..............................................................

′พระองค์ศรีรัศมิ์′ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ กลับสู่สถานะของสามัญชนในชื่อ ′น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี′ รวมระยะเวลาในฐานันดรศักดิ์ประมาณ 9 ปี ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศเรื่องขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศในคืนวันที่ 12 ธันวาคม เรื่อง ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารได้นำความขึ้นกราบบังคมทูล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นลายลักษณ์อักษรว่า

ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว พระราชทานพระบรมราชานุญาต ประกาศณ วันที่ 11 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ภายหลังได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ อันมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2557 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ กลับสู่สถานะของสามัญชนในชื่อ น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี

โดยได้มีการทำบัตรประชาชนใหม่ที่สำนักงานเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในบัตรประชาชนได้ระบุที่อยู่บ้านเลขที่ หมู่ที่ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โดยระบุวันย้ายเข้า 11 ธ.ค.2557

ทำบัตร - น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี ซึ่งสละฐานันดรศักดิ์แล้ว เดินทางไปทำบัตรประชาชนที่สำนักงานเขตดุสิต กทม. โดยยิ้มแย้มทักทายกับประชาชนที่ไปติดต่อราชการ และมีผู้ถ่ายภาพไว้นำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย

                                         ...............................................................

น.ส.ศรีรัศมิ์ได้ย้ายเข้าพำนักที่บ้านดังกล่าว เริ่มต้นชีวิตสามัญชน พร้อมกันนี้ยังได้ลาออกจากการเป็นข้าราชการทหารด้วย

ทั้งนี้ น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี มีชื่อเล่นว่า "อี๊ด" เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2514 ปัจจุบันมีอายุ 43 ปี เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 5 คนของนายอภิรุจและนางวันทนีย์ สุวะดี เป็นชาวจังหวัดสมุทรสงคราม

น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ก่อนจะเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการทั่วไป เมื่อปี พ.ศ.2540

และสำเร็จการศึกษาปริญญาโท หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คหกรรมศาสตร์) ภาคพิเศษ สาขาวิชาเอกพัฒนาการครอบครัวและเด็ก คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี เข้าถวายการรับใช้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์

นอกจากนี้ยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านศิลปาชีพ และได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ต่อมาในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2544 เข้ารับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น "หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา" 

 ...............................................................

ในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2545 บิดาและมารดาของ น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว ได้รับพระราชทานนามสกุลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารว่า "อัครพงศ์ปรีชา"

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2547 น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้า ฝ่ายใน หลังจากประสูติพระโอรสคือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2548 ปัจจุบันมีพระชันษา 9 ปี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2548

กระทั่งวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2557 กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีหนังสือคำสั่งยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน "อัครพงศ์ปรีชา" พร้อมให้ผู้ที่ใช้นามสกุลดังกล่าวกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิมคือ "สุวะดี" และในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2557 ได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์กลับคืนสู่สามัญชน

รวมระยะเวลาในฐานันดรศักดิ์ประมาณ 9 ปี ตลอดระยะเวลาในฐานันดรศักดิ์ น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี จะปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ มากมาย โดยส่วนใหญ่เน้นไปที่ครอบครัวและเด็ก โดยโครงการแรกคือ โครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูกที่รณรงค์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

นอกจากนี้ยังจัดตั้งโครงการศูนย์สามวัยสานสายใยรักแห่งครอบครัว ก่อตั้งขึ้นจากการเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัวเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เน้นความต่อเนื่องเชื่อมโยงเป็นวงจรทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยพ่อแม่ และวัยปู่ ย่า ตา ยาย

เพื่อเป็นการบูรณาการการดำเนินงานของทุกภาคส่วน ในการให้บริการประชาชนแบบองค์รวม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่จัดตั้งทั้ง 2 โครงการ น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี จะเดินทางไปติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน ของโครงการในต่างจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนประชาชนด้วย

น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี ปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้าย ในการเป็นประธานเปิดมหกรรม 9 ปี สายใยรักแห่งครอบครัว เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2557 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพคเมืองทองธานี

นอกจากนี้ น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี ยังได้ก่อตั้ง "ศุโขโยคะ" ซึ่งเป็นโครงการเสริมสร้างสุขภาพ ณ พื้นที่ควบคุมในพระองค์ 904 ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปี พ.ศ.2555 เพื่อให้ข้าราชบริพารและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้ประโยชน์ ซึ่งได้ปิดตัวลงในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2557

(ที่มา:มติชนรายวัน 14 ธ.ค.2557)