The Reason Why I have Devoted Myself to Teaching English at the Royal Thai Army. ![]() สอนที่ กองทัพ สอนอะไร เราตอบว่า I teach my life. ![]() มีอะไรที่ส่งต่อกันได้ ก้ต้องส่งกันไป ไม่ได้อยากได้ เงินทองจากใคร เพราะเห็นที่ตายๆ ไป ก็ทิ้งไว้ให้ คนที่เหลืออยู่ แย่งกันทั้งนั้น จะเพราะว่าเราอยู่แต่ในแวดวงคนมี ก็ไม่ใช่ เพราะที่ไม่มี เขาก็แย่งกันเหมือนกัน เราเลยบอก ลูกว่า คุณปู่ (เรา=ปู่ชวดเขา) เป็น เศรษฐ๊ มีให้ใช้กัน ตั้งแต่ รุ่น คุณ ตา รุ่นแม่ และ รุ่นเขา แม่นี่ ถ้า ทำตัวดีๆ ไม่หาก้ไม่อดตาย ถ้า ไมสรุ่ยสร่าย แต่ รุ่นลูก ลูก ต้องหา เพราะ บุญเก่ามันร่อยหรอ มันเป็น cycle ของมันแบบนี้ ในทุกตระกูล รุ่นหนึ่งหา จนเป็น เศรษฐี รุ่นสอง มีใช้อย่างสบาย รุ่นสาม ใช้เกือบหมด ถ้า ฉลาด คิดทัน ก็ รีบหา รุ่นสี่ ก็จะมีใช้ ไม่งั้น จน เป็นยาจก แน่ๆ บุญทรง เป็นคน รุ่นสาม พ่อแม่ ปู่ย่า และยาย สอนแต่ให้ทำดี มีประโยชน์ อย่างเดียว ไม่เคยสอนให้หาเงิน รุ่นสี่ก็ ถือว่า อยากมีก็ต้องหา อย่าทำอย่าง แม่ ![]() พูดแบบนี้ ใช่ว่า จะมองว่าอะไรๆ ไม่มีค่าไปหมด ทุกสิ่งมีค่าในตัวมัน และ ทุกสิ่งที่มีค่า ในชีวิตนี้ หามาได้ด้วย น้ำใจ เท่านั้น ที่ บุญทรง ดี ได้ ทุกวันนี้ ก็เพราะ น้ำใจ ความรัก และ ความเอ็นดู ที่ คนอื่น คนที่ไม่เคยรู้จัก ให้โอกาส ให้ความเชื่อใจ ให้ทำในสิ่งที่เราคิดว่าดี เราทำได้ และ มีประโยชน์ กับสังคม ในด้านการสอนภาษา นอกจาก พ่อ ที่เป็น my best friend แล้ว ก็ แม่ ที่เวียนเศียร กับเรามาตลอด คนอื่น มี ตามลำดับก่อนหลัง ดังนี้ สมัยเรียนที่ มาแตร์ เมื่อ สี่สิบปีก่อน เรามีเพื่อนรัก ที่เป็นทั้ง พี่สาว และ ครู ชื่อ Judy ใช่แล้ว ชื่อที่คนไทยสมัยนั้น ชอบตั้งให้สุนัข นั่นแหละ ชื่อจริงคือ Julian Williams, osu. ช้อคมั้ยเพื่อนมาแตร์ ทั้งหลาย แม่ชี sister นั่นแหละ ![]() เพราะเขาต้องบวช และมาต่างแดน จาก Australia มาอยู่เมืองไทย พูดไทยไม่ได้ เราก็ตัวเป้นไทย ใจเป้น ฝูหลั่ง เพื่อนเด็กไทย เราเขาก็น่ารัก และ ดี กับเราทุกคน ทั้งๆ ที่เรานี่ ทะโมนสุดๆ เรากับ Judy เลยเป็นเพื่อนรักกัน สมัยก่อนไปเดินเที่ยว mall อย่างสมัยนี้ได้ที่ไหน ก็ได้ไปแค่ บางที่กับผู้ปกครอง เขาก็ มา sleep over อย่าคิดไปไกล มันแปลว่า มานอนค้างคืน เท่านั้ ทุก weekend เลย สลัดความเป็นครูไปหมดสิ้น เป็น ลูกบ้านนี้ไปอีกคน ก้มีแอบปีนบ้านหนีเที่ยวกัน ต้องจ้าง babu แขกยาม (บ้านไหนรวยๆ ต้องมี แขกยาม) ให้ไม่ฟ้องพ่อแม่ แต่เขาบอกอยู่ดี เพราะเขา ซื่อสัตย์ ตกลงพ่อแม่ทำโทษทั้งคู่ เพราะไม่รู้ว่านักเรียนชวนครูเสีย หรือครูชวนนักเรียนเสีย หลายปีผ่านไป เดี๋ยวเข้าเรื่องไม่ได้ ประมาณ ยี่สิบกว่าปี ติดแล้วต่อไม่ได้ กันหลายที มาเจอกันหนนึง ปี 1993 มัง เขาว่าเขาสอนที่ ทหาร ทหารไหนก็ไม่รู้ แล้วก้คุยกันหูดับตับไหม้ แบบที่เราเรียกว่า like two high school girls แบบเด็ก ม.ต้น ที่กรี๊ด ไปได้ทุกเรื่อง มัง แล้ววันนึงก็หมางใจกัน เพราะเขาเลิกเป็นชี และเราไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำ และเราไม่ยอมที่จะเข้าใจหรือยอมรับ เพื่อนที่รักกัน ก็เป็นอันแยกทางกันอีก จนเราได้ข่าวว่า เขาป่วยมาก กลับ Australia และ เสียแล้ว guilt is a killer เราบอกได้แค่นี้ แล้ววันนึงเราก้ถูกชวนไปสอนที่ สถาบันภาษา กองบัญชาการทหารสูงสุด ขออนุญาติเอ่ยนาม (มารยาทและภาษาทหาร) พันเอก สุรพล ศรีคำ สัมภาษณ์ สบายๆ แล้วอย่างไม่มีพิธีรีตรอง ท่านพาเดินเข้าไปพบ ผอ. พันเอก(ปัจจุบัน พลตร๊) จำนงค์ มังคลาแสน ท่านคุยง่ายๆ แล้วก้รับเข้าทำงาน ผู้ใหญ่หลายท่านที่เราเคารพ โกรธว่าทำไมไม่บอก จะได้ฝากฝังไป เดี๋ยวมีอะไร จะแก้ไขไม่ทัน แต่เราถูกสอนมาว่า ผู้ใหญ่มีไว้กราบไหว้บูชา ไม่ได้มีไว้ให้มาฝากงานเรา แล้วไอ้คิดอะไรก้พูดยังงั้นอย่างเรานี่ ท่านตราไว้ ว่าไม่เกิน หกเดือน เราก็กราบแทบเท้า และ คลานลาออกมา แต่ในใจ บอกว่า จะต้องอยู่ให้ได้ เกิน หกเดือน รู้มั้ยว่า ไปอย่างไม่มีใครฝากนี่หละ สองท่านนี้ มีเมตตากับคนทุกคน ท่านให้โอกาสเรา ด้วยดวงใจที่เปิดกว้าง ปล่อยให้เราทำที่เราคิดว่าดี และ ให้เราได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด ผ่านไป สองปี ที่เราลองทำอะไรแปลกๆ ท่านไม่เคยว่า มีแต่แนะ ขนาดเล่นกันในห้องเรียน เฮลั่น ท่านก้ไม่ว่า มีวันนึง เราก็สงสัยว่า ปกติ คนไทยทั่วไป แบบนี้ ที่เราทำ มักรับไม่ได้ ทำไม ท่านสองท่านนี้ เฉยมาก หรือว่า เราหมดน้ำยา ในการกวนประสาทผู้บังคับบัญชา? นั่งเล่นรอเวลาสอน มีคนมาเสริฟ ชาก็แล้ว นักเรียนนายทหารนำขนมมาให้ ก้แล้ว โอ เบื่อ เพราะ hyper นั่งเฉยๆ ไม่ได้ ก้มองไปรอบๆ ห้อง พอดี bookshelf มีคนเอาหนังสือมาเพิ่ม ก็อยากดู เพราะชอบอ่าน ไล่ไปทีละเล่ม มองชื่อหนังสือที่สัน ภาษา วิชาทหาร เอ๊ะ นี่อะไร หนังสือ Reflections on Thai Culture โดย William J. Klausner หนังสือพ่อเราเขียนนี่นา มาอยู่นี่ได้ไง เห็นสัน ก้จำได้ว่า เล่มนี้ อาจารย์ อวบ (สานะเสน) ออกแบบปก ตอนเราเรียนธรรมศาสตร์ ประตูกระจกล๊อค วิ่งไปหา พ.อ. สุรพล ท่านก้ไม่รู้ว่าเราบ้าอะไรอีก แต่ หาคนที่ถือกุญแจมาเปิดให้ เปิดไปหน้าแรก เห็นชื่อลายมือเธอ Julian williams, osu. Judy เพื่อนรัก มาได้ไง พอ. สุรพลบอกว่า เขาเคยสอนที่นี่ ทหาร ที่เขาเคยเล่าให้เราฟังก็ที่ สถาบันภาษา กองบัญชาการทหารสูงสุด นั่นเอง ที่ท่านผอ.และ รองผอ. ท่านเข้าใจเรา เพราะท่าน เจอ "ครู" เรา (ที่เก่งกว่าเราอีก) มาก่อนแล้ว เราแยกทางกับ Judy เมื่อหลายปีก่อน ด้วยอารมณ์ที่ ยอมรับความเป้นอะไร ของ เพื่อน ไม่ได้ แต่ใน การเดินทางแห่งชีวิต Judy เดินนำร่องมาให้เราก่อนแล้ว และ ณ จุดนั้น เราก็บอกตัวเองว่า อยู่นี่แหละ จะสอนที่ไหน สถาบันใด สอนใคร ก็ไม่สำคัญ ช่วงเวลาเดียวๆ กัน เราได้พบกับ พันเอก เทิดศักดิ์ดำขำ ท่านดูแล หลักสูตรภาษาอังกฤษ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ที่เราเคยไปสอนมาก่อน ไม่เคยรู้จักกัน ก็ตรงรี่เข้าไป ขอสมัคร ฝากเนื้อ ฝากตัว ท่านก็ให้โอกาส เต็มที่ จนเดี๋ยวนี้ ผ่านไปหลายปี ก็ยังได้สอนอยู่ คนที่ให้คำแนะนำ เวลาติดขัดทางปัญญา ก้คือ Dee ชื่อ ดี นะ Dr. Dolores Parker ตอนนั้นเป็น English language Advisor for Asia and the Oceania ประจำสถานทูตอเมริกา ในประเทศไทย เดี๋ยวนี้ บริหาร อยู่ AUA นี่ก็ my shining light at the end of the tunnel that never stopped blinking. เกิดมาเราก็มีหลายสิ่ง ที่คนส่วนมาก ไขว่คว้าตลอดชีวิต ที่จะได้มา แล้วบางคนก็ยังหาไม่ได้ แต่ สำหรับ บุญทรง ทุกอย่างมัน กองรออยู่แล้ว ตั้งแต่ยังไม่เกิด ก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป เราไม่ใส่ใจว่าสมบัติ ใครจะเอาไปครอบครอง เพราะเราไม่เคยหา และ ที่มี เราก็ให้ไปหมดแล้ว เรามีแต่ ตัว และ หัวใจ กับ สมอง ที่จะมอบให้ คนรุ่นต่อไป ทั้งหมด ให้กับคนทุกคนที่ สัมผัส และ รับได้ หลายคนที่เคยรู้จักเรา ในฐานะ ครู และ ศิษย์ และ กำลังอ่าน ข้อความนี้ รู้ดี ส่วน คนอื่น เราก็ไม่รู้จะบอกให้เข้าใจยังไง ถ้าใครอยากรู้ คงต้องบอกว่า ต้องเอา ความเป็น คนอื่น ของคุณ มาแลก ดัง ศิษย์คนหนึ่งเคยบอกลา เมื่อเรียนจบ ว่า อาจารย์ครับ น้ำใจ แลกได้ ด้วย น้ำใจ ครับ (ขออนุญาติ เอ่ยนาม ภารดา: ครูไม่เคยลืมเลยนะ) ![]() ขอตอบแทนนะครับ
เราเพิ่งคุยกับหยกๆ ว่า สำหรับพวกเรานั้น คือ อาจารย์ มาก่อน ก้ ครู นั่นแหละครับ แต่ พึ่เขาไม่อยากเป็น ครู ใครๆ ก้เรียก พี่ ตามความเป็นจริง พี่ทิมก้เป็น coach มากกว่า แต่ถ้าเรียก coach ก็ฟังดุคล้าย โค้ชกีฬา เป็นภาษาไทยก้ตลกครับ แต่ ภาษาอังฏฤษใช้ได้ เรียก พี่ ดีที่สุดเลยครับ ลูกเพื่อนผม อายุ สามขวบยังเรียกพี่เลย ในเรื่องของคำถาม ก้จะได้รับคำตอบ ในเรื่องของการใช้จริง ไม่ใช่ในเรื่องของหลักไวยากรณ์ เพราะพี่ทิมเขาเป็น English speaker ไช่นัก ชำแหละ ภาษาอังกฤษ บอกได้ว่า grammar ถูก แต่การใข้ผิด นี่สำคัญนะครับ หาคนที่จะบอกเราได้แบบนี้ยาก ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเก่งเท่าพี่ทิมนะครับ คนเก่งกว่าพี่เขามีเยอะแยะ แต่เขามีภาระกิจ จึงไม่มีเวลาที่จะให้ความกระจ่างแก่เราได้ โดย: Timmie IP: 58.136.73.166 วันที่: 14 มกราคม 2549 เวลา:12:49:53 น.
ฝากตัวด้วย
โดย: O^_^A IP: 210.86.207.206 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:14:22 น.
![]() โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด
![]() ![]() Hey, Cookie Bear,
Don't cry.... There'll be more cookies soon.. โดย: Timmie (Tinglish
![]() |
บทความทั้งหมด
|
จะขออนุญาตเป็นศิษย์ เรียนจากบล็อกนี่แหละค่ะ