BlogGang.com : : scimovie : คาถาอาคมมีจริง?

คาถาอาคมมีจริง?

คาถาอาคมมีจริง?

เป็นของคู่กันที่แยกออกจากกันไม่ได้ นั่นคือคาถาอาคมกับไสยศาสตร์ ถึงแม้จะเข้ามาถึงยุคอวกาศกันแล้ว แต่ความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับก็ยังไม่
หมดไปจากความเชื่อของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทย ที่ยึดความเชื่อทางไสยศาสตร์อย่างเหนียวแน่น

ตกลงมีจริงไหม

ผมจะยังไม่ตอบคำถามนี้แต่จะขอใช้การอธิบายตามมุมมองของคนที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์แต่ไม่ได้ต่อต้านไสยเวทย์เสียทีเดียว จะอธิบายใน
มุมมองใดนั้นก็ลองพิจารณาตามไปนะครับ

ทำไมวัฒนธรรมของไทยไม่เหมือนสากล
ต้นกำเนิดของไสยศาสตร์มาจากพราหมณ์ ฮินดู ประมาณนี้ ไม่ได้เกิดมาจากของไทยแท้ๆ สังเกตจาก คาถาไม่ได้เป็นภาษาไทย เขาบอกว่า
เป็นภาษาของเทวดาหรือสวรรค์ มนุษย์อย่างเราๆ ฟังไม่เข้าใจหรอก แต่ใครล่ะเป็นคนคิด ถ้าไม่ใช่คน และในความเป็นจริงนั้น ภาษาบาลีก็
เป็นภาษาหนึ่งที่สามารถเรียนรู้เข้าใจได้ การท่องภาษาบาลีที่เป็นคาถาเท่านั้นหรือจึงจะศักดิ์สิทธิ์ ท่องคาถาเป็นภาษาไทยได้ไหม หรือเทวดา
มีเฉพาะผู้ที่เข้าใจภาษาบาลีเท่านั้น ฝรั่งเองก็เข้าใจในภาษาที่ไม่ใช่บาลี และเทวดาของฝรั่งก็ไม่เหมือนเทวดาแบบบ้านไทยเรา ตกลงมันยังไงกันแน่
งั้นลองวิเคราะห์สาเหตุที่ต้องมีไสยศาสตร์ดูดีกว่าว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่

1. แต่ก่อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ยังมีไม่มากและไม่กว้างพอที่จะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างตามที่มีคนสงสัยได้ เช่น ฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
สมัยนั้นก็คงจะไม่มีใครตอบได้ คนที่ต้องการยึดใจชาวบ้านหรือผู้ที่ชาวบ้านเห็นว่าน่าจะตอบได้ ก็ต้องหาทางหาคำตอบให้ได้และในเมื่อตนเอง
ก็ยังไม่ทราบคำตอบที่แท้จริงก็ต้องตั้งคำตอบเองและต้องเป็นคำตอบที่ชาวบ้านทั่วๆไปไม่สามารถพิสูจน์ได้หรือไม่มีทางรู้คำตอบ จึงบอกว่าผู้ที่
ศักดิ์สิทธิ์บนท้องฟ้าโกรธก็เลยลงโทษลงมา ถ้ามีคนถูกฟ้าผ่าตายก็ยิ่งเข้าทางว่าคนที่ถูกฟ้าผ่าตายไปทำผิดไว้หรืออาจจะสาบานไว้เมื่อผิดคำสาบาน
ฟ้าก็เลยผ่าตาย แต่ในปัจจุบันคนที่เรียนวิทยาศาสตร์ก็จะรู้แล้วว่าฟ้าผ่าเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ต้องมีตัวล่อจึงจะผ่าลงมาได้ เนื่อง
จากความแตกต่างของประจุบวกและลบ(คลิกอ่านฟ้าผ่าเต็มๆ) ถ้าจะยกตัวอย่างในปัจจุบันก็ยังมีเรื่องของ ผี นี่แหละที่ยังให้คนที่ไม่รู้คำตอบต้อง
ตกเป็นเหยื่อของคนที่มองเห็นผลประโยชน์จากการช่วยเหลือคนที่มีความทุกข์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เขาไม่เชื่อว่าผีมีจริงหรอก เนื่องจากมันไม่
มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน ฉะนั้นผู้ที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดก็ต้องพึ่งตนเองและไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ ก็แล้วกัน

2. ไสยศาสตร์มีจริงแต่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับวิทยาศาสตร์ หมายความว่า มันมีจริงแต่ไม่มีทางพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ เพราะเสมือนไสยศาสตร์
กับวิทยาศาสตร์นี้เป็นของคู่กัน ดังเช่น กายกับใจ กายเราสามารถจับต้องพิสูจน์ได้มันมีอยู่จริง แต่การจะจับเอาจิตใจออกมาให้เห็นกันจะๆ ทำไม่ได้
เช่น แต่บอกว่าคุณเสียใจมาก คำว่าเสียใจมาก มันมากแค่ไหน บอกออกมาให้คนดูหรือเห็นแบบชัดๆ ได้ไหม แค่นี้ก็คงจะพอมองแนวคิดออก
ใช่ไหมครับ (ถ้าหากอยากได้เชิงวิชาการมากต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแล้วล่ะครับ)

ถ้าไสยศาสตร์มีจริงแล้วทำไม?
1. เกิดเหตุการณ์กับเฉพาะผู้ที่มีความเชื่อเท่านั้น
ไม่เคยได้ข่าวว่าฝรั่งหรือชาวต่างประเทศเขาโดนคุณไสยเข้าตัว โดนตะปูเสกเข้าท้อง หรือเพราะว่าฝรั่งเขาไม่ได้เชื่อไสยศาสตร์ก็เลยไม่ถูก
ไสยศาสตร์เข้าตัว หรือเพราะว่าไสยศาสตร์ไม่กล้าเข้าใกล้ฝรั่ง ส่วนคนที่หมกมุ่นกลับโดนไสยศาสตร์เข้าแล้วเข้าอีก ต้องพึ่งหมอผีตลอดเลย
2. ไสยศาสตร์ไม่เป็นสากล เหมือนเป็นเฉพาะลัทธิใดลัทธิหนึ่ง เฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเท่านั้นหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นคนใดไม่เชื่อว่าไสยศาสตร์มี
จริงเขาก็จะไม่มีวันที่จะได้รับผลจากการทำไสยศาสตร์นั้นเลย

จากมุมมองที่เขียนมาอาจจะขัดแย้งกับความรู้สึกของคนที่เชื่อว่ามีจริง ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก และอาจจะพอทำให้คนที่ไม่เชื่อว่าไสยศาสตร์
มีจริงพอที่จะได้มีความมั่นใจในอีกระดับหนึ่ง แต่เราก็มักจะได้ยินว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" ผู้เขียนเองก็ขอใช้คำนี้เหมือนกัน อ้าว!!!

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2551

Last Update : 11 พฤศจิกายน 2551 15:37:48 น.

0 comments

Counter : 1061 Pageviews.