|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ศธ.คลอดเกณฑ์เลื่อนงด.ขรก.พลเรือน กลุ่มดีเด่นไม่เกิน5%-ขยับสูงสุด6%
นายชินภัทร ภูมรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยผลการประชุมเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการและการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า
ที่ประชุมได้หารือเพื่อเตรียมการสำหรับการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการ ปฏิบัติราชการ รวมถึงการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสังกัด สป.ศธ. เนื่องจากปีงบประมาณ 2553 ต้องเริ่มใช้การเลื่อนเงินเดือนในระบบใหม่ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ จากเดิมเลื่อนเงินเดือนแบบขั้นเงินเดือน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ทำหนังสือเวียนแจ้ง
ซึ่งที่ประชุมกำหนดให้การประเมินผลการปฏิบัติราชการมี 2 องค์ประกอบ คือ 1.ผลสัมฤทธิ์ของงาน 80% และ 2.พฤติกรรมการปฏิบัติราชการ หรือสมรรถนะ 20%
จากที่ ก.พ.กำหนดให้ผลสัมฤทธิ์ของงานไม่ต่ำกว่า 70% แต่เนื่องจากเป็นปีแรกที่เริ่มใช้ระบบนี้ ที่ประชุมจึงให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ของงานมากกว่าสมรรถนะ เพราะการกำหนดสมรรถนะของแต่ละสายงานยังไม่ชัดเจน แต่หลังเรื่องนี้มีความชัดเจนแล้ว จะเพิ่มสัดส่วนขึ้น
นายชินภัทร กล่าวว่า สำหรับผลสัมฤทธิ์ของงาน 80% จะพิจารณาจาก 4 เรื่อง ได้แก่ 1.ปริมาณผลงาน 2.คุณภาพ 3.ความรวดเร็ว และ 4.ความประหยัดคุ้มค่า
ส่วนตัวชี้วัด และค่าเป้าหมายจะพิจารณาจากงานที่ได้รับมอบหมาย คืองานตามคำรับรองประจำปี งานตามหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก และงานที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษ ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้จะมากำหนดตัวชี้วัดประเมินผลสัมฤทธิ์ของงาน โดย ก.พ.กำหนดว่าตัวชี้วัดมีค่าน้ำหนักไม่น้อยกว่า 10% ของคะแนนรวม หรือมีไม่เกิน 10 ตัวชี้วัด เพื่อไม่เป็นภาระในการเก็บข้อมูล
ส่วนการประเมินสมรรถนะ 20% จำแนกเป็น 2 ส่วน คือ 1.สมรรถนะหลัก จะประเมินกับข้าราชการพลเรือนทุกคนใน 5 เรื่อง คือ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ การบริการที่ดี การสั่งสมความเชี่ยวชาญ การยึดมั่นในความถูกต้อง การทำงานเป็นทีม และ 2.สมรรถนะทางการบริหาร จะวัดกลุ่มข้าราชการอำนวยการขึ้นไป ประกอบด้วย 6 ด้าน คือ สภาวะผู้นำ การวางกลยุทธ์ ศักยภาพในการนำการปรับเปลี่ยน การควบคุมตนเอง การสอนงานและมอบหมายงาน
"ในการประเมินจะกำหนดช่วงคะแนน และจำนวนข้าราชการในแต่ละช่วงละคะแนน เพราะต้องผูกโยงกับการเลื่อนเงินเดือน ต่างจากระบบเลื่อนขั้นเงินเดือนในอดีต ที่ไม่มีการกำหนดจำนวนข้าราชการในแต่ละช่วงคะแนน
ฉะนั้นแม้ผลคะแนนการประเมินออกมาสูง แต่ข้าราชการกลับไม่ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือน เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด ทั้งนี้ จะแบ่งกลุ่มคนที่ได้รับการประเมินออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มปรับปรุง ต่ำกว่า 60 คะแนน กำหนดสัดส่วนข้าราชการที่อยู่ในกลุ่มนี้ 5% จะไม่ได้เลื่อนเงินเดือน,
กลุ่มพอใช้ 60-69 คะแนน สัดส่วน 10% เลื่อนเงินเดือน 0.1-1.5% กลุ่มดี 70-79 คะแนน สัดส่วน 70% เลื่อนเงินเดือน 1.6-3.0%,
กลุ่มดีมาก 80-89 คะแนน สัดส่วนไม่เกิน 10% เลื่อนเงินเดือน 3.1-4.5%
และกลุ่มดีเด่น 90-100 คะแนน สัดส่วนไม่เกิน 5% เลื่อนเงินเดือน 4.6-6.0% ทั้งนี้ การประเมินเพื่อเลื่อนเงินเดือนจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเสร็จสิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2553 และช่วงที่ 2 เสร็จสิ้นวันที่ 30 กันยายน" นายชินภัทรกล่าว
ที่มา - มติชนรายวัน หน้า 23 - วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11582
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2552 16:01:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1412 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]
|
แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
|
|
|
|
|
|
|
|