Bancha
Group Blog
 
All blogs
 

The ONE











































 

Create Date : 23 มิถุนายน 2551    
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 13:26:16 น.
Counter : 362 Pageviews.  

THE SEED

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งเริ่มแก่ตัวลง และต้องการหาคนมาสืบทอดธุรกิจ แทนที่เขาจะเลือก
ผู้อำนวยการ หรือ ลูกของเขา แต่เขาตัดสินใจที่จะทำบางอย่างที่แตกต่างออกไป เขาเรียกนัก
บริหารหนุ่มๆ ในบริษัทของเขา มารวมกัน และพูดว่า" ถึงเวลาที่ฉันจะวางมือและเลือกคนที่จะเป็น
CEO คนใหม่แล้วหล่ะ"" และฉันก็จะตัดสินใจเลือกคนหนึ่งในพวกคุณเนี่ยะแหละ" พวกหนุ่มต่างรู้สึก
ช๊อก กันใหญ่ เขาพูดต่ออีกว่า"วันนี้ผมจะให้เมล็ดพืชแก่พวกคุณคนละเมล็ด เป็นเมล็ดพิเศษ คุณ
ต้องดูแลและรดน้ำ นับจากวันนี้ไปอีก 1 ปี กลับมา และผมจะตัดสิน จากต้นไม้ที่เจริญเติบ
ขึ้น ที่พวกคุณนำมาให้ผม คนที่ผมเลือกจะได้เป็น CEO คนต่อไป"

นักบริหารหนุ่ม คนหนึ่ง ชื่อ จิม เขาเป็นหนึ่งในหนุ่มๆ ที่ได้รับการคัดเลือกในวันนั้น เขาได้รับ
เมล็ด มา 1 อัน และกลับบ้านด้วยความตื่นเต้น เขาบอกภรรยา และช่วยกันเตรียมกระถาง
ดิน และปุ๋ย เพื่อเตรียมปลูกต้นไม้ พวกเขาดูแล รดน้ำมาตลอด

ผ่านไปสามสัปดาห์ พวกนักธุรกิจหนุ่มคนอื่น ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเมล็ดพื่ชที่เขาได้รับ และเริ่มเจริญ
เติบโต . แต่จิม ก็เฝ้าดูทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีต้นอะไรงอกออกมา 3 สับดาห์ ผ่านไป 4 สับดาห์
ผ่านไป - 5 สับดาห์ ผ่านไป ก็ยังไม่เห็นอะไรในกระถาง ตอนนี้หนุ่ม ๆ ได้พูดถึงต้นไม้กันอีก
แล้ว แต่จิม ไม่มีอะไรจะพูด เพราะเขาไม่เห็นต้นไม้ของเขา เขาเริ่มรู้สึกว่าล้มเหลว ผ่าน
ไป 6 เดือน ก็ยังไม่มีอะไรงอกขึ้นมา เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาได้ทำลายเมล็ดนั้นไปซะแล้ว

ตอนนี้ทุก ๆ คนมีต้นไม้ที่เติบโตขึ้น ยกเว้นจิม ที่ไม่มี แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงาน
แต่เขาก็ยังเฝ้าดูแล รดน้ำ มันมาตลอดเวลา ผ่านไปครบ 1 ปี ทุกคนก็ได้นำต้นไม้ ไปให้
CEO ได้ตัดสิน แต่จิมพูดกับภรรยาว่า" ผมจะไม่เอากระถางเปล่าๆ ใบนี้ไปแน่" แล้วภรรยา
บอกเขาว่า ให้พูดความจริงออกไป ว่ามันเป็นยังไง จิมรู้สึกว่าท้องปั่นป่วนไปหมด เป็นวินาทีที่
เขารู้สึกอับอายที่สุดในชีวิต แต่เขาก็คิดว่าภรรยาของเขาพูดถูก ดังนั้นเขาจึงถือกระถางเปล่าๆ
เข้าไปในห้องทีได้นัดหมายกันไว้ เมื่อจิมมาถึง เขาแปลกใจมากว่า ทำไมต้นไม้ของคนอื่นถึงสวย
และแข็งแรงกันหมดทุกคน เมื่อพวกเขาเห็นกระถางของจิม ส่วนใหญ่ก็จะหัวเราะเยาะ มี 2-3
คนเท่านั้นที่แสดงความเห็นใจ

เมื่อท่านประธานเข้ามาถึง เขาได้ทักทายทุกๆ คน แต่จิมก็แอบหลบอยู่ข้างหลัง " โอ ทำไม
ต้นไม้ของพวกคุณถึงได้สวยกันเหลือเกิน เอาละ หนึ่งในพวกคนจะได้เลื่อนเป็น CEO กันวันนี้
แหละ" แต่พอท่านประธานเห็นกระถางของ จิม ที่อยู่ข้างหลังห้อง เขาก็บอกให้ผู้อำนวยการฝ่ายการ
เงินเรียกจิม ขึ้นมาข้างหน้า จิมรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าท่านประธานคงคิด
ว่าเขาล้มเหลว และเขาอาจจะถูกไล่ออก เมื่อจิมเดินมาหน้าห้อง ท่านประธานก็ถามว่า"เกิด
อะไรขึ้นกับต้นไม้ของคุณ" จิมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แล้วท่านประธานก็บอกให้ทุกคนนั่งลงยก
เว้นจิม ท่านมองมาที่จิม และก็ประกาศว่า " CEO คนต่อไปก็คือ ....... จิม"
จิมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะต้นไม้ของเขาก็ไม่มี เขาจะได้เป็น CEO ได้อย่างไร และท่าน
ประธานก็พูดว่า"เมื่อปีที่แล้ว ผมได้ให้เมล็ดพืชกับพวกคุณทุกคน ให้พวกคุณดูแล รดน้ำมันทุกๆ วัน แต่
มันเป็นเมล็ดที่ต้มแล้ว ดังนั้น มันจะงอกเป็นต้นไม้ได้อย่างไร พวกคุณทุกคนยกเว้นจิม นำต้นไม้
ที่ สวย งาม มาให้ผม นี่ก็แสดงว่าเมื่อพวกคุณพบว่า เมล็ดมันไม่งอก พวกคุณก็ เอาเมล็ดอื่น ปลูก
แทนน่ะสิ จิม เป็นคนเดียวที่กล้ายอมรับความจริง และนำกระถางเปล่าพร้อมกับเมล็ดที่ผมให้ มา
ให้ผม" " ดังนั้น ผมจึงแต่งตั้ง จิม ให้เป็น CEO คนต่อไป"

คติธรรม ที่ได้

เมื่อคุณปลูกความซื่อสัตย์ คุณก็จะได้รับความไว้วางใจ

เมื่อคุณปลูกความดี คุณก็จะได้รับมิตรภาพ

เมื่อคุณปลูกความอ่อนน้อมถ่อมตน คุณก็จะได้รับความยิ่งใหญ่

เมื่อคุณปลูกความพากเพียร คุณก็จะได้รับความสำเร็จ

เมื่อคุณปลูกความพิจารณา คุณก็จะได้รับความละเอียดละออ

เมื่อคุณปลูกความทำงานหนัก คุณก็จะได้รับความสำเร็จ

เมื่อคุณปลูกการให้อภัย คุณก็จะได้รับการคืนดี

ดังนั้น ตรองดูซักนิด ว่า คุณจะปลูกอะไร คุณก็สามารถกำหนดสิ่งที่คุณจะได้รับได้




 

Create Date : 01 เมษายน 2551    
Last Update : 1 เมษายน 2551 12:28:30 น.
Counter : 354 Pageviews.  

วันแรกของวันที่หลืออยู่

วันแรกของวันที่หลืออยู่

ปรัชญาเต๋า ; บอกว่า "คนเราไม่เคยนึกถึงตีน
เมื่อรองเท้าไม่กัด"

คนเรามักมองไม่เห็นของดีที่ตนมีอยู่
จนเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว

ไม่เห็นคุณค่าของสองแขน
จนกระทังมันอยู่ในเฝือก

ไม่เห็นคุณค่าของงาน (ที่เราว่าแย่ๆ)
จนกระทั่งตกงาน

ไม่เห็นคุณค่าคนรัก (ที่เราว่าไม่เพอร์เฟ็กท์)
จนกระทั่งเธอหรือเขาไปแต่งงานกับคนอื่น

ไม่เห็นคุณค่าของพ่อแม่ (ที่เราว่าขี้บ่น)
จนกระทั่งไปงานศพของท่าน

สิ่งที่คนจำนวนมากเลือกทำ คือ บ่นว่าตนเองไม่มีความสุข
ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่รวย ไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นสิ่งนี้
และเอ่ยประโยคยอดฮิตว่า "มันไม่แฟร์เลย"
บางที ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าโลกไม่มีความยุติธรรม

ก่อนที่เราจะบ่น ลองมองตัวเราเองดูดีๆ เราจะพบว่า
เรามีอะไรดีๆหลายอย่างที่คนอื่นไม่มี

เราสามารถทำ "หนึ่ววันเดียวกัน" ของเราห้มีความหมาย
ได้ก็ต่อเมื่อเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และใช้วันนี้

วันแรกของวันที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะวันแรกของชีวิตที่เหลือนี้ช่างสั้นเหลือเกิน เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเรามี "วันแรกของวันที่เหลือ" อยู่อีกสักกี่วัน




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2549 15:31:09 น.
Counter : 429 Pageviews.  

เพื่อนเกลอ

ชายคนหนึ่งมีเพื่อนเกลออยู่ 3 คน

เกลอคนที่ 1 เขารักมาก ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเกลอคนนี้
เกลอคนที่ 2 เขารักรองลงมาจากคนแรก
เกลอคนที่ 3 เขาไม่สนใจ และไม่เคยทำอะไรเพื่อเกลอผู้นี้เลย

ต่อมาในไม่ช้าไม่นาน เขาก็ได้ตายลง
ความที่จิตเขาผูกพันกับอยู่กับเกลอคนที่หนึ่ง เขาจึงไปหา
แต่เกลอคนนี้ไม่ไยดีเขาเลย เขาพูดด้วยก็ไม่ยอมเจรจาตอบ
เขารู้สึกเสียใจมาก
และนึกเสียดายว่าขณะที่มีชีวิตอยู่เขาไม่ควรทุ่มเทเพื่อเกลอคนนี้

จากนั้นเขาจึงไปหาเกลอคนที่ 2
เกลอผู้นี้ดีกว่าเกลอคนแรกตรงที่ตามไปส่ง เมื่อเขาเดินทางไปปรโลก
แต่ส่งเพียงครึ่งทางก็กลับ

คงมีแต่เกลอคนที่ 3 เท่านั้นที่ติดตามเขา
และร่วมเดินทางไปกับเขาตลอดเส้นทาง ไม่เคยทอดทิ้งเขาแม้เพียงอึดใจเดียว
หลังจากอ่านจบขอถามนะว่า

รู้ไหมว่าเกลอคนที่ 1 , 2 และ 3 เป็นใครกันบ้าง
ลองคิดกันก่อนนะ แล้วค่อยดูเฉลย

เกลอคนที่1 คือ ทรัพย์สมบัติ เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่
เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา
แต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา
แถมเราพูดด้วย มันก็ไม่พูดกับเรา

เกลอคนที่2 คือ ลูกเมีย
ญาติพี่น้อง
เพราะพอเราตาย เขาก็ทำบุญให้เรา ทำศพให้ แปลว่า เขาไปส่งเราแค่ครึ่งทาง
เกลอคนสุดท้าย คือ บุญกับบาป
เมื่อเราตายไป เราไม่สามารถเอาอะไรไปด้วยได้
ยกเว้นเพียงแค่บุญกับบาปเท่านั้น ที่จะตามเราไป

เพราะฉะนั้น เราต้องเอาใจใส่เกลอคนที่3 ให้มากโดยเฉพาะ
คนที่ ชื่อนายบุญ ส่วนนายบาป
เราต้องหนีให้ไกล
อย่าได้เอาไปเป็นเพื่อนร่วมทางโดยเด็ดขาด

จำไว้ว่าใครที่มัวหลงใหลเอาใจแต่เกลอคนที่หนึ่งจึงเป็นคนโง่




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2549 15:28:22 น.
Counter : 452 Pageviews.  

"หมาไล่เนื้อ"

มีเรื่องเล่าว่า...
มีพระองค์หนึ่ง...ชอบทำอะไรแปลกๆ...
วันหนึ่ง...พวกกรุงเทพฯ...เอากฐินไปทอดที่วัด...
จัดงานกันใหญ่โต...มีหนัง...มีลิเก...มีดนตรี...
ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน...

ก่อนทอดกฐิน...
ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา...
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา...
บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง...แล้วเอาเชือกมาด้วย...

หลวงพ่อจัดการ...เอาเนื้อ...ผูกติดกับหลังหมา...
ผูกเสร็จ...ก็ปล่อยหมา ...
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลัง...ก็ไล่งับ...
พอหัวโดดงับ...ตัวก็ขยับหนี...
เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง...
ยิ่งโดดงับเร็ว...ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว...
โดดไม่หยุด...เนื้อก็หนีไม่หยุด...น่าสงสารหมามาก...

หมาโดดอยู่นาน...งับเท่าไหร่...เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที...
ผู้คนบนศาลา...พากันหัวเราะชอบใจ...
หัวเราะเยาะหมา...ว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้...
ไล่งับ...จะกินเนื้อ...ที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทัน ตลอดชีวิต...

หลวงพ่อ...มองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว...
ก็แก้เชือกออกมากหลังหมา...
แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า...

มนุษย์เรา...มีความรู้สึกว่า...ตัวเองพร่อง...ตัวเองยังไม่เต็ม...
ต้องเติมตลอดเวลา...เติมไม่หยุด...เพื่อให้ตัวเองเต็ม...

เราอยากสวย...อยากทันสมัย...
ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด...ทันสมัยที่สุดใส่...
ดีใจได้เดือนเดียว...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...สวยกว่า...ทันสมัยกว่า...
อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่...
ซื้อเสร็จ ๓ เดือน...รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว...
ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด...
๒ เดือนต่อมา...มีรุ่นใหม่กว่าออกมา...ของเราตกรุ่น...
ซื้อรถเบนซ์...ทันสมัยที่สุด...แพงมาก...
ขับได้ ๖ เดือน...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...
ทันสมัยกว่า...แพงกว่า...ของเรากลายเป็นเชย...

เราต้องก้มหน้าก้มตา...ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน...หาเงินมา...
เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย...
ซื้อเสื้อผ้าใหม่...มือถือใหม่...คอมพิวเตอร์ใหม่...รถยนต์คันใหม่...
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส...
เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น...

ปัจจุบัน...
เรากำลังไล่งับความทันสมัย...เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน...
ทั้งที่รู้ว่า...ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต...ก็ไม่มีทางตามทัน...
น่าสงสารไหมโยม...

คนเต็มศาลา...เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น...
ด่าว่า...หมามันโง่...
ตอนนี้เงียบสนิท...เหมือนไม่มีคนอยู่...

ไม่รู้ว่า...กำลังสงสารหมา...
หรือ...กำลังทบทวนความโง่...ตัวเอง




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2548    
Last Update : 25 ธันวาคม 2548 2:16:31 น.
Counter : 399 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

rajasit
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add rajasit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.