มะหาด

......

 ช่วงที่ผ่านมา กระแสของมะหาด มาแรง

 ไม่เฉพาะสาวๆเท่านั้น หนุ่มๆหลายคนก็ยังสนใจ

 ใช้สมุนไพร มะหาด เพื่อช่วยให้ผิวสว่าง กระจ่างใสขึ้นด้วย

 งานวิจัยที่พบว่าสารสกัดจะแก่นมะหาด

มีสารสำคัญเรียกว่า oxyresvertol

มีคุณสมบัติยับยั้ง การสร้างเมลานินเม็ดสี ในผิว

เมื่อเม็ดสีในผิวลดลง จึงเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ผิวขาว

 และสามารถนำมาผสม ในผลิตภัณฑ์กลุ่มไวเทนนิ่ง

 เพื่อช่วยเรื่องความขาวได้

แก่นมะหาด เมื่อนำมาสกัดจะมีสีน้ำตาล

 เมื่อนำมาผสมในครีม หรือโลชั่นก็จะได้ผลิตภัณฑ์สีน้ำตาล

 และความคงตัว ของสารสกัดมะหาด ในผลิตภัณฑ์

จะอยู่ได้ไม่นานนัก ไม่ถึงเดือนก็จะเสื่อมสลายไป

 หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม "อภัยภูเบศร "

 จึงไม่ทำครีมหรือโลชั่นมะหาด

 เพราะว่าความไม่คงตัว ของตัวมะหาดนั่นเอง


มะหาดเป็นไม้ยืนต้น ชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า

Lakoocha หรือ Monkey jack

มีต้นกำเนิดจากภูมิภาคเอเชียใต้

สามารถใช้ประโยชน์ได้ ทุกส่วนของต้น

มีความทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี

ดอกของเค้าจะมีสีขาวอมเหลือง ขนาดเล็ก ผลมีสีเขียว

 เมื่อสุกจะมีสีเหลือง รสชาติอร่อยทีเดียว ออกเปรี้ยวอมหวาน

 ลักษณะผลมีรูปร่างกลมแป้น ผิวเปลือกนอกขรุขระ

 ต้นมะหาดที่สามารถ นำมาใช้ผลประโยชน์ได้นั้น

จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 5 ปี จึงนำมาใช้ทำยา

แก่นมะหาดสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มเคี่ยวกับน้ำจนเกิดฟอง

ช้อนฟองออก กรองกับผ้าขาวบาง พักสะเด็ดน้ำ

 แล้วนำมาตากให้แห้ง หรือย่างกับไฟ

 นำมาบดจะได้ผงสีเหลืองเรียกว่า " ปวกหาด "

ใช้ผงประมาณ 3-4 กรัมหรือ 1-2 ช้อนชา

ผสมกับน้ำสุกที่เย็นแล้ว สามารถผสมน้ำมะนาวลงไปด้วย

 รับประทานก่อนอาหารเช้า

หลังรับประทานปวกหาดไปแล้ว 2 ชั่วโมง

ให้รับประทานดีเกลือตาม เพื่อถ่ายตัวพยาธิออกมา

 สามารถทานแก้อาการท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อได้

หรือนำผงปวกหาด มาละลายกับน้ำ ทาแก้ผื่นคัน

 ราก ใช้ลดอาการไข้ แก้กระษัยเส้นเอ็น ขับถ่ายถ่ายพยาธิ

 แก้พิษร้อน เปลือก ใช้ลดอาการไข้

ภาคเหนือเรียก "หาดหนุน" เชียงใหม่เรียก "ปวกหาด"

ภาคกลางเรียก "หาด" ทางภาคใต้เรียก "มะหาด"

ตรังเรียก "มะหาดใบใหญ่"

และตั้งแต่นราธิวาสถึงประเทศมาเลเซีย เรียก

 "กาแย , ตะแป ตะแปง"



























ขอบคุณที่มา fb.Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ