ตอนนี้ทางเฮียผู้รับเหมาพยายามเร่งงานให้เสร็จโดยเร็ว (ได้อย่างใจมากๆเลย) ทางผมเองก็ขานตอบด้วยการ ใช้วันลาพักร้อนให้ 2 วัน ในช่วงวันหยุดยาว...เพื่อวิ่งหาของเตรียมเอาไว้ให้ช่าง ไม่ว่าจะเป็นช่างที่จะเข้ามาติดประตู ก็ต้องวิ่งไปบุญถาวร เพื่อหาซื้อบรรดา บานพับ+กลอนประตู+มือจับต่างๆ (จริงๆก็ไม่ใช่หน้าที่ แต่ด้วยความอยากให้มันสวยงามอย่างที่ใจเราอยากได้ ก็ต้องหาของเองจะดีกว่า)
วิ่งไปร้านศิลาตาก ติดต่อช่างเข้ามาวัดพวกขนาด เคาน์เตอร์ครัว,ห้องน้ำและอ่างอาบน้ำ ......ติดต่อหาช่างทำรางน้ำให้มาติดตั้งรางน้ำ.......ไปติดต่อหาซื้อ Switch และ Plug ไฟอันเนื่องมาจาก ทางผู้รับเหมาไม่สันทัดกรณีกลัวเอามาแล้วไม่ตรงใจอีกเช่นเดิม....สรุป เสาร์,อาทิตย์,จันทร์,อังคาร,พุธ.........ไม่ได้ว่างเว้น ไหนจะวิ่งหาของ ไหนจะต้องอยู่คุมช่างเพื่อให้ได้งานตามต้องการเนื่องจากบางงาน ช่างดันบอกว่าไม่เคยทำ (โดยให้เหตุผลเหมือนกับอาเฮีย)...ช่วยสอนผมหน่อยถ้าพี่ทำเป็น (เอ้า...เวร....ตรูอีกแล้ว...เออเอาฟระ....ขี้เกียจต้องมานั่งปวดหัวรับสภาพกับงานห่วยๆที่ช่างอ้างง่ายๆ.........อุ้ยโทดทีครับ...แรง! ไปหน่อย ฮ่าๆๆ) ........เหนื่อยมากๆช่วงนี้
เริ่มจากอย่างไหนก่อนดี เยอะไปหมด...อีรุงตุงนัง......งั้นเอาจาก สีทาภายในก่อนละกัน
สีทาภายในโดยส่วนใหญ่ ทุกห้องผมเลือกสีเอาไว้ลงตัวหมดแล้ว.....แต่เพื่อหลักประชาธิปไตยภายในบ้าน ก็ได้ให้สิทธิ์ให้เสียงคุณภรรยาได้เลือกบ้าง......โดยยกสีทาภายในส่วนโถงของทุกชั้นให้เธอ....โดยมีผมช่วยฟันธง
แล้วผลก็ออกมา....... ทะ แด่น......ถึงกับตะลึงเมื่อมาเจอครั้งแรก....เหมือนใครเอาไฟฉายมาส่องหน้า (ฮ่าๆๆ)
คุณภรรยา : ทำไมสีมันเป็นงี้ล่ะ....เหลืองมากเลย ทั้งๆที่เราเลือกสีอ่อนแล้วนะ
ผม : ใช่....ก็ผมเลือกสีโดยดูจาก Palette สีอ่อนแล้ว ...... อ่า...มัน......มัน เหมือน วัดเลยม๊ะ เนี่ย
คุณภรรยา : ยังกะพวก Resort แนวๆ Morocco เลยง่ะ
.เศร้า
กลับจากการตรวจงาน นานๆทีของเธอ...ในอีกไม่กี่คืน ต่อมา
ผม : เอาน่า...บ้านก็ดูสว่างดี .......ซึ่งก็จริงๆ เพราะสภาพแสงที่ได้ตลอดช่วงเช้าถึงบ่าย บ้านจะดูสว่าง (....จ้า...โคตร...แอบขำในใจ) ....พยายามให้กำลังใจคุณเธอ
คุณภรรยา : ไม่ไหวๆ....ขอเปลี่ยนสีดีกว่า ....
ผม : เฮ้ย!....อย่าเลยเอาให้งานมันเสร็จๆไป....จะแก้อะไรมาทีหลังแล้วกัน...เบื่อเต็มทีกับที่จะต้องมาคอยแก้งานแล้วนะ...เอาเป็นว่า ใช้ไปก่อน ถ้าเบื่อค่อยมาเปลี่ยน..อีกอย่าง...เด๋วจะมาหมดงบตกแต่งกับเรื่องพวกนี้มากมาย คอยดูๆต่อไปจะดีกว่า
คุณภรรยา : .....อืมก็ได้....(เศร้าได้อีก)
ผม : ช่างมันเถอะนะ.....คิดในแง่ดีซิ.....อย่างน้อยก็ทำให้ บ่อปลาข้างบ้านและหน้าบ้านจะได้ใช้ประโยชน์มากขึ้นงัย เพราะคงต้องไปนั่งเล่นตรงโซนนั้นกันมากขึ้น (ยังไม่วาย ติดแซว.....แกล้งเล่นๆไปงั้น ฮ่าๆๆๆ)
คุณภรรยา : อยากร้องไห้...(เศร้าขึ้นไปอีกระดับ)
ผม : โอย...เธอ...อย่าคิดมากน่า....ช่างมันเถอะ เด๋วก็ชินไปเอง....นี่ก็แค่ครั้งแรกๆที่เราเพิ่งมาเห็นอีกหน่อยก็จะชินกับสีนี้.......
คุณภรรยา : เริ่มคลายเศร้า
ผม : แต่ผมว่า เราควรตั้งโต๊ะ แล้ววางแว่นตากันแดดไว้ตรงทางเข้าบ้านก็ดีนะ...ไว้ให้แขก (.....มันก็ยังแกล้งได้อีก....ฮ่าๆๆๆ)
คุณภรรยา : ง่า........เศร้าอีกแล้ว................(ฮ่าๆๆๆ สนุกจริงวุ้ย.....แกล้งเมีย)
สรุป.....กว่าจะจบเรื่องสี ปาเข้าไป เกือบจะ ตี 2
..ตื่นมาทำงานตอนเช้าก็เป็นแพนด้ากันไป...
สีห้องนอน รับแขก
สีห้องนอนเจ้าลูกชาย เขียวสดซะ ยังกะออกบูท Motor Show
พอสภาพแสงเปลี่ยนไป สีของบ้านก็ให้อีกอารมณ์นึง
สรุป รวมๆ ก็ดีกว่าสีขาวตรงที่ ในสภาพแสงของบ้านผมหากเป็นสีขาวล้วน ถ้าเป็นช่วงเวลา 4 โมงเย็นไปแล้ว..มันจะอึมครึมดูไม่สดใส..ให้ feeling เงียบเหงา.....แต่พอเป็นสีเหลืองนี้ มันดูอบอุ่น และยังคงสว่างตาถึงขนาดเวลาผ่านมาถึงใกล้ 6 โมงเย็นก็ยังไม่ทำให้ความรู้สึกมันอึมครึม....
อ่ะ...ก็ดีๆ.......
อ๋อเด๋วจะหาสาระไม่ได้ไปซะ.....เสริมนิด เรื่องตอนช่างทาสีทำงาน....พวกบรรดาผนัง ที่มีเศษปูนกระเด็นเค้าก็เอาเกรียงมาขุดปาดให้เรียบ.....ตรงไหนที่ปูนแตกบิ่น...ก็เอา wall putty มาโป๊ว....ก่อนที่จะทาสีจริงทับหน้า
ช่างอลูมิเนียมเริ่มเข้ามาจัดการงานกันแล้ว หลังจ่ากเข้ามาวัดขนาดวงกบประตูหน้าต่าง กันเมื่อเกือบๆจะ 2 อาทิตย์ที่แล้ว (นี่ก็รอนานเหมือนกัน....ไม่รู้จะช้าอะไรนักหนา.....อาเฮียก็เฉ่งช่างไปยกนึง.... )
อลูมิเนียมที่ใช้ก็ใช้ขนาดความหนา 1.5 mm สีดำ อโนไดซ์ แบบที่ตามโรงพยาบาลและหน่วยงานราชการชอบใช้กัน.....ผมชอบแบบทนทานๆหน่อยเรื่องสีดำ ...trend นี้ก็มาได้พักนึงละ ดูแล้วเหมือนมีกรอบรูปติดผนัง แต่ถ้าเป็นอลูมิเนียมอบขาว ข้อเสียก็คือจะไม่ทนแรงขูดขีดและเมื่อใช้ไปนานๆจะออกเหลืองๆ (เป็นรอยได้ง่าย) แต่ข้อดีก็คือ สีขาวมันเข้ากับสีบ้านได้เกือบทุกสี ดูสวยเรียบสบายตา....ก็ให้เป็นข้อตัดสินใจในการเลือกใช้กันไปครับ เพราะคนเราก็ชอบต่างๆกันไป ขอแค่เหตุผลข้อไหนโดนใจเรามากกว่า....
มาวัดขนาดแล้วตัดกันเลยที่หน้างาน
หน้าตาหลังจากติด Frame อลูมิเนียมไปแล้วแต่กระจกยังไม่มาใส่...ช่วงชั้นลอยห้องนั่งเล่น กระจกที่ใช้ก็เอา Temper หนา 10 mm.
โซนที่จะใช้ทำเป็นที่นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ.....แบ่งครึ่งบนทำเป็นบานกระทุ้งท่อนล่างก็กระจกติดตาย
สำหรับงานไฟฟ้า หลังจากที่ผมไป shop ขนพวกบรรดาโคม down light มาให้จาก แสงอุดมไลท์ติ้ง ...ช่างก็เริ่มเจาะรูแล้วติดตั้งกันเลย.........ระวังให้ดีในเรื่อง down light
.อย่าให้ช่างเจาะรู ก่อน ที่เราจะไปเอา down light มาให้...เพราะขนาด ของรูเจาะจะไม่เท่ากัน (แต่ก็คงจะเจอะปัญหานี้กันน้อย...เพราะว่าโดยส่วนใหญ่ ผู้รับเหมาจะมาช่วยดูแลเรื่องนี้ให้...ยกเว้นกรณีผมที่ต้องไปเลือกเอาเอง ถ้าอยากได้แบบที่ถูกใจ......เฮ้อ)
พวกบรรดาโคมไฟที่เคยซื้อเก็บเอาไว้ ก็ขนทยอยมาติดตั้ง.....โคมบางตัวจะทำที่ยึดมาให้โดยดูจากน้ำหนักของตัวโคมว่าจะใช้การยึดแบบไหน แต่ที่เห็นๆก็มี 2 แบบ
1. แบบต้องยิงพุกยึดเข้ากับเพดานปูน.....แบบนี้ดีที่สุดสำหรับโคมใหญ่ๆ แข็งแรง แต่การติดตั้งจะยากกว่าอีกแบบเยอะมาก
2. แบบยึดเข้ากับแผ่นฝ้า......
ผมใช้การยึดแบบที่ 1 สำหรับโคมไฟใหญ่ โถงหน้าบ้าน และ โคมฝาชี ตรงโถงกลางบ้าน (จริงๆโคมฝาชีเค้าทำให้ยึดแบบที่ 2 มา...แต่ผมไม่มั่นใจกับน้ำหนักขนาดนี้จึงขอเลือกความปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า) นอกนั้นพวกโคมเล็กๆแถวโต๊ะทานอาหาร และโคม counter ครัว ก็ยึดแบบที่ 2 เอา เพราะแค่น้ำหนักโคมขนาดนี้....แผ่นฝ้ารับได้สบายอยู่
พอมองระดับความสูงของโคมไฟจากห้องนั่งเล่น......
พวกเครื่องสุขภัณฑ์ก็ขนเข้ามารอแล้ว....คงได้ทำหลังสงกรานต์อีกแน่ๆ.....(งานไหนถ้ารอหลังสงกรานต์เนี่ย....นานร่วม 2 อาทิตย์แน่ๆ......เฮ้อ....สร้างบ้านตั้งกะสงกรานต์ปีที่แล้ว ยันจนชนสงกรานต์ปีนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ....ยาวนานซะเจงๆ.....)
แล้วก็มาต่อด้วยรางน้ำฝน....ที่บ้านก็ต้องติดเพื่อไม่ให้ไปสร้างความรำคาญใจให้เพื่อนบ้านเจ้าปัญหา ทั้งๆที่หลังคาไม่ได้เลยหรือชิดรั้วเลยนะ....แต่ไม่ได้ๆ...ลูกผู้ชาย พูดคำไหนคำนั้น บอกว่าจะติดให้ก็จะติดให้ (ไอ้ลูกผู้ชาย....มันมาอีกละ ฮ่าๆๆ) เพื่อตัดรำคาญไป.....
แรกๆก็ดูพวกรางน้ำสแตนเลส เห็นราคาค่าติดตั้งก็ว่ากันที่ 700 800 บาท......แต่พอมาเห็น รางน้ำ ไวนิลแล้วก็โดนใจในเรื่อง design และดูเป็นมาตรฐานดี...แต่ข้อเสียมันก็มี นั่นคือเมื่อใช้ไปซักพักหลังจากตากแดดตากฝนไป สีของรางน้ำที่เป็นสีครีมขาว...จะออกเหลืองไปทันที (รางของยี่ห้อ winsor) ซึ่งเป็นข้อเสียของ ไวนิล จะเป็นกันหมด กับทุกยี่ห้อที่เป็น ไวนิล รวมพวกหน้าต่างประตูที่ทำจากไวนิลด้วยนะ...เหอๆๆ ....จากประสบการณ์คนรู้จักที่ใช้มา....
สำหรับราคารางไวนิลของ winsor ก็ว่ากันที่ 320 บาท/เมตร(ไม่รวมติดตั้ง), 500 บาท/เมตรรวมติดตั้ง.........แต่ที่ผมโดนคือ 700 บาท/เมตร แต่สำหรับท่อน้ำลงคิดที่ 500 บาท/เมตร เท่าเดิม เพราะ ผู้รับเหมาทำรางน้ำเค้าต้องมาต่อนั่งร้าน ขึ้นมาชั้น 3 ด้วย สูงมากพอสมควร (ก็ยอมๆไป เพราะ ระยะที่ติดมันไม่กี่เมตรเอง)
อัพเดทอีกนิดกับรั้วหน้าบ้าน งานหนักๆก็เสร็จสิ้นหมดแล้ว....เหลือแค่ทาสีก็จบ ทั้งสีรั้ว สีพื้นไม้
ช่วงทางเดินขึ้นก็ทำกรวดล้าง ใช้สีพื้นให้ใกล้เคียงกับสีกระเบื้อง สูตรขั้นตอนการทำก็เดิมๆเหมือนตอนเก่าๆที่เคยเล่ามาแล้วครับ....
โดย: Mimi-jaiko 7 เมษายน 2554 18:27:40 น.
โดย: ฟ้าประทานให้ 7 เมษายน 2554 21:29:37 น.
(^___^)
โดย: poo&aom (Poo&Aom ) 8 เมษายน 2554 8:50:52 น.
โดย: หญิงแก่น 8 เมษายน 2554 14:05:51 น.
สมแล้วกับที่เจ้าของบ้านใส่ใจในทุกรายละเอียดค่ะ
ใช้เวลาสร้างนาน แต่คุณภาพคับแก้ว
คุ้มค่ะ รออีกนิดเนอะ เดี๋ยวน้องแทนก็ได้วิ่งเล่นในบ้านใหม่แล้ว
โดย: love@rayong 8 เมษายน 2554 16:28:33 น.
แอบเห็นบันไดยังไม่ติดราว ติดหรือเปล่าคะ
โดย: ฟ้าประทานให้ 8 เมษายน 2554 22:34:57 น.
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ ชอบสีอ่ะสวย ตัดกับมีเนียมดำดีจังเลยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: หัวใจแก้ว 8 เมษายน 2554 23:17:49 น.
โดย: หญิงแก่น 12 เมษายน 2554 12:15:16 น.
โดย: tanayako 12 เมษายน 2554 13:46:58 น.
โดย: หัวใจแก้ว 13 เมษายน 2554 9:38:00 น.
โดย: หญิงแก่น 13 เมษายน 2554 11:46:12 น.
โดย: หัวใจแก้ว 18 เมษายน 2554 9:42:19 น.
โดย: KYP 18 เมษายน 2554 13:18:32 น.
โดย: nany_happy 24 เมษายน 2554 13:47:01 น.
โดย: หัวใจแก้ว 25 เมษายน 2554 0:32:44 น.
โดย: รอบรั้ว 25 พฤษภาคม 2554 22:16:33 น.