*
" ... สิ่งที่เค้ามีความสุขมันเกิดขึ้นจากการที่เค้าเห็นความหมายในการงานที่เค้าทำ และผมว่า นั่นคือความหมายของชีวิต
ผมเคยเขียนหนังสือเล่มนึง ชื่อว่า "กัมพูชาพริบตาเดียว" ตอนเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาเสร็จไม่นานนักนะครับ มีน้องคนนึงเคาะ msn มาหาผม แล้วก็บอกผมว่า เฮ้ยพี่ ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้วและชอบมากเลย ผมแต่งเพลงจากหนังสือเล่มนี้ด้วย ผมก็เลยบอก เฮ้ย งั้นส่งมาให้ฟังหน่อย น้องเค้าก็ส่งเพลงนั้นมาให้ฟังนะครับ ผมฟังครั้งแรกแล้วผมรู้สึกว่า ผมชอบมาก เพราะว่าเค้าจับเนื้อหาช่วงที่ผมพยายามจะบอกในช่วงท้ายเล่มเนี่ยออกมาแต่งเพลงได้เพราะมาก และเค้าก็ร้องเพลงนี้ได้เพราะมากนะครับ
ในหนังสือเล่มเนี้ย มันพยายามจะตั้งคำถามนะครับว่า ในช่วงเวลาสองหมื่นกว่าวันเนี่ย ที่เราเกิดมาเนี่ยเราใช้ชีวิตไปเพื่ออะไรกันแน่ เราใช้ไปเพื่อสร้างปราสาทหินขนาดใหญ่ เพื่อบอกว่าเรามีอาณาจักรที่ใหญ่โต
หรือ เราจะใช้สองหมื่นกว่าวันเนี้ย ไปกับการสร้างรอยยิ้มให้คนอื่น สร้างความสุขให้คนอื่น
และเพลงๆนั้นก็คือเพลง "สองหมื่น"
และน้องชายคนนั้นก็คือแสตมป์นะครับ
หลังจากที่ได้เพลงจากแสตมป์มาเนี่ย ผมก็ได้อ่านหนังสือเล่มนึง เป็นหนังสือของอาจารย์ท่านนึงนะครับ
พวกเราที่เข้าไปเรียนคณะสถาปัตย์เนี่ย จะต้องวาดสามสิ่งให้เป็นนะครับ คือ คน รถ ต้นไม้
อาจารย์ที่สอนผมคือ อ.แม้ว แกเล่าให้ฟังว่าตอนที่เรียนอยู่เนี่ยแกสเก็ตช์ต้นไม้แบบสวยนิ้งเลย และเอาไปให้อาจารย์ของแกดู
อาจารย์ของ อ.แม้ว ชื่อ อ.แสงอรุณ
อ.แสงอรุณรับรูปต้นไม้จาก อ.แม้วไปดูแล้วบอกว่า นี่ไม่ใช่ต้นไม้
อ.แม้ว ก็ดู เหมือนขนาดนี้ ไม่ใช่ต้นไม้อีกเหรอ
ก็ไม่ท้อใจครับ ออกไปวาดต้นไม้ต้นใหม่มาอีกต้นนึง สวยกว่าต้นเดิม เอากลับมาส่ง อ.แสงอีก
อ.แสง ดูแล้วบอกว่า นี่ก็ไม่ใช่ต้นไม้
อ.แม้ว เริ่มโมโห แล้วต้นไม้มันต้องเป็นไงคะจารย์
อ.แสง เลยบอกว่า ต้นไม้ที่แท้จริงมันไม่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง
ต้นไม้จริงๆเนี่ย มันต้องมีนกบินอยู่รอบๆต้นไม้
มันต้องมีกระรอกคอยวิ่งอยู่ตามกิ่งไม้
มันต้องมีผีเสื้อบินอยู่รอบๆมัน
มันจะต้องมีหนอนมีแมลงคอยชอนไชดินให้มัน
อ.แสง บอกว่า สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ต้นไม้มันเป็นต้นไม้
จริงๆแล้วตัวต้นไม้จะไม่เป็นต้นไม้เลยถ้าไม่มีชีวิตแวดล้อมมัน
ผมฟังเรื่องจาก อ.แม้วผมก็ได้คิดครับว่า
ต้นไม้นี่เหมือนชีวิตคนเรา
คนเราเนี่ย ตัวเราเองเนี่ย ไม่มีความหมายอะไรเลยครับ เราจะมีอยู่ไม่มีอยู่ก็ได้จริงๆเราไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
แต่ความหมายของเราเนี่ยมันเริ่มมีขึ้น เมื่อเรามีความหมายกับคนอื่น
เมื่อเราเป็นลูกของพ่อของแม่
เมื่อเราเป็นพี่ชายของน้องสาว
เมื่อเราเป็นลูกน้องของเจ้านาย
เมื่อเราเป็นเจ้านายของลูกน้อง
เมื่อเราเป็นสามีของภรรยา
เมื่อเราเป็นคนรักของคนรัก
เมื่อเราเป็นหมอของคนไข้
เมื่อเราเป็นสถาปนิกของเจ้าของบ้าน
ผมว่าความหมายของชีวิตอาจจะเป็นอย่างนั้นมั๊งครับ
และมันก็น่าตั้งคำถามเหมือนกันว่า ถ้าคนเรามีชีวิตอยู่ประมาณสักสองหมื่นวัน เราจะใช้เวลาภายในสองหมื่นวันนี้ไปทำอะไร
เราจะสร้างความสุข สร้างรอยยิ้มให้กับคนอื่นได้มากแค่ไหน
เพราะว่า ผมว่าเราทุกคนก็เป็นคนที่ควรอยู่สำหรับคนอื่นเช่นกันครับ"
** นี่คือสิ่งที่นิ้วกลมพูด ก่อนที่สิงโตจะเล่นเพลงสองหมื่นของแสตมป์ในบ่ายวันนั้นที่สกาล่า
ข้าน้อยเป็นคนที่ชอบเรื่องราวและที่มาของเพลงนะ เพราะมันทำให้เราฟังเพลงนั้นได้ลึกซึ้งมากขึ้น
และ หลายคนคงรู้ที่มาที่ไปของเพลงนี้อยู่แล้ว .. สองหมื่น
แสตมป์เองพูดอยู่บ่อยๆในหลายครั้งที่เล่นเพลงนี้ ..สัมภาษณ์ที่ไหน ก็บอกอยู่บ่อยครั้ง รึแม้แต่บนปกCD ก็ตาม ^^ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นิ้วกลมพูดถึงเพลงๆนี้
แต่นี่มันดูเป็นโอกาสพิเศษเนาะ มันพิเศษตรงมันรู้สึกได้ถึงแรงบันดาลใจของแรงบันดาลใจของแรงบันดาลใจ...อ่ะ
นี่แหละ .. แรงบันดาลใจ มันมีเวลามากกว่าสองหมื่นวัน ^_^ มันส่งผ่านแรงนั้นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด
***
ปล. โปรดอย่าถาม.. ว่าข้าน้อยพิมพ์ทุกคำของนิ้วกลมข้างบนนี้ออกมาได้ยังไง ^^!