bloggang.com mainmenu search
ถ้าจะกล่าวถึง การปูกระเบื้องพื้นห้อง ช่างแต่ละคนก็มีเทคนิคต่างกันไป และต่างมุมมอง รวมถึงเจ้าของบ้านก็มีความคิดเห็นต่างกันไป บ้างก็ว่า ปูพื้นอย่างนี้ๆ ฉันชอบอย่างงั้น บ้างก็ว่า จะให้เป็นแนวตรงกันตลิดทั้งช่วงไปเลย ตกเศษระหว่างห้องก็ช่างมัน

....ซึ่งโดยปกติก็จะขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านซะเป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่บ้านโครงการที่จะปูพื้นตามใจช่าง (ก็ไม่มีใครมาสั่งฉันนี่...สบาย อิอิ) หรืออย่างดีขึ้นมาหน่อยก็ตามใจโฟร์แมนที่มาคุมงาน(ส่วนน้อย)...ท้ายสุดก็ถ้าเจ้าของบ้านอยากมีส่วนร่วมก็ต้องหาเวลามาคุมมาดูนเอง.....

อ่ะครับ...ร่ายมาซะยาว ก็มาดูเทคนิคของบ้านกระผมกันว่า มุมมองของผมมองอย่างไร โดยมีเงื่อนไขดังนี้

- การปูกระเบื้องให้ร่องห่างกันไม่เกิน 1-2 มม. (ใช้กระเบื้องตัดขอบ size 60x60)

- ต้องการให้มีการปัดเศษของกระเบื้องอยู่ในส่วนลับตา (อันนี้เป็นปกติอยู่แล้ว คงไม่มีใครเอามาโชว์อยู่ด้านหน้าหรอกนะ...เหอๆๆ)

- ทุกจุดเริ่มต้นของแต่ละห้องต้อง "ปูเต็มแผ่น" เพื่อเลี่ยงการตกเศษจากภายนอกหรือจากห้องโซนอื่นมาเป็นปัญหา ทำให้ความสวยงามของอีกห้องนึงตกไป

ได้เงื่อนไขตามนี้ ก็มาเริ่มงานกันเลย...

ขอยกตัวอย่างคร่าวๆ โดยการวาดรูป เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าจากเงื่อนไขดังกล่าว ผลการปูจะเป็นเช่นไร





ดูแล้วเป็นงัยครับ จะเห็นว่าการปัดเศษของแต่ละโซนจะหลบไปที่ขอบหมดดูๆไปก็เป็นระเบียบของแต่ละห้องดี

กรณีบ้านผมเอง มีการใช้กระเบื้องอยู่ทั้งหมด 3 ลาย ขนาด 60x60 ทั้งหมดในพื้นที่ห้องแต่ละห้อง (ไม่รวมกระเบื้องโซนระเบียงนะครับที่ใช้คนละขนาดและคนละลาย แต่ไม่กล่าวถึงเพราะว่า ระเบียงนั้นจะมีการทำระดับต่ำกว่าพื้นห้องอยู่แล้วก็ 5 - 10 cm ซึ่งเป็นการตัดแบ่งโซนอย่างชัดเจนลงตัวทำให้ไม่เกิดความรู้สึกในด้านความขัดแย้งของแนวร่องกระเบื้องเท่าไหร่) ดังนั้น ในจุดต่อ A จะใช้คิ้วอลูมิเนียมมาเป็นตัวช่วย .....เอ่อ....ช่วยยังงัยงั้นเหรอ.....ช่วยในเรื่อง
1. เป็นการแบ่งโซนอย่างชัดเจนอีกทั้งยังเพิ่มความสวยงาม
2. ลดความเลื่อมกันของแนวร่องยาแนว เพราะมีแนวกั้นอย่างชัดเจนแบ่งเอาไว้

....เอ๋ .....ถ้าว่าอย่างงั้น...แล้วทำไมในจุด B ซึ่งมีการใช้กระเบื้องประเภทเดียวกันทั้งในห้องและนอกห้อง ถึงไม่ต้องใช้คิ้วอลูนิเนียมไปด้วยล่ะ.... คำตอบง่ายๆ เลยครับ.....เปลืองตังค์ 555+.....ง่ายไปม๊ะ....งั้นให้เหตุผลนิดหน่อยแล้วกัน เด๋วจะว่า ตอบแบบกำปั้นทุบดิน....ก็เนื่องจากว่าในรอบต่อของแต่ละห้องจะมีประตูมากั้นอยู่แล้ว...ไม่ได้เปิดโล่ง...ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้คิ้วก็ได้ เพราะมันจะดูกลมกลืนกันไปอยู่แล้ว..ไม่เหมือนกับอีกห้องที่พอเปิดปั๊บ สีพื้นเปลี่ยนทันที...มันสะดุดตามากเกินไปน่ะซิครับ.....คิ้วพื้นน่ะ เอาไว้ลดจุดด้อยตรงนี้ได้

เริ่มต้นการปูพื้น...ช่างก็จะวัดหาแนวระดับความสูงของการปูพื้นและความกว้างยาวของห้องเพื่อคำนวณเศษกระเบื้อง ทั่วทั้งหลังก่อน เพื่อไม่ให้เวลาปูๆไปแล้วมันลาดมันเอียงลุ่มๆดอนๆ มองแล้วเป็นหลุมเป็นเนินเวลาปูเสร็จ.....




ความกว้างของร่องยาแนวผมใช้ขนาด 1 mm. เพราะลองวางดูแล้วสวยงามดีไม่ห่างและไม่ชิดจนเกินไป..ห่างไปก็ไม่สวย ชิดไปก็ไม่ดีเพราะกระเบื้องตัดขอบส่วนใหญ่ก็มีปัญหาในเรื่อง โก่งบ้างเล็กๆน้อยๆ ถ้าปูชิดเกินไป จะทำให้รอยต่อมันกระเดิด (ศัพท์ชาวบ้าน ฮ่าๆๆ ) คือ เดินๆแล้วสะดุดฝ่าเท้า

อุปกรณ์ที่ใช้แบ่งเว้นร่องยาแนวราคาถูกที่สุดคือ.....เส้นพลาสติกที่ใช้ แพคกล่องประเบื้องมานั่นแหล่ะ....มาตัดแบ่งๆ ไว้ใช้เสียบๆกั้น เพราะความหนากำลังสวยเลย




กับหนึ่งสีลาของช่างปูกระเบื้อง ...หลังจบงานปูกระเบื้อง เค้าจะไปออกคอนเสิร์ตต่อช่วงกลางคืน เลยซ้อมๆท่าเต้นไปพลางๆ




ช่วงนี้งานปูกระเบื้องพื้นของชั้น 3 ก็เสร็จไปเรียบร้อย ลงมาต่อชั้น 2 ก็เหลืออีกนิดหน่อย ติดที่ต้องรองานหลังคาด้านหน้าที่ต้องทำให้เสร็จเลยเว้นช่วงไว้ก่อน ยกกำลังลงมาทำต่อที่ห้องครัวกันไป

ลวดลายกระเบื้องผนังห้องครัวนี่ก็เน้นเรียบแฝงสดใสดุดัน (หือ!??? .....แล้วมันยังงัย...ไอ้เราก็ยัง งงๆ....ให้ Designer บุญถาวรจัดมา ก็ได้มาแบบนี้




มีการปรับแบบห้องครัว โดยมีการทำเคาน์เตอร์กลาง ก็เล็งเห็นประโยชน์ว่า ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร หรือซื้อไรมาวางจัดเข้าตู้เย็น รวมถึงใช้เก็บเครื่องครัวชุดใหญ่ๆพวกหม้อไหต่างๆนาๆ....




มีเจาะช่องผนังสำหรับปลั๊กไฟ (แต่ตำแหน่งเจ้ากำ..ดันอยู่ในระดับของโมเสคแก้ว....ตัดเจาะยากจริงๆ)...มีการเดินสาย LAN มาทิ้งไว้จุดนี้ด้วย .....เอาไว้เผื่อใช้ในอนาคตหากเครื่องครัวบางประเภทต่อ net ได้...หรือไว้ใช้ต่อ ทีวีหรือคอมชุดเล็กๆ ไว้หาดู ข้อมูลการทำอาหาร.....(คิดไปไกลถึงโน่ะ .....แต่เอาจริงนะ แหะๆๆ)



แล้วก็มาดูงานบางส่วนของบันได....หลังจากที่ห่างหายทิ้งไปนาน....จากคราวงานก่อสร้าง....ก็ต้องมีการมาวัดหาแนวรัดับลูกขั้นบันไดอีกที เพราะ เบื้องต้นนั้นแค่เป็นงานโครงสร้างเท่านั้น...ดังนั้นจึงต้องมีการคำนวณระยะลูกขั้นกันใหม่เมื่อได้แล้วก็ตีเส้นเอาไว้ แล้วก็มาจับเสี้ยมสันกันอีกที





แล้วก็เริ่มจับเสี้ยมสันขั้นบันได





รอจนปูนที่เสี้ยมแห้งก็ค่อยมาฉาบแนวตั้งขั้นบันได....





จากนั้นก็ฉาบพื้นขั้นบันไดและขั้นพัก ก็เป็นอันจบ รอหาไม้มาแปะติดเท่านั้น





ผ่านมาดูโซนเล่นระดับของห้องพักผ่อนชั้นลอย...ซึ่งปูกระเบื้อง และมาติดประเด็นที่ว่า ไม่ชอบ ค้วสำเร็จรูปที่วางขายกันอยู่ทั่วไปที่เป็น อลูมิเนี่ยม หรือพวกคิ้วพลาสติกยี่ห้อต่างๆนาๆ ที่โฆษณากันนักกันหนา ว่าป้องกันราดำ..มันนุ่มเท้าจิงสีสันให้เลือกเยอะ แต่รูปลักษณ์มันช่างแสนจะธรรมดาเหลือเกอน....อยากบอกท่านเจ้าของบริษัทเหลือเกินว่า...ช่วยออก product ที่มันมีให้เลือกเยอะกว่านี้หน่อยนะคร้าบ...

ในเมื่อไม่ถูกใจซักอย่าง....งั้นทำมันเองซะเลย...โดยในตอนนี้ เว้นพื้นที่การปูกระเบื้องเอาไว้ ราวๆ 10 cm จะใช้ทำคิ้วกรวดล้าง (ชอบใจกรวดล้างสีขาว...เข้ากันมากกับกระเบื้อง) คิดในใจจะทำเป็นขอบบัวยื่นมาหน่อยๆ....




เลยพาลเหมารวมไปถึง ขอบบันไดขึ้นสุดท้ายที่จะขึ้นมาที่กระเบื้องด้วย..เอากะเค้าด้วย

ข้อดีของกรวดล้าง คือ ไม่ทำให้ลื่น ที่สำคัญสวยกว่าคิ้วสำเร็จ แต่ข้อเสียก็มี ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ นั่นคือ พวก รา และคราบสกปรกที่จะติดง่าย....แต่คิดแผนรับมือเอาไว้แล้ว....เหอๆๆ....แก้โดยหลังทำเสร็จก็ทาน้ำยากันซึมที่ใช้ทาพวกหินทรายซึ่งจะช่วยให้พื้นผิวดูเป็นเงางามและป้องกันราดำด้วย....สบายแล้วเรา.... ถ้าเป็นสมัยก่อนๆ คงไม่มีใครกล้าทำกัน...แต่สมัยนี้มี product ออกมาให้เลือกใช้เยอะจนดัดแปลงกันไม่หวาดไม่ไหว




คราวนี้กลับมางานห้องน้ำใหญ่ชั้น 2 ต่อกัน...(ยังๆๆ ยังม่ะเสร็จ นะ อิอิ)...จากที่ว่าก่อบันไดโค้งเพื่อใช้เดินขึ้นอ่างอาบน้ำก่อ....ตอนนี้ของมาครบละ ทั้ง ทรายล้าง และปูนขาว...เริ่มทำกันต่อ

ทรายล้างกรวดล้าง ก็ไปวิ่งหาเลือกซื้อมา โดยผมเลือกทรายล้างใช้เบอร์ 5 (ใช้ในงานห้องน้ำ) ส่วน กรวดล้าง ใช้เบอร์ 4 (ใช้ในงานคิ้วและบัวของบันได)...ถ้าหมายเลขเบอร์ยิ่งน้อย เม็ดจะใหญ่ขึ้น

เอามาแล้วก็ล้างๆๆ....ยังดีที่ร้านที่ผมไปซื้อมานี่เค้าล้างมาให้แล้วทำให้ไม่มีพวกเศษ ใบไม้กิ่งไม้ปะปนอยู่เลย ถือว่าล้างมาดีมาก.....(บางร้านยังไม่ได้ล้างจับยัดใส่กระสอบขายก็มี ล้างทีเหนื่อยล่ะครับ)...





ที่ผิวของชิ้นงานก็เอา TOA 101 มาทาๆทิ้งเอาไว้แต่อย่าให้แห้งจนเกินไป ทาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นงานดูดน้ำปูนเข้าไปมากจนเกินไป





แล้วก็ปล่อยทิ้งเอาไว้ ทีนี้ก็มาผสมปูนขาวกับน้ำ และแม่สีเพิ่ม (อยากได้สีอ่อนๆให้ใกล้เคียงกับสีพื้นห้องน้ำที่เป็นลายไม้...โดยใช้สีเหลืองเนหลัก และสีแดงผสมเล็กน้อย) จนได้สีที่ต้องการ





ตักแบ่งปูนบางส่วนมาฉาบโปะผิวชิ้นงานที่จะทำ...แล้วก็รอให้ปูน set ตัวพอหมาดๆ....ยังกับทำขนมเค้กเลยแฮะ...มันเนียนจนน่าหม่ำ





แล้วเราก็เริ่มเอาทรายล้างมาเทผสมลงไปกับปูนที่เหลือ ผสมจนเข้ากัน แล้วก็ตักมา โปะๆๆ ลงไป...นี่ๆๆๆ








ค่อยๆทำไป รอให้ปูนเริ่มจะแห้งเม็ดทรายเริ่มจะเกาะตัวกันดี..ก็เอาเกรียงตบปูน (หน้าตาจะต่างจากเกรียงขัดมัน ตรงที่มันจะหนามาก)...ก็เอา แปรงขนนุ่มๆ ชุบน้ำ....มาทาๆล้างๆ น้ำปูนที่ผิวทราย และจะทำให้ปูนบางส่วนละลายออกมาด้วยทำให้เม็ดทรายลอยนูนขึ้นมา...แล้วก็ปล่อยให้แห้ง....หลังจากนั้นก็ใช้น้ำยา หรือพวก โซดาไฟผสมน้ำเจือจางมาล้างคราบปูนออก.....จะทำให้ผิวของเม็ดทรายสะอาด และผ่องขึ้น.........(ตบท้ายถ้าจะให้ดีหาน้ำยาทากันซึมกับงานหินทรายมาทับผิวจะกันราดำได้นะครับและจะสวยคงทนนาน)....






มุมมองกว้างๆ .....




แถมท้ายด้วยลายเสาไล่ความเข้มของสี.....จะเหลือก็งานปูหิน top ของเคาน์เตอร์ เก้าอี้นั่ง และขอบอ่าง ก็คงจบเรียบร้อย....สำหรับการรับมอบงานเน๊าะ ค่อยมาทำกระจกกั้นอาบน้ำ,กั้นห้อง เองทีหลัง.......



จบตอนยาวๆ อ่านกันเมื่อยอีกล่ะครับ ........
Create Date :23 ธันวาคม 2553 Last Update :23 ธันวาคม 2553 14:23:01 น. Counter : Pageviews. Comments :37