ตอนที่ 61
ตอนที่ 61

ฝ่ายกวนอูตั้งกองทัพอยู่ระหว่างทางเมืองเกงจิ๋ว กลับเมืองเกงจิ๋วก็ไม่ได้ ยกกองทัพขึ้นทางเหนือก็ถูกกองทัพโจโฉสกัดไว้ กวนอูไม่มีทางเลือกจำต้องตัดสินใจ ยกกองทัพเข้าตีเกงจิ๋ว ทหารของกวนอูซึ่งเป็นชาวเมือง เกงจิ๋วมิมีใจที่จะสู้รบหนีไปเข้ากับทหารง่อที่รักษาเมืองเกงจิ๋ว กวนอูทราบความจึงโกรธให้ทหารที่เหลืออยู่เข้าตี เกงจิ๋วแต่ไม่สำเร็จ ขอกองทัพหัวเมืองของเสฉวนมาช่วยแต่ทางซงหยงของ เล่าฮอง และ เบ้งตัด ใช้ความแค้นส่วนตัวที่กวนอูคัดค้านเล่าปี่ไม่ให้เอาเล่าฮองมาเป็นบุตรบุญธรรม ไม่ยอมส่งกองทัพมาช่วย กวนอูตั้งมั่นรอเป็นเวลานาน แต่ยังไม่มีกองทัพจกมาหนุน สุดท้ายกวนอูจำต้องหนีไปยังเมืองเป๊กเต้ ยึดเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายอยู่ในไม่นาน เพราะเสบียงหมด จำเป็นต้องตีฝ่ากองทัพง่อที่ล้อมอยู่เพื่อหาทางรอดต่อไป

สุดท้าย กวนอูและกวนเป๋งบุตรบุญธรรมถูกจับเป็นเชลย ซุนกวนอยากได้กวนอูมาเป็นนายทหารแต่ถูกที่ปรึกษาคัดค้านโดยเตือนให้ระลึกถึงครั้งที่กวนอูอยู่กับโจโฉ ซุนกวนคิดขึ้นได้ จึงให้ประหารทั้งสองคน เพื่อไม่ให้เป็นกำลังให้กับศัตรูต่อไป เมื่อซุนกวนประหารทั้งสองคนแล้ว คิดปัดความผิดไปให้โจโฉ ส่งศีรษะของกวนอูไปให้โจโฉ โจโฉเปิดดูก็ตกใจเป็นอันมาก จึงให้ฝังศีรษะของกวนอูพร้อมสร้างสุสานให้อีกด้วย


ตอนที่ 62

โจโฉหลังจากจัดการฝังศีรษะกวนอูเสร็จแล้วจึงล้มป่วย หมอฮัวโต๋เข้ามารักษา แต่โจโฉระแวงเกรงหมอ ฮัวโต๋คิดทำร้าย จึงสั่งประหารหมอฮัวโต๋ที่ไร้ความผิด ในที่สุดโจโฉฝืนสังขารตนเองไม่ไหว เสียชีวิตลงเมื่ออายุได้หกสิบหกปี โจผีบุตรชายโจโฉซึ่งเป็นทายาทรับตำแหน่งวุยอ๋อง เรียกให้บุตรชายโจโฉทุกคนเข้ามาเฝ้าเคารพศพบิดา โจหิมบุตรชายคนเล็กกลัวภัยจะถึงตัวจึงชิงฆ่าตัวตายไปก่อน โจเจียงบุตรชายคนรองเข้าพบโจผี ร้องไห้กอดกันอาลัยรักบิดาเป็นอันมาก โจผีจึงให้โจเจียงไปรักษาเมืองเอียงเหลงชายแดน เหลือเพียงโจสิดบุตรโจโฉอีกคนที่ยังไม่ยอมเข้ามา ทำให้โจผีต้องส่งทหารไปจับตัวมาลงโทษ แต่มารดาโจผีขอชีวิตไว้ โจผีให้โจสิดแต่งโคลงกลอน กล่าวถึงพี่น้อง โดยห้ามเอ่ยคำว่าพี่น้อง ภายในการเดินเจ็ดก้าว หากทำไม่ได้จะถูกประหาร โจสิดสามารถแต่งโคลงกลอนได้ตามต้องการ ซึ่งแต่งไว้ว่า “คั่วถั่วเอากิ่งถั่วมาเป็นฟืนไฟ เมล็ดถั่วในกระทะจะไหม้ก็เพราะกิ่งถั่งต้นรากอันเดียวกันนั่นเอง” โจผีได้ฟังจึงร้องไห้ ให้โจสิดไปรักษาเมืองอันเหียงชายแดน หากไม่ได้คำสั่งไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีก

ฝ่ายเล่าปี่ทราบข่าวกวนอูเสียชีวิตก็ตกใจ ร้องไห้อาลัยรักเป็นอันมาก คิดทำโทษเล่าฮองและเบ้งตัดที่ไม่ยอมส่งกองทัพไปช่วยกวนอู แต่เบ้งตัดรู้ทันจึงหนีไปอยู่กับโจผี เล่าฮองรับเคราะห์ถูกประหารแทน


ตอนที่ 63

โจผีหลังจากรับตำแหน่งวุยอ๋องเกิดไม่พอใจในตำแหน่งที่ตนเป็น คิดอยากเป็นฮ่องเต้ซะเอง จึงทำการปลด พระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากราชสมบัติ ถือว่าเป็นการสิ้นสุดยุคราชวงศ์ฮั่นที่มีระยะเวลากว่าสี่ร้อยปีอีกด้วย โจผีจึงสถาปนาตนเป็น “พระเจ้าอ้วยโช่” เปลี่ยนชื่อประเทศเป็น “ไต้วุยก๊ก” สถาปนาโจโฉผู้เป็นบิดาเป็น “พระเจ้าไท่ล่อฮูฮ่องเต้” แต่เนื่องจากพระเจ้าโจผีอยู่เมืองฮูโต๋แล้วรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ จึงย้ายเมืองหลวงกลับไปยังเมือง ลกเอี๋ยง ด้านเล่าปี่เห็นโจผีสถาปนาตนเป็นฮ่องเต้จึงล้มป่วยลง ขงเบ้งจึงเสนอให้เล่าปี่สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้บ้าง เล่าปี่อยากเป็นแต่กลัวจะถูกครหา สุดท้ายเล่าปี่สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้ “พระเจ้าเจี๋ยงบู๋” ให้เล่าเสี้ยนเป็นรัชทายาท ตั้งขงเบ้งเป็นมหาอุปราชอัครมหาเสนาบดี

ฝ่ายพระเจ้าเล่าปี่คิดแก้แค้นให้กวนอู จึงเตรียมจัดกองทัพตีเมืองกังตั๋ง ซ้ำได้ทราบข่าวว่าเตียวหุยเมาแล้ว ทำร้ายนายทหาร ทำให้ถูกลูกน้องตนเองลอบสังหาร ตัดหัวไปให้ซุนกวน ยิ่งแค้นซุนกวนประกาศว่าจะสังหารชาวกังตั๋งให้หมดเพื่อแก้แค้นให้กวนอูและเตียวหุย แม้ว่าขงเบ้ง จูล่งและเหล่าขุนนางจะคัดค้าน แต่เล่าปี่ไม่ยอมฟัง ดึงดันจะยกกองทัพเสฉวนเจ็ดสิบห้าหมื่นบุกตีกังตั๋งให้พินาศ


ตอนที่ 64

กองทัพจกกำลังเจ็ดสิบห้าหมื่นบัญชาทัพโดยพระเจ้าเล่าปี่ เคลื่อนกำลังบุกกังตั๋งราวกับสายน้ำหลาก ตีเมืองรายทางก่อนถึงเมืองกังตั๋งแตกยับเยิน ซุนกวนจนปัญญาจึงขออ่อนน้อมต่อพระเจ้าโจผี ขอให้กองทัพวุยยกมาช่วย แต่พระเจ้าโจผีเพียงแค่รับไมตรีแต่รอดูสถานการณ์ก่อน ซุนกวนไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงสกัดกองทัพจก แต่ไร้ผล แต่สามารถสังหารฮองตงทหารเอกเอกของจกได้ ทำให้พระเจ้าเล่าปี่แค้นมาเป็นเท่าทวี คิดถล่มกังตั๋ง ให้ราบเป็นหน้ากลอง ซุนกวนแต่งหนังสือและขอเจรจาสงบศึกพร้อมจะคืนนางซุนฮูหยินให้ด้วยแต่พระเจ้าเล่าปี่ ถูกความแค้นเข้าครอบงำจึงไม่ยอม ซุนกวนจนปัญญาได้เพียงแค่ให้กองทัพสกัดตามรายทางไม่ให้ถึงกังตั๋งโดยง่าย


ตอนที่ 65

กองทัพจกรุกคืนใกล้ถึงกังตั๋งทุกขณะ ซุนกวนจึงให้ “ลกซุน” นายทหารผู้ซึ่งออกอุบายให้ลิบอง ยึดเกงจิ๋วเป็นแม่ทัพใหญ่ ยกกองทัพต่อสู้กับพระเจ้าเล่าปี่ พระเจ้าเล่าปี่เห็นลกซุนเป็นแค่นายทหารหนุ่มยกมา จึงประมาทจัดทัพตั้งค่ายยาวเจ็ดร้อยลี้ริมน้ำ โดยมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ลกซุนจึงออกอุบายจุดเพลิงเผาค่าย เล่าปี่ยาวติดกัน เพลิงเผาค่ายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้นไม้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เล่าปี่หนีเอาตัวรอด ทิ้งทหารให้หาทางเอาตัวรอดเอาเอง กองทัพง่อก็ไล่ตามตีกองทัพจก พลัดหลงเข้าในตำบลอิปักโป้ ซึ่งขงเบ้งใช้ศิลา และธรรมชาติเป็นค่ายกล ลกซุนหลงในศิลาหาทางออกไม่ได้ เคราะห์ดีที่ “ฮองเสงหงัน” ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตา ขงเบ้งมาแนะนำทางออกให้ ลกซุนจึงรอดพร้อมสรรเสริญสติปัญญาขงเบ้งเป็นอันมาก

พระเจ้าโจผีรอฟังข่าวซุนกวนอยู่ ทราบว่าซุนกวนเสียทีกองทัพจก จึงยกกองทัพวุยหมายตีซ้ำ แต่ลกซุนรู้ทัน ไม่ไล่ตามกองทัพจกที่แตกพ่าย ยกทัพตีสกัดกองทัพวุย ทำให้ทัพวุยแตกพ่าย กังตั๋งเลยรอดจากวิกฤติ


ตอนที่ 66

ฝ่ายเล่าปี่หลังจากพ่ายแพ้ยับเยินแก่กองทัพง่อ ได้หนีไปเมืองเป๊กเต้ เจ็บกายไม่ว่าแต่เจ็บใจมากกว่าทำให้ตรอมใจ รู้ว่าไม่รอดเป็นแน่ จึงเรียกขงเบ้งเข้าเฝ้า พร้อมฝากฝังอาเต๊าให้เป็นฮ่องเต้แห่งจกแทนตน จากนั้นจึงสิ้นใจ ขงเบ้งร้องไห้เสียใจเป็นอันมาก แล้วจึงกลับเสฉวน ทำการสถาปนาอาเต๊าขึ้นเป็น “พระเจ้าเล่าเสี้ยน” ครองแคว้นเสฉวนตามคำสั่งเสียของพระเจ้าเล่าปี่ โดยที่ขงเบ้งดำรงตำแหน่ง มหาอุปราช ตามเดิม

ด้านพระเจ้าโจผีทราบว่าเสฉวนผลัดแผ่นดิน คิดตีเมืองเสฉวน สุมาอี้เสนอแผนยกตีห้าทางให้กับ พระเจ้าโจผี พระเจ้าโจผีเห็นชอบ จึงดำเนินตามแผนการยกตีเสฉวนห้าทาง พระเจ้าเล่าเสี้ยนทราบข่าวตกใจ ให้ขุนนางเรียกหาขงเบ้ง แต่ขงเบ้งซึ่งต้องการให้พระเจ้าเล่าเสี้ยนออกเชิญด้วยพระองค์เองจึงปฎิเสธ อ้างว่าป่วย ทำให้พระเจ้าเล่าเสี้ยนต้องออกไปเชิญขงเบ้งมาปรึกษาแผนการด้วยตัวเอง ขงเบ้งไม่ทำให้ผิดหวัง เสนออุบาย ให้ทหารเอกไปรักษาจุดยุทธศาสตร์ขับไล่ศัตรู ทำให้อาณาจักรจก รอดพ้นหายนะไปได้อีกครั้งหนึ่ง


ตอนที่ 67

ดินแดนทางตอนใต้ มีชื่อว่า “ม่าน” มี “เบ้งเฮ๊ก” ซึ่งสถาปนาตนเป็น “ม่านอ๋อง” ยุให้เจ้าเมืองชายแดน ที่ติดกับเสฉวนก่อกบฎ ขงเบ้งออกปราบปรามจนสงบ คิดที่ยกกองทัพจกห้าสิบหมื่นตีดินแดนม่าน มีจุดประสงค์ ต้องการให้ซื้อใจเบ้งเฮ๊ก ไม่ให้ดินแดนทางใต้เป็นกบฎอีกต่อไป

ฝ่ายเบ้งเฮ๊ก เจ้าเมืองม่าน รู้ว่ากองทัพจกยกมา จึงระดมทุกเผ่าทุกหัวเมืองต่อสู้กับกองทัพจก แต่สู้ไม่ได้ กองทัพม่านเสียทีกองทัพจกทุกครั้ง เสียไพร่พลเป็นจำนวนมาก ตัวเบ้งเฮ๊กเอง ถูกจับถึงเจ็ดครั้ง ก่อนที่จะจนยอมจำนนด้วยความเต็มใจ เป็นอันว่าขงเบ้งสามารถซื้อใจเบ้งเฮ๊กได้สำเร็จ พร้อมตั้งเบ้งเฮ๊กดำรงตำแหน่งเดิม เพื่อให้คุมม่านสืบไป อาณาจักรจกจึงไม่ต้องกังวลทางใต้ต่อไป มุ่งขึ้นตีทางเหนืออย่างแข็งขัน


ตอนที่ 68

พระเจ้าโจผีเสวยราชย์ได้ไม่นานก็ล้มป่วย รู้ว่าไม่รอดจึงฝากฝังพระราชโอรสคือ “โจยอย” กับสุมาอี้ ให้ครองอาณาจักรวุย ว่าแล้วพระเจ้าโจผีสิ้นพระชนม์ พระเจ้าโจยอยขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ที่สอง แห่งวุยก๊ก

ฝ่ายขงเบ้งทราบข่าวจึงออกอุบายปล่อยข่าวว่าสุมาอี้เป็นกบฎ ยุให้พระเจ้าโจยอยปลดสุมาอี้ พระเจ้าโจยอย หลงเชื่อ สั่งปลดสุมาอี้ให้ไปทำนาที่บ้านเดิม ตามอุบายของขงเบ้ง

ขงเบ้งทราบว่าอุบายตนสำเร็จแล้ว จึงร่างแถลงการณ์ขอยกกองทัพตีอาณาจักรจก กอบกู้ราชวงศ์ฮั่น พระเจ้าเล่าเสี้ยนเห็นชอบ จึงให้ขงเบ้งยกทัพไป พระเจ้าโจยอยทราบข่าว ให้แฮหัวหลิม ลูกเขยโจโฉเป็นแม่ทัพใหญ่ ยกกองทัพใหญ่ไปสกัดกองทัพจก แต่พลาดท่าแพ้กองทัพจกยับเยิน ถอยทัพรอกำลังหนุนต่อไป


ตอนที่ 69

ขงเบ้งยังดำเนินแผนการตีอาณาจักรวุยต่อไป แต่พลาดถูกนายทหารวุยนามว่า “เกียงอุย” ซ้อนกล จูล่งเกือบเสียทีถูกจับ ขงเบ้งทราบจึงสรรเสริญเกียงอุย พร้อมอยากได้ตัวเป็นนายทหาร ถึงขนาดให้คนปลอมตัวเป็นเกียงอุย ทำทีสวามิภักดิ์ต่อขงเบ้ง ฝ่ายวุยก็หลงเชื่อ ทั้งที่ตัวจริงกำลังถูกทัพอุยเอี๋ยนล้อมอยู่ เกียงอุยเห็นท่าไม่ดี จึงตีฝ่าล้อม จะขอเข้าเมือง แต่ฝ่ายวุยเห็นว่าเกียงอุยยอมแพ้กองทัพจก แล้วก็ไม่ยอมเปิดประตูรับ เกียงอุยไร้ทางไป จึงต้องเข้าสวามิภักดิ์กองทัพจก ตามอุบายของขงเบ้ง

ฝ่ายพระเจ้าโจยอยทราบว่ากองทัพแฮหัวหลิมพ่ายแพ้ จึงให้ “โจจิ๋น” เป็นแม่ทัพใหญ่ ยกกองทัพใหญ่ไปแก้ตัว แต่พลาดท่าถูกอุบายของขงเบ้งตีแตกพ่าย ถอยทัพรักษาค่ายจนโจจิ๋นต้องไปจ้างชนเผ่าเกี๋ยงที่อยู่ ชายแดนติดกัน ให้ตีตลบหลัง กองทัพเกี๋ยงใช้รถศึกเป็นพาหนะ ถนัดการใช้ธนูเป็นอันมาก ทหารจกไม่ชำนาญ รบประเภทนี้ จึงพ่ายแพ้ยับเยิน ร้อนถึง ขงเบ้งต้องทิ้งค่าย หันมารบกับกองทัพเกี๋ยงแทน ขงเบ้งออกอุบายโดยการ ขุดหลุมล่อรถศึกของกองทัพเกี๋ยงให้ตกหลุมแล้วเข้าจับกุม กองทัพเกี๋ยงยอมแพ้ แต่ขงเบ้งยอมปล่อยกองทัพเกี๋ยง และเป็นไมตรีกับเมืองเกี๋ยง

ฝ่ายโจจิ๋นเห็นขงเบ้งทิ้งค่าย หันไปรบกับกองทัพเกี๋ยงจึงเร่งเข้าตีแต่เสียทีอุบายตีกระหนาบของขงเบ้ง โจจิ๋นเห็นเหลือกำลังจึงตีฝ่าไป ตั้งรักษาค่ายเมืองเตียงฮัน พร้อมแต่งหนังสือไปยังลกเอี๋ยงขอกองทัพหนุนโดยด่วน


ตอนที่ 70

พระเจ้าโจยอยทราบข่าว จำต้องเรียกสุมาอี้ที่ทำนาอยู่ให้มาเป็นแม่ทัพใหญ่ ส่วนเบ้งตัดเกิดเปลี่ยนใจ จะหันกลับมาสวามิภักดิ์อาณาจักรจกอีกครั้ง เบ้งตัดจึงอาสายกตีเมืองลกเอี๋ยง แต่สุมาอี้กำจัดเบ้งตัดก่อน เบ้งตัดประมาท ถูกกองทัพสุมาอี้เข้าตี สุดท้ายเบ้งตัดถูกประหาร สุมาอี้จึงยกกองทัพใหญ่ไปยังเมืองเตียงฮัน

ฝ่ายขงเบ้งทราบว่าสุมาอี้ยกกองทัพมา จึงให้ศิษย์รัก “ม้าเจ๊ก” ยกกองทัพไปรักษาตำบลเกเต๋ง จุดยุทธศาสตร์พร้อมกับทำสัญญาว่าถ้าแพ้ศึกม้าเจ๊กจะยอมให้ประหารทั้งครอบครัว แต่ม้าเจ๊กทำการโดยประมาท

มิเคยทำสงครามจริง ๆ เพียงแค่เคยทำสงครามบนแผ่นกระดาษเท่านั้น ออกอุบายให้ตั้งค่ายบนเนินสูงไม่ยอมตั้งค่าย รักษาถนนตามคำสั่งของขงเบ้ง มีเพียงอองเป๋งปลัดทัพที่ทำตามคำสั่งของขงเบ้ง ทำให้กองทัพม้าเจ๊กถูกล้อมทุกทิศ ถูกทางส่งน้ำและทางส่งเสบียง ทหารจ๊กอิดโรยเสียขวัญเป็นอันมาก สุดท้ายกองทัพสุมาอี้จุดไฟเผาล้อมเนินเขา ทหารจ๊กตายเป็นอันมาก ม้าเจ๊กจำต้องตีฝ่าพร้อมพาทหารเสียตายกลับไปหาขงเบ้ง เสียตำบลเกงเต๋งให้แก่ กองทัพสุมาอี้




Create Date : 22 เมษายน 2552
Last Update : 22 เมษายน 2552 6:16:54 น.
Counter : 723 Pageviews.

0 comments
ภูมิปัญญาแห่งชีวิต 处世智慧 toor36
(27 ก.ย. 2567 00:01:14 น.)
สรุปวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.5) รวมสูตรตรีโกณมิติ นายแว่นขยันเที่ยว
(25 ก.ย. 2567 00:02:26 น.)
ศูนย์วิจัยข้าว ปทุมธานี : นกช้อนหอยดำเหลือบ ผู้ชายในสายลมหนาว
(23 ก.ย. 2567 15:59:36 น.)
ปลูกผักสวนครัวกินเองมีวิธีง่าย ๆ ได้ผักสดใหม่และปลอดสารเคมี สมาชิกหมายเลข 8129241
(17 ก.ย. 2567 00:41:42 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tonkla1.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



ต้นกล้า อาราดิน
Location :
ปราจีนบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]

บทความทั้งหมด