มือการปฏิบัติการรักษาสันติภาพหลายมิติของ สหประชาชาติ (ฉบับย่อ) กล่าวนำ ความต้องการสำหรับการรักษาสันติภาพ ................... สหประชาชาติได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2488 หลังจากผลของสงครามโลกทั้งสองครั้ง หลังจากที่ได้มีการจัดตั้งขึ้นสหประชาชาติได้ช่วยป้องกันความขัดแย้งมิให้ลุกลามไปจนเกิดสงครามจำนวนหลายครั้ง ด้วยการชักนำให้ฝ่ายตรงข้ามกันใช้โต๊ะการเจรจาแทนการใช้กำลังหรือาวุธในการตัดสิน และยังได้ช่วยฟื้นฟูสันติภาพให้กลับมาหลังจากความขัดแย้งที่ใช้อาวุธได้เกิดขึ้น หลายทศวรรษที่ผ่านมา สหประชาชาติได้ช่วยเหลือในการควบคุมและยุติความขัดแย้งจำนวนมาก และในหลาย ๆ เหตุการณ์ก็ทำด้วยการใช้การจัดกำลังเพื่อการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ การวิวัฒนาการของการรักษาสันติภาพ ................... การรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไม่ลำเอียง ซึ่งหลักการนี้จะช่วยลดความตรึงเครียดระหว่างคู่ความขัดแย้งในพื้นที่และสามารถสร้างโอกาสการเจรจาทางการเมืองได้ การรักษาสันติภาพ สามารถสร้างสะพานเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างสองฝ่ายที่ได้ยุติความเป็นศัตรูกันเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน โดยอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าทั้งสองฝ่ายมีความปรารถนาทางการเมืองที่จะมุ่งสู่เป้าประสงค์นั้น ในช่วงเริ่มต้นนั้น การรักษาสันติภาพสหประชาชาติ มักจะใช้เป็นหนทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐ โดยต่อมาได้มีการเพิ่ม การรักษาสันติภาพในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในรัฐและสงครามกลางเมือง ซึ่งมักเกิดจากความขัดแย้งของกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มในรัฐเดียวกันที่มีเป้าประสงค์ทางการเมืองแตกต่างกันไปอีกทั้งยังมีสายการบังคับบัญชาที่แตกกันออกเป็นส่วน ๆ ................... ความจริงดังกล่าวโดยเฉพาะในช่วง พ.ศ. 2530 ได้นำไปสู่การวิวัฒนาการของภารกิจ การรักษาสันติภาพ โดยจำนวนการปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ หลายภารกิจยังคงไว้ซึ่งรูปแบบดั่งเดิมที่ใช้การปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ในการสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง การปฏิบัติการที่ว่านั้นจะรวมงานทางทหารบางประการเช่น การเฝ้าตรวจการหยุดยิง และการลาดตระเวนในพื้นที่กันชนระหว่างกลุ่มที่ขัดแย้งกันซึ่งดำเนินการโดยผู้รักษาสันติภาพ สหประชาชาติ ซึ่งอาจจะติดหรือไม่ติดอาวุธก็ได้ซึ่งรู้จักกันดีในนามของ หมวกเหล็กฟ้า หรือ หมวกทรงอ่อนฟ้า ซึ่งได้ชื่อนี้มาจากหมวกที่สรวมใส่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามในห้วงที่ผ่านมา การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพสหประชาชาติ ได้มาจำนวนภารกิจเพิ่มขึ้นและได้ขยายการปฏิบัติออกเป็นหลายมิติ รวมทั้งมีมีกำลังพลอื่นที่มิใช่ทหารเข้ามาร่วมปฏิบัติงานด้วยได้แก่ ตำรวจพลเรือน การเมือง กิจการพลเรือน กฎหมาย สิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ข่าวสารสาธารณะและเพศ เป็นต้น การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพหลายมิติซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามอาณัติที่ได้รับมานั้นอาจจะมีหน้าที่ในการปฏิบัติซึ่งได้แก่ 1. ช่วยเหลือในการแปลงข้อตกลงสันติภาพไปสู่การปฏิบัติ 2. เฝ้าตรวจการหยุดยิงและการยุติการเป็นศัตรูของคู่กรณีเพื่อเปิดทางการเจรจาทางการเมืองและการขจัดความขัดแย้งอย่างสันติ 3. สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเพื่อชักจูงให้ประชาชนในพื้นที่กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ 4. ป้องกันมิให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นจนข้ามเส้นเขตแดน 5. นำรัฐหรือดินแดนผ่านไปสู่การมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและตั้งอยู่บนหลักการประชาธิปไตย ธรรมรัฐ และการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ 6. บริหารงานดินแดนในห้วงการเปลี่ยนถ่าย ด้วยการดำเนินการของงานในความรับผิดชอบทั่วไปของรัฐบาลปกติ โดยทั่วไปในขณะที่กำลังทหารจะเห็นได้เด่นชัดในแทบทุกการปฏิบัติการ อย่างไรก็ตามพลเรือนก็เริ่มที่จะมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งได้แก่ 1. ช่วยเหลือกลุ่มขัดแย้งเก่าดำเนินการตามข้อตกลงสันติภาพด้วยการให้ข้อแนะนำในส่วนของงานการเมืองและสังคม 2. สนับสนุนการดำเนินการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม 3. ช่วยเหลือการปลดอาวุธ การปลดปล่อยทหาร และการสมานฉันท์ ของคู่ต่อสู้เดิม 4. กำกับดูแลและจัดการเลือกตั้ง 5. สร้างความเข้มแข็งในการใช้กฎหมาย รวมถึงช่วยเหลือฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรม และการฝึกหัดตำรวจพลเรือน 6. ให้ความสำคัญการเคารพต่อสิทธิมนุษยชน และสอบสวนการกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน 7. ช่วยเหลือในการฟื้นฟูหลังจากการยุติความขัดแย้ง 8. จัดตั้งการบริหารงานช่วงเปลี่ยนถ่ายของดินแดนที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นประเทศเอกราช ภารกิจ การรักษาสันติภาพ ในพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้ง จะมีเจ้าหน้าที่ของหลายหน่วยงานเข้าร่วมปฏิบัติงานด้วย เช่น สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ โครงการอาหารโลก กองทุนเด็กสหประชาชาติ สำนักงานประสานงานกิจการมนุษยธรรม โครงการพัฒนาสหประชาชาติ และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้มักจะปฏิบัติงานใกล้ชิดกับกำลังรักษาสันติภาพ และที่เพิ่มเติมไปกว่านั้นได้แก่ กำลังรักษาสันติภาพมักจะได้รับการร้องขอให้สนับสนุนกิจกรรมของหน่วยงานที่มิใช่รัฐบาลอื่น ๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อเหยื่อความขัดแย้ง ในหลาย ๆ พื้นที่ของภารกิจ ผู้แทนพิเศษเลขาธิการสหประชาชาติ จะดำเนินการเพิ่มเติมจากความรับผิดชอบในเรื่องการประสานงานสำหรับโครงการและกองทุนต่าง ๆ ของ สหประชาชาติ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภารกิจ บทบาทของกรมปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ................... กรมปฏิบัติการรักษาสันติภาพจัดตั้งให้เป็นกรมหนึ่งของกรมเลขาธิการสหประชาชาติในปี 2535 มีหน้าที่รับผิดชอบ การวางแผน การจัดการ การจัดส่งกำลัง การสนับสนุน และในนามของเลขาธิการสหประชาชาติ จะกำหนดทิศทางและบริหารทุกการปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ กรมปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ยังทำหน้าที่ในทำนองเดียวกันในการสนับสนุนการปฏิบัติการด้านสันติภาพและความมั่นคงที่มีพลเรือนรับผิดชอบหลักด้วย ตัวอย่างเช่น ภารกิจการช่วยเหลือของสหประชาชาติในอัฟกานิสถาน กรมปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับกรมกิจการการเมือง ซึ่งเป็นจุดรวมหลักในระบบของ สหประชาชาติ สำหรับการป้องกันความขัดแย้ง การสร้างสันติภาพและการฟื้นฟูสันติภาพ การสถาปนาการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ................... การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นได้โดยคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ซึ่งเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ หน่วยงานนี้มีความรับผิดชอบหลักในเรื่องสันติภาพและความมั่นคงนานาชาติ ในแต่ละกรณีภารกิจใหม่จะได้รับการออกแบบและการประกอบกำลังของส่วนต่าง ๆ จะได้รับการจัดให้มีความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์เฉพาะ เนื่องจาก สหประชาชาติ ไม่มีกองกำลังทหารหรือตำรวจ ดังนั้น เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้สหประชาชาติจึงต้องใช้กำลังดังกล่าวจากชาติสมาชิก รวมถึงการรับสมัครเจ้าหน้าที่พลเรือนจากนานาชาติ ซึ่งเป็นไปตามจำนวนที่กำหนดไว้ในอาณัติของภารกิจนั้น ๆ ................... โดยทั่วไปแล้วไม่มีการกำหนดลำดับขั้นของเหตุการณ์ที่นำไปสู่การสถาปนา การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ อย่างไรก็ตามในกรณีส่วนใหญ่มักจะมีกลุ่มเหตุการณ์ดังต่อไปนี้เกิดขึ้น 1. การขอความเห็น/ข้อตกลงสันติภาพ ในขณะที่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้มีการพัฒนาหรือเลวร้ายลง หรือคู่ขัดแย้งมีความเห็นที่จะตกลงเจรจากันนั้น การขอความเห็นและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็ดำเนินการไปด้วยระหว่างชาติสมาชิก (สหประชาชาติ) กรมเลขาธิการสหประชาชาติ กลุ่มขัดแย้งในพื้นที่ รัฐในภูมิภาคที่ให้ความสนใจ และประเทศที่มีศักยภาพการจัดส่งทหาร/ตำรวจ รวมทั้งสามารถให้การสนับสนุนทรัพยากรอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ในการเข้าไปมีส่วนร่วมของ สหประชาชาติ รวมทั้งรูปแบบขนาดกำลังที่ต้องการ สิ่งที่สำคัญคือกลุ่มที่เกี่ยวข้องหลักมีความเห็นชอบที่จะให้ สหประชาชาติ เข้าไปมีส่วนร่วม โดยทั่วไปแล้วกลุ่มขัดแย้งที่เกี่ยวข้องหนึ่งกลุ่มขึ้นไปจะลงนามข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งในที่นี้ สหประชาชาติ จะมีบทบาทในการดำเนินการและช่วยเหลือให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้น ดังเช่นข้อตกลงสันติภาพมักจะมีข้อกำหนดอย่างกว้าง ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติของสหประชาชาติในอนาคต รวมทั้งสิ่งที่ สหประชาชาติ จะสามารถดำเนินการให้ได้ระหว่างขั้นตอนการเจรจา รวมทั้ง จะมีคำแนะนำที่มีค่าอื่น ๆ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานขีดความสามารถ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ผ่านมา การให้ข้อคิดเห็นแต่เนิ่นและอย่างต่อเนื่องกับ คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ และ ชาติสมาชิก มีความจำเป็นที่จะต้องค้นคว้าให้ได้มา ถ้ามีการเตรียมการสนับสนุนหนทางปฏิบัติที่จะต้องเผชิญสำหรับ สหประชาชาติ 2. คณะประเมินค่าด้านเทคนิค เมื่อเงื่อนไขด้านความปลอดภัยในพื้นที่ขัดแย้งสามารถควบคุมได้แล้ว คณะประเมินค่าด้านเทคนิคร่วม ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกรมต่าง ๆ ภายใน สหประชาชาติ กองทุน และโครงการจะเดินทางไปยังดินแดนหรือประเทศที่ซึ่งจะสถาปนาภารกิจของสหประชาชาติเพื่อประเมินค่าโดยรวมของสถานการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัย การเมือง มนุษยธรรม สิทธิมนุษยชนและการทหารและแนวทางการปฏิบัติสำหรับภารกิจ สหประชาชาติ 3. การรายงานของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ เลขาธิการสหประชาชาติ จะให้ข้อเสนอแนะแก่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ โดยใช้ข้อมูลและแนวทางที่ค้นหาจาก คณะประเมินผลทางเทคนิค โดยจะมีรายละเอียดในการสถาปนา การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ ซึ่งจะรวมถึงขนาดและทรัพยาการที่ต้องการ 4. มติคณะมนตรีความมั่นคง คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ จะอนุมัติมติที่ให้อำนาจในการปฏิบัติการ และกำหนดขนาดและอำนาจหน้าที่ (การตัดสินใจนี้ต้องการคะแนนในการลงมติอย่างน้อย 9 ใน 15 เสียง โดยไม่มีการยับยั้งของชาติสมาชิกถาวร) จากนั้นงบประมาณและทรัพยากรของภารกิจก็จะส่งไปยังสมัชชาใหญ่รับรอง 5. การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อาวุโส เลขาธิการสหประชาชาติ จะกำหนดเจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งบางทีอาจจะเป็นบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานของ สหประชาชาติ ที่มีขีดความสามารถให้เป็นผู้บังคับบัญชาของการปฏิบัติการนั้น ๆ 6. การวางแผน ในเวลาเดียวกัน การวางแผนด้านกิจการการเมือง การทหาร การปฏิบัติการและการสนับสนุนสำหรับ การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ ก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมี ผู้แทนพิเศษเลขาธิการสหประชาชาติ (หรือเจ้าหน้าที่อาวุโสอื่น) และ กรมปฏิบัติการรักษาสันติภาพ เป็นส่วนหลัก ขั้นตอนการวางแผนมักจะมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่หรือคณะทำงานเฉพาะกิจร่วมซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ของ สหประชาชาติ กองทุนและโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 7. การสนับสนุนกำลังทหารและทรัพยากรอื่น ๆ ชาติสมาชิกจะได้รับการแจ้งความต้องการการรับการสนับสนุนกำลังทหารและตำรวจพลเรือนถ้าภารกิจมีความต้องการ เช่นเดียวกับการสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ เครื่องมือ การขนส่งและการส่งกำลังบำรุง 8. การเคลื่อนย้ายและวางกำลัง การเคลื่อนย้ายและวางกำลังจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการเมืองและความมั่นคงในพื้นที่ โดยทั่วไปจะเริ่มจากส่วนล่วงหน้าที่จะไปจัดตั้งสำนักงานของภารกิจ หลังจากนั้นส่วนอื่น ๆ ก็จะเดินทางตามเข้าพื้นที่และกระจายไปสู่พื้นที่ต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ในอาณัติ 9. การรายงานโดย เลขาธิการสหประชาชาติ เลขาธิการสหประชาชาติจะรายงานตามห้วงเวลาต่อ คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้ 10. การตรวจพิจารณาโดย คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ จะต่ออายุและปรับอาณัติของภารกิจเมื่อจำเป็นจนกว่าภารกิจจะสำเร็จหรือยุติลง การเคลื่อนย้ายและวางกำลัง ................... จนถึงปัจจุบัน กำลังพลนับแสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารได้ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนภารกิจการปฏิบัติการรักษาสันติภาพของ สหประชาชาติ จำนวน 56 ภารกิจ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่ปฏิบัติงานในภารกิจรักษาสันติภาพยังคงเป็นกำลังของประเทศของตนเองเพียงแต่อยู่ภายใต้การควบคุมทางยุทธการของ สหประชาชาติ และประพฤติตนตามแนวทางสากลที่กำหนดไว้ในแต่ละภารกิจ พวกเขาเหล่านั้นยังคงสวมใส่เครื่องแบบของชาติตนเอง เพียงแต่เปลี่ยนเป็นสวมหมวกเหล็กหรือหมวกทรงอ่อนสีฟ้าที่มีเครื่องหมายสหประชาชาติ เจ้าหน้าที่พลเรือนที่ปฏิบัติงานใน การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ ซึ่งรวมถึงบุคคลที่มาจากระบบสหประชาชาติได้มาจากชาติสมาชิกหรือรับสมัครจากนานาชาติหรือจากท้องถิ่นในการบรรจุลงในงานเฉพาะต่าง ๆ เจ้าหน้าที่พลเรือนนานาชาติที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน สหประชาชาติก็จัดความเร่งด่วนในการพัฒนาขีดความสามารถให้แก่บุคคลท้องถิ่น ดังนั้นเจ้าหน้าที่จากนานาชาติจึงควรที่จะมีจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเพื่อจะสร้างความมั่นใจว่าคนในประเทศนั้นจะสามารถรับมอบหน้าที่และภาระที่สหประชาชาติทำอยู่ไปปฏิบัติได้โดยเร็วและมีประสิทธิภาพ ................... ระยะเวลาในการเคลื่อนย้ายและวางกำลังในแต่ละภารกิจมีความแตกต่างกันออกไป โดยมีตั้งแต่ 24 ชั่วโมงจนถึงหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น งบประมาณ ทรัพยากร ความเสี่ยงด้านความมั่นคง ความยากง่ายในการส่งกำลังบำรุง ซึ่ง การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ ได้ใช้กลไกต่าง ๆ ที่จะสร้างเสริมขีดความสามารถในการเคลื่อนย้ายและวางกำลังในภารกิจให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ได้แก่ 1. การสถาปนาระบบการจัดเตรียมความพร้อมสหประชาชาติ ร่วมกับชาติสมาชิก 2. สะสมสิ่งอุปกรณ์สำหรับการเคลื่อนย้ายและวางกำลังยุทธศาสตร์ไว้ที่ฐานการส่งกำลังบำรุงสหประชาชาติ เมืองบรินดิซิ อิตาลี 3. จัดลำดับบัญชีบุคคลพลเรือนที่ได้รับการฝึกล่วงหน้าแล้วซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้ทันทีที่มีการเริ่มภารกิจ 4. ใช้อำนาจของ เลขาธิการสหประชาชาติ ในการใช้งบประมาณที่จำเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่ การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ จะได้รับการเห็นชอบจาก คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ การเงินสำหรับ การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ ................... ทุกชาติสมาชิกจะให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพสหประชาชาติ สมัชชาใหญ่จะจัดสัดส่วนค่าใช้จ่ายให้ชาติสมาชิก ซึ่งแต่ละชาติจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายมากน้อยขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจและความมั่งคั่งของชาตินั้น ๆ ยกเว้นชาติสมาชิกถาวรของ คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ที่มีความรับผิดชอบเป็นพิเศษต่อสันติภาพและความมั่นคงของนานาชาติ ในห้วงทศวรรษที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายสูงสุดของภารกิจรักษาสันติภาพอยู่ที่ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2537/2538 และน้อยที่สุดอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2541/2542 ................... ชาติสมาชิกให้การสนับสนุนคำร้องของ เลขาธิการสหประชาชาติ ด้วยการส่งกำลังทหาร ตำรวจพลเรือน ผู้สังเกตการณ์ หรือสิ่งอุปกรณ์ รวมทั้งการสนับสนุนอื่น ๆ ให้แก่แต่ละภารกิจ การรักษาสันติภาพ ชาติสมาชิกที่ให้การสนับสนุนดังกล่าวจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายคืนได้จากภารกิจตามอัตราที่ได้มีการตกลงไว้ การให้การสนับสนุนกำลังพลสำหรับการรักษาสันติภาพมิได้เป็นข้อผูกมัดแต่อย่างใด และชาติสมาชิกที่ให้การสนับสนุนกำลังทหารนั้นยังคงมีสิทธิที่จะถอนกำลังพลของตนออกจากการปฏิบัติการได้ อย่างไรก็ตามหลาย ๆ ชาติสมาชิกมีความสมัครใจที่จะให้การสนับสนุนภารกิจแบบให้เปล่า ด้วยการสนับสนุนทรัพยากรในรูปแบบ การขนส่ง สิ่งอุปกรณ์ กำลังพลและการเงิน นอกเหนือจากอัตราสัดส่วนด้านการเงินที่ประเทศตนเองต้องรับผิดชอบในการสนับสนุนการรักษาสันติภาพ รายงานบราฮิมี ................... เมื่อ สิงหาคม 2543 เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ตีพิมพ์รายงานของคณะทำงานภายนอกในการเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพของการปฏิบัติการสันติภาพ สหประชาชาติ คณะทำงานดังกล่าวมีนาย แลคดาร์ บาฮิมี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอัลจีเรียเป็นประธานในการจัดทำรายงานดังกล่าว (รู้จักกันในชื่อ รายงานบราฮิมี) เมื่อ สิงหาคม 2543 ................... รายงานบราฮิมีได้บรรจุข้อเสนอแนะแบบตรงไปตรงมาจำนวน 57 ข้อ ซึ่งเป็นการเสนอต่อ เลขาธิการสหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ สมัชชาใหญ่ และชาติสมาชิก รายงานดังกล่าวได้มุ่งไปยังระดับยุทธศาสตร์ การเมือง และเรื่องพื้นฐานในการปฏิบัติการ การปฏิรูปการปฏิบัติสันติภาพหลายประการเกิดจาก ข้อเสนอแนะของรายงานดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นลำดับความเร่งด่วนต้น ๆ ของ การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ และ กรมเลขาธิการ ซึ่งข้อเสนอแนะหลักจากรายงานนี้สามารถสรุปได้ดังนี้.- 1. ประชาคมนานาชาติจะต้องเชื่อมั่นว่าการรักษาสันติภาพเป็นหนทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง 2. สันติภาพย่อมมีให้รักษาเสมอ กลุ่มความขัดแย้งต้องมีความปรารถนาที่จะยุติการสู้รบและดำเนินตามเป้าประสงค์ของตนผ่านทางการเมืองและหนทางอื่นที่ไม่ใช้ความรุนแรง 3. ผู้เกี่ยวข้องหลักของความขัดแย้งต้องเห็นชอบการมีส่วนร่วมของ สหประชาชาติ และบทบาทในการช่วยเหลือพวกเขาแก้ไขความขัดแย้ง 4. การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ ต้องเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการแก้ไขความขัดแย้ง ที่มักจะรวมการเมือง เศรษฐกิจ การพัฒนา การสร้างสถาบัน มนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมส่วนอื่น ๆ ของระบบสหประชาชาติด้วย ทั้งในส่วนของ สหประชาชาติ และชาติสมาชิก รวมทั้งองค์การนานาชาติอื่น ๆ 5. ยุทธศาสตร์ในภาพรวมต้องคำนึงถึงมิติของภูมิภาคเพื่อให้มั่นใจได้ว่าประโยชน์ที่ได้รับในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งนั้นจะไม่ถูกทำลายโดยปัญหาของประเทศข้างเคียง 6. คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ โดยเฉพาะสมาชิกถาวร ต้องเห็นชอบในเป้าประสงค์ของปฏิบัติการและให้อำนาจการปฏิบัติที่ชัดเจน 7. คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ต้องทำให้ความมั่นใจว่าอาณัติที่กำหนดไว้จะต้องสำเร็จ ซึ่งการปฏิบัติหมายรวมถึงการอนุมัติจำนวนกำลังที่เหมาะสมในการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามอาณัติ และชาติสมาชิกต้องให้การสนับสนุนกำลังทหารที่ได้รับการฝึกฝนและมียุทโธปกรณ์ที่เหมาะสมเพียงพอ 8. ความเชื่อถือและขีดความสามารถของภารกิจที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามอาณัติที่กำหนดมานั้นมักถูกตัดสินในช่วงเริ่มต้น ดังนั้น การเคลื่อนย้ายเข้าวางกำลังของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็วจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง 9. ชาติสมาชิกต้องเตรียมการที่จะทำงานร่วมกันและให้คำมั่นต่อความพยายามในการรักษาสันติภาพและการสร้างสันติภาพแม้ว่าจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานเพื่อรักษาไว้ซึ่งเงื่อนไขในการฟื้นฟูประเทศจากสงคราม สันติภาพมิได้ถูกสร้างเพียงชั่วข้ามคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศหรือสังคมที่ผ่านประสบการณ์ความขัดแย้งและทุกข์ระทมจากห้วงเวลาที่ยาวนาน 10. กำลังพลพลเรือนนานาชาติของสหประชาชาติ ทั้งที่สำนักงานใหญ่และในสนามต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมืออาชีพ มีความสามารถ และซื่อสัตย์มั่นคง เพราะฉะนั้น ความสนใจอย่างสูงจะต้องทุ่มเทให้แก่ระบบการคัดเลือกเพื่อให้ได้เจ้าหน้าที่ที่มีมาตรฐาน ตั้งแต่ระดับผู้นำภารกิจไปจนถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในแนวหน้า สรุป ................... เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่มีการสถาปนาการปฏิบัติการในสนามของ สหประชาชาติ ภารกิจเมื่อ ปี 2491 ขนาดและขอบเขตของ การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพสหประชาชาติได้แผ่ขยายออกอย่างมาก สหประชาชาติสามารถที่จะนำพาความชำนาญและทรัพยากรที่เป็นหนึ่งเดียวในการเข้าแก้ไขความขัดแย้ง และด้วยประการนี้จึงเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ทุกข์ยากซึ่งได้รับผลกระทบจากสงคราม และยังได้ช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นในการก่อร่างสร้างเมืองของพวกเขาหลังจากสิ้นสุดความขัดแย้ง การรักษาสันติภาพหลายมิติไม่สามารถจะดำเนินการได้ดังใจปรารถนา ดังคำที่กล่าวว่า ไม่มีสิ่งของขนาดเดียวที่พอดีต่อทุกคน การประสพความสำเร็จได้ การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพต้องมีอาณัติที่ชัดเจนและทรัพยากรที่เพียงพอโดยจะต้องมีการปรุงแต่งให้มีความพอเหมาะพอดีกับสภาวะการเมือง ภูมิภาคและความเป็นจริงของประเทศหรือดินแดนที่เป็นปัญหานั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด การรักษาสันติภาพจะต้องตอบสนองต่อความต้องการและแรงบันดาลใจของประชาชนในท้องถิ่น การดำเนินการตามสิ่งที่กล่าวมาแล้วเท่านั้นที่จะทำให้ การปฏิบัติการรักษาสันติภาพหลายมิติจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพของ สหประชาชาติ ที่จะดำรงไว้ซึ่งสันติภาพของโลก ซึ่งเป็นเป้าประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ของการสร้างสหประชาชาติขึ้นมาเมื่อ 62 ปีที่แล้วมา //www.taharn.net/war/50f12undpko1.html |
BlogGang Popular Award#20
ต้นกล้า อาราดิน
บทความทั้งหมด
|
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!
GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him