ยี่ร้อยพลอยโกสินทร์ _ บทที่ ๑๕ (๒) ส่งความสุข


บทที่ ๑๕ ส่งความสุข

(พ.ศ. ๒๕๔๘)

ส่วนที่สอง

      ขณะที่พลอยทั้งเจ็บตัวและกลัวผู้ชายคนนี้เธอตัดสินใจโบกเรียกรถแท็กซี่อีกคันที่ผ่านมาตรงจุดเกิดเหตุพอดี โดยก่อนจะขึ้นรถคันใหม่เพื่อไปโรงพยาบาลนั้นพลอยยังอุตส่าห์มีน้ำใจให้เงินร้อยนึงเป็นค่าโดยสารกับลุงคนขับแท็กซี่ที่เป็นต้นเหตุให้เธอต้องประสบเคราะห์ร้ายในวันเริ่มต้นการทำงานด้วย

      ระหว่างที่พลอยกำลังนั่งรถแท็กซี่ทางไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดเธอก็รีบหยิบมือถือโทรไปหาพี่เจผู้จัดการแผนกบุคคลของบริษัทให้รับทราบเพื่อไปทำแผลและขออนุญาตเริ่มเข้าไปช้ากว่าเวลาทำงานปกติที่ตกลงกันไว้

     เมื่อพลอยไปถึงโรงพยาบาลและเข้ารักษาที่แผนกฉุกเฉินเธอเล่าเหตุการณ์รถชนที่เป็นสาเหตุของอาการบาดเจ็บที่แขนให้เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลก่อนจะถูกส่งตัวไปเอกซเรย์กระดูกที่ท่อนแขนและพอพลอยได้พบแพทย์เธอจึงปล่อยคำถามมากมายที่เก็บไว้ตลอดทางออกมาถามคุณหมอด้วยความกังวลว่าอาการนี้จะส่งผลกระทบกับการทำงาน

     “แขนหนูจะหักไหมค่ะคุณหมอแล้วต้องฝ่าตัด เข้าเฝือก หรือถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ยาวเลยไหมค่ะ” พลอยแสดงสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก

     “ใจเย็น ๆ นะหนูเดี๋ยวขอหมอตรวจดูก่อนนะคะ”แพทย์หญิงผู้อยู่เวรประจำวันนี้บอกให้พลอยสงบสติอารมณ์ “ถ้าเป็นหนักหนูคงพาตัวมาโรงพยาบาลเองไม่ได้หรอก”

     “ค่ะคุณหมอ” พลอยรู้ตัวแล้วว่าถามหมอมากเกินไป

       “แค่บาดเจ็บเล็กน้อยหนูไม่เป็นอะไรมากหรอก” แพทย์บอกให้พลอยสบายใจหลังจากอ่านฟิล์มเอกซเรย์และตรวจดูอาการของเธอโดยละเอียด “แค่ที่กระดูกมีรอยร้าวเล็กๆ ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวหมอให้พยาบาลใส่ยาทาแผลให้แล้วเข้าเฝือกอ่อนไว้สักสัปดาห์เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วค่ะ”

       “ค่อยยังชั่วขอบคุณมากค่ะคุณหมอ” พลอยเริ่มเบาใจขึ้นเมื่อได้ฟังคำอธิบายจากแพทย์

       พอรักษาตัวเรียบร้อยแล้วพลอยก็กวีกระวาดฝ่าการจราจรกลับไปยังบริษัทแต่ด้วยรถบริเวณนั้นคับคั่งมากเธอจึงไม่สามารถถึงที่หมายได้ทันก่อนเที่ยงทำให้พนักงานฝ่ายบุคคลต่างออกไปทานข้าวกลางวันกันหมดแล้วถึงอย่างไรเธอยังโชคดีมีแม่บ้านของออฟฟิตช่วยพาไปรอที่ห้องประชุมตามที่ผู้จัดการนั้นฝากเรื่องไว้ซึ่งระหว่างที่เธอกำลังรอและสังเกตลักษณะการตกแต่งภายในห้องตามความเคยชินของมัณฑนากรได้สักพักนั้นก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นอีกแล้วเมื่อชายหนุ่มเจ้าของรถหรูที่ป็นเหตุให้เธอต้องเจ็บตัวคนนั้นเดินเข้ามาให้ห้องประชุม

   “นี่คุณ”พลอยประหลาดใจมากที่เจอเขาที่นี่

   “โลกกลมจริง ๆ” เขาเปรยขึ้นแล้วอมยิ้มด้วยความดีใจและแปลกใจมากที่ได้พบกับผู้หญิงที่เขารอคอย

ด้วยรู้สึกประหนึ่งว่าเป็นพรหมลิขิต

  “นี่คุณ นี่คุณมาทำอะไรที่นี่” พลอยคิดว่าเขาตั้งใจสะกดรอยตามมา

  “นี่คุณ นี่คุณอะไรกันผมต่างหาที่ต้องถามคุณ” เขาแกล้งหยอกให้เธอโกธร

  “นี่คุณ จะมากไปแล้วนะ” พลอยหน้าแดงด้วยไม่พอใจมาก

  “อะ!ผมขอโทษครับ อย่าโมโหเลยนะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ แล้วคุณไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพมาก “ใจเย็น ๆ นะครับผมจะอธิบายให้ฟัง”

  “ก็ว่ามาสิค่ะ” พลอยเริ่มพูดจากับเขาไพเราะขึ้น

   “คือว่าผมทำงานที่นี่ครับแล้วก็...” เขาเริ่มต้นอธิบาย

      จังหวะที่เขากำลังขยายความต่อนั้นเองผู้จัดการที่คนที่พลอยรออยู่นั้นก็มาถึงพอดีและทันเห็นว่าทั้งคู่กำลังสนทนากัน

  “อ้าว! คุณเอกรู้จักน้องพลอยแล้วเหรอค่ะ” พี่เจประเมินจากท่าทีของทั้งคู่

   “คุณเอก”พลอยทวนชื่อเขาเบา ๆ กับตัวเองด้วยความสงสัยในขณะที่เอกชื่นชมทั้งชื่อและความน่ารักของเธออยู่ในใจ

   “ครับ เคยเจอกันเมื่อเช้าก็เพิ่งเจอกัน” เอกตอบอย่างมีเลศนัย

   “งั้นก็ดีเลย พี่คงไม่ต้องแนะนำเยอะแล้วใช่ไหมค่ะว่าคุณเอกเป็นลูกชายเจ้าของบริษัท” พี่เจบอกสั้น ๆ แต่ทำให้พลอยถึงกับตกตะลึง

   “คุณพระพลอยตกใจมากที่ผู้ชายคนที่เธอต่อปากต่อคำยกใหญ่คนนี้มีฐานะยิ่งใหญ่มากในบริษัทแล้วเธอจึงพูดอธิบายกับพี่เจต่อด้วยเสียงอ่อย ๆ “ก็เจ้าของรถคันเมื่อเช้าที่หนูเล่าให้พี่ฟังนี่แหละค่ะ”

   “เพื่อไม่ให้เสียเวลา เดี๋ยวพี่ขอเริ่มปฐมนิเทศเลยนะคะ” พี่เจผู้มีมีชั้นเชิงสูงด้านบุคคลไม่อยากให้เป็นความบานปลายจึงรีบดึงทุกคนกลับเข้าเรื่องงาน

    “ดี ดีค่ะ” พลอยรับลูกที่พี่เจส่งมาได้อย่างฉลาด

      “อ๋อเกือบลืม! ยังมีนัทตี้ด้วยค่ะ ที่พี่เคยบอกไว้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์อีกคนที่มาเริ่มงานพร้อมกัน”พี่เจแนะนำให้พลอยรู้จักเพื่อนร่วมงานเธอเป็นสาวประเภทสองผมยาวสลวยที่ยืนอยู่ด้านหลัง

      “สวัสดีค่ะคุณเอก สวัสดีจ้ะพลอย”นัทตี้ส่งสายตาหวานเยิ้มให้คุณเอกตามภาษาสาวที่ชอบบริหารเสน่ห์เมื่อเห็นหนุ่มหล่อ

      “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะนัทตี้” พลอยส่งยิ้มให้และเธอก็มองพลอยอย่างเป็นมิตร

      “เชิญนั่งค่ะ อันนี้เอกสาร”พี่เจจัดให้ทั้งสามคนนั่งประจำที่แล้วพร้อมเนื้อหาประกอบการบรรยาย ก่อนจะเดินไปยืนหน้าเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ที่ต่อเข้ากับฉากรับภาพนั้น“หัวข้อที่พี่เจจะเล่าให้ฟังนอกจากเรื่องกฎระเบียบและสวัสดิการต่างๆ แล้ว ก็จะมีความเป็นมาบริษัท นโยบายของผู้บริหาร ผลิตภัณฑ์อาหารในเครือทั้งหมดระหว่างนี้ถ้าใครมีอะไรสงสัยก็ซักถามได้เลยนะคะคิดซะว่าวันนี้เรามาพูดคุยแบบเป็นกันเองก่อนเริ่มงานนะคะ”

      “น่าสนุก ผมเองไม่เคยฟังมาก่อนเลยครับ” เอกพูดไปพลางมองพลอยแล้วยักคิ้วข้างเดียวแหย่เธอ

      “บริษัทเอสแอนด์อาร์นิมิตกรุ๊ป จำกัด ได้เป็นบริษัทมหาชนมาเข้าปีที่ห้าแล้วซึ่งเดิมทีเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ จากการก่อตั้งบริษัทสาระพัดแป้งของคุณเกียรติและคุณโสที่เล็งเห็นถึงความเติบโตของการใช้แป้งในอุตสาหกรรมอาหารซึ่งตึกนี้เป็นสำนักงานใหญ่และส่วนโรงงานของบริษัทเราตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการจากนั้นกิจการของบริษัทขยายใหญ่โตแล้วเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ขึ้นมากตามลำดับ.....................” พี่เจร่ายยาวร่วมสองชั่วโมง โดยที่มีเพียงคุณเอกที่ตั้งคำถามบ้างเป็นระยะ

ช่วงการอบรมนี้ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและรวดเร็วโดยหลังจากพนักงานใหม่พอเข้าใจภาพรวมของบริษัทและระเบียบต่าง ๆ เป็นอย่างดีแล้วพี่เจก็พาทั้งสามคนเดินไปทั่วออฟฟิตเพื่อแนะนำให้รู้จักกันโดยทั่ว แล้วจึงพาเข้าไปยังห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุดของบริษัทจำกัดซึ่งคุณโสและคุณเกียรตินั้นก็คอยต้อนรับคุณเอกลูกชายคนเก่งที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากสหรัฐอเมริกาและจะมาเริ่มทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป

      “คุณเอกลูกแม่อบรมเป็นยังไงบ้างค่ะ” คุณโสถามลูกชายด้วยวาจาอันนุ่มนวล

   “โห้! เยี่ยมเลยครับ การอมรมวันนี้ดีมาก”คุณเอกแกล้งเยินยอให้คุณโสหายห่วง

      “ได้ฟังอย่างนี่แม่ค่อยสบายใจ” คุณโสพูดไม่ทันขายคำก็เหลือบมองไปเห็นพลอย “เธอใช่ไหมที่ชื่อพลอยมณี”

     “ค่ะ” พลอยพยายามไหว้นายใหญ่ทั้งสองอย่างนอบน้อมแม้ว่ายกแขนข้างที่เจ็บไม่ค่อยขึ้น

      “เธอนี่เองที่ทำให้รถลูกเอกถูกแท็กซี่ขับปาดหน้าชน” คุณโสจ้องพลอยตาเขม็งเพราะมีลูกน้องคนสนิทคาบข่าวนี้มาบอกให้รู้แล้วทำให้เธอชักระแวงว่าเด็กคนนี้จะมาสร้างความซวยแก่บริษัท

       “แหมะคุณแม่ ผมไม่เป็นอะไรเลยสักนิด”คุณเอกต้องหาทางพูดช่วยพลอยทันทีก่อนที่เธอจะถูกเล่นงาน “เรื่องเล็กน้อยบ้านเรามีรถนับคันไม่ถ้วน คุณแม่ใจดี ๆ อย่าโกธรเลยนะครับ”

       “เอาเถอะ!ลูกเพิ่งมาทำงานวันแรก ไม่อยากให้เสียฤกษ์” แม้คุณโสไม่พอใจที่ลูกชายออกโรงปกป้องพลอยแต่เธอก็ยังไม่อยากถือสาเอาความพนักงานใหม่ต่อหน้าสามีและธารกำนัล “พวกเธอจะไปไหนก็ไป”

       พอคุณโสพูดไม่ทันจบดีคุณเอกก็ช่วยตัดบทโดยชักชวนคุณพ่อคุณแม่ไปดูห้องทำงานส่วนตัวประจำตำแหน่งของผู้จัดการส่วนพี่เจนั้นก็รีบจัดการนำพลอยกับนัทตี้แยกตัวออกมาและพาไปส่งถึงโต๊ะทำงานของพวกเธอที่แผนกออกแบบบรรจุภัณฑ์

              “ช่างเค้าเถอะพลอยอย่าไปเก็บมาใส่ใจเลย หญิงวัยทองก็อย่างนี้แหละ”นัทตี้แอบกระซิบปลอบใจพลอยเมื่อทุกคนเดินคล้อยหลังไปหมด “แต่ดูท่าคุณลูกชายเค้าจะชอบเธอนะ”

      “ขอบใจจ้ะเราก็ต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่” พลอยให้กำลังใจตัวเองอีกแรง

       หลังจากความวุ่นวายของวันที่หนึ่งในชีวิตการทำงานผ่านไปพลอยก็ยังไม่วายต้องฝึกฝนฝีมือการออกแบบและปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรอย่างมากและด้วยความเพียรพยายามของเธอนั้นทำให้ในที่สุดทุกคนก็เห็นถึงความสามารถและผ่านการทดลองงานได้สำเร็จแม้ว่าถูกคุณโสยังไม่ยอมหยุดจ้องจับผิดและตำหนิเธออยู่เป็นระยะแต่ถึงอย่างไรพลอยยึดหลักอดทนเสมอตามที่ครอบครัวเฝ้าสั่งสอนและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคอีกทั้งเธอยังได้กำลังใจที่ดีจากแบล็คมาร์คบุรุษปริศนาในโลกออนไลน์คอยให้คำปรึกษาและมอบกำลังใจมาโดยตลอดทำให้สภาวะการทำงานของพลอยอยู่ตัวมาอีกหลายเดือน

        กระทั่งวันแห่งความโชคร้ายมาเยือนเมื่อพลอยถูกกล่าวหาว่าทำงานพลาดด้วยไปนำสัญลักษณ์ที่มีลิขสิทธิ์มาใช้ออกแบบบรรจุภัณฑ์จนบริษัทเกือบจะถูกฟ้องร้องจึงถูกคุณโสเรียกตัวไปด่าอย่างหนักและขว้างปาผลงานนั้นใส่เธอด้วยแต่สุดท้ายเมื่อนายหญิงทราบว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ไม่เอ่ยปากขอโทษเลยสักคำทำให้พลอยนั้นนั่งนิ่งไม่ยอมพูดไม่กับใครอีกเลยหลังออกมาจากห้องเจ้านายเพราะใจคิดแต่จะลาออกจากงานโดยค่ำนี้พอกลับถึงบ้านเธอจึงมาเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวและเริ่มเปิดคอมพิวเตอร์เล่าเรื่องราวเพื่อระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจนี้ให้แบล็คมาร์คได้รับรู้

      “พิ้งค์ขอกำลังใจหน่อยสิแบล็ค” พลอยพิมพ์ประโยคนี้ส่งเพิ่มอีก หลังจากบรรยายเหตุการณ์เลวร้ายนี้มายาวเหยียดโดยเธอมักเรียกตัวเองสั้น ๆ ว่าพิ้งค์ที่ย่อมาพิ้งค์โรสซึ่งเป็นนามสมมุติในเฟสบุ๊ค

      “ผมขอส่งความสุขให้คุณ” เขาอ่านข้อความทั้งหมดที่เธอส่งมาแล้วจึงเงียบไปครู่นึงเพราะเดินไปหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพที่ติดอยู่บนผนังห้องนอนซึ่งเป็นภาพวาดรูปมือที่โค้งมาบรรจบกันเป็นรูปหัวใจส่งให้พลอย ก่อนจะพิมพ์ประโยคอันหวานซึ้งนี้ตามมา

              ความจริงใจของชายหนุ่มลึกลับที่ตั้งใจส่งความสุขมาให้พลอยอย่างเรียบง่ายนี้ช่างได้ผลอันมหัศจรรย์เหลือเกินสิ่งนี้ทำให้หัวใจพลอยเต้นแรงและมั่นใจว่านี่เป็นพลานุภาพของความรักที่ช่วยสลายความเศร้าหมองให้หายไปทำให้เธอเปลี่ยนใจไม่ลาออกแล้วซึ่งครั้งนี้เธอก็สนทนากับเขาต่ออีกไม่นานเพราะชักเขินอายกับความรู้สึกแปลก ๆที่เกิดขึ้นในใจตนเอง แต่โดยส่วนลึกแล้วเธออิ่มใจมากที่ได้รับความสุขซึ่งผู้ชายคนนี้มอบมาให้อย่างเต็มใจ

199 Green Logo

https://web.facebook.com/199Foods/




Create Date : 23 มิถุนายน 2561
Last Update : 5 กรกฎาคม 2561 19:21:16 น.
Counter : 667 Pageviews.

8 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmambymam, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณSweet_pills

  
มาอ่านเรื่องราวของแม่พลอยต่อจ้ะ

ไว้พี่แวะมาใหม่จ้า

โดย: mambymam วันที่: 23 มิถุนายน 2561 เวลา:11:42:18 น.
  
ชายหนุ่มลึกลับนั่น เป็นใครกันน้อ

โดย: mambymam วันที่: 24 มิถุนายน 2561 เวลา:6:06:41 น.
  
จอมใจจอมมโน Literature Blog ดู Blog
แวะมาส่งกำลังใจให้กันจ้า

โดย: หอมกร วันที่: 25 มิถุนายน 2561 เวลา:10:03:37 น.
  
มาลงชื่อเร้วววววววววว
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 26 มิถุนายน 2561 เวลา:3:53:45 น.
  
คุณเอกเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทนี่เองนะคะ
คุณโสอารมณ์รุนแรงถึงขั้นขว้างปาผลงานใส่พลอยได้
ดีที่มีแบล็คมาร์คคอยรับฟังช่วยให้จิตใจพลอยดีขึ้นนะคะ
อยากรู้ว่าแบล็คมาร์คคือใครเลยค่ะน้องหยก
โดย: Sweet_pills วันที่: 28 มิถุนายน 2561 เวลา:0:15:14 น.
  
ขอบคุณที่แวะชมแคคตัสจ้ะ

โดย: mambymam วันที่: 28 มิถุนายน 2561 เวลา:4:51:52 น.
  
เหมือนกำลังดูละครอยู่เลยนะครับ
อ่านไปก็จินตนาการไป
ผมว่าพระเอกหน้าตาน่าจะประมาณ
พอล ภัทรพล หรือเปล่า

รู้จักแต่ดารารุ่นประมาณนั้น 555+
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 28 มิถุนายน 2561 เวลา:10:53:17 น.
  
ส่งความสุขให้เพื่อน ๆ เช่นกันค่ะ55555
โดย: จอมใจจอมมโน วันที่: 30 มิถุนายน 2561 เวลา:0:01:18 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Yoktawangel.BlogGang.com

จอมใจจอมมโน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด