bloggang.com mainmenu search
หลังจากงานหลังคาคราวก่อนทำโครงเสร็จ แต่กระเบื้องก็ยังไม่มา (ร้าน order ไปแล้วแต่ต้องรอของ) ทำให้ด้านช่างงานก่อปูนเริ่มเบื่อที่จะรอ...เลยให้เริ่มงานบางส่วนไปก่อนได้เลย ก็เลยไปเริ่มจากงานก่อในชั้น 2 (เพราะชั้นที่ 1 ยังต้องใช้พื้นที่วางข้าวของเยอะแยะ เลยเอาไว้ทำทีหลังเลยดีกว่า ส่วนชั้น 3 ก็ยังทำไม่ได้เพราะหลังคาไม่มี ขืนไปก่อกำแพงมาล่ะ ฝนตกทีนี่เป็นเรื่อง งานที่ทำไปเสียหมด)

ระยะนี้ช่างก่อและเราเองจะรักกันและใกล้ชิดเป็นพิเศษ ขอเจอหน้ากันทุกวัน....คิดถึงกันมาก ประมาณนั้น ฮ่าๆๆ

จริงๆก็คือต้องมาช่วยช่างตัดสินใจดูว่าระยะ หน้าต่าง ประตูจะเอายังงัย จะปรับแบบกำแพงหรือช่องแสง ยังงัยให้เหมาะกับสภาพหน้างาน ที่เจอ บางครั้งการออกแบบในกระดาษมันก็ไม่ใช่รูปแบบ นั้นเสมอไป เพราะบางจุดมองในกระดาษว่าสวยดี....พอไปเจอของจริงมันไม่เหมาะอย่างแรง ขัดหูขัดตา ก็แก้แบบตรงนั้นกันเลย.....


นี่ก็กำลังก่อผนังกั้นห้องนอนกับห้องทำงาน โดยเน้นหลักที่ว่า ** ไม่ว่าระดับพื้นกับคานบนสูงจากกันแค่ไหน แต่ต้องมีการทำก่อเอ็นทับหลังทุกๆช่วง 2 เมตรเพื่อความแข็งแรงของตัวกำแพง นอกเหนือจากที่ต้องมีเหล็กเส้นวิ่งในตัวกำแพงแล้วไปเจาะยึดปลายที่เสาอีกชั้นนึง...




หันมาดูอีกข้าง ก่อมีการก่อแนวเอ็นทับหลังเพื่อใช้วางวงกบหน้าต่าง




แล้วกลับหลังไปมอง จากเดิมที่ตรงนี้จะเป็นกำแพงทึบ แต่ปรับแบบใหม่ต้องมีประตูทะลุออกไปนอกชาน....ดูแล้วน่าจะงง เพราะแฟนผมก็ยังงง ถามว่า ทำไมประตูเอามาวางตรงกลางอย่างงี้ล่ะ....เลยเฉลยไปว่า ก็ตรงด้านขวามือนี่จะกั้นกระจกจัดสวนงัย ส่วนฝั่งซ้ายก็เป็นตู้เสื้อผ้า built-in น่ะ....






มาตรวจดูความละเอียดในการก่ออีกครั้ง ใช้เส้นเอ็นขึงระดับคุมการก่อจะได้เป็นแนวตรง และที่ลืมไม่ได้เลยคือ *** งานโครงสร้างถ้าช่างก่อสร้างทำเสาไม่ได้ระดับเอนไป ในการก่อกำแพงก็ห้ามเอนตามเด็ดขาดแต่ต้องวัดแนวและดิ่งระดับเพื่อให้กำแพงไม่เอนตาม เพราะสามารถมาฉาบให้เท่ากันได้ในภายหลัง ไม่งั้นจะพากันเอียงเอนไปทั้งแถบ งานเละแน่ๆ...***





ออกมาดูผนังส่วนบนที่ต่อจากโถงด้านล่าง ก็ก่อผนังขึ้นมาอีกหน่อย ประมาณ 50 cm. เพื่อทำเอ็นไว้รับกรอบกระจกตรงพื้นที่ด้านนอกนี่ก็ว่าคงต้องทำหลังคาครอบไว้ดีกว่า ในแบบไม่มีบอกว่าจะเป็นอะไร(สถาปนิคลืม..ซะงั้น)






ก่อผนังขึ้นมารอทำเอ็นเพื่อตั้งวงกบประตูทั้งห้องนอนและห้องทำงานโดยก่อเอ็นด้านบนตลอดแนวยาวทั้งกำแพงไปเลยเพื่อความแข็งแรง






เดินกลับเข้ามาดูในห้องนอนอีกทีมองออกไปทางห้องน้ำก็ก่อผนังไปเกือบจะเสร็จแล้ว ยังเหลือเว้นพื้นที่บางส่วนเพื่อใช้ติดอิฐบล๊อคแก้ว,พัดลมดูดอากาศและช่องแสงด้านบนผนัง






ตรวจดูรายละเอียดการก่อเอ็นรับหน้าต่างอีกที...อืม เข้าท่า เอาสว่านเจาะเพื่อใช้เหล็กสอดเข้าไปยึดผนังห้อง









เดินวนมาดูเห็นช่างกำลังประกอบแบบทำเอ็นผนังห้องเสร็จแล้วตรงนี้ก็จะใช้ก่ออิฐบล๊อคแก้ว












นี่งัยการก่อผนังห้องต้องมีการวางเหล็กเส้นยึดกับหัวเสาโดยเจาะแทงเหล็กยึดเข้าไป ต้องทำทุกๆระยะ 50 cm. และห้ามเจาะที่เสารอทิ้งเอาไว้ก่อนด้วยเพราะถ้าช่างก่อใส่ปูนหนาไม่เท่ากันจะทำให้รูมันไม่ตรงกับแนวก่อต้องมางอเหล็ก..อันนี้ไม่ได้ๆ...







พอปูนเริ่ม set ตัวเองบ้างแล้วก็มาวัดระยะความห่างของวงกบหน้าต่างแล้วเอาไม้มาขีดๆไว้แล้วเอาเหล็กมาเสียบเพื่อใช้ตั้งแนววงกบ รวมถึงไว้ใช้ดิ่งหาระดับแนวก่อเว้นช่องหน้าต่างด้วย







และอีกหนึ่งเทคนิคที่สำคัญอย่างมากสำหรับการก่อแนวผนังห้องแบบให้ห้องภายในไม่มีเหลี่ยมเสามาให้เห็นรกสายตา หรือเรียกว่าการก่อโชว์คานด้านนอก คือ ต้องมีการก่อปูนกั้นเป็นแนวที่พื้นไว้ก่อน เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้ามาที่ผนังภายใน บางช่างก็ว่า ไม่จำเป็น เพราะถ้าฉาบคานให้น้ำไม่ขังที่คานด้านนอกก็ไม่เกิดปัญหานี้....แต่ถ้าเอาชัวร์จริงๆ ทำงี้มั่นใจแน่นอนไม่มีซึมมาให้เห็น (เทคนิคของนายช่างเกียรติ)







อีกเทคนิคนึง...เวลาก่อแนวผนังทำงัยให้มันขึ้นตรงตลอดแนว คำตอบก็มาอยู่ตรงนี้นี่เอง...ช่างใช้วิธีปักยึดเอ็นเอาไว้ทั้ง 2 ข้างแล้วพอจะขยับก่อแถวใหม่ก็ย้ายเอ็นมุมนึงขึ้นไปเป็นแนวทะแยงอย่างงี้สลับไปเรื่อย....






กลับมาอีกวันนึงเห็นมีการตั้งวงกบประตูไม้แดงละ ช่างบ่นอุบเลยว่า ตอกตะปูแทบไม่เข้าเลย ไม้แข็งมาก ตอกแล้วเด้งๆ เหอๆๆ...






ว่าแล้วก็ปีนขึ้นไปดูกับแฟน แล้วก็มีคำถามถามมาอีกว่า

คุณแฟน : "ประตูจะเปิดเข้าหรือเปิดออกเนี่ยแล้วลูกบิดอยู่ตรงไหน"....

....เข้าใจถามแหะ เลยตอบไปว่า....

เรา : ดูที่ประตูซิครับมันจะมีส่วนที่เรียกว่า "บังใบ" ถ้าบังใบอยู่มาทางด้านที่เราอยู่เนี่ยแสดงว่า เปิดประตูโดยการผลักนะจ๊ะ ส่วนลูกบิดจะอยู่ตรงไหน...ก็ถามกลับไปว่า เธอถนัดมือไหน...ข้างขวาใช่ไหมเพราะ คนปกติทั่วไปเค้าใช้มือขวากัน ลูกบิคก็จะอยู่ด้านซ้ายมือนะ เพราะการเปิดปิดจะไม่ฝืนธรรมชาติคือ ใช้หลักมือกวาดเข้าออกตัวงัยจ๊ะ....

คุณแฟน : "โห...รู้ด้วยเหรอเนี่ย เก่งจัง มาๆ ให้รางวัล ฟอดนึง" (ว่าแล้วหอมเสียงดัง....พรืดๆ...เอ้ย ฟอดๆ ดิ นั่นเสียงสั่งขี้มูก)

เรา : แอบคิดในใจ .... เออ ที่ถามมาน่ะ ตูก็ไปถามเอาจากช่างเค้าเมื่อวาน คำถามเดียวกะเธอนั่นล่ะ..ดีนะที่ถามไว้ไม่งั้นเสียฟอร์มแย่..ฮ่าๆๆๆ







จบตอนด้วยภาพเจ้าลูกชายโดนโปะดินสอพองที่หัว เพราะหัวโน แล้วก็ไปนอนป่วยอยู่ที่ โรงพยาบาล ครับ......แต่ตอนนี้หายป่วยดีละกลับมาซนอย่างเก่า (และมากกว่าเดิมซะอีก)...คึกจริงๆ หมอให้ยาผิดป่าวน๊อ..

Create Date :12 กรกฎาคม 2553 Last Update :12 กรกฎาคม 2553 12:13:16 น. Counter : Pageviews. Comments :11