ตอน 3 ขอความช่วยเหลือ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นางเอกจีน เลอปารูปภาพที่เกี่ยวข้อง


 เพียงไม่กี่ชั่วโมงเครื่องบินก็ไปถึงประเทศเกาหลี ซึ่งพนักงานที่คอยให้บริการบนเครื่องก็บอกให้ทราบ เมื่อใกล้ที่จะถึงสนามบินดังกล่าว

“เครื่องบินกำลังจะลงที่สนามบินเกาหลีค่ะ”

“อุ๊ยๆ ถึงเกาหลีแล้วสุ่น ดูวิวสิ สวยเชียว” ด้วยความตื่นเต้นเธอก็หันไปบอกเพื่อน แต่พอเห็นใบหน้าหล่อของผู้เป็นนาย มุกดาก็เบาเสียงลงในทันที

“อุ๊ย วิวสวยมากๆ เลย”  สุนทรีก็ตะโกนอย่างลืมตัว หญิงสาวก็เตือนเพื่อน

“เบาๆ หน่อยยายสุ่น เดี๋ยวก็โดนว่าอีกหรอก”

“ขอโทษที ลืมตัวน่ะ” ไม่เคยนั่งเครื่องบินอะไรที่ทรมานอย่างนี้เลย จะขยับกายแต่ละทีก็ต้องเบาๆ จะคุยอะไรกันก็ไม่ได้มาก เหมือนมีครูมานั่งคุมไม่มีผิดเลย ให้ตายเถอะ

“ผู้โดยสารเตรียมตัวลุกขึ้นหยิบกระเป๋าก่อนลงจากเครื่องนะคะ” เมื่อเครื่องลงมาจอดยังสนามบินแล้ว พนักงานแอร์โฮสเตสก็ประกาศบอกให้ทราบตามหน้าที่ มุกดากับสุนทรีก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเพื่อเตรียมลงจากเครื่องบิน

พอก้าวลงมาก็ต้องให้ตม. ตรวจก่อน ทั้งสองก็เตรียมตัวไปต่อแถวเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งเธอจะต้องยื่นพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่
ทั้งหมดก็ยืนรอตม. ตรวจเอกสารไปเรื่อยๆ เพราะมีคนมาเที่ยวเกาหลีเยอะพอควรทีเดียว

ครั้นพอถึงหญิงสาว เจ้าหน้าที่ ตม. ของเกาหลีก็ตรวจดูพาสปอร์ตของเธอ ก่อนจะเอ่ยกับมุกดาด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง และเคร่งขรึมแปลกๆ 

 “เราไม่เชื่อว่าคุณมาเที่ยว”

“เขาพูดว่าอะไรคะ ฉันฟังไม่รู้เรื่องค่ะ”

“เขาไม่เชื่อว่าคุณสองคนมาเที่ยวค่ะ” หญิงสาวชาวไทยคนหนึ่งที่ฟังภาษาอังกฤษออกช่วยแปลออกมา

“ไม่เชื่อได้ยังไงกันคะ เราสองคนมาเที่ยวจริงๆ ค่ะ” มุกดายืนกรานกลับไปพอได้ยินที่อีกฝ่ายเอ่ย

“คุณมาเที่ยวกับใคร แล้วพักที่ไหน” อีกฝ่ายสอบถามกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ หญิงสาวก็ทำท่ามึนงง

“เขาพูดอะไรอีกคะ” พลางหันไปถามหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“เขาถามว่าคุณมาเที่ยวกับใคร แล้วพักที่ไหนค่ะ”

“ฉันมาเที่ยวกับเพื่อนคนนี้ค่ะ พักที่โรงแรมนี้ค่ะ” เธอชี้ไปยังสุนทรี และยื่นเอกสารให้กับพนักงาน รวมถึงพาสปอร์ตของสุนทรีด้วย เจ้าหน้าที่ก็รับไปดูและมองหน้าของทั้งคู่ ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างยืนกราน

“ยังไงพวกเราก็ไม่เชื่อว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยว พวกเราจะส่งคุณสองคนกลับ”

“เขาบอกว่าจะส่งตัวคุณสองคนกลับไทยค่ะ เขาไม่เชื่อว่าคุณสองคนมาเที่ยวค่ะ”

“เฮ้ย ได้ไงน่ะ พวกเรามาเที่ยวจริงๆ ค่ะ ไม่ได้จะมาทำงาน  คุณช่วยบอกเขาหน่อยสิคะ พวกเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ” มุกดาแย้งกลับไป หญิงสาวอีกคนก็บอกกับเจ้าหน้าที่ตม. ให้ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อดังเก่า

“ยังไงเขาก็จะส่งพวกคุณกลับไทยค่ะ เพราะคิดว่าพวกคุณเป็นพวกผีน้อยค่ะ”

“ผีน้อยอะไรคะ พวกเราไม่ใช่ผีนะคะ พวกเรายังไม่ตายค่ะ” สุนทรีแย้งกลับไปอย่างงุนงง บ้าแล้วคนยืนอยู่เห็นๆ ดันบอกว่าทั้งสองคนเป็นผี

“ไม่ใช่ค่ะ ผีน้อยในที่นี่หมายถึง พวกคนไทยที่ลักลอบเข้าเมืองเกาหลีแบบไม่ถูกกฎหมายค่ะ”

“บ้าแล้ว พวกเราไม่ได้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายนะคะ พวกเราได้รางวัลจากบริษัทขายเครื่องสำอางเอแคลร์ บิวตี้ค่ะ พวกเรามาเที่ยวกันจริงๆ นะคะ” มุกดาไม่อยากถูกส่งตัวกลับ จึงพยายามมองหาคนที่ช่วยเหลือตนเองได้ กระทั่งมองเห็นธราธิปเจ้านายหนุ่มจึงชี้ให้พนักงานได้ทราบ

“คุณคะ ผู้ชายคนนั้นที่ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน เป็นเจ้านายของพวกเราสองคนค่ะ พวกเราทำงานที่บริษัทของเขาค่ะ ไม่เชื่อคุณลองถามเขาดูก็ได้ค่ะ” หญิงสาวที่มีน้ำใจก็บอกกับเจ้าหน้าที่ตามที่มุกดาพูด เจ้าหน้าที่จึงเดินไปหาธราธิปที่ยืนต่อคิวเพื่อตรวจพาสปอร์ตทางเบื้องหลัง

“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นเจ้านายของผู้หญิงสองคนนั้นรึเปล่าครับ” พร้อมกับชี้ไปยังมุกดากับสุนทรีด้วย

“ทำไมเหรอครับ มีอะไรรึเปล่าครับ”

“พอดีว่าเราไม่เชื่อครับว่าทั้งสองคนมาเที่ยว คิดว่าน่าจะแอบลักลอบเข้ามาทำงานมากกว่า ตกลงทั้งสองคนทำงานอยู่บริษัทคุณรึเปล่าครับ”


        พอได้รับรู้ว่าทั้งสองคนมีปัญหาอะไร ธราธิปก็พยักหน้าตอบให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบอย่างชัดเจน ด้วยการผงกศีรษะพร้อมกับบอก

“ใช่ครับ ทั้งสองคนทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่บริษัทของผมครับ”

“แน่ใจนะครับ คุณไม่ได้โกหกใช่ไหมครับ”

“ผมไม่ได้โกหกครับ”

“ผมขอดูพาสปอร์ตของคุณหน่อยครับ” เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพาสปอร์ตของเขาก่อนจะมองหน้าและเอ่ย “ผมจะยอมเชื่อคุณละกัน ถ้าคุณโกหกล่ะก็ ผมส่งตัวคุณกลับพร้อมลูกน้องของคุณแน่นอน”

“ผมพูดความจริงครับ” ชายหนุ่มยืนยันซ้ำด้วยความมั่นใจ
เมื่อมุกดาได้รับการตรวจสอบและยอมให้เข้าเมืองได้ เธอก็ยิ้มอย่างยินดี พร้อมกับยกมือขึ้นมาพนมยังอกด้วย

“ขอบคุณพระที่ไม่ส่งตัวพวกเรากลับไทย ไม่อย่างนั้นคงแย่มากๆ เลย อุตส่าห์มาถึงเกาหลี แต่กลับโดนไม่ให้เข้าเมืองซะนั่น”

“จริงด้วย” สุนทรีพยักหน้าอย่างเห็นดีเห็นงามกับเพื่อน

“แล้วเราจะไปโรงแรมนี้ยังไงน่ะ พูดภาษาอังกฤษไม่เป็นกับเขาซะด้วยสิ”

“รู้ว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็ยังกล้ามานะพวกเธอสองคน”

“ก็พวกเราไม่รู้นี่คะ ว่ามันจะยุ่งยากอย่างนี้ ก็พวกเราไม่มีความรู้มากเหมือนคุณนี่คะ” มุกดาแย้งกลับไป ได้ยินดังนั้นธราธิปก็ไม่กล้าพูดจาตำหนิทั้งสองอีก จึงแบมือไปยังเบื้องหน้า

“ไหนเอาโบชัวร์มาดูสิว่าไปพักที่โรงแรมไหน” มุกดาก็ยื่นให้กับเขา อีกฝ่ายก็รับไปอ่านดู พบว่าเป็นโรงแรมเดียวกับที่เขาพัก

“เดี๋ยวนั่งรถไปกับผมละกัน ผมจะไปพักที่โรงแรมนี้เหมือนกัน”

“ดีจังเลยค่ะ ถ้าให้พวกเราคุยกับคนขับ คงไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ”

“นั่นสิคะ”

โดยธราธิปก็ได้คุยกับแท็กซี่อยู่เป็นครู่ เพื่อบอกให้ทราบถึงจุดหมายที่จะไป คนขับแท็กซี่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่เขาจะเรียกหญิงสาวทั้งสองคน

“ขึ้นรถกันเลย จะได้ไปโรงแรมกัน” 

ทั้งสองก็เอากระเป๋ามาใส่ยังด้านหลังของท้ายรถ ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปนั่งทางเบื้องหลัง ส่วนทางด้านหน้าชายหนุ่มก็นั่งเพื่อคอยดูแผนที่เส้นทางในโทรศัพท์ไปด้วย จะได้ไม่หลงทาง อดมองไปยังหญิงสาวสองคนไม่ได้ ถ้าขืนปล่อยให้ไปเที่ยวเอง จะโดนหลอกไปฆ่าทิ้งรึเปล่านะ เพราะกลัวเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นกับทั้งคู่น่ะเอง ยิ่งดูเด๋อๆ ด๋าๆ อยู่ด้วย

เพียงครู่รถแท็กซี่ก็ขับไปจอดยังโรงแรมซึ่งทั้งหมดได้จองไว้ ธราธิปก็จัดการจ่ายเงินค่าแท็กซี่ให้ มุกดาก็เอ่ยอย่างไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร

“ค่าแท็กซี่เท่าไรคะ”

“ไม่เป็นไร เล็กน้อยน่ะ” เขาสั่นหน้าปฏิเสธไม่ยอมรับเงินจากเธอ

“ขอบคุณนะคะ”

“ตามมาละกัน” เขาลากกระเป๋าของตนเองเข้าไปยังโรงแรม โดยมีทั้งสองสาวเดินตามเธอไป ก่อนจะยื่นเอกสารหมายเลขห้องให้กับพนักงานโรงแรม พนักงานก็โต้ตอบกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ เพียงครู่เขาก็หันมาบอกเธอ

“พนักงานจะพาเธอสองคนไปที่ห้องนะ อีกอย่างหนึ่งพวกเธออยากไปเที่ยวกับฉันไหม เพราะท่าทางพวกเธอคงไปไหนเองไม่ถูกแน่นอน” เขาเอ่ยอย่างคาดการณ์กลับมา

“ใช่ค่ะ พวกเราคงไปไหนไม่ถูกหรอกค่ะ” มุกดายอมรับอย่างไม่โต้แย้งเลย

“หน้าก็บอกยี่ห้ออยู่แล้ว เด๋อๆ ด๋าๆ แบบนี้ไม่แคล้วโดนจับส่งตัวกลับอีกรอบแน่ เขาจะคิดว่าเป็นผีน้อยอีกน่ะสิ”

“ถ้าเป็นแบบนั้นคงแย่แน่ๆ เลยค่ะ” สุนทรีกลัวอดเที่ยวพลางทำท่าเบะปากไปด้วย

“ขึ้นไปพักแล้วตอนเย็นลงมาเจอกันหกโมง จะพาไปกินข้าว”

“ค่ะ คุณธราธิป ขอบคุณนะคะที่ช่วยเหลือเราสองคน”

“ไม่เป็นไรฉันกลัวพนักงานจะถูกส่งตัวกลับไทย หรือไม่ก็โดนฆ่าหมกป่าทิ้งเพราะโดนปล้นแทน” ยิ่งเซ่อๆ ซ่าๆ ทั้งคู่แบบนี้ เหยื่อมิจฉาชีพดีๆ เลยล่ะ

“ขอบคุณที่เมตตาค่ะ” มุกดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายประชดประชันนิดๆ

รับรู้ว่าอีกฝ่ายคงมองตนเองกับเพื่อนโง่สินะ ถึงได้ช่วยเหลือด้วยการให้ไปเที่ยวกับเขาด้วย พนักงานโรงแรมก็เดินนำไปยังลิฟท์ที่อยู่ไม่ไกล  มุกดากับสุนทรีก็ก้าวเข้าไปยังยังด้านใน เพื่อตรงไปยังห้องของตนเอง

พอไปถึงดวงตากลมก็กวาดมองไปทั่วห้องที่น่านอนอย่างมาก กับเตียงกว้างที่อยู่เบื้องหน้า พลางทิ้งกายลงไปอย่างเหนื่อยล้า

“ว้าว น่านอนที่สุดเลย”

“นั่นสิ” เพื่อนสนิทพยักหน้าอย่างเห็นด้วย และทิ้งกายตามลงไปเช่นกัน

หกโมงเย็นธราธิปก็ก้าวลงมาจากลิฟท์เพื่อจะไปกินอาหารเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม แต่ก็ไม่เห็นพนักงานของตนเองลงมาสักที จึงสั่งให้พนักงานโรงแรมโทรศัพท์ขึ้นไป

“เอ่อ ช่วยโทรศัพท์ขึ้นไปที่ห้องหมายเลขนี้ด้วยนะครับ พอดีพนักงานของผมพักอยู่ที่ห้องนี้ครับ ผมจะเรียกเขาลงมากินข้าวเย็นครับ”

“ได้ค่ะ” พนักงานก็ตอบรับอย่างเข้าใจ ก่อนจะกดโทรศัพท์ขึ้นไปยังห้องของมุกดาและเพื่อน

กริ้ง... มุกดาได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็แสดงความแปลกใจอย่างมาก พลางหันไปหาเพื่อนสนิทที่นอนอยู่ด้วยกัน

“ใครโทรมากัน”

“รับสิ” หญิงสาวก็รับโทรศัพท์ขึ้นมา

“สวัสดีค่ะ”

“เธอสองคนไม่ลงมากินข้าวเย็นรึไงกัน” พอได้ยินเสียงอันคุ้นหู ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างอย่างตกใจ

“คุณธราธิปเหรอคะ”

“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าเธอไม่ลงมากินข้าวข้างล่าง แล้วสั่งเป็นรึเปล่าล่ะ ถ้าไม่เป็นก็รีบลงมาซะ” ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุใส่ เหมือนกับว่าทั้งคู่เป็นภาระวุ่นวายที่เขาต้องรับผิดชอบแบบจำใจในฐานะของเจ้านาย ทั้งที่เขาควรจะไปเที่ยวตามลำพังอย่างสนุกสนานเหมือนทุกคราว แต่ทริปนี้กลับต้องพ่วงแม่พนักงานจอมเด๋อด๋าสองคน

“เอ่อ ค่ะ จะรีบลงไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” แล้วเธอก็รีบปลุกเพื่อนของตนเองหลังจากนั้น

“สุ่น ตื่นเร็ว ลงไปกินข้าวเย็นกัน”

“เย็นแล้วเหรอ” อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมาสอบถาม

“ใช่ คุณธราธิปรออยู่เร็วๆ เข้า”

“โอเค” ทั้งสองรีบเข้าลิฟท์ลงไปยังชั้นล่างโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรอนานน่ะเอง
+++++++++++++++++++++

ฮามาก นางเอกกับเพื่อนโดนเข้าใจผิดว่าเป็นผีน้อย ลักลอบเข้าเมืองเกาหลีอย่างผิดกฎหมาย นี่ถ้าพระเอกไม่มาเกาหลี จะทำไงเนี่ย คงโดนส่งตัวกลับเป็นแน่ทีเดียว เกาหลีคงไม่ได้เที่ยวแล้ว มาดูกันว่านางเอกกับพระเอกจะรักกันได้ยังไง พระเอกต้องให้นางเอกตัวติดตนเองเพราะกลัวโดนหลอก ความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดแห่งความรักค่ะ


 



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2562
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2562 18:49:19 น.
Counter : 2485 Pageviews.

0 comments
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 22 หน้า 2 unitan
(16 เม.ย. 2567 10:34:46 น.)
: รูปแบบของการตระหนักในการรับรู้ : กะว่าก๋า
(15 เม.ย. 2567 05:37:45 น.)
ธี่หยด (2566) ไมเคิล คอร์เลโอเน
(15 เม.ย. 2567 12:42:37 น.)
15 เมษายน 2567 คุกกี้คามุอิ
(15 เม.ย. 2567 04:15:53 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tonkhow.BlogGang.com

tonkho-w
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]