bloggang.com mainmenu search






หอม...ดอกผักแขยง


เมื่อฉันยังเป็นเด็กตั้งแต่เริ่มจำความได้ ฤดูเกี่ยวข้าวเป็นช่วงเวลาที่เด็กน้อยมีความสุขกับโลกสีทองของรวงข้าวสุกผืนใหญ่กว้างยาวสุดลูกหูลูกตา

หลังจากเลิกโรงเรียนหรือวันเสาร์อาทิตย์คืออิสระและการค้นหาโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

พลังอันเหลือเฟือถูกเติมเต็มอย่างไม่รู้จบสิ้น ต่างวิ่งเล่นไล่กัน ไล่นก ไล่แมลงตามท้องนาในขณะที่พ่อแม่กำลังเกี่ยวข้าวกลางแสงแดดแผดกล้า

พอนึกอยากจะเป็นนักดนตรีก็ย่ำเท้าบนพื้นรองเท้าแตะฝ่าตอซังข้าวเข้าไปออดอ้อนพ่อให้ทำปี่ต้นข้าวให้เพื่อมาเป่าแข่งกัน

บางทีก็เดินแหวกตอซังข้าวเพื่อหารูหนูนา ซึ่งปกติแล้วเวลาหนูนาขุดรูมันจะต้องทำทางออกเล็กๆ ไว้ไม่ไกลกับปากรูที่เต็มไปด้วยกองดินเพื่อหาทางหนีเมื่อมีคนรุกไล่ ด้วยความเป็นผู้หญิงจึงไม่ได้จับจอบเสียมมาขุดรูหนูอย่างพวกผู้ชายเขา

แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็นจึงชอบเดินก้มๆ เงยๆ หารูทางออกของเจ้าหนูนา เจอบ้างไม่เจอบ้าง แต่ถึงเจอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนอกจากได้ความภาคภูมิใจเล็กๆ

สำหรับเด็กน้อยบ้านนอกตัวเล็กๆ ซึ่งยังไม่ได้รับผิดชอบงานของครอบครัวก็จะแสวงหาความสุขไปตามประสา

ขาสั้นๆ ก้าวกระโดดวิ่งเล่นตามคันนาก่อนจะกระโจนลงดินนุ่มหยุ่นจนเนื้อตัวมอมแมมไปหมด เหนื่อยนักก็ทรุดตัวนั่งเหยียดขากับผืนดินผืนหญ้าอย่างไม่อินังขังขอบ

ถึงเวลาอาหารพ่อแม่ก็จะร้องเรียกหาลั่นทุ่งให้ไปกินข้าว

กลิ่นอาหารหอมกรุ่นที่นึกถึงยามใดแล้วชวนให้น้ำลายสอคือแกงปลาใส่ผักแขยง

ผักต้นเล็กๆ ออกดอกสีม่วงที่หาได้ง่ายในช่วงฤดูเกี่ยวข้าวทั้งตามคันนา ตามผืนดินใต้ตอซังข้าว ดอกของมันกระจ้อยร่อยน้อยนิดน่าเอ็นดู

แต่ก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งชวนชื่นใจเพียงแค่เดินผ่าน เวลาแม่ได้ปลาช่อนมาก็จะไล่ให้ลูกไปเก็บผักแขยงซึ่งลูกๆ ก็จะเก็บบ้างเหยียบบ้างเพราะมันเยอะแยะเต็มไปหมด

อารมณ์ไหนที่ถูกใช้ไปเก็บในเวลากำลังสนุก มือเล็กก็จะดึงทึ้งต้นผักแขยงอย่างไม่ปราณีปราศรัยจนได้หญ้าติดมือมาด้วย แต่วันไหนที่อารมณ์ดีหน่อยก็จะค่อยเด็ดไปดมไปเล่นไปกว่าจะได้ก็โน่น...เมื่อมีเสียงเรียกของแม่ดังมาอีกรอบพร้อมกับกลิ่นปลาร้าที่ใส่ในน้ำแกงลอยมาตามลมชายทุ่ง

แต่วันนี้... ฤดูเกี่ยวข้าวไม่มีกลิ่นดอกผักแขยงอีกต่อไป ตามคันนาเหลือเพียงต้นหญ้าใบเรียวบางคมกริบที่พอเดินผ่านถูกมันเฉี่ยวก็แสบเหลือใจ

อนิจจา...เพราะอะไรหนอ? ผักแขยงจึงเหลือน้อยหายากเต็มที หากให้เดาก็คิดว่าคงเป็นเพราะยาฆ่าหญ้าที่ฉีดพ่นลงในช่วงหว่านข้าวเป็นศัตรูตัวร้ายที่ทำให้ผักต้นเล็กๆ คู่กับคนอีสานมาช้านานใกล้จะสูญพันธุ์ไป

ต่อไปในภายหน้าเด็กอีสานรุ่นใหม่คงไม่รู้จักผักแขยงอีกแล้ว


หอมดอกผักกะแยง

ยามฟ้าแดงค่ำลงมา

แอ๊บๆ เขียดจะนา

ร้องยามฟ้าฮ้อนหวนๆ

ส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงอีสานบ้านเฮา ที่ร้องโดยเทพพร เพชรอุบล คงเป็นแค่ตำนานและเรื่องเล่าที่ทำให้คนเรารู้ว่า ยุคหนึ่งพืชพรรณอาหารบ้านนาเคยส่งกลิ่นหอมฟุ้งลอยไปตามลม ผสานผสมกับกลิ่นของฟางข้าว กลิ่นไอดิน ดอกหญ้า และกลิ่นโคลน เท่านั้นเอง...


รัณณา
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ เกษตรพอเพียงดอทคอม

Create Date :22 พฤศจิกายน 2555 Last Update :22 พฤศจิกายน 2555 16:13:31 น. Counter : 6897 Pageviews. Comments :4