bloggang.com mainmenu search



พระบรมสาทิสลักษณ์ผลงาน คุณจักรกฤษณ์ ไชยพิเดช
จาก บล็อกคุณ Bhirisa_ภิริสา


ยังไม่พ้นเดือนธันวาฯ บรรยากาศวันพ่อยังกรุ่น ๆ อยู่ อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ที่เข้ากับบรรยากาศเย็น ๆ มาให้ฟังค่ะ เป็นเพลงเกี่ยวกับธรรมชาติ ๓ เพลง สายลม…สายฝน...และลมหนาว พ.อ.วัชระ วีระวงศ์ เขียนจม.ในคอลัมน์ตอบปัญหา "ถูกทุกข้อ" ในนสพ.ไทยโพสต์ พูดถึงสามเพลงนี้ และอัญเชิญพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงจากหนังสือดิฉันมาเป็นมงคลแก่บล็อกนี้และจขบ.ด้วย ไม่แน่ใจว่าเป็นผลงานของศิลปินท่านใด อ่านลายเซ็นแล้วเดาว่าน่าจะเป็น อาจารย์เกริกบุระ ยมนาค ลายเส้นงดงามมากค่ะ


อีกไม่กี่วันจะคริสต์มาสแล้ว ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขและโชคดีทุกท่าน Merry Christmas ล่วงหน้าจ้า






ลิ่วลมหลั่งฝนโปรยทั่ว จวบแดดทอรุ้งอร่ามตา



ช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูกาลอากาศมันแปรปรวน มีลมฝนแทรกมาช่วงคาบเกี่ยวของฤดูกาล ที่พบเห็นบ่อย ๆ เช่น วันลอยกระทงมักมีฝนโชยมา หรือฝนตกปราย ๆ อยู่เนือง ๆ เหตุแห่งความแปรปรวนของสภาพอากาศ ติดตามรับฟังข่าวอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาที่เผยแพร่ทางสื่อต่าง ๆ ได้ทุกวัน อย่างไรก็ดี มีอีกช่องทางหนึ่งที่จะรับรู้ถึงสาระเกี่ยวกับลมฝน นั่นคือในบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ พระองค์เจ้าจักรพันธุ์ เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ทรงนิพนธ์คำร้อง






เพลง สายลม กล่าวถึงสภาพอากาศยามท้องฟ้าปั่นป่วนด้วยแรงลมและฝน ขณะที่จิตใจหวาดกลัวฟ้าแลบแปลบแสง ฟ้าผ่าดังสนั่น ถึงกระนั้นก็ยังทำความเข้าใจตัวเองด้วย


ท่ามกลางฟากฟ้ามัวหม่น
ลิ่วลมหลั่งฝนโปรยทั่ว
เยือกเย็นชีพเฉาเมามัว
จิตใจไหวหวาดกลัวหวั่นฟ้าคำรามลั่น

โรจน์เรืองแปลบแสงฟ้าผ่า
ล่องลมลิ่วมาเสียงสนั่น
โอ้ลมหนอลมพัดคืนวัน
โบกโบยเพียงไหนกันพัดจนไม่รู้วันสงบเอย

ต้องลมเหล่าไม้เอนลิ่ว
ลู่ใบลุ่ยพลิ้วปลิวว่อน
จิตใจอ่อนท้ออาทร
ด้วยลมพัดโบกวอนล่องหนวนเวียนไป

อย่าเป็นอย่างสายลมเล่า
เปลี่ยนแปลงซึมเซาเหลิงรักใหม่
โอ้ลมหนอลมพัดเลยไป
โลกเคยรู้ฉันใดแล้วคงสุขสมใจยิ่งเอย






เพลงพระราชนิพนธ์ สายลม หรือ I Think of You เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๒๕ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๕๐๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย แล้วพระราชทานให้นำออกบรรเลงครั้งแรกในงานของ สมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๐






เพลง สายฝน ในสายฝนก็มีสายลมสอดแทรก และหากธรรมชาติสบเหมาะจะมีแดดทอรุ้งอร่ามตา สายฝนผสานสายลมให้ความรู้สึกฉ่ำชื้นโชยเย็น และที่สำคัญคือพืชพันธุ์ไม้ชื่นยืนยง


เมื่อลมฝน บนฟ้ามาลิ่ว

ต้นไม้พลิ้ว ลู่กิ่งใบ

เหมือนจะเอน รากคลอนถอนไป

แต่เหล่าไม้ ยิ่งกลับงาม


พระพรหมท่าน บันดาลให้ฝนหลั่ง

เพื่อประทัง ชีวิตมิทราม

น้ำทิพย์สาดเป็นสาย พรายพลิ้วทิวงาม
ทั่วเขตคาม ชื่นธารา

สาดเป็นสาย พรายพลิ้วทิวทุ่ง

แดดทอรุ้ง อร่ามตา
รุ้งเลื่อมลาย พร่างพรายนภา

ยามเมื่อฝนมาแต่ไกล

พระพรหมช่วย อำนวยให้ชื่นฉ่ำ

เพื่อจะนำ ดับความร้อนใจ

น้ำฝนหลั่ง ลงมาจากฟ้าแดนไกล

พืชพันธุ์ไม้ ชื่นยืนยง






เพลงพระราชนิพนธ์ สายฝน หรือ  Falling Rain เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๓ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช เป็นงานทดลองของพระองค์ในจังหวะวอลท์ซ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย ส่วนภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงแต่งร่วมกับท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา เพลงพระราชนิพนธ์สายฝนนี้บรรเลงครั้งแรกที่เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ ในงานรื่นเริงของ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย บรรเลงโดยวงสุนทราภรณ์ ขับร้องโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ในเวลาต่อมาเพลงนี้นำมาขับร้องใหม่โดย รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส , นภา หวังในธรรม, สวลี ผกาพันธ์







พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งถึงความลับของเพลงนี้ว่า

"...เมื่อแต่งเป็นเวลา ๖ เดือน ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้เขียนจดหมายถึง บอกว่ามีความปลาบปลื้มอย่างหนึ่ง เพราะไปเชียงใหม่ เดินไปตามถนนได้ยินเสียงคนผิวปากเพลงสายฝน ก็เดินตามเสียงไปเข้าไปในตรอกซอยแห่งหนึ่ง ก็เห็นคนกำลังซักผ้าแล้วก็มีความร่าเริงใจ ผิวปากเพลงสายฝนและก็ซักผ้าไปด้วย ก็นับว่าสายฝนนี้มีประสิทธิภาพสูงซักผ้าได้สะอาด...ที่จริงความลับของเพลงมีอย่างหนึ่ง คือเขียนไป ๔ ช่วง แล้วก็ช่วงที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ เสร็จแล้วเอาช่วงที่ ๓ มาแลกช่วงที่ ๒ กลับไป ทำให้เพลงมีลีลาต่างกันไป...เป็น ๑ ๓ ๒ ๔..."






เพลง ลมหนาว ฤดูหนาวแม้ได้รับความรื่นรมย์จากลมหนาว แต่ใช่ว่าจะเป็นสุขตลอดไป เพราะบางเวลามีลมฝนรุนแรง แต่ธรรมชาติเสียหายพาให้ใจหม่นมัว สุขทุกข์เคล้ากันไปเป็นธรรมชาติ ดังสำนวน "ชีวิตลุ่ม ๆ ดอน ๆ"


ยามลมหนาว พัดโบกโบยโชยชื่น
เหล่าสกุณร้องรื่นรมย์
หมู่ดอกไม้ชวนภมรร่อนชม
ช่างสุขสมเพลินตาน่าดูชูใจ

โอ้รักเจ้าเอ๋ย
ยามรักสมดังฤทัย
พิศดูสิ่งใด
ก็แลวิไลแจ่มใสครัน

อันความรักมักจะพาใจฝัน
เมื่อรักนั้นสุขสมจิตปอง
ยามลมฝน พัดโบกโบยกระหน่ำ
หยดหยาดนำน้ำหลั่งนอง

ผึ้งภู่ทั้งวิหคเหงาเศร้าหมอง
เกลื่อนกลาดผองมาลีร่วงโรยลงดิน
เหมือนรักผิดหวัง
เปรียบดังหัวใจพังภินท์

น้ำตาหลั่งริน
และลามไหลเพียงหยาดฝนปราย
อันความรักแม้นไม่เป็นดังหมาย
ตราบวันตาย ชีพขมขื่นเอย



เพลงพระราชนิพนธ์ ลมหนาว หรือ Love in Spring เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๙ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และได้พระราชทานเพลงนี้ ออกบรรเลงครั้งแรก ในงานประจำปีของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนลุมพินี เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาไทยถวาย






เพลงพระราชนิพนธ์ สายลม สายฝน และลมหนาว ได้สร้างความตระหนักรู้คุณค่าธรรมชาติ ผู้ที่เข้าใจธรรมชาติถ่องแท้จะไม่หักหาญทำลายหรือเบียดเบียนธรรมชาติเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้า แต่จะดำรงตนอยู่ในวิถีพอเพียง มีแต่แนวทางนี้เท่านั้นที่ทำให้สังคมสงบเย็น







พระบรมสาทิสลักษณ์และข้อมูลจาก
วิกิพีเดีย
นิตยสารดิฉัน ฉบับเดือน ธ.ค. ๒๕๕๗
คอลัมน์ "ถูกทุกข้อ" นสพ.ไทยโพสต์ ๑๙ ธ.ค. ๒๕๕๘




บล็อกคุณปอนล่าสุด
ช่อดอกไม้ในชีวิต


บล็อกเสพงานศิลป์ล่าสุด
เสพงานศิลป์ ๒๔๑





ภาพจาก trvnews.com



บล็อกนี้อยู่ในหมวดแฟนคลับ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า

Free TextEditor

Create Date :22 ธันวาคม 2558 Last Update :23 ธันวาคม 2558 21:38:26 น. Counter : 10424 Pageviews. Comments :47