วันนี้ได้มีโอกาสทำบล็อก ญี่ปุ่นอีกครั้ง พอดีว่าผม อัพบล็อก อาหารญี่ปุ่น และไปเจอ คำว่า Sendai คำนี้เป็นประกาย ประหลาดใจให้เป็นอย่างมาก คือว่าแบบนี้ครับ ผมนั่งรถไฟเพื่อไปลงที่สถานี มิโต Mito เป็นประจำ เมื่อสมัยที่ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น คือรถไฟสาย Sendai - โตเกียว หรือ อุเอะโนะ


มาวันนี้ทำให้คิดว่า ทำไมตรูไม่เคยไปให้ถึง Sendai  ดูสักครั้ง  ไม่เข้าใจตัวเองเลย....    เมื่อมาดูแผนที่ก็พบว่าผมเคยไปที่  Fukushima และมันก็อยู่ไม่ไกลจาก Sendai เลย....  Fukushima  ก็เป็นเมืองที่มีเรื่องราวมากมาย ไว้ผมลองหาชื่องสถานที่ต่างๆดูว่าเคยไปที่ไหนของ Fukushima  วันนี้ขอ วก กลับมาที่ Sendai ก่อนนะครับ ก็เป็นที่เดียวที่จะให้ข้อมูล แด่ผมได้ดีคือ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี




เทศกาลเซนไดทานาบาตะ

เซ็นไดเป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิยางิประเทศญี่ปุ่นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุและเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองทางตอนเหนือของโตเกียว ณ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เมืองนี้มีประชากร 1,091,407 คนใน 525,828 ครัวเรือนและเป็นหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เมืองที่กำหนด 20 เมืองเมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1600 โดยdaimyō Date Masamune มีชื่อเล่นว่าเมืองแห่งต้นไม้ (Mori no Miyako) มีต้น zelkova เรียงรายอยู่ตามเส้นทางสัญจรหลักหลายแห่งเช่นถนนโจเซ็นจิ Jōzenjidōri) และถนนอาโอบะ (Aoba dōri) ในฤดูร้อนจะมีการจัดงาน Sendai Tanabata Festival ซึ่งเป็นเทศกาลทานาบาตะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นในฤดูหนาวต้นไม้จะประดับประดาด้วยไฟนับพันดวงสำหรับการประกวด ของ Starlight (Hikari no pējento) ยาวนานถึงเกือบเดือนธันวาคม



เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 พื้นที่ชายฝั่งของเมืองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งขนาด 9.0 ซึ่งก่อให้เกิดสึนามิทำลายล้าง






เทศกาลเซนไดทานาบาตะ


สมัยเอโดะ

แม้ว่าพื้นที่ Sendai จะมีผู้คนอาศัยอยู่เมื่อ 20,000 ปีก่อน แต่ประวัติศาสตร์ของ Sendai ในฐานะเมืองเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1600 เมื่อ daimyō Date Masamune ย้ายไปที่ Sendai มาซามุเนะ ไม่พอใจกับฐานที่มั่นเดิมของเขา อิวาเดะยามะซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของดินแดนของเขาและเข้าถึงได้ยากจาก เอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) เซ็นได เป็นสถานที่ในอุดมคติตั้งอยู่ในใจกลางของดินแดนที่กำหนดขึ้นใหม่ของ มาซามุเนะ บนถนนสายหลักจากเอโดะและใกล้ทะเล โทคุงาวะอิเอยาสึ ให้สิทธิ์ มาซามุเนะ สร้างปราสาทหลังใหม่ใน อาโอบายามะ หลังศึก เซกิงาฮาระ ผู้ปกครองคนก่อนของพื้นที่ เซนได เคยใช้ปราสาทที่ตั้งอยู่บน อาโอบายามะ ในเวลานี้เซ็นไดเขียนว่า千代 ("หนึ่งพันชั่วอายุคน") เนื่องจากวัดที่มีพระพุทธรูปหนึ่งพันองค์ (千体, sentai) เคยตั้งอยู่ในอาโอบายามะ / มาซามุเนะ เปลี่ยนอักษรคันจิเป็น "仙臺" ซึ่งต่อมากลายเป็น "仙台" (ตามตัวอักษร: "ฤาษี / พ่อมด" บวก "ชานชาลา / ที่ราบสูง" หรือเปรียบเปรยมากกว่านั้นคือ "ฤๅษีบนแท่น / ที่สูง") ตัวละครดังกล่าวมาจากบทกวีจีนที่ยกย่องพระราชวังที่สร้างโดย จักรพรรดิเหวินแห่งฮั่นจีน (ครองราชย์ 180–157 คริสตศักราช) โดยเปรียบเทียบกับพระราชวังในตำนานใน เทือกเขาคุนหลุน ประเพณีกล่าวว่า มาซามุเนะ เลือกคันจิตัวนี้เพื่อที่ปราสาทจะเจริญรุ่งเรืองตราบเท่าที่ภูเขาที่มีฤาษีอมตะอาศัยอยู่

Masamune สั่งให้สร้างปราสาท Sendai ในเดือนธันวาคม 1600 และสร้างเมืองปราสาทโดยรอบในปี 1601 ถนนที่มีผังกริดในใจกลาง Sendai ในปัจจุบันเป็นไปตามแผนของเขา





ฟุคุชิมา / มิโต / เซนได / แผนที่



ยุคปัจจุบัน
แผนที่เมืองปี 1927 ฉบับภาษาญี่ปุ่น

เส้นทางรถไฟสายแรกระหว่าง Sendai และ Tokyo ปัจจุบันคือTōhoku Main Line เปิดให้บริการในปีพ. ศ. 2430 โดยนำพื้นที่นี้ภายในหนึ่งวันเดินทางจากโตเกียวเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Tohoku Imperial University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของภูมิภาคนี้ก่อตั้งขึ้นในเซ็นไดในปี พ.ศ. 2450 และกลายเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของญี่ปุ่นที่เปิดรับนักศึกษาหญิงในปี พ.ศ. 2456





วิกิพีเดีย
ปราสาทอาโอบะ (青葉城, Aoba-jō) เป็นปราสาทญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเซ็นไดจังหวัดมิยางิประเทศญี่ปุ่น ตลอดสมัยเอโดะปราสาทอาโอบะเป็นที่ตั้งของตระกูลดาเตะไดเมียวแห่งดินแดนเซนได ปราสาทแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Sendai-jō (仙台城) หรือGojō-rō (五城楼) ในปี 2546 ซากปราสาทถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ


เซ็นไดถูกรวมเป็นเมืองเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2432 โดยมีการบูรณะระบบเทศบาลสมัยใหม่หลังเมจิหลังจากการยกเลิกระบบฮัน ในช่วงเวลาของการรวมตัวกันพื้นที่ของเมืองคือ 17.45 ตารางกิโลเมตร (6.74 ตารางไมล์) และประชากร 86,000 คน เมืองขยายตัวอย่างไรผ่านการผนวกเจ็ดที่เกิดขึ้นระหว่างปีพ. ศ. 2471 ถึง พ.ศ. 2531 เมืองนี้ได้กลายเป็นเมืองที่กำหนดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2532 ประชากรของเมืองเกินหนึ่งล้านคนในปี 2542






Sendai City Hall


เซ็นไดถือได้ว่าเป็นเมืองที่เขียวขจีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะมีต้นไม้และต้นไม้จำนวนมาก เซ็นไดกลายเป็นที่รู้จักในนามเมืองแห่งต้นไม้ก่อนการฟื้นฟูเมจิหลังจากที่อาณาจักรเซนไดในศักดินาส่งเสริมให้ชาวเมืองปลูกต้นไม้ในสวน เป็นผลให้บ้านวัดและศาลเจ้าหลายแห่งในเซนไดมีป่าในครัวเรือน (屋敷林, ยาชิกิริน) ซึ่งใช้เป็นทรัพยากรสำหรับไม้และวัสดุในชีวิตประจำวันอื่น ๆ

ในปีพ. ศ. 2468 สาย Senseki ไปยังสถานี Sendai ได้กลายเป็นเส้นทางรถไฟใต้ดินสายแรกในญี่ปุ่นก่อนการเปิดให้บริการของ Tokyo Metro Ginza Line (รถไฟใต้ดินสายแรกของเอเชีย) ภายในเวลาสองปี




เครดิตภาพ วิกิพีเดีย
Tohoku University (東北大学, Tōhoku daigaku) หรือ Tohokudai (東北大, Tōhokudai) ตั้งอยู่ใน Sendai, Miyagi ในเขตTōhokuประเทศญี่ปุ่นเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติของญี่ปุ่น เป็นมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลแห่งที่สามในญี่ปุ่นซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้งสามอันดับแรกพร้อมกับมหาวิทยาลัยโตเกียวและมหาวิทยาลัยเกียวโตและได้รับเลือกให้เป็นมหาวิทยาลัยประเภทท็อปของโครงการมหาวิทยาลัยระดับโลกยอดนิยมโดยรัฐบาลญี่ปุ่น ในปี 2020 Times Higher Education ได้จัดอันดับให้มหาวิทยาลัย Tohoku เป็นที่ 1 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น

ในปี 2559 มหาวิทยาลัยโทโฮคุมี 10 คณะ, บัณฑิตวิทยาลัย 16 แห่งและสถาบันวิจัย 6 แห่งโดยมีจำนวนนักศึกษา 17,885 คน ค่านิยมหลักสามประการของมหาวิทยาลัยคือ "Research First (研究第一主義)" "Open-Doors (門戸開放)" และ "Practice-Oriented Research and Education (実学尊重)"



กองพลทหารราบที่ 2 เป็นที่รู้จักกันในนาม "กองเซนได" ซึ่งตั้งอยู่ในเซนไดและได้รับคัดเลือกในท้องถิ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมีส่วนเกี่ยวข้องกับแคมเปญต่างๆมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือการรบกัวดัลคาแนล ในระหว่างการทิ้งระเบิดที่เซนไดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของเมืองถูกเผาโดยมีผู้อยู่อาศัย 2,755 คนเสียชีวิตและบ้านเรือน 11,933 หลังในเมืองถูกทำลาย







วิกิพีเดีย
สนามบินเซนได



หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่และเซ็นไดได้กลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์ที่สำคัญสำหรับภูมิภาคโทโฮคุด้วยการสร้างเส้นเลือดใหญ่เช่นทางด่วนโทโฮคุและโทโฮคุชินคันเซ็น





วิกิพีเดีย
International Center Station (国際センター駅, Kokusai Sentā-eki) เป็นสถานีรถไฟใต้ดินของ Sendai Subway Tozai Line ใน Aoba-ku, Sendai, Japan ดำเนินการโดยผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินของเมือง Sendai City Transportation Bureau


ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 กองทัพสหรัฐอเมริกาญี่ปุ่นได้ดำเนินการค่าย Schimmelpfennig และ Camp Sendai ในเมือง
มุมมองทางอากาศของท่าเรือเซนไดหลังแผ่นดินไหว 12 มีนาคม 2554

เซ็นไดเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หลายครั้งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมารวมถึงแผ่นดินไหวที่มิยางิเมื่อปี พ.ศ. 2521 ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนามาตรฐานการต้านทานแผ่นดินไหวในปัจจุบันของญี่ปุ่นและแผ่นดินไหวที่มิยางิในปี พ.ศ. 2548 ล่าสุดพื้นที่ชายฝั่งของ Sendai รวมถึงสนามบิน Sendai ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2011 ที่โทโฮคุ มีรายงานว่าสึนามิไปถึงสำนักงานวากาบายาชิห่างจากชายฝั่ง 8 กิโลเมตร (5.0 ไมล์) หลายพันคนเสียชีวิตและอีกนับไม่ถ้วนได้รับบาดเจ็บและ / หรือไม่มีที่อยู่อาศัย ท่าเรือของ Sendai ได้รับความเสียหายอย่างหนักและปิดชั่วคราวโดยเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 16 เมษายน 2554






สถานีเซ็นได (มิยางิ)



แม่น้ำฮิโรเสะ (広瀬川, Hirose-gawa) ไหลผ่านเซนได 45 กิโลเมตร (28 ไมล์) แม่น้ำนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสัญลักษณ์ของเมืองเซนไดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมันปรากฏในเนื้อเพลงของ Aoba-jō Koi-uta (青葉城恋唄; The Aoba Castle Love Song) ซึ่งเป็นเพลงยอดนิยมที่ขับร้องโดย Muneyuki Satō ปราสาทเซนไดถูกสร้างขึ้นใกล้กับแม่น้ำเพื่อใช้แม่น้ำเป็นคูน้ำธรรมชาติ แม่น้ำท่วมบ่อยครั้งจนถึงปี 1950 แต่เขื่อนและเขื่อนที่สร้างขึ้นในปี 1960 และ 1970 ทำให้น้ำท่วมหายาก




ท่าเรือเซนได




ภูเขาส่วนใหญ่ในเซนไดเป็นภูเขาไฟที่ยังอยู่นิ่งๆ ซึ่งเก่าแก่กว่าภูเขาไฟ Zaōและภูเขาไฟ นารุโกะ ที่มีชื่อเสียงในเขตเทศบาลใกล้เคียง อย่างไรก็ตามสามารถพบบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งในเมืองซึ่งบ่งบอกถึงกิจกรรมจากความร้อนใต้พิภพ แผ่นดินไหวมิยางิโอกิเกิดขึ้นนอกชายฝั่งเซ็นไดทุกๆ 25 ถึง 40 ปี แผ่นดินไหวที่มิยางิ พ.ศ. 2548 ขนาด 7.2 ริกเตอร์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2548 มีจุดศูนย์กลางอยู่ใกล้กับพื้นที่แผ่นดินไหวมิยางิโอกิ อย่างไรก็ตามสำนักงานใหญ่เพื่อส่งเสริมการวิจัยแผ่นดินไหวสรุปว่าไม่ใช่แผ่นดินไหวมิยางิโอกิโดยกล่าวว่า "... เหตุการณ์ล่าสุดไม่คิดว่าจะเป็นแผ่นดินไหวครั้งนี้เนื่องจากแผ่นดินไหวมีขนาดเล็กและบริเวณแหล่งกำเนิด ซึ่งประเมินจากการกระจายอาฟเตอร์ช็อกและคลื่นไหวสะเทือนไม่ครอบคลุมพื้นที่แหล่งที่คาดไว้ทั้งหมดแม้ว่าเหตุการณ์ล่าสุดจะทำให้ส่วนหนึ่งของพื้นที่โฟกัสของแผ่นดินไหวที่คาดการณ์ไว้แตก " ในปี 2554 แผ่นดินไหวที่โทโฮกุปี 2554 ขนาด 9.0 ริกเตอร์เกิดขึ้นนอกชายฝั่งเซ็นไดส่งผลให้เกิดสึนามิร้ายแรง





วิกิพีเดีย
Sendai Pageant of Starlight



สภาพภูมิอากาศ

เซนไดมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้น (Köppen Cfa) ซึ่งมีฤดูร้อนที่อบอุ่นและเปียกชื้นและฤดูหนาวที่เย็นและแห้ง ฤดูร้อนที่เซนไดไม่ร้อนเท่าโตเกียวทางตอนใต้ในขณะที่ฤดูหนาวจะมีอากาศอบอุ่นกว่าซัปโปโรทางตอนเหนือมาก แต่ยังคงความแตกต่างของอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนตามฤดูกาลอย่างมีนัยสำคัญ ช่วงสูงสุดอยู่ระหว่าง −11.7 ถึง 37.2 ° C (10.9 ถึง 99.0 ° F) ในเมืองหลวงประจำจังหวัดของญี่ปุ่น Sendai ประสบกับช่วงเวลาที่มีอุณหภูมิสูงมากที่สุดในช่วง 2-3 วัน (สูงนอก 0–30 ° C (32–86 ° F)) ที่ 19.6 ต่อปีเทียบกับค่าเฉลี่ยของโตเกียวที่ 49




เทศกาล Sendai Tanabata



ฤดูหนาวอากาศเย็นและค่อนข้างแห้งโดยอุณหภูมิในเดือนมกราคมจะอยู่ที่ 1.5 ° C (34.7 ° F) โดยเฉลี่ย ปริมาณหิมะต่ำกว่าเมืองต่างๆบนชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นเช่นนีงะตะและทตโตริ ฤดูร้อนอากาศอบอุ่นมากและมีฝนตกชุกในปีนี้โดยมีค่าเฉลี่ยเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 24.1 ° C (75.4 ° F) เมืองนี้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นและมีประสบการณ์เพียง 6 วันโดยมีฝนตกโดยเฉลี่ยมากกว่า 10 เซนติเมตร (4 นิ้ว) ฤดูฝนของเซนไดมักจะเริ่มในปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคมซึ่งช้ากว่าเมืองส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูนี้ลมหนาวจากมวลอากาศโอค็อตสค์ที่เรียกว่า "ยามาเสะ" พัดเข้ามาและทำให้อุณหภูมิสูงสุดในตอนกลางวันลดลง





ขนส่ง

สถานี Sendai ของ JR East เป็นศูนย์กลางการคมนาคมหลักของเมือง สถานีนี้ให้บริการโดยรถไฟ JR เจ็ดสายและเป็นสถานีหลักของสายTōhokuและ Akita Shinkansen ทางเดินใต้ดินเชื่อมต่อสถานีกับรถไฟใต้ดิน Sendai รถไฟใต้ดินมีสองสาย - Namboku ("เหนือ - ใต้") และTōzai ("ตะวันออก - ตะวันตก") มีทั้งหมด 30 สถานี เมื่อสร้างเสร็จในปี 2558 สถานี Yagiyama กลายเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่สูงที่สุดในประเทศที่ 136.4 เมตร





นอกจากระบบรถโดยสารสาธารณะแล้วรถบัสวนที่เรียกว่า Loople จะวิ่งระหว่างจุดท่องเที่ยวรอบเมือง





เมืองนี้ให้บริการโดยสนามบิน Sendai (ตั้งอยู่ใน Natori ใกล้เคียง) ซึ่งมีเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยังหลายประเทศและท่าเรือ Sendai ทางรถไฟเชื่อมไปยัง Sendai เริ่มให้บริการในวันที่ 18 มีนาคม 2550




ทางด่วนTōhokuวิ่งไปทางเหนือ - ใต้ผ่านทางตะวันตกของ Sendai และเชื่อมต่อกับทางหลวงอื่น ๆ เช่นถนน Sendai-Nambu, ถนน Sendai-Tobu, ทางด่วน Sanriku (ถนน Sendai-Matsushima) และถนน Sendai Hokubu





เรือข้ามฟากที่เชื่อมระหว่าง Tomakomai และ Nagoya จะจอดที่ท่าเรือ Sendai




Railway stations

    JR logo (east).svg East Japan Railway Company (JR East)
        Tōhoku Shinkansen: Sendai
        Tōhoku Main Line: Minami-Sendai – Nagamachi – Sendai – Higashi-Sendai – Iwakiri
        Jōban Line: Minami-Sendai – Nagamachi – Sendai
        Senzan Line: Sendai – Tōshōgū – Kita-Sendai – Kitayama – Tōhokufukushidaimae – Kunimi – Kuzuoka – Rikuzen-Ochiai – Ayashi – Rikuzen-Shirasawa – Kumagane – Sakunami – Yatsumori – Okunikkawa
        Senseki Line: Aoba-dōri – Sendai – Tsutsujigaoka – Miyaginohara – Rikuzen-Haranomachi – Nigatake – Kozurushinden – Fukudamachi – Rikuzen-Takasago – Nakanosakae
    Sendai Subway (All stations)





Highways

    Tōhoku Expressway
    Sendai-Tōbu Road
    Sanriku Expressway
    Sendai-Nanbu Road
    National Route 4
    National Route 6
    National Route 45
    National Route 47
    National Route 48
    National Route 286
    National Route 346
    National Route 457



วัฒนธรรมถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเซนไดโจเซ็นจิ - โดริ (定禅寺通り) และอาโอบะ - โดริ (青葉通り) ต่างก็เรียงรายไปด้วยเซลโควาของญี่ปุ่น สิ่งเหล่านี้คือสัญลักษณ์ของ "เมืองแห่งต้นไม้" Jozenji-Dori มีทางเดินเล่นและประติมากรรมไม่กี่ชิ้น เป็นสถานที่แห่งการพักผ่อน กิจกรรมและเทศกาลมากมายเช่น Sendai Pageant of Starlight และ Jozenji Street Jazz Festival จัดขึ้นที่ Jozenji-Dori และในสวนKōtōdai (匂当台公園) Aoba-Dori เป็นถนนสายธุรกิจหลักในเซนได ถนนสายหลักอื่น ๆ ในเมือง ได้แก่ Hirose-Dori (แปะก๊วย) และ Higashi-Nibancho-Dori






เทศกาล

เทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเซนไดคือทานาบาตะซึ่งดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่า 2 ล้านคนทุกปีและเป็นเทศกาลทานาบาตะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับเทศกาลอื่น ๆ ของญี่ปุ่นเนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักคือการตกแต่งแบบทานาบาตะที่สลับซับซ้อน

เทศกาลอาโอบะมัตสึริเป็นไปตามประเพณีเทศกาลของญี่ปุ่นโดยมีมิโคชิการลอยตัวขบวนพาเหรดซามูไรและการเต้นรำแบบดั้งเดิม

ชาวท้องถิ่นเผาของประดับตกแต่งปีใหม่และอธิษฐานเพื่อสุขภาพในช่วงปีใหม่ในช่วงเทศกาล Dontosai ซึ่งเป็นเทศกาลที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดมิยางิ






นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลร่วมสมัยต่างๆใน Sendai เช่นJōzenji Streetjazz Festival, Michinoku Yosakoi Festival และ Sendai Pageant of Starlight Jōzenji Streetjazz Festival เป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีสมัครเล่นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เริ่มเป็นเทศกาลดนตรีแจ๊สในปี 1991 แต่ไม่นานก็เริ่มเปิดรับสมัครจากทุกประเภท เทศกาลมิจิโนกุโยซาโคอิเป็นเทศกาลเต้นรำที่มาจากเทศกาลโยซาโคอิที่จัดขึ้นในโคจิ ต้นไม้ในตัวเมืองเซ็นไดถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟในช่วงที่มีการประกวด Starlights ของ Sendai งานนี้เป็นแนวคิดสำหรับเทศกาลแห่งแสงซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในริเวอร์ไซด์ซึ่งเป็นเมืองพี่ของเซนได ในปี 2548 ถนนสว่างไสวด้วยหลอดไฟจิ๋วหนึ่งล้านหลอด




ภาพวิกิพีเดีย
Gyū tan teishoku ซึ่งเป็นอาหารโต๊ะของGyū tan ใน Sendai


ความเชี่ยวชาญและงานฝีมือ


เซนไดเป็นแหล่งกำเนิดของอาหารหลายชนิด ได้แก่ กิวทัน (ลิ้นวัวมักย่าง) ฮิยาชิชูกะ (บะหมี่จีนเย็น) และ โรบาตะยากิ (บาร์บีคิวสไตล์ญี่ปุ่น) อย่างไรก็ตามภายหลังโรบาตะยากิได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ คุชิโระ ซึ่งพัฒนาและทำให้อาหารจานนี้เป็นที่นิยม ส่งผลให้หลายคนเชื่อว่า คุชิโระ เป็นต้นกำเนิดของโรบาตะยากิ Zundamochi (ずんだ餅, โมจิ ลูกที่มีส่วนผสมของ Edamame สีเขียวสดใส) และ sasakamaboko (笹かまぼこ, kamaboko ที่มีรูปร่างเหมือนใบไผ่) ก็ถือเป็นอาหารพิเศษของ Sendai เช่นกัน เซนไดขึ้นชื่อเรื่อง ซาซิมิ ซูชิและ สาเก เนื่องจากเซนไดอยู่ใกล้ท่าเรือประมงที่สำคัญหลายแห่งเช่น เคเซนนุมะอิชิโนะ มากิชิโอ กามะ และ จังหวัดมิยางิ เป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ มีร้านราเม็งมากมายในเซนไดและย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง มิโซะราเม็งรสเผ็ด โดยเฉพาะ นอกจากนี้สถานี Sendai ยังมี ekiben ประเภทต่างๆมากที่สุดในญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ร่วงผู้คนจำนวนมากจะจัดงาน อิโมนิไก ซึ่งเป็นการปิกนิกริมแม่น้ำซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำสตูว์มันฝรั่งที่เรียกว่าอิโมนิ




วิกิพีเดีย
Hiyashi chūkaราดด้วยแฮมแผ่นไข่มะเขือเทศและเมนมะ




วิกิพีเดีย
Ekiben (駅弁, เบนโตะทางรถไฟ) เป็นอาหารประเภทกล่องเบนโตะเฉพาะที่ขายบนรถไฟและสถานีรถไฟในญี่ปุ่น พวกเขามาพร้อมกับตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้ง (เมื่อจำเป็น) หรือช้อน ภาชนะเอกิเบนสามารถทำจากพลาสติกไม้หรือเซรามิก สถานีรถไฟหลายแห่งมีชื่อเสียงในเรื่องเอกิเบนที่ทำจากอาหารพื้นเมือง (โทคุซังฮิน)


งานฝีมือมากมายจากเซนไดถูกสร้างขึ้นภายใต้อิทธิพลของตระกูลดาเตะในสมัยเอโดะ ตัวอย่างเช่น Sendai Hira ผ้าไหมทอมือเครื่องปั้นดินเผาสึสึมิยากิและกระดาษ Yanagiu Washi อย่างไรก็ตามงานฝีมือบางอย่างเช่น umoregi zaiku (งานฝีมือที่สร้างจากฟอสซิลไม้) ได้รับการพัฒนาโดยซามูไรชั้นต่ำที่ต้องการงานด้านข้างเพื่อความอยู่รอด ตุ๊กตาโคเคชิได้รับความนิยมจากรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ขายให้เป็นของขวัญ การพัฒนาที่ค่อนข้างเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ เครื่องเขิน Sendai Tsuishu และเครื่องเขิน Tamamushinuri ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ได้รับการพัฒนาหลังจากการฟื้นฟูเมจิ

เซนไดเป็นที่รู้จักในเรื่องการผลิตแทนซูตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้ที่มีงานเหล็กอย่างประณีต






วิกิพีเดีย
Zuihōden (瑞鳳殿) ใน Sendai จังหวัด Miyagi ประเทศญี่ปุ่นเป็นสุสานของ Date Masamune และทายาทของเขาdaimyōแห่งดินแดน Sendai


ไซต์ที่น่าสนใจ

เซ็นไดเป็นที่ตั้งของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลดาเตะ ซากปรักหักพังของปราสาท Sendai อยู่ใกล้กับตัวเมืองของ Aobayama ซึ่งทำให้มองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของเมือง Zuihōdenเป็นสุสานของ Date Masamune และเป็นที่ตั้งของโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับตระกูล Date ตั้งอยู่บนเนินเขาที่เรียกว่า Kyogamine ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนแบบดั้งเดิมของสมาชิกในครอบครัว Date ใน Aoba-ku Ōsaki Hachiman-gū shaen ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1607 โดย Date Masamune ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมบัติแห่งชาติ Mutsu Kokubun-ji Yakushidōเป็นวัดประจำจังหวัดของจังหวัดมุทสึ



สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ใหม่กว่า ได้แก่ บ้านเดิมของ Doi Bansui นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงและอนุสาวรีย์ที่พิพิธภัณฑ์เมือง Sendai ที่ระลึกถึง Lu Xun นักเขียนชาวจีน รูปปั้นของ Lu Xun อีกรูปหนึ่งสามารถพบได้ใน Tohoku University Katahira Campus ที่ซึ่ง Lu Xun เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่กว่า ได้แก่ Tōmizuka Tomb ซึ่งเป็นหลุมฝังศพที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 4 หรือต้นศตวรรษที่ 5 และพื้นที่ Tomizawa Preserved Forest ที่ซึ่งซากที่ขุดพบของมนุษย์ยุคหิน (Palaeolithic ตอนบน - ประมาณ 20,000 ปีก่อน) มี ได้รับการคุ้มครองโดยโครงสร้างพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2539 บริเวณใกล้เคียงของTagajōเป็นป้อมปราการและศูนย์กลางการปกครองยุคแรกที่สำคัญ





พิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์เมืองเซ็นไดจัดแสดงโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับตระกูลดาเตะและประวัติศาสตร์ของเซนได ชุดเกราะและสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงของมาซามุเนะที่เกี่ยวข้องกับการเยี่ยมชมกรุงโรมของฮาเซคุระสึเนะงะงะ (สมบัติแห่งชาติญี่ปุ่น) ในบางครั้ง




พิพิธภัณฑ์ศิลปะมิยางิ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดของเซนได มีการติดตั้งประติมากรรมทั้งหมด 24 ชิ้นในสถานที่สาธารณะในเซนไดผ่านโครงการ 'เมืองแห่งประติมากรรม'




พิพิธภัณฑ์เว็บไซต์ Tomizawa ทางตอนใต้ของเมืองอนุรักษ์ป่าฟอสซิลซึ่งสามารถพบเห็นซากมนุษย์ที่อยู่อาศัยเมื่อ 20,000 ปีก่อนได้




หอรำลึกการฟื้นฟูสงครามเมืองเซ็นไดสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการโจมตีทางอากาศในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2488 ซึ่งส่วนใหญ่ของเซ็นไดถูกทำลาย




พิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองเซนได 3M พิพิธภัณฑ์วรรณคดีเซนไดและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของมหาวิทยาลัยโทโฮคุ



Akiu Great Falls (秋保大滝, Akiu Ōtaki) เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ใน Taihaku-ku เซ็นไดจังหวัดมิยางิประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่แห่งความงามที่ได้รับการกำหนดระดับประเทศ เป็นหนึ่งใน "น้ำตก 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น" ในรายชื่อที่เผยแพร่โดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นในปี 1990


เซนไดตะวันตกเป็นที่ตั้งของสถานที่ที่มีความงามตามธรรมชาติหลายแห่งหลายแห่งพบได้รอบ ๆ Akiu และ Sakunami ซึ่งเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อน สถานที่ต่างๆรอบ ๆ พื้นที่ Akiu ได้แก่ Akiu Great Falls ซึ่งบางครั้งถูกนับเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ยิ่งใหญ่สามแห่งของญี่ปุ่นและ Rairai Gorge ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสีสันของฤดูใบไม้ร่วง ช่องเขาฟุตาคุจิมีน้ำตกที่ได้รับการกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติและหน้าผาบันจิซึ่งเป็นตัวอย่างของหินบะซอลต์เสา




Tatsunokuchi Gorge มีทิวทัศน์ของไม้กลายเป็นหินที่อยู่ติดกับสะพาน Otamaya-bashi สวน Nishi และสวน Tsutsujigaoka เป็นที่ชื่นชมสำหรับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ แม่น้ำฮิโรเสะและชายฝั่งกาโมเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด

มัตสึชิมะซึ่งเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ของญี่ปุ่นอยู่ใกล้เซนไดในมัตสึชิมะ



วิกิพีเดีย
Sakunami Onsen (作並温泉) เป็นเขตรีสอร์ทน้ำพุร้อนทางตอนเหนือของญี่ปุ่นประมาณ 25 กิโลเมตร (16 ไมล์) ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมืองเซ็นไดจังหวัดมิยางิ


ไซต์อื่น ๆ

Sendai Mediatheque เป็นสถานที่อเนกประสงค์ที่มีห้องสมุดของเมืองแกลเลอรีและสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าใช้ อาคารนี้ได้รับการออกแบบโดย Toyo Ito และมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่เป็นนวัตกรรมใหม่




อาคาร AER สำนักงานจังหวัดมิยางิและอาคาร SS30 มีชั้นสังเกตการณ์ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล Sendai Trust Tower เป็นอาคารที่สูงที่สุดในโทโฮคุและฮอกไกโด




พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอุมิโนะโมริเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งสร้างขึ้นใกล้ท่าเรือเซนได



Sendai Daikannon เป็นรูปปั้น Kannon สูงประมาณ 100 ม. (328 ฟุต) รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ของญี่ปุ่นโดย บริษัท ที่เลิกกิจการไปแล้ว ครั้งหนึ่งเคยเป็นรูปปั้นที่สูงที่สุดในโลก



เซนไดยังมีเจดีย์แห่งสันติภาพซึ่งสร้างขึ้นโดย Nipponzan-Myōhōji-Daisanga ในปี 1974