่งให้เธอเสมอ..
ในวันสำคัญของเธอก็จะได้รับคำอวยพรจากแดนไกลมาตลอด..
ถึงแม้ว่าเธอจะตอบจดหมายไม่ได้ แต่นี่ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอแล้ว
เวลานี้อยู่ดีๆก็หายไป

หญิงสาวรู้สึกเหมือนไร้ที่พึ่ง.. หญิงสาวเริ่มตามหาชายหนุ่ม..
ไปที่ที่ชายหนุ่มแต่ก่อนเคยไปบ่อยๆ ร้านอาหาร ร้านหนังสือ..
หวังว่าจะได้พบชายหนุ่ม แต่เธอก็ผิดหวัง...
ชายหนุ่มเหมือนกับว่าได้หายไปจากโลกนี้แล้ว
สุดท้ายญิงสาวก็กลับไปที่บริษัทเพื่อนสนิทของชายหนุ่มอีกครั้ง
ถามหาดูว่า มีใครรู้ว่าชายหนุ่มอยู่ที่ไหนบ้าง..
ในกลุ่มเพื่อนๆ ของชายหนุ่ม มีหญิงคนหนึ่งพอได้ยินที่หญิงสาวถามก็ร้องไห้ออกมา
หญิงสาวถามเธอว่า ร้องไห้ทำไม... เจ้าของบริษัทบอกกับหญิงสาวว่า
'เธอโทรไปหาคนคนนี้นะ แล้วเธอจะรู้เองว่าเขาหายไปไหน'
หญิงสาวรับกระดาษโน๊ตที่มีเขียนเบอร์โทรศัพท์มือถือมา คิดในใจว่า
ในที่สุดฉันก็หาเขาได้เจอสักที

หญิงสาวโทรศัพท์ไป..ฮัลโหล~~? มีเสียงผู้ชายมารับสาย
ถึงแม้ว่า หญิงสาวไม่ได้เจอชายหนุ่มตั้งสองปีแล้ว
แต่เธอรู้ว่าคนที่รับโทรศัพท์ไม่ใช่ชายหนุ่ม
หญิงสาวเอ่ยปากถาม.. 'เอ่อ.. อยากทราบว่า..'
ฝ่ายนั้นไม่ได้รอให้หญิงสาวพูดจบก็บอกว่า.. 'ผมรู้ว่าคุณคือใคร
คุณอยากจะหาพี่ชายผมใช่มั้ย? ผมรอคุณมานานแล้ว คุณตอนนี้ว่างมั้ย
ออกมาแล้วผมจะเล่าให้คุณฟัง แล้วคุณจะเข้าใจ..'

หญิงสาวมาตามที่นัดอย่างสงสัย
เห็นหน้าเขาก็เชื่อว่าเขาเป็นพี่น้องกัน เพราะหน้าตาคล้ายกันมาก
พอมาถึงหญิงสาวก็รีบถาม 'พี่ชายเธอล่ะ?' น้องชายของชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร
แต่หยิบจดหมายฉบับนึงยื่นให้หญิงสาวพร้อมกับบอกว่า
'ขอโทษนะ จริงๆแล้วผมน่าจะเอาไปให้คุณตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว
แต่ผมไม่รู้จะให้คุณยังไงดี ก็เลยเก็บไว้จนถึงวันนี้..'
จดหมายทั้งหมดในสองปีนี้ก็คุณเขียนให้ฉันเหรอ?' หญิงสาวถามอย่างตกใจ
ไม่ใช่ ผมแค่ส่งจดหมายให้คุณแทนพี่ชายผมเท่านั้น'
หญิงสาวได้แต่คิดในใจว่าทำไมต้องทำอะไรยุ่งยากอย่างนั้นด้วย.

ถึงเธอจะบ่นแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอดีใจมากๆ
หญิงสาวเปิดจดหมายออกมาอ่าน..
เธอเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม? อากาศเริ่มเย็นแล้วนะ
รักษาสุขภาพให้ดีนะ.. การเรียนเป็นอย่างไรล่ะ?
อย่ามัวแต่ห่วงเล่นนะ.. แหม.. พูดเหมือนกับว่าเธอเป็นเด็กแน่ะ
โทษทีนะ..เพียงแต่ว่าผมไม่วางใจน่ะ เธอต้องการคนคอยดูแล
ปกป้องเสมอ.. แต่เธอวางใจได้นะ ผมเรียกให้เพื่อนๆผมช่วยดูแลคุณให้ดีๆน่ะ
เพราะว่าเมื่อคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ผมก็คงจะไปที่อื่นแล้ว..
ผมไม่สามารถดูแลคุณได้อีกต่อไป.. แต่ผมก็ยังห่วงคุณเสมอ
ผมเลยใช้วิธีนี้อยู่เป็นเพื่อนคุณในวันที่ผ่านๆมา ขอให้คุณอย่าได้โกรธผมนะ..
นี่ก็อาจจะเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ผมเขียนให้คุณได้
เพราะมันถึงเวลาแล้ว.. ต้องขอโทษมากๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากพบคุณนะ
เพียงแต่ว่าผมไม่ต้องการให้คุณได้เห็นผมในขณะนี้
และไม่อยากให้คุณต้องเสียใจเพราะผม..
ผมหวังอยากให้คุณอยู่อย่างมีความสุข ตอนนี้ก็คงใกล้ถึงเวลาสอบแล้วสินะ
ถ้าคุณสอบไม่ได้เพราะเรื่องของผม ผมคงไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองแน่ๆ
เพราะว่าสิ่งนี้เป็นความหวังสุดท้ายของผม.. นับๆ
ดูทั้งหมดก็คงมี200กว่าฉบับได้มั้ง?

หวังว่าคุณคงไม่โกรธที่ผมรบกวนคุณมากเกินไปนะ..
ถึงแม้ว่าผมใกล้ถึงเวลาที่ต้องจากไป
แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าการรู้จักคุณเป็นสิ่งที่แย่ในชีวิตของผม
ในช่วงเวลาที่ผมอยู่กับคุณผมมีความสุขมากๆ ถึงแม้ว่าท้ายสุดคุณไม่ได้เลือกผม
แต่ก็ดีแล้วล่ะ
มิฉะนั้นผมก็คงไม่รู้ว่าจะบอกเลิกกับคุณอย่างไรดี
เพราะสภาพร่างกายผมทำให้ผมไม่สามารถอยู่ดูแลคุณได้ตลอดไป..
ยิ่งนานวันร่างกายผมก็ยิ่งแย่ลง ผมไปโรงพยาบาลตรวจดู..
หมอบอกว่าผมเหลือเวลาอีกแค่เพียง 3 เดือนเท่านั้น ถึงเวลานั้นก็..
เธอคงเดาได้ออกนะ..
เพราะฉะนั้นผมก็เลยดูตามวันเวลาและเขียนจดหมายให้คุณกว่า200ฉบับ
แล้วให้น้องชายผมส่งให้คุณตามวันที่ที่เขียนไว้
เหมือนกับว่าผมยังอยู่เคียงข้างคุณเสมอ..

2 ปีแล้วสินะ ความรู้สึกของคุณที่มีต่อผมก็คงเจือจางลงไปไม่น้อยแล้ว
น่าจะยอมรับรู้ความจริงอันนี้ได้แล้วนะ
ผมก็เลยเขียนจดหมายฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้าย..
อีกอย่างผมก็ไม่สามารถเขียนจดหมายได้อีกต่อไป ขออภัยด้วยนะ..
ถ้าผมทำให้คุณต้องเสียใจ ผมก็ขอโทษที่ผมไม่สามารถปลอบใจคุณได้อีก..
ผมเพียงอยากบอกกับคุณว่า ผมรักคุณ อยากดูแลคุณตลอดชีวิต

ถึงแม้ว่าสุดท้ายคุณจะแต่งงานกับคนอื่นไป
ผมก็อยากอยู่เป็นเพื่อนคุณเสมอ.. แต่ผมทำได้เหรอ? ผมทำไม่ได้
เพราะเวลาของผมใกล้จะหมดแล้ว.. ถึงอายุผมจะไม่ยืนยาว แต่ผมก็ไม่รู้สึกเสียดาย
ชีวิตของผมอยู่อย่างคุ้มค่ายิ่งนัก ถึงแม้ว่าเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันสั้นนัก
แต่ก็ทำให้ผมได้รู้ค่าของชีวิต ขอขอบคุณที่คุณให้รักแรกในชีวิตผม
ถ้าเวลาย้อนกลับไปได้ผมคงจะไม่ไปรู้จักคุณ ไม่เป็นแฟนกับคุณ..
แต่มันไม่อาจเป็นไปได้ ผมก็เลยต้องทำให้คุณเสียใจอยู่ดี
ถ้าการให้ การรอคอยของวันพรุ่งนี้ทำให้ผมอยู่เคียงข้างคุณได้
ผมรับรองว่าจะทำ.. แต่ผมจะมีพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน? ถึงอย่างไรผมก็ต้องจากคุณไป
ถ้าผมจากไปอย่างสงบได้นั่นแสดงว่าผมไม่รักคุณอีกต่อไป
แต่น้ำตาที่ไหลออกมาบอกผมว่าผมทิ้งคุณไปไม่ได้ เพราะว่า
'ผมรักคุณ'.. อย่าร้องไห้เพื่อผมเลย เพราะผมมีความสุขที่เคยรักคุณ
ลืมผมเสียเถิดนะคนดี..
จากคนที่รักคุณ 21/9/2000 โรงพยาบาล XXX'

หญิงสาวดูวันที่ที่เขียนในจดหมาย คือ เวลาหลังจากที่เลิกกันได้หนึ่งเดือน..
ก็คือ วันหลังจากวันที่ที่เธอพูดกับเขาว่า 'มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว!!'..
วันนั้นอากาศเย็นลงมาก เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว
คืนนั้นหญิงสาวถือจดหมายไว้ในอ้อมอก
ยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้านของชายหนุ่ม....




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557   
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 20:47:54 น.   
Counter : 881 Pageviews.  

10 ประโยค เปลี่ยนชีวิตของ Mark Zuckerberg

ใครจะเชื่อจากเด็กธรรมดาๆ จะสามารถสร้างตัวเองให้กลายเป็นมหาเศรษฐี แถมยังสร้างยังสร้างอาณาจักรที่สุดแสนจะใหญ่โตของทั้งโลกขึ้นมาอีกด้วย จากจุดเริ่มต้นที่ Mark ต้องการเก็บข้อมูลรูปภาพต่างๆเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าไปดูได้ แต่มันกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ Facebook ถือกำเนิดขึ้นมา แต่การเดินทางของ Mark Zuckerberg ก็ไม่ได้เดินมาอย่างไร้จุดหมาย ไร้แนวทาง เพราะตัว Mark เองก็มีแนวทางในการดำเนินชีวิตเหมือนกัน

1.เอาชนะคนที่เคยดูถูกเราให้ได้... . โดยเฉพาะแฟนเก่า!

พราะสมัยที่เรียน Mark Zuckerberg เคยถูกแฟนทิ้ง ตอนนั้น Mark ทำตัวเละเทะมากจนถูกแฟนเก่าตราหน้าว่าไม่มีวันสำเร็จ



2.อย่าปล่อยให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักคุณดี มาทำลายจุดยืนของคุณ

Mark ไม่เคยสนใจคำครหาของใครๆที่เข้ามาดูถูกเขาหรือมองว่าเขาจะทำไม่ได้



3.ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ

การทำให้สิ่งที่รักย่อมทำได้ง่ายและดีกว่าสิ่งที่ไม่ชอบเสมอ



4.ผู้นำที่ดีต้องปลุกยักษ์ที่ซ่อนอยู่ในตัวคนรอบข้างได้

ถ้าผู้นำยังไม่กล้าที่จะปลุกพลังในตัวเองออกมา อย่าไปคิดถึงลูกน้องเลยว่าจะมีมอบพลังให้กับองค์กรได้แค่ไหน



5.แสดงให้ทุกคนได้รู้ว่าคุณคือผู้นำองค์กรตัวจริง

ผู้นำดี ลูกน้องก็อยากเดินตาม



6.ตัวคุณเก่งอย่างเดียวไม่ได้ คุณต้องสร้างทีมให้เก่งเหมือนคุณด้วย

การทำงานถ้าหัวหน้าเก่งอยากเดียว หัวหน้าก็คงจะทำงานคนเดียวได้ แต่การทำงานทุกอย่างต้องอาศัย ทีม ถ้าทีมเก่งงานก็จะไปต่อได้ดี และได้เร็ว



7.อย่าให้ความคิดเห็นคนรอบข้างปิดประตูความคิดสร้างสรรค์ของเคุณ

การทำงานของ Mark Zuckerberg เริ่มมาจากความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองและเพื่อนๆ ใครจะอะไร ใครจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เขาก็ไม่สนใจ



8.อย่าเสียงานเพียงเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อน

ตอนที่ Mark Zuckerberg สร้าง Facebook เขาไม่ได้สร้างแค่คนเดียว เขายังคงร่วมมือสร้างกับเพื่อนๆของเขา

แต่ในการทำงานทุกอย่างก็คงไม่ได้ลงรอยกัน แต่เราต้องหาตรงกลางของกันและกันเพื่อให้งานเดินต่อไปได้



9.อย่าให้ใครมาระบายสีให้ชีวิตเรา

ชีวิตของเรา เราเลือกเองได้ อย่าให้ใครมาขีดเส้น หรือ ระบายสี เพื่อให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ



10.อยากประสบความสำเร็จ ต้องฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง

ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความฝันของเรา แต่อยู่ที่ว่าผันแล้วเราจะเดินไปตามความฝันนั้นของเราหรือไม่



......... 10 ประโยคของคนอื่น ก็ไม่สำคัญเท่ากับการลงมือทำของตนเอง ต่อให้คนที่เก่งที่สุด คนที่รวยที่สุด มาพูดให้ฟังต่อหน้าแต่ถ้าคุณไม่เริ่มทำยังไงสิ่งที่คุณต้องการก็คงไม่เกิดขึ้นอย่างที่คุณตั้งใจไว้แน่นอน ..........




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 15 กรกฎาคม 2557 22:33:24 น.   
Counter : 704 Pageviews.  

เรื่องราวซึ้ง ๆ ของรักแท้

คืนหนึ่ง....

ขณะที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
หญิงสาวเอ่ยปากบอกขอเลิกกับชายหนุ่ม
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ตกใจ แต่ก็ยอมรับอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร
หญิงสาวบอกเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ
ชายหนุ่มตอบ 'ใช่ ถ้าคุณมีปัญหาอะไร ผมจะช่วยคุณได้เสมอนะ'
แล้วก็ยิ้มเรียบๆเหมือนปกติ
ชายหนุ่มกับหญิงสาวก็รับประทานอาหารกันต่ออย่างเงียบๆ
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ยังโทรศัพท์หาหญิงสาวทุกวัน เหมือนดังเดิม..
ถามหญิงสาววันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? กลับถึงบ้านรึยัง? ทานอาหารรึยัง?
หญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
ก็ยังยอมรับความห่วงใยของชายหนุ่มที่มีให้เธอ
วันหนึ่ง หญิงสาวอารมณ์ไม่ดีและตอบชายหนุ่มไปว่า
'มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว!!'
ชายหนุ่มก็ตอบเรียบๆ ว่า 'ขอโทษนะ ผมไม่รบกวนคุณนะ'
แท้จริงแล้วหญิงสาวทะเลาะกับแฟนใหม่ของเธอ
ชายหนุ่มเลยกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของเธอไป
วันต่อมา หญิงสาวก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากชายหนุ่ม
เธอรู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เวลาผ่านไปหลายวันชายหนุ่มก็ยังไม่ได้ติดต่อเธอ
หญิงสาวก็คิดในใจว่าทำไมว่า แค่คำสองคำก็โกรธซะนาน
หญิงสาวก็รู้ว่าตัวเองผิด ก็คิดจะโทรหาชายหนุ่ม
และอยากขอให้ชายหนุ่มอย่าโกรธเธอ
หญิงสาวโทรศัพท์ทั้งวันก็ไม่มีคนรับสาย
จนสุดท้ายเบอร์โทรศัพท์นั้นก็โดนยกเลิกไป
หญิงสาวเริ่มรู้สึกแปลกใจมากๆ เธอไปที่บริษัทที่ชายหนุ่มทำงานอยู่
แต่เพื่อนพนักงานเขาบอกว่าชายหนุ่มลาออกจากงานไปนานแล้ว
หญิงสาวถามเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชายหนุ่มว่ารู้ไหมว่าเขาไปไหน
เขาก็บอกไม่รู้ เขาก็กำลังหาชายหนุ่มอยู่
หญิงสาวลองโทรไปที่บ้านของชายหนุ่ม เขาก็บอกว่าชายหนุ่มไปต่างประเทศแล้ว
หญิงสาวก็แปลกใจมากๆ บ้านของชายหนุ่มฐานะก็ไม่ได้ดีมาก
แล้วทำไมถึงให้ชายหนุ่มไปต่างประเทศได้?
(แท้จริงแล้วหญิงสาวบอกขอเลิกก็เพราะสาเหตุนี้)
อีกอย่างถ้าชายหนุ่มไปต่างประเทศจริงๆ
ถึงจะไม่ได้บอกเธอ..เพื่อนของเขาก็น่าจะรู้นะ? แปลกจริงๆ???

หญิงสาวเก็บความสงสัยไว้ในใจ พอกลับถึงบ้านก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง
เธอเปิดออกมาดู.. เป็นจดหมายของชายหนุ่มส่งมา..
ชายหนุ่มบอกเธอว่าเขาไปที่อื่นแล้ว
แต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน ฮึ่ม!!! จะไปก็ไม่บอกสักคำ..
ตั้งแต่นั้นมา ถึงแม้หญิงสาวไม่เคยเห็นชายหนุ่มอีกเลย..
แต่เธอก็ได้รับจดหมายจากเขามาตลอด โดยเฉพาะวันที่สำคัญ อย่างเช่นว่า
วันเกิดของหญิงสาว
เขาจะอวยพรวันเกิดให้เธอพร้อมกับส่งของขวัญมาให้...
วันวาเลนไทน์เขาก็ไม่ลืมที่จะส่งช่อดอกไม้ให้เธอ...
วันคริสต์มาสยิ่งไม่ต้องพูดเลย... ขนาดหญิงสาวไปสอบเอ็น
เขาก็ยังมีส่งการ์ดมาเป็นกำลังใจให้เธอเลย
ถึงแม้ว่านานมากแล้วที่เธอไม่ได้เห็นชายหนุ่ม
แต่เธอก็ได้รับความห่วงใยจากเขามาตลอด..
แต่หญิงสาวพบว่าที่ชายหนุ่มส่งจดหมายมาก็ไม่ได้เขียนที่อยู่มาด้วย
บางทีก็ไม่ได้ติดแสตมป์
เหมือนกับว่ามีใครเอาจดหมายมาใส่ลงในตู้จดหมายของเธอโดยตรง
และเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนๆ ของชายหนุ่มดีต่อเธอมากๆ
วันเกิดเธอก็ได้รับของขวัญจากพวกเขา หรือไม่ก็ชวนเธอออกไปเที่ยวบ่อยๆ
โทรศัพท์หาถามความเป็นมาอยู่เรื่อยๆ

หญิงสาวรู้สึกแปลกใจกับความห่วงใยที่มีจากพวกเขา
แต่นานๆ เข้าเธอก็รู้สึกชินไปเอง ในเวลานั้นเธอมีความสุขมากๆ...
จนกระทั่งวันหนึ่ง หญิงสาวพบว่า นานแล้วที่เธอไม่ได้รับจดหมายจากชายหนุ่ม..
ถึงเธอจะนึกแปลกใจ แต่ก็คิดว่าช่างเถอะ เขาคงไม่ค่อยว่างมั้ง..
เวลาผ่านไปอีกอาทิตย์นึง หญิงสาวก็ยังไม่ได้รับจดหมายเลย
เธอรู้สึกร้อนใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่าเธออยากอ่านจดหมายของชายหนุ่ม..
สองปีที่ผ่านมาชายหนุ่มเขียนจดหมายส่งให้เธอเสมอ..
ในวันสำคัญของเธอก็จะได้รับคำอวยพรจากแดนไกลมาตลอด..
ถึงแม้ว่าเธอจะตอบจดหมายไม่ได้ แต่นี่ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอแล้ว
เวลานี้อยู่ดีๆก็หายไป

หญิงสาวรู้สึกเหมือนไร้ที่พึ่ง.. หญิงสาวเริ่มตามหาชายหนุ่ม..
ไปที่ที่ชายหนุ่มแต่ก่อนเคยไปบ่อยๆ ร้านอาหาร ร้านหนังสือ..
หวังว่าจะได้พบชายหนุ่ม แต่เธอก็ผิดหวัง...
ชายหนุ่มเหมือนกับว่าได้หายไปจากโลกนี้แล้ว
สุดท้ายญิงสาวก็กลับไปที่บริษัทเพื่อนสนิทของชายหนุ่มอีกครั้ง
ถามหาดูว่า มีใครรู้ว่าชายหนุ่มอยู่ที่ไหนบ้าง..
ในกลุ่มเพื่อนๆ ของชายหนุ่ม มีหญิงคนหนึ่งพอได้ยินที่หญิงสาวถามก็ร้องไห้ออกมา
หญิงสาวถามเธอว่า ร้องไห้ทำไม... เจ้าของบริษัทบอกกับหญิงสาวว่า
'เธอโทรไปหาคนคนนี้นะ แล้วเธอจะรู้เองว่าเขาหายไปไหน'
หญิงสาวรับกระดาษโน๊ตที่มีเขียนเบอร์โทรศัพท์มือถือมา คิดในใจว่า
ในที่สุดฉันก็หาเขาได้เจอสักที

หญิงสาวโทรศัพท์ไป..ฮัลโหล~~? มีเสียงผู้ชายมารับสาย
ถึงแม้ว่า หญิงสาวไม่ได้เจอชายหนุ่มตั้งสองปีแล้ว
แต่เธอรู้ว่าคนที่รับโทรศัพท์ไม่ใช่ชายหนุ่ม
หญิงสาวเอ่ยปากถาม.. 'เอ่อ.. อยากทราบว่า..'
ฝ่ายนั้นไม่ได้รอให้หญิงสาวพูดจบก็บอกว่า.. 'ผมรู้ว่าคุณคือใคร
คุณอยากจะหาพี่ชายผมใช่มั้ย? ผมรอคุณมานานแล้ว คุณตอนนี้ว่างมั้ย
ออกมาแล้วผมจะเล่าให้คุณฟัง แล้วคุณจะเข้าใจ..'

หญิงสาวมาตามที่นัดอย่างสงสัย
เห็นหน้าเขาก็เชื่อว่าเขาเป็นพี่น้องกัน เพราะหน้าตาคล้ายกันมาก
พอมาถึงหญิงสาวก็รีบถาม 'พี่ชายเธอล่ะ?' น้องชายของชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร
แต่หยิบจดหมายฉบับนึงยื่นให้หญิงสาวพร้อมกับบอกว่า
'ขอโทษนะ จริงๆแล้วผมน่าจะเอาไปให้คุณตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว
แต่ผมไม่รู้จะให้คุณยังไงดี ก็เลยเก็บไว้จนถึงวันนี้..'
จดหมายทั้งหมดในสองปีนี้ก็คุณเขียนให้ฉันเหรอ?' หญิงสาวถามอย่างตกใจ
ไม่ใช่ ผมแค่ส่งจดหมายให้คุณแทนพี่ชายผมเท่านั้น'
หญิงสาวได้แต่คิดในใจว่าทำไมต้องทำอะไรยุ่งยากอย่างนั้นด้วย.

ถึงเธอจะบ่นแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอดีใจมากๆ
หญิงสาวเปิดจดหมายออกมาอ่าน..
เธอเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม? อากาศเริ่มเย็นแล้วนะ
รักษาสุขภาพให้ดีนะ.. การเรียนเป็นอย่างไรล่ะ?
อย่ามัวแต่ห่วงเล่นนะ.. แหม.. พูดเหมือนกับว่าเธอเป็นเด็กแน่ะ
โทษทีนะ..เพียงแต่ว่าผมไม่วางใจน่ะ เธอต้องการคนคอยดูแล
ปกป้องเสมอ.. แต่เธอวางใจได้นะ ผมเรียกให้เพื่อนๆผมช่วยดูแลคุณให้ดีๆน่ะ
เพราะว่าเมื่อคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ผมก็คงจะไปที่อื่นแล้ว..
ผมไม่สามารถดูแลคุณได้อีกต่อไป.. แต่ผมก็ยังห่วงคุณเสมอ
ผมเลยใช้วิธีนี้อยู่เป็นเพื่อนคุณในวันที่ผ่านๆมา ขอให้คุณอย่าได้โกรธผมนะ..
นี่ก็อาจจะเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ผมเขียนให้คุณได้
เพราะมันถึงเวลาแล้ว.. ต้องขอโทษมากๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากพบคุณนะ
เพียงแต่ว่าผมไม่ต้องการให้คุณได้เห็นผมในขณะนี้
และไม่อยากให้คุณต้องเสียใจเพราะผม..
ผมหวังอยากให้คุณอยู่อย่างมีความสุข ตอนนี้ก็คงใกล้ถึงเวลาสอบแล้วสินะ
ถ้าคุณสอบไม่ได้เพราะเรื่องของผม ผมคงไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองแน่ๆ
เพราะว่าสิ่งนี้เป็นความหวังสุดท้ายของผม.. นับๆ
ดูทั้งหมดก็คงมี200กว่าฉบับได้มั้ง?

หวังว่าคุณคงไม่โกรธที่ผมรบกวนคุณมากเกินไปนะ..
ถึงแม้ว่าผมใกล้ถึงเวลาที่ต้องจากไป
แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าการรู้จักคุณเป็นสิ่งที่แย่ในชีวิตของผม
ในช่วงเวลาที่ผมอยู่กับคุณผมมีความสุขมากๆ ถึงแม้ว่าท้ายสุดคุณไม่ได้เลือกผม
แต่ก็ดีแล้วล่ะ
มิฉะนั้นผมก็คงไม่รู้ว่าจะบอกเลิกกับคุณอย่างไรดี
เพราะสภาพร่างกายผมทำให้ผมไม่สามารถอยู่ดูแลคุณได้ตลอดไป..
ยิ่งนานวันร่างกายผมก็ยิ่งแย่ลง ผมไปโรงพยาบาลตรวจดู..
หมอบอกว่าผมเหลือเวลาอีกแค่เพียง 3 เดือนเท่านั้น ถึงเวลานั้นก็..
เธอคงเดาได้ออกนะ..
เพราะฉะนั้นผมก็เลยดูตามวันเวลาและเขียนจดหมายให้คุณกว่า200ฉบับ
แล้วให้น้องชายผมส่งให้คุณตามวันที่ที่เขียนไว้
เหมือนกับว่าผมยังอยู่เคียงข้างคุณเสมอ..

2 ปีแล้วสินะ ความรู้สึกของคุณที่มีต่อผมก็คงเจือจางลงไปไม่น้อยแล้ว
น่าจะยอมรับรู้ความจริงอันนี้ได้แล้วนะ
ผมก็เลยเขียนจดหมายฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้าย..
อีกอย่างผมก็ไม่สามารถเขียนจดหมายได้อีกต่อไป ขออภัยด้วยนะ..
ถ้าผมทำให้คุณต้องเสียใจ ผมก็ขอโทษที่ผมไม่สามารถปลอบใจคุณได้อีก..
ผมเพียงอยากบอกกับคุณว่า ผมรักคุณ อยากดูแลคุณตลอดชีวิต

ถึงแม้ว่าสุดท้ายคุณจะแต่งงานกับคนอื่นไป
ผมก็อยากอยู่เป็นเพื่อนคุณเสมอ.. แต่ผมทำได้เหรอ? ผมทำไม่ได้
เพราะเวลาของผมใกล้จะหมดแล้ว.. ถึงอายุผมจะไม่ยืนยาว แต่ผมก็ไม่รู้สึกเสียดาย
ชีวิตของผมอยู่อย่างคุ้มค่ายิ่งนัก ถึงแม้ว่าเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันสั้นนัก
แต่ก็ทำให้ผมได้รู้ค่าของชีวิต ขอขอบคุณที่คุณให้รักแรกในชีวิตผม
ถ้าเวลาย้อนกลับไปได้ผมคงจะไม่ไปรู้จักคุณ ไม่เป็นแฟนกับคุณ..
แต่มันไม่อาจเป็นไปได้ ผมก็เลยต้องทำให้คุณเสียใจอยู่ดี
ถ้าการให้ การรอคอยของวันพรุ่งนี้ทำให้ผมอยู่เคียงข้างคุณได้
ผมรับรองว่าจะทำ.. แต่ผมจะมีพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน? ถึงอย่างไรผมก็ต้องจากคุณไป
ถ้าผมจากไปอย่างสงบได้นั่นแสดงว่าผมไม่รักคุณอีกต่อไป
แต่น้ำตาที่ไหลออกมาบอกผมว่าผมทิ้งคุณไปไม่ได้ เพราะว่า
'ผมรักคุณ'.. อย่าร้องไห้เพื่อผมเลย เพราะผมมีความสุขที่เคยรักคุณ
ลืมผมเสียเถิดนะคนดี..
จากคนที่รักคุณ 21/9/2000 โรงพยาบาล XXX'

หญิงสาวดูวันที่ที่เขียนในจดหมาย คือ เวลาหลังจากที่เลิกกันได้หนึ่งเดือน..
ก็คือ วันหลังจากวันที่ที่เธอพูดกับเขาว่า 'มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว!!'..
วันนั้นอากาศเย็นลงมาก เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว
คืนนั้นหญิงสาวถือจดหมายไว้ในอ้อมอก
ยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้านของชายหนุ่ม....




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2557   
Last Update : 30 มิถุนายน 2557 21:18:41 น.   
Counter : 710 Pageviews.  

เรื่องเศร้าของความรักที่ไม่เคยรู้

ฉันมีแฟนอยู่หนึ่งคน เราเติบโตมาด้วยกัน ชื่อว่าจิน

ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เราไป
Club
trip ด้วยกัน ฉันพบว่าฉันตกหลุมรักเขาสะแล้ว
ก่อนที่เราจะกลับจากที่ไปเที่ยว ฉันได้สารภาพรักกับเขา
ในไม่ช้า, เราก็กลายมาเป็นคู่รักกัน แต่เราสองคนรักกันในทางที่ต่างกัน

ฉันสนใจแต่เขาเพียงคนเดียวเสมอ แต่ว่า ข้างกายเขา,
กลับมีผู้หญิงหลายคนเข้ามา
สำหรับฉันแล้ว เขาเป็นผู้ชายคนเดียว แต่สำหรับเขา ฉันอาจจะเป็นเพียง
ผู้หญิงคนนึงเท่านั้น

"จิน, อยากไปดูหนังไหม" ฉันถามเขา

"เราไปไม่ได้"

"ทำไมเหรอ, หรือว่าต้องอ่านหนังสือที่บ้าน?"
ฉันรู้สึกถึงความผิดหวังที่เข้ามาในใจฉัน

"เปล่าหรอก, เรานัดกับเพื่อนไว้..."
เขาจะเป็นแบบนี้เสมอ
เขาพบเพื่อนผู้หญิงต่อหน้าฉัน เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สำหรับเขาแล้วฉันคือ เพื่อนหญิงคนนีงเท่านั้น
คำว่ารัก แค่ออกมาจากปากของฉันเท่านั้น
ตั้งแต่ฉันรู้จักเขา, ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดคำว่ารักมาก่อน
ไม่เคยมีฉลองวันครบรอบสำหรับพวกเรา
เขาไม่เคยพูดอะไรตั้งแต่วันแรก และมันก็เป็นแบบนั้นต่อไป

100 วัน ก็แล้ว.....200วันก็แล้ว
ทุกวันก่อนที่เขาจะพูดคำลา, เขาจะแค่จะให้ตุ๊กตาตัวนึงกับฉัน, ทุกวัน,
ไม่เคยตกขาด ฉันไม่รู้ว่าทำไม
จนกระทั่งวันหนึ่ง
ฉัน:เออ, จิน, เรา
จิน: อะไรเหรอ...อย่ามาอ้ำอึ้งหน่า, แค่พูดมา
ฉัน: เรารักนายนะ
จิน:....เออ, เอาตุ๊กตาตัวนี้ไปแล้วก็กลับบ้านซะนะ

นี่นเป็นการที่เขาไม่ใสใจคำ 3 คำของฉัน แล้วก็ส่งตุ๊กตาให้ฉัน
จากนั้นเขาก็หายไป, เหมือนกับว่าเขากำลังวิ่งหนีฉัน
ห้องฉันเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่เขาให้ฉันทุกวัน

ทีละตัวทีละตัว จนเต็มไปหมด
จนวันหนึ่งมาถึง, วันเกิดของฉันตอนฉันอายุ 15
ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้า ฉันวาดฝันว่าจ่ะมีปาร์ตี้กับเขา,
แล้วฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้องนอน, รอโทรศัพท์จากเขา

แต่ว่า......ข้าวเที่ยวก็แล้ว...ข้าวเย็นก็แล้ว.....ในไม่ช้าท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำ...เขาก็ยังไม่ได้โทรมา
ฉันก็ไม่อยากที่จ่ะเฝ้าดูโทรศัพท์อีกต่อไป
จากนั้นประมาณตีสอง, เขาก็โทรมาหาฉัน แล้วก็ทำให้ฉันตื่น
เขาบอกให้ฉันออกไปหาเขาที่หน้าบ้าน
ฉันยังรู้สึกดี แล้ววึ่งออกไปหน้าบ้านอย่างมีความสุข
ฉัน:จิน
จิน:นี่.....เอานี่ไป
อีกแล้ว, เขาให้ตุ๊กตากับฉันอีกแล้ว
ฉัน: นี่อะไร

จิน: ไม่ได้ให้เมื่อวานนี้, ก็เลยต้องให้ตอนนี้, กลับบ้านก่อนนะ บาย

ฉัน: เดี๋ยว!เดี๋ยว! รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร?
จิน:วันนี้เหรอ? อู?
ฉํนรู้สึกเศร้า, ฉันหลงคิดว่าเขาจำวันเกิดของฉันได้
เขาหันกลับไปแล้วก็เดินจากไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นฉันตะโกน
เดี๋ยว!
จิน: มีไรจะพูดเหรอ?
ฉัน: บอกเรา, บอกเรามาว่านายรักเรา
จิน: อะไรนะ!
ฉัน: บอกเรามาสิ
ฉันทิ้งความอ่อนแอของฉันไว้ข้างหลัง และจับตาเขาไว้
แต่ว่าเขาแค่พูดง่าย ๆ อย่างเหยือกเย็น แล้วก็ไป

"เราไม่อยากพูด....ว่าเรารักใครง่าย ๆ ถ้าอยากได้ยินมากนักละก็
หาคนอื่นแทนเราซะ"
นั่นคือสิ่งที่เขาพูด แล้วเขาก็จากไป
ขาของฉันรู้สึกชา...แล้วฉันก็ทรุดลงไปบนพื้น เขาไม่อยากพูดมันง่าย ๆ
เขาทำอย่างนั้นได้ไง?
ฉันรู้สึกว่า
บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับฉันก็ได้
จากวันนั้น, ฉันขังตัวเองในบ้าน และร้องไห้ แค่ร้องไห้
เขาไม่ได้โทรหาฉัน, ถึงยังไง ฉันก็ยังรออยู่
เขายังวางตุ๊กตาไว้หน้าบ้านฉันทุก
ๆ วัน
หลังจากเดือนนึงจากนั้น ฉันรวบรวมตัวเอง แล้วก็ไปโรงเรียน
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ความเจ็บปวดของฉันกลับมาอีกครั้งก็คือ
ฉันเจอเขาบนถนนกับผู้หญิงคนอื่น
เขามีรอยยิ้มบนใบหน้า,
แบบที่เขาไม่เคยโชว์ให้ฉันเห็นตอนที่เขาจับตุ๊กตาที่จะให้ฉัน
ฉันวิ่งตรงกลับบ้านและมองตุ๊กตาในห้อง, แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
เขาให้ตุ๊กตาฉันทำไม?

เขาอาจจะเอาตุ๊กตาพวกนี้มาจากผู้หญิงบางคน
ด้วยความโมโหของฉัน ฉันขว้างตุ๊กตาพวกนั้นรอบห้อง
ในทันทีทันใดนั้น โทรศัพท์ดัง มันเป็นเขา
เขาให้ฉันออกมาที่ป้ายรถบัสหน้าบ้าน
ฉันพยายามจะทำใจให้เย็นลง แล้วเดินออกไปที่ป้ายรถ
ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันกำลังจ่ะลืมเขา เรื่องของเราจ่ะจบลง
จากนั้นเขาเดินมาหาฉัน ในมือถือตุ๊กตาตัวใหญ่ ๆ เอาไว้
จิน:โจ, ฉันคิดว่านายจ่ะโกรธมาก แต่ว่านายออกมาจริง ๆ เหรอ?
ฉันไม่สามารถหายเกลียดเขาได้ ฉันทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วก็หยอกเล่นกับเขา
ในไม่ช้าเขาก็ให้ตุ๊กตากับฉันเหมือนอย่างเคย

ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน
จิน:อะไรกัน?..ทำไมหละ?
ฉันรวบตุ๊กตาจากเขาแล้วก็โยนมันทิ้งไปบนถนน
ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน ไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว!!
ฉันไม่อยากเจอคนอย่างนายอีกต่อไป!
ฉันเอาทุกคำพูดจากข้างในของฉันออกมา แต่ไม่เหมือนวัน อื่น ๆ
ตาของเขากลับส่าย

"เราขอโทษ" เขาพูดคำขอโทษด้วยน้ำเสียงเล็ก ๆ
แล้วเขาก็เดินออกไปที่ถนนแล้วก็หยิบตุ๊กตาขึ้นมา
ฉัน: โง่จริง! ทำไมหยิบมันขึ้นมา!!! แค่โยนมันทิ้งไป
แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจ แค่เดินไปหยิบตุ๊กตาขึ้น
จากนั้น
บรืน~บรืน~
ด้วยเสียงอันดัง สิบล้อคันใหญ่ก็วึ่งมายังเขา
"จิน! หลบ! หลบออกไป!" ฉันตะโกน
แต่ว่าเขาไม่ได้ยินเสียงฉัน เขาก้มลงไปหยิบตุ๊กตา
"จิน!หลบไป"
บรืน~!!
ตูม!!
เสียงนั้น ช่างน่ากลัวมาก
นั่นคือวิธีที่เขาจากไปจากฉัน
จากไปจากฉันโดยไม่เคยเปิดตาที่จ่ะพูดคำใด ๆ

จากวันนั้น,
ฉันจะต้องผ่านความรู้สึกผิดและความเศร้าเพราะว่าสูญเสียเขา
และหลังจากที่ฉันใช้เวลา 2 เดือน เหมือนคนบ้า, ฉันหยิบตุ๊กตาขั้นมา
มันคือของขวัญอย่างเดียวที่เขาให้ตั้งแต่เราคบกัน
ฉันจำวันเหล่านั้นที่ฉันใช้เวลาอยู่กับเขา และเริ่มนับวันที่เราเคยรักกัน

1...2...3

...484...485
แล้วก็หยุดที่ตุ๊กตา 485 ตัว
แล้วฉันก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง พร้อมกับถือตุ๊กตาตัวนึงในแขนของฉัน
ฉันกอดมันอย่างแน่น,
ทันใดนั้น

"ฉันรักเธอ~ ๆ"

ฉัน.รั..ก..เธอ??
ฉันหยิบตุ๊กตาขั้นมาแล้วก็กดลงไปที่ท้องของมัน

"ฉันรักเธอ~ ๆ"
เป็นไปไม่ได้!

กดลงไปที่ท้องของตุ๊กตาทุกตัว แล้วข้าง ๆ ของฉันเต็มไปด้วยตุ๊กตา

"ฉันรักเธอ~ "

"ฉันรักเธอ~ "

"ฉันรักเธอ~ "
คำเหล่านั้นออกมาไม่หยุด
ฉัน...รัก....เธอ
ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น?

ว่าหัวใจของเขาอยู่ข้าง ๆ ของฉัน, ปกป้องฉันไว้

ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าเขารักฉันขนาดนี้?
ฉันหยิบตุ๊กตาอีกต้วหนึ่งใต้เตียง แล้วก็ กดท้องของมัน
มันเป็นตุ๊กตาตัวสุดท้าย ตัวที่ตกบนถนน
ยังมีคราบเลือดติดอยู่
เสียงที่ออกมาเป็นเสียงที่ฉันคิดถึงมาก

"โจ...รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร? เรารักกันมา 486 วันแล้วนะ นายรู้ไหมว่า
486
คืออะไร?
เราไม่สามารถบอกรักนาย....อืม...ตั้งแต่ที่ฉันอายเกินไป....ถ้านายให้อภัยเราและเอาตุ๊กตาตัวนี้ไป,
เราจ่ะบอกว่า เรารักนาย...ทุกวัน...จนวันตาย
โจ...เรารักนาย...."

น้ำตาหล่นออกมาจากฉัน ทำไม? ทำไม? ฉันถามพระเจ้า,
ทำไมฉันถึงเพิ่งมารู้ตอนนี้
เขาไม่สามารถอยู่ข้างกายฉันได้ แต่ว่าเขารักฉันจนนาทีสุดท้ายของเขา

สำหรับนั้น, และสำหรับเหตุผลนั้น...สำหรับฉัน...มันกลายมาเป็น
ความแกร่ง....ที่จ่ะมีชีวิตอยู่อย่างสวยงาม


เหมือนยังกับคำๆพูดนี้เลย " จะรู้ค่ามันก้อสายเกินไปเลยอะ "




 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 14 พฤษภาคม 2557 12:02:27 น.   
Counter : 783 Pageviews.  

1  2  

MatsuoKung
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add MatsuoKung's blog to your web]