bloggang.com mainmenu search

















หัวเผือก

 .....

ชื่อสามัญ Taro ภาษาจีนเรียกว่า โอ่วไน โอ่วถึง, โทวจือ

มีสายพันธุ์มากกว่า 200 พันธุ์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

 ได้แก่ ประเภท eddoe จะเป็นเผือกที่มีหัวขนาดไม่ใหญ่

และมีหัวเล็กกว่า ล้อมรอบอยู่หลายหัว

ทุกหัวใช้รับประทานและใช้ทำพันธุ์ได้

ส่วนอีกประเภทคือ ประเภท dasheen

เป็นเผือกที่มีหัวขนาดใหญ่ และมีหัวขนาดเล็กล้อมรอบ

ใช้รับประทานได้ เผือกประเภทนี้ได้แก่ เผือกหอม

ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูก ในบ้านเรา

มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย ตอ.ต และเอเชียใต้

 ปัจจุบันมีการเพาะปลูกกันมาก จีน อินเดีย แอฟริกา

 และในหมู่เกาะในอเมริกากลาง


เผือกในเมืองไทย มีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิด ได้แก่ เผือกหอม

 ชนิดหัวใหญ่ แต่ละหัวมีน้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม

 และมีหัวเล็กติดอยู่กับหัวใหญ่เล็กน้อย

ใช้ต้มรับประทานได้ มีกลิ่นหอม

 ส่วนกาบใบเป็นสีเขียว มีขนาดใหญ่

 เผือกเหลือง หัวสีเหลืองขนาดย่อม

เผือกไม้ หรือ เผือกไหหลำ หัวมีขนาดเล็ก

และเผือกตาแดง ตาของหัวเป็นสีแดงเข้ม

มีหัวเล็กล้อมรอบหัวใหญ่เป็นกลุ่มจำนวนมาก

 กายใบและเส้นใบเป็นสีแดง

พืชกินหัว แปรรูปทั้งคาวหวาน ไม่ว่าจะเป็น แกงบวดเผือก

 เผือกอบ เผือกกวน เผือกฉาบ เผือกเส้นกรอบเค็ม

 เผือกทอด เผือกรังนก บัวลอยเผือก ข้าวเหนียวปิ้งใส่เผือก

 ไอศกรีมเผือก ฯลฯ รวมทั้งเผือกนึ่ง/ต้ม มีราคาไม่แพงนัก

เผือกมีประโยชน์และสรรพคุณหลายอย่าง

 เป็นอาหารที่บำรุง สุขภาพและให้พลังงาน

โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา ด้านการย่อยอาหาร

 นอกจากคาร์โบไฮเดรตแล้ว เผือกยังมีโปรตีน

โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 วิตามินซี

และที่สำคัญ มีธาตุเหล็กและฟลูออไรด์สูง

จึงช่วยทำให้ฟันไม่ผุ กระดูกแข็งแรง

จึงไม่ต้องห่วง เรื่องกระดูกพรุน รวมทั้งข้อเข่าเสื่อม

โดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัย ที่จำเป็นต้องได้รับแคลเซียม

เสริมในปริมาณมาก นอกจากนี้ ยังช่วยบำรุงไต

บำรุงลำใส้ และ แก้อาการท้องเสียอีกด้วย

หากใครที่ดื่มนมไม่ได้ ดื่มนมแล้วท้องอืด

หรือมีอาการแพ้นม เผือกอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

ที่จะทาน ทดแทนนม

หากอยากทานเผือก เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง

 ให้ต้มเผือก 100 กรัม กับข้าว 100 กรัม จนเป็นโจ๊ก

และทานได้เลย โดยเฉพาะในผู้ป่วย ที่กำลังเป็นไข้

จะช่วยทำให้ ฟื้นไข้เร็วขึ้น แต่ต้องทานเผือกในปริมาณ

 ที่ พอเหมาะคือ 1/2 -1 ถ้วยตวง/วัน

 เพราะหากทานมากจนเกินไป จะทำให้ม้ามทำงานไม่ค่อยดี

 และยังทำให้เลือดลมไหลเวียน ไม่ค่อยดีอีกด้วย

























ขอบคุณที่มาข้อมูล fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ

Create Date :18 พฤษภาคม 2558 Last Update :18 พฤษภาคม 2558 11:24:30 น. Counter : 5741 Pageviews. Comments :0