Group Blog
 
<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
11 กันยายน 2558
 
All Blogs
 
[R]ตะลอนนั่งรถไฟไปรัสเซีย 11 - กว่าจะถึงไซบีเรีย(3)




ที่ด่านสุดท้ายเมือง Naushki กับจุดหมายที่ทุกคนรอคอย พร้อมลุ้นระทึก
กับเรื่องความเขี้ยวของ ตม.รัสเซีย ที่ขึ้นชื่อว่าโหดหนักหนา





ฉันพกเอกสารภาษารัสเซียที่เป็นข้อตกลงระหว่าง ไทย-รัสเซีย ในการผ่อนปรน
เรื่องวีซ่าที่ไม่จำเป็นต้องมี 
หากเจ้าหน้าที่ไม่คุ้นชินกับชาวไทยที่นาน ๆ จะโผล่
มาให้เจอ
ยังเขตแดนฝั่งตะวันออกแบบนี้เมื่อเทียบกับผู้โดยสารขาเข้าที่สนามบิน

ก็แหงล่ะ...ขนาดฝรั่งชาติตะวันตกยังต้องขอวีซ่ากัน แต่ที่แปลกใจกว่านั้นคือ
ประเทศที่เคยอยู่ในการอุปถัมภ์ของอดีตสหภาพโซเวียต '
บ้านพี่เมืองน้อง' อย่าง
มองโกเลีย ต้องทำ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเดินทางไปมาหาสู่กันบ่อยเสียยิ่งกว่าสยาม
ประเทศอย่างเราเสียอีก

เมื่อขบวนรถไฟลดความเร็วลงเพื่อชะลอเทียบจอดที่หน้าอาคารสีเหลือง ซึ่งใน
ตอนนี้ทุกคนต้องนั่งประจำห้องของตนเองห้ามกระดิกย้ายหายไปไหนเด็ดขาด 
ฉันเห็นภาพของ ตม. รัสเซีย กำลังยืนเรียงแถวหน้ากระดานประจำตำแหน่ง 
คล้ายกับที่เคยเห็นแบบในจีนและมองโกเลีย ที่อาจต่างกันตรงเครื่องแบบและ
ลักษณะทางชาติพันธุ์
อีกทั้งยังดูเหมือนทางรัสเซียมีเครื่องมือการตรวจตราที่
เยอะกว่าสองประเทศแรกที่ได้กล่าวมา

ห้องของเรามีคนเพิ่มมาด้วยอีกหนึ่งคน คือแม่สาวใหญ่หนึ่งในสมาชิกแก็งมาเฟีย
เธอเข้ามานั่งประจำการยังเตียงล่างของเจ้าเด็กโต เพราะเจ้าตัวเล็กมีวีซ่าพ่วงอยู่
กับเล่มพาสปอร์ตของแม่สาวใหญ่ ...ส่วน
โกดังสินค้าที่เธอเอามาประโคมไว้ที่ห้อง
ก็จำเป็นต้องงัดออกมาสำแดงด้วย


ขณะที่เรากำลังรอการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้ยินเสียงกึงกังจากด้านใต้
รถไฟ ตลอดจนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย
จากการใช้เครื่องมือสำรวจ ตรวจ-
ตรามันทุกซอกส่วน


ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ฯ อีกกลุ่มเดินขึ้นมาบนรถไฟ แล้วบรรยากาศมาคุก็เริ่มขึ้น

เมื่อพวกเขาเริ่มตรวจพื้นที่ภายนอกตรงพื้นทางเดิน โดยเปิดพรมตรวจค้นทุกสิ่ง
อย่าง
รวมถึงเจ้าสุนัขดมกลิ่นตัวขนาดกลางขนยาวหน้าตาน่ารัก ผิดกับที่คาดไว้
ว่ามันจะต้องตัวใหญ่และหน้าโหดกว่านี้สิ!

หมดพ้นจากกลุ่มเจ้าหน้าที่พิสูจน์กลิ่น พวกโปรงัดแงะก็ตามมาต่อ เมื่อกลุ่มนี้ไป
ที่ห้องไหนเหล่า
สมาชิกทุกคนก็ต้องโดนเชิญออกไปยืนรอข้างนอกให้หมด เพราะ
ที่ภายในห้องจะโดนไข 
โดนงัด เพื่อเปิดค้น ทุกสิ่งอย่างตามใจเจ้าหน้าที่เพื่อ-
ค้นหาสิ่งของที่ถูกซุกซ่อนไว้

แหม ๆๆๆๆ อยากจะปากบอนบอกให้ได้ยินเป็นภาษารัสเซียซะจริง! 
ว่าพวกมาเฟียมันกระจายสินค้าไปตามห้องต่าง ๆ ส่วนหลักฐานอื่นที่เหลือ พวกก็
โดนโยนทิ้งออกไปทางหน้าต่างกับยัดลงใต้พื้นล่างตั้งแต่ No man’s land แล้ว  

สิบอกหั่ยยย...


เมื่อถึงตาห้องของเราบ้าง ทุกคนต่างก็ต้องออกมายืนด้านนอกมองดูเจ้าหน้าที่
รื้อค้นกันแบบจริงจัง ส่วนเจ้าหมาดมกลิ่นนั่นก็นั่งไม่ไกลนักเหลือบมองผ่าน
สายตากลมโตแบ๊วจ้องมายังเราด้วย อืม...ที่จริงก็ไม่รู้นะว่า มันคิดอะไรอยู่?


"พันธุ์อะไรอ่ะลุง" คุยเรื่องหมา ๆ คั่นเวลาดีกว่า ท่าทางจะรื้อห้องกันอีกนาน

"ลาบาดอร์ มั้ง" ลุงอันดริอาโน่ตอบ  

"ลาบาดอร์ มันขนสั้น ตัวโต นาาา"

เอาเถอะ ถึงเราจะพูดเล่นกันอยู่เบา ๆ แต่
พอนึกไปว่า
นี่ถ้าหมามันเห่าเถียงขึ้นมา มีงานเข้าแน่นอน
!

และหากเป็นเช่นนั้น เราคงอาจโดนเชิญไปสอบปากคำที่เจรจา ไต่สวน กันไม่รู้
เรื่องโดนไร้ล่ามแปล ถัดจากนั้นก็คงถูกเนรเทศไปทำเหมือง
หรือก่อทางรถไฟ-
สายลับ ๆ ที่เขตไซบีเรีย อยู่อย่างอดมื้อกินมื้อ จนขาดสารอาหารและหนาวตาย
อย่างอนาถาแบบในหนังที่เคยดูมาแน่ ๆ 

แต่ก่อนที่ฉันจะจินตนาการจนเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้ 

ก็ต้องมาลุ้นระทึกกับน้องมองโกเลียวัยรุ่นแทน ที่โดนเจ้าหน้าที่สาวร่างสูง ย้อมสี
ผมแดงแปร๊ดดูตัดกันกับชุดสีเขียวของเธอ ชี้สั่งให้เดินไปหยิบน้ำผลไม้กล่องโต
ที่วางอยู่มาให้ดูหน่อย จากนั้นเจ้าหน้าที่หญิงก็ทำการเปิดดูพร้อมกับสูดดมพิสูจน์
หาสิ่งแปลกปลอมที่ซ่อนไว้

โหย...ละเอียดเวอร์!



จบจากตรงนี้แล้ว เราก็ได้กลับไปนั่งประจำที่กันต่อเพื่อรอตรวจหนังสือเดินทาง,
ส่งแบบฟอร์มเข้าเมือง และแจ้งสำแดงสินค้านำเข้าเป็นลำดับขั้นตอนสุดท้ายกับ
เจ้าหน้าที่อีกคนที่กำลังเดินไล่หลังมาอีกชุด 

พาสปอร์ตจะถูกสแกนข้อมูลลงยังเครื่องมือไฮเทคขนาดพกพา 
กดใส่รายละเอียดลงในนั้นเล็กน้อย และประทับตราลงอย่างว่องไว
ฉันไม่ได้ถูกซักเรื่องวีซ่า ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่ลุงอันดริอาโน่อาจ
ดูน่าสงสัยนิดหน่อยเพราะหน้าตาบนเล่มพาสปอร์ตดันเกลี้ยงเกลาไร้หนวด


แล้วในที่สุด พิธีการตรวจคนเข้าเมืองก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังไม่ได้ไปต่ออยู่ดี
เพราะต้องรอพ่วงต่อกับขบวนอื่นตามเวลาที่กำหนด ดังนั้นเราจึงมีเวลาเหลือเฟือ
ตั้งห้าชั่วโมง หลายคนจึงเลือกที่จะไปนั่งพักกันในอาคาร บ้างก็เดินโต๋เต๋ไปซื้อ
ของกินที่ร้านชำตรงชุมชนเล็ก ๆ แถวนั้นกัน

ส่วนฉันน่ะเหรอคงไม่ต้องมุ่งตรงไปละลายทรัพย์ที่ไหนแล้ว
เพราะห้องน้ำคือจุดหมาย ที่รอคอยมานานแสนนาน

ได้ใช้เงินรูเบิ้ลซะที เย่! 


อ้อ...ส่วนเรื่องพวกข้าวของที่พวกมาเฟียเอามาซุกซ่อนไว้ตามมุมห้องโน้นนี้
ก็ถูกตามไล่เก็บคืนเข้าในที่ทางของตัวเองเรียบร้อย รวดเร็วว่องไวยังกับพายุ






เมื่อถึงเวลา ตู้ขบวนของเราถูกพ่วงต่อกับขบวนรถไฟอื่น 
ในระบบการจัดวางแบบที่ต้องมาเชื่อมโยงตามเวลานัดแนะแบบนี้ 
หากคำนวนพลาดไปนิดหน่อยก็คงจะล่มทั้งเครือข่าย 

จากพื้นที่โล้นโพ้นสายตาไกลลับผู้คนสู่บ้านไม้ในเขตชนบท คละไปกับภาพ
ใบไม้เปลี่ยนสีระหว่างทางที่เขตรัสเซีย
มันดูสวยแปลกตากว่าที่คาดไว้มากทีเดียว
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้คนมากหน้าหลายตาที่เห็นก็ยังดูเป็นเอเชียกันอยู่เลย 
และตอนนี้เองเมื่อเราได้ข้ามพ้นเขตแดนที่ว่า โฉมหน้าค่าตาของชาวสลาฟที่ต่าง
ไปจากเราก็เริ่มปรากฏให้เห็นเรื่อย ๆ 

ดังนั้นหลังจากสิ้นสุดปลายทางที่ขบวนรถไฟจะไปถึง
ฉันก็คงจะกลายเป็นคนหน้าแปลกสำหรับที่นั่นโดยอัตโนมัติแน่นอน


มาถึงตอนนี้ ในห้องพักเขาเราก็เหลือประชากรกันแค่สามคน
ส่วนเจ้าเด็กเล็ก
กับแม่สาวใหญ่ หายไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากนั้น
เลยได้สอบถามน้องมองโกเลียที่ยังอยู่กับเรา


...


"อ้าวนั่นไม่ใช่แม่กับน้องของเธอเหรอ?"

ฉันหลงเข้าใจว่าพวกเขามาด้วยกัน 

"ปล่าวนะ เราไม่ได้รู้จักกันเลย" น้องมองโกเลีย บอก


ถ้างั้นช่วงที่เห็นเธอเข้ามาช่วยจัดข้าวของและดูแลน้องคนเล็กนั่น คงอาจ
เพราะต้องช่วยเหลือ คนบ้านเดียวกัน ในสถานการณ์จำยอมมากกว่าละสินะ

เจ้ากาน่า จะไปลงที่อีร์คุตส์ก์เช่นเดียวกันกับฉัน
แต่เพื่อที่จะไปเรียนต่อในรัสเซีย

"จะไปเรียนวิศวะที่โน่น 4 ปี แต่ต้องเรียนภาษาก่อนปีนึง "

เธอว่าหลังจากลงรถไฟแล้ว ครอบครัวของพี่ชายที่ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่น
จะมารับไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยพรุ่งนี้ทันที

ทั้งนี้หนังสือที่กาน่าพกมาอ่านเป็นคู่มือภาษามองโกเลีย,รัสเซีย,อังกฤษ
ที่มีคำศัพท์และประโยค ที่แบ่งหมวดหมู่ไว้ พวกเราก็เลยได้ใช้ประโยชน์
จากมันนิดหน่อยสำหรับเวลาที่สื่อสารกัน


อันดริอาโน่ ได้วาดรูปแผงวงจรอะไรบางอย่างลงบนกระดาษให้กาน่าดู
พร้อมกับเล่าว่าเคยสอนอิเล็กทรอนิกส์ที่วิทยาลัยมาก่อน

"เดี๋ยวนี้ไม่สอนละ ข้าออกมาทำธุรกิจแทน"

ฉันไม่รู้เรื่องธุรกิจของลุงที่ต้องมาเดินสายตามรางรถไฟนี่สักเท่าไหร่นะ
ว่าแต่ว่า ทำไมลุงแกถึงเล่นเดินทางด้วยขบวนรถไฟนี้บ่อยครั้งเป็นว่าเล่น
อย่างปีที่ผ่านมาก็ด้วย

บนเส้นทางที่ใคร ๆ ต่างคิดว่าจะมาเยือนสักหนในชีวิตเนี่ย!





แสงแดดรำไรที่ส่องผ่านเมฆจากภายนอกแตะกระทบใบไม้สีทองที่มองเห็นนอก
หน้าต่างบ่งบอกว่านี่คือเวลาเย็นของวันแล้ว 
กาน่าได้หยิบงัดเอาหีบใส่อาหารที่อัด
ไปด้วยไข่ต้ม แฮม ไส้กรอก 
และ คิมบับ ที่ดูเหมือนว่าจะกินไปได้นานถึงสามวัน
ออกมาเปิดกางบนโต๊ะ

ลุงอันดริอาโน่ บิบะหมี่ซองเล็กที่ซื้อมาจากเมือง Naushki อัดใส่ถ้วยกาแฟชงใส่
น้ำร้อนที่มีให้ฟรีบนรถไฟและนั่งรอเส้นอืด เช่นเดียวกับฉันแต่ดูดีกว่าตรงที่พกชาม
มาเอง จากนั้น
พวกเราปิดห้องล้อมวงกินอาหารเย็นนานาชาติด้วยกัน 
แถมยังมีอู่ข้าวอู่น้ำจากเสบียงของน้องมองโกเลียที่เอามาร่วมแบ่งกันกินอีก
อาหารนานาชาติบนรถไฟมื้อนี้เลยอร่อยเป็นพิเศษกว่ามื้อไหน ๆ 




เวลานี้ดูเหมือนทุกอย่างจะสงบลง และไม่วุ่นวายเหมือนในช่วงเช้าที่ผ่านมา
หากเขาคนนั้นไม่กลับมาอีกหน... ซึ่งฉันหมายถึงตารูมเมทคนเดิมที่เคยขอย้าย
ห้องไปเมื่อคืนนั่นไง  อยู่ดี ๆ 
เขาก็โผล่มาในห้องหลังมื้อเย็นของพวกเราจบลง 

ชายมองโกเลียคนนั้น เข้าทักทายอย่างเป็นทางการพร้อมกับถือแท็บเล็ตมาด้วย 

"สวัสดีครับ ผมเป็นนักธุรกิจนำเข้าสินค้า จาก จีน เกาหลี ญี่ปุ่น "


...


ฉันนึกได้ว่าลุงอันดริอาโน่ถือวีซ่าธุรกิจสำหรับเดินทางเข้ารัสเซียนี่ บางทีพวกเขา
อาจจะอยากคุยกันก็ได้...ตัวเองก็
เลยลุกย้ายที่จากฝั่งเตียงที่นั่งกับลุงมาอยู่ยัง
ฟากเตียงของเจ้ากาน่าแทน คงน่าจะสะดวกกว่า

แต่ปล่าวเลย ที่จริงแล้วเขาตั้งใจเข้ามาคุยกับฉันต่างหาก 

"ทราบว่าประเทศไทยมีข้าวหอมมะลิที่ขึ้นชื่อ"

หะ....อะไรนะ


"ขอสไกป์สำหรับติดต่อหน่อยครับ ทางเราอยากร่วมประสานงานการส่งออก"


เขายื่นแท็บเล็ตส่งมาให้ฉัน ส่วนลุงอันดริอาโน่ได้แต่ยิ้ม ๆ
แล้วก็เดินออกไปจากห้อง 

"นี่ฉันมาเที่ยวนะไม่สนใจเรื่องธุรกิจ" ฉันบอกปัด

จะมาไม้ไหนกันเนี่ยไม่เข้าใจ

กาน่า ยื่นไข่ต้มให้กับเขาพร้อมชวนคุยอะไรก็ไม่รู้เป็นการเปลี่ยนประเด็น 
เป็นการช่วยตัดบทได้ดีมาก ซึ่งจังหวะนี้เองฉันเลยขอตัวไปข้างนอกซะเลย


...


ผ่านไปพักหนึ่ง เมื่อฉันกลับมาที่ห้อง ก็ไม่เห็นพ่อนักธุรกิจนั่นแล้ว 

ส่วนลุงอันดริอาโน ก็ได้กลับมานั่งอยู่ที่เดิม "เอ็งเจรจาการค้าเสร็จแล้วเรอะ?"

โวะ! นี่ลุงต้องพูดประชดแน่ ๆ 

"คุยอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน"

ฉันบอก พร้อมกับนึกถึงอะไรบาง 

"ไหงเมื่อคืนไม่ยอมคุยอะไรกับเราอ่ะ พูดอังกฤษไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
แถมยังหนีไปอยู่ห้องอื่นอีก แบบนี้จะเชื่อได้ไงว่ามาแบบเป็นมิตร"

ถ้าเมื่อคืนทำตัวญาติดีกว่านี้ เราคงไม่เสียความรู้สึก
แล้วนี่ทำไมเขาไม่มาคุยกับอันดริอาโน่ ที่ดูดีมีภาษีกว่าฉันตั้งเยอะ

"สงสัยพวกมาเฟีย จะไม่ชอบคนอิตาลีว่ะ" ลุงอันดริอาโน่ ตอบแกมประชด 



....


การมีมิตรสหายระหว่างทางคือลาภอันประเสริฐ
แต่ลาภตัวโตที่ว่า กำลังจะออกไปจากที่นี่ในช่วงค่ำวันนี้ซะแล้ว

"พวกเอ็งดูแลกันให้ดี ๆ ยังไงพวกมาเฟียก็อยู่ที่ข้างห้องเรา" 

อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะถึงเมืองอูลันอูเด และลุงก็กำลังเก็บข้าวของรอย้าย
ออก และยกพื้นที่เตียงล่างให้ฉันใช้ต่อ เพราะจากนี้จะไม่มีผู้โดยสารแปลกหน้า
เข้ามาเพิ่มอีกแล้ว

ถึงลุงแกจะเสียงดังคล้ายนักเลงโตและพูดมากไปหน่อย 
แต่พอใกล้จะไปแล้วพวกเราก็ใจหวิว ๆ ยังไงชอบกล


เมื่อรถไฟได้เคลื่อนจอดลงที่สถานีข้างหน้า
ลุงอันดริอาโน่ โบกมือลาพวกเราที่นี่


"Ciao แล้วเจอกันที่ มอสโก!"  




ที่เมือง อูลันอูเด กับอุณหภูมิ 0 ํC 

รถไฟจะทำการจอดครู่ใหญ่ กาน่าและฉันจึง
พากันออกไปเดินโต้ลมหนาวกัน
ด้านล่าง ก็
ไม่รู้ว่าเจ้านี่จะตื่นเต้นกับอากาศหนาว ๆ ของรัสเซียทำไมกัน? 
ในเมื่อมองโกเลียบ้านเธอดูจะโหดร้ายกว่านี้ตั้งเยอะ...ว่าไปแล้วก็นึกถึงตอนที่เรา
เปิดตู้เย็นที่บ้าน
แล้วเอาตัวเองไปยืนอังรับไอเย็นนาน ๆ จัง ซึ่งตอนนี้พวกเราก็
กำลังเข้ามายืนอยู่ในตู้เย็นยี่ห้อไซบีเรีย
ที่มีพื้นใหญ่โตจุใจเลยนะ

...

สำหรับค่ำคืนสุดท้ายในการเดินทางครั้งนี้ เราก็ต้องมาพบกับเพื่อนข้างห้อง
ที่ทำตัวไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่นัก เมื่อกาน่าเหลือบไปเห็นคนกลุ่มนี้กำลังล้อมวง
ดื่มวอดก้า โดยบังเอิญเข้าก็ยิ่งระแวงพวก
แก็งมาเฟียที่กำลังเมากึ่มกัน

เรารีบปิดล็อคห้องและพยายามไม่ออกไปเพ่นพ่านหน้าระเบียงทางเดิน หรือถ้าจะ
ออกไปห้องน้ำก็ต้องไปพร้อมกัน และเมื่อกลับมาก็จะมีเจ้าหน้าที่ตามมาไขประตู
ห้องให้

แหงล่ะ ...เราต่างก็ระแวงกลัวกันว่า
คนพวกนั้นจะมาเรียกเคาะเพื่อเจรจาธุรกิจต่ออีก!


คืนนั้นฉันนั่งดูรูปต่าง ๆ ของกาน่าผ่านแล็ปท็อปของเธอ ภาพในนั้นส่วนมากเป็น
รูปครอบครัว งานโรงเรียน ที่เป็นกิจกรรมต่าง ๆ แถมมีคลิปเต้น cover แนว k-pop
อีกด้วย เอ่อเรื่องของความนิยมเกาหลีที่มาแรงแซงโค้งเช่นนี้...
มันแลดูไม่น่า
สงสัยตั้งแต่เห็น
คิมบับ ในหีบข้าวของกาน่าแต่แรกล่ะ เพราะแม้แต่ชื่อถนนเส้น
หนึ่งในอูลันบาตอร์ก็ยังมีชื่อว่า
Seoul st. เลย

สรุปง่าย ๆ คือ วัฒนธรรมเกาหลีใต้
ได้เข้ามายึดครองมองโกเลียไปแล้วเรียบร้อย


...


แต่ก็ยังดี ที่ฉันได้ยินอะไรบางอย่าง

"ฉันมีหนังไทยเรื่องนึง"

กาน่า ค้นอะไรบางอย่างมาเปิดให้ฉันดู
พร้อมพูดว่าพระเอกหล่อมากกก

หือ...ใครกันหว่า?


หนังเรื่องนี้ มีชื่อว่า First love 
เห็นชื่อนี้แล้ว ก็ดูไม่คุ้นแฮะ
แถมยังมีคำบรรยายขึ้นประกอบเป็นภาษาแปลก ๆ อีกด้วย 
และถึงเจ้ากาน่าจะฟังภาษาไทยไม่ออกและอ่านคำแปลไม่เข้าใจสักคำ 

แต่เหตุผลที่เธอชอบเรื่องนี้มาก ก็คงเดาไม่ยากนัก
เพราะทันทีที่ "มาริโอ้ เมาเร่อ" ปรากฏตัวขึ้นมาในฉากเมื่อไหร่ 
ยัยนี่ก็จะออกอาการเพ้อเมื่อนั้น




อื่นๆ


เอกสารข้อตกลงการผ่อนปรนเรื่องวีซ่า ระหว่างไทย - รัสเซีย

https://www.thaiembassymoscow.com/download/pdf/th-ru_visaexempt_ru.pdf






Create Date : 11 กันยายน 2558
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2560 21:24:36 น. 24 comments
Counter : 2064 Pageviews.

 
ตื่นเต้นไปด้วยอ่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 11 กันยายน 2558 เวลา:19:58:29 น.  

 
โห เห็นวันนี้ไปอ่านย้อนแล้ว
กลับมาต่อที่เอนทรี่ใหม่เลยเหรอเนี่ยพี่ตุ๊ก


โดย: กาบริเอล วันที่: 11 กันยายน 2558 เวลา:20:28:26 น.  

 
สุดยอดอะ ผมว่าออกไปในแนวน่ากลัวแล้ว ค้นอะไรขนาดนั้น ที่จีนไม่เคี้ยวแบบนี้นะ ออกจะชุ่ยด้วย

เจอรูมเมดแบบนี้น่าเบื่อนะ แต่นี่ชั่วคราวไม่นานก็แยก ถือว่ายังดี

0 องศามันพอไหวครับ ถ้าใส่เสื้อป้องกันอย่างดี ขอให้ไม่มีลมพัดมา มันก็พอไหวนะ แต่อากาศแบบนั้นไม่แปลกที่เค้าจะซดวอดก้าเป็นว่าเล่น

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กันยายน 2558 เวลา:23:53:16 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 13 กันยายน 2558 เวลา:2:18:08 น.  

 
เจาะรายละเอียด พลอยตื่นเต้น...

อะไรจะขนาดนั้น ตรวจละเอียดยังกะนำยาเสพติด
ไปด้วย..


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 13 กันยายน 2558 เวลา:4:37:23 น.  

 
@Toor36 ___ รื้อค้นแบบนั้น มองในแง่ดีก็คือ เขาเข้มงวดจริงๆเนอะ
ดูจากรูปการณ์ของเพื่อนร่วมขบวนกลุ่มนั้น ขนอะไรมามั่งก็ไม่รู้ 555
แต่นึกไปถึง ตม. จีน กับมองโกเลีย ไม่ค่อยเข้มเท่าไหร่จริงๆ

จะบอกว่าโดน ตามองโกเลียนั่น ยืมปลั้๊กแปลงไฟไปใช้แล้ว จะเนียนไม่คืนด้วย ... อ้างว่าเราลงที่เดียวกันนี่ จะรีบเอาคืนทำไม
นิสัยเสียยย!!!
พอเค้าอยู่รวมกับพวกฯแล้ว ยังกะคนละคนก่อนย้ายห้องไปเลยล่ะ

@ไวน์กับสายน้ำ : ละเอียดมาาากกกกก จริงๆค่ะ
ถ้าด่านชายแดน บ้านเรา เข้ม + เขี้ยว แบบนี้
ฟ้าก็ว่าจะดีไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะ



โดย: กาบริเอล วันที่: 13 กันยายน 2558 เวลา:10:15:12 น.  

 
อยากได้สปอนเซอร์ครับ แต่ไม่มี เค้าไม่ฟ้องกลับก็บุญแล้วครับที่เอาผลิตภัณฑ์เค้ามาเล่น 555


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 กันยายน 2558 เวลา:15:24:26 น.  

 
ถึงจะมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ตรวจละเอียดยิบขนาดนั้น ดูแล้วประสาทเสียเหมือนกันเนอะ

เกาหลีฟีเวอร์ ไปถึงโน่นเลยเหรอ

วิวระหว่างทางพี่ชอบภาพที่ 3-4 ค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ฟ้าใสวันใหม่ Food Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 13 กันยายน 2558 เวลา:19:25:08 น.  

 
แต่ค้นละเอียดขนาดนั้นก็ยังไม่เท่าฝ่ายมาเฟียสินะ เฮ้อออออ

อีตานั่นนึกไงมาติดต่อธุรกิจอ้ะ ไม่น่าไว้ใจอย่างที่ฟ้าว่าจริงๆ

ฮาที่ฟังภาษาไม่ออกแต่ก็ยังชอบหนังเพราะมาริโอ้ กร๊ากกกก

จะหายไปไหนเนี่ย เดินทางหรือเปล่า เดินทางปลอดภัยนะ

โหวตให้จ้า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 กันยายน 2558 เวลา:10:47:11 น.  

 
ครั้งแรกกับคาเฟ่แมวเหมือนกัน ลูกพี่อยากไป

สฟิงซ์ ... ไม่ไหว พี่ว่าหน้าตาผิวพรรณเค้าชอบกลๆ 5555 แต่หมอกเมฆชอบ จะอุ้มจะเล่นให้ได้

หมอกสูง 160 กว่า เมฆกำลังตามไปติดๆ ต่อไปแม่ก็จะแคระที่สุดในบ้านแล้ว

พี่เคยคิดจะปิดคอมเมนท์เหมือนกันนะ คิดไปคิดมา คนเข้ามาบล็อกเรา บางคน เค้าจะออกไป โดยไม่คอมเมนท์อะไรก็ได้ แต่เค้าเมนท์... พี่ตีความว่า เค้าน่าจะอยากคุย จะทักเราจริงๆ มัง

ระยะหลังนี้ เหลือขาประจำบล็อกไม่เยอะหรอก พี่ว่ากันเองหน้าเก่าๆ ทั้งนั้น อย่าปิดเลย เนาะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 14 กันยายน 2558 เวลา:17:51:19 น.  

 
ดมพิสูจน์หาสิ่งแปลกปลอมจากน้ำผลไม้กล่อง โอ้ ตรวจละเอียดจริงนะน้องฟ้า

นายนักธุรกิจคนนั้น ดีแล้วค่ะที่น้องฟ้าหลีกเลี่ยง ไม่น่าไว้ใจเลยเนอะ

การโบกมือร่ำลาเพื่อนร่วมทางที่พอจะคุยกันถูกอัธยาศัยอย่างลุงอันดริอาโน่ หรือการอำลาใดๆก็แล้วแต่กับคนที่รู้สึกดีต่อกันก็มักจะหวิวๆอย่างน้องฟ้าบอกจริงๆค่ะ

น้องฟ้าจะหายไปนานเหรอคะ ถ้าเดินทางก็ขอให้สนุกและปลอดภัยนะคะ
ปิดคอมเมนท์ชั่วคราว พี่ต๋าเองยังไม่เคยปิดเหมือนกันค่ะ
แต่เพื่อนบางคนเค้าปิดเพราะเกรงใจเพื่อนที่เข้ามาทักแล้วไม่ว่างตอบกลับประมาณนั้น
น้องฟ้าตัดสินใจยังไงก็ตามนั้นค่ะ
ถ้าเปิด พี่ต๋าก็มาส่องๆ แวะมานั่งเล่น มาดูบ้านให้ได้
ถ้าปิด ก็ยืนนอกรั้วบ้าน สรุปว่ามาหาอยู่ดีค่ะ อิอิ

เดี๋ยวพี่ต๋าแวะมาใหม่นะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 14 กันยายน 2558 เวลา:22:15:18 น.  

 
ส่งกำลังใจให้น้องฟ้าค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

-----------------------

นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:0:06:13 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
""""""""""""""""""""""""
ขึ้นชื่อว่า มาเฟีย ไม่ว่า มาเฟียประเทศไหนๆในโลกนี้ ก็มักมีอะไรๆคล้ายๆกัน และไม่น่าเข้าใกล้เลยฮ่าๆ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:7:03:29 น.  

 
ตื่นเต้นตลอดการเดินทางเลยเน้อ
สาวไทยตัวเล็ก ๆ เธอช่างเก่งกล้านัก
จัดไปหนึ่งกำลังใจค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:10:06:13 น.  

 
อ่านไปตื่นเต้นไป เคยเรียนห้องเดียวกันกับเพื่อนที่มาจาก ไซบีเรีย เค้าถามเราว่า รู้จักอะไรที่ไซบีเรียมาก เราบอกรู้จักแต่ น้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ 555
รัสเซียเค้าขึ้นชื่อเรื่องการตรวจเข้มข้นมากๆ ขนาดวีซ่าที่จะขอจากเยอรมันไปรัสเซียต้องระบุชัดเจนว่าไปกี่วัน โปรแกรม และพักที่ไหนกับใคร มีเพื่อนเยอรมันกลับมาจากเที่ยวรัสเซียบ่นอุบ ..บอกว่ารัสเซียเค้าคุมแบบ 1000% เลย

เรื่องน้องหมาที่ด่านตรวจ...จะบอกว่า ที่เยอรมัน โดยเฉพาะที่สนามบิน ถ้าเจ้าหน้าที่จูงน้องหมา...เดินมาดม ตรวจผ่านผู้โดยสารขาเข้าเนี่ยนะคะ ห้ามเอามือไปลูบไปจับหมานะคะ ไม่ได้เลยคร่ะเพราะน้องเค้า "อยู่ในหน้าที่" ต้องทำงาน และน้องหมาถ้าเค้าเจออะไรผิดปกติ (ได้กลิ่นนั่นแหละ) เค้าจะ ไม่เห่าเลยนะคะ เค้าจะ "นั่งแปะ" หมอบแม่งตรงหน้าผู้ต้องสงสัย! เลยล่ะฮ่ะ ดังนั้นถ้ามาเยอรมัน แล้วหมาตำรวจทำท่าจะนั่งตรงหน้าเนี่ย... ให้รีบเตะมันให้ไปนั่งไกลๆนะคะ 555 เพราะนั่นหมายถึง คุณจะโดนจับตรวจแบบส่องกล้องเอ็กซ์เรย์กันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


โดย: Max Bulliboo วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:14:58:11 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:18:38:53 น.  

 
+


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:20:20:52 น.  

 
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


อ่านทุกตัวอักษรด้วยความตื่นเต้น บรรยายซะเห็นภาพเลยนะคะ
น้องฟ้าเก่งจริงๆ เป็นสาวน้อยนักเดินทางที่ใจกล้ามากๆ ท้องฟ้าในรูปทุกรูปสวยมาก แม้จะเป็นสีฟ้าหม่นๆก็ตาม แต่สีสันก็ตัดกันดีกับสภาพภูมิประเทศและอาคาร


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:21:59:29 น.  

 
มานั่งรถไฟเที่ยว้วยคนจ้า
RW แล้วตัวหนังสือโตๆอ่านง่ายขึ้นเยอะเลย
ถูกใจคนสายตาเริ่มจะไม่ดีแบบพี่มากๆ อิอิ

อ่านจนจบมายิ้มขำกับบรรทัดสุดท้าย

เดี๋ยวนี้การแลกเปลี่ยนวัฒธรรมผ่านหนัง ผ่านละครได้ผลนัก ไปไกลทั่วโลกเลยล่ะ !


โดย: AdrenalineRush วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:22:12:48 น.  

 
สิ่งรักๆที่เรียกว่าเล็ก เอ้ย! สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ยังไม่เคยดูเช่นกันจ้า
คนต่างชาตินำเสนอหนังไทย ผมคิดถึงแต่ต้มยำกุ้งของโทนี่จา

ด่านตรวจอย่างเข้มเลย ผมเคยลงสนามบินที่เอาหมามาเดินดมกระเป๋าหนเดียวคือที่ออสเตรเลีย ถึงจะไม่ได้พกอะไรผิดกฎหมายหรือของต้องดีแคลร์แต่รู้สึกหมามันน่ากลัวขึ้นมาเป็นพิเศษ
...แต่มาเฟียมองโกลก็ยังส่งของกันได้สะดวกโยธิน เฮๆ~ มีไปยังงั้นละครับด่านตรวจ อิอิ
ชอบที่ชาวต่างชาติรู้ว่าไทยมีข้าวหอมขึ้นชื่อนะครับ ของดีๆมีอยู่มากมาย :D แต่ส่วนใหญ่รู้จักว่าบ้านเราเป็นเมืองหลวงกะหรี่โลก D:
อุณหภูมิ 0 องศา ออกไปข้างนอกคงต้องป้องกันตัวเองเต็มที่ ตอนอยู่เมืองไทยก็อยากเห็นหิมะนะครับ แต่ไปอยู่เมืองหนาวแล้วรักเมืองไทยขึ้นมาทันตา

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ชีริว วันที่: 15 กันยายน 2558 เวลา:22:26:15 น.  

 
อาคารสีเหลือง คล้ายกับ อาคารที่พระราชวังบางปะอิน
เกาะรถไฟไปด้วยคนครับ คุณฟ้า


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 17 กันยายน 2558 เวลา:16:32:42 น.  

 
นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะน้องฟ้า
มีความสุขในวันหยุดค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 19 กันยายน 2558 เวลา:1:13:46 น.  

 
วันนี้มีโอกาสแวะมาอ่านต่อ
อ่านแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นสาวไทยที่ใจกล้ามากๆ
เป็นประสบการณ์การเดินทางที่ควรบันทึกไว้ให้ละเอียดแบบนี้ ดีค่ะ
ภาพวิวสวยทุกภาพเลยค่ะ


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 20 กันยายน 2558 เวลา:14:51:46 น.  

 
ที่ลุงแอ็ดไปตลุยมา เป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย...


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 14 มกราคม 2562 เวลา:0:10:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.