เขาพาคุณนายป้ากับน้องหนูดีไปแข่งแรลลี่ภาค 2 วันเวลาผ่านไปเกือบ 3 ปีแล้ว หลังการแข่งขันแรลลี่การกุศล กรุงเทพฯ ชะอำ ผ่านไป 3 ปี จู่ ๆ ก็มีวาระพิเศษโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อคุณนายป้าแห่งค่ายอดิศรโทรศัพท์มาตะแง้ว ๆ ชักชวนไปแข่งแรลลี่แบบไปเช้ากลับเย็น สงสัยคุณนายป้าแกคงลืมตอนจบแบบโศกนาฎกรรมนองน้ำตาของแรลลี่มาราธอนกับน้องหนูดีตราเด็กสมบูรณ์ในครั้งที่แล้วไปอย่างสิ้นเชิงแล้วแน่นอน หลังจากโลกเปลี่ยนแปลงและมีนวัตกรรม เทคโนโลยี ใหม่ ๆ เกิดขึ้น คุณนายป้าแกก็เริ่มเปี๊ยนไป๋ จากที่เคยเสพติดอินเตอร์เน็ตอาทิตย์ละครั้ง ก็เพิ่มความถี่เป็นวันละหน และวันละหลาย ๆ หน น้องหนูดีก็สั่งลูกหลานและคนละแวกใกล้เคียงให้สังเกตการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จากประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกประกาศมาว่าเด็กวัยรุ่นมีอาการแล้วจะเลิกง่ายกว่าคนสูงอายุ หรือ คนวัยทอง ถ้าคุณนายป้ามีอาการน่าเป็นห่วงจะได้จัดส่งเข้าศูนย์บำบัดการติดอินเตอร์เน็ตแห่งชาติก่อนที่จะลุกลามเป็นโรคร้ายแรงอื่น ๆ เพราะฉะนี้ ... เมื่อคุณนายป้าจึงเป็นผู้ค้นพบตารางการแข่งขันแรลลี่ดังกล่าว และจัดแจงโทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียดเสร็จสรรพ ตกลงใจไปร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนจะมาบรรลุถึงสัจจธรรมว่า คุณนายป้าขับรถไม่เป็น อ๊าว ว ..ว แล้วไปแข่งแรลลี่ยังไงล่ะไม่มีคนขับน่ะ..ฮึ นี่เป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้บาปกรรมสัญจรมาสู่น้องหนูดีตราเด็กสมบูรณ์ เมื่อคุณนายป้าโทรศัพท์มามัดมือชกแถมด้วยล่อหลอกต่าง ๆ นา ๆ หาทางให้น้องหนูดีเห็นประโยชน์อเนกอนันต์ของการแข่งแรลลี่ น้องหนูดีก็ทนเวียนเฮดและปวดฮาร์ทกับความแอคทีฟแบบน่าช้ำใจไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องตกลงรับปากรับคำไปแต่โดยดี คุณนายป้าให้ข้อมูลมาว่า เป็นการแข่งที่ไม่มีบรีฟ และแรลลี่จะแข่งในวันอาทิตย์นี้แล้ว ..ไปเช้า-กลับเย็นเร็วดี ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่น้องหนูดีนึกตะหงิด ๆ อยู่ในใจว่าที่หมอดูทำนายว่าปลายปีจะมีเคราะห์นั้น มันเป็นหนังเรื่องเดียวกันกับ แรลลี่รันทด นี่หรือเปล่าน้อ แปดโมงครึ่งเวลาเริ่มการแข่งขัน .. เจ้าหน้าที่แจกใบบอกทาง Start TC1 ระบุให้ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาเดินทางอิสระ (FREE RUN) พร้อมแจกจ่ายเสบียงกรัง (สงสัยว่าคงจะเอาไว้เผื่อหลงน่ะ) และคำสั่งยอดนิยมจากเจ้าหน้าที่ ตั้งไมล์ ศูนย์ ศูนย์ ที่ทางออกด้วย ครับ (ค่ะ) เป็นคำพูดยอดนิยมจริง ๆ คุณนายป้าแกแอบบ่นว่า สงสัยกรรมการอัดเทปไว้เหมือนในรถไฟฟ้าแหงเลย ไปเจอที่ไหนพูดอยู่ 2 ประโยคเท่านั้น ขอใบลงเวลาครับ(ค่ะ) และ กด ศูนย์ที่ทางออกนะครับ(ค่ะ) สวดมนต์ขอพรไหว้พระ ได้ฤกษ์งามยามสวยก็ค่อย ๆ ขับตามเส้นทางในใบบอกทางไปสู่ TC-1
..และแล้วบาปกรรมของการไม่นิยมฟังบรีฟก็เริ่มเข้ามาเยือน .. ตามปกติการแข่งขันแรลลี่มีส่วนสัมพันธ์กับเข็มไมล์กันอย่างแน่นแฟ้น .. โดยเฉพาะในการหา RC ประเภทที่เป็นสีพ่น ๆ เป็นตัวอักษรไว้ตรงนู้น ตรงนั้น ตรงนี้ .. คราวนี้ซี้แหง๋แก๋แน่นอน เพราะอัตราความคลาดเคลื่อนของไมล์ในรถกับไมล์ในรถกรรมการมันห่างกันโขอยู่ พอเริ่มขับไปได้ประมาณ 30 กม. คุณนายป้าแกก็รำพึงถึงสูตรการคำนวนหาค่าตัว K (ค่าความคลาดเคลื่อนที่นำมาใช้ปรับระยะไมล์ให้ตรงตามความเป็นจริง) แล้วก็หน้านิ่วคิ้วขมวด ..เพราะคิดไม่ออก คิด คิด คิด .. ไปจนถึงจุด TC-1 วิ่งไปชิ้งกะดิ้งแล้ว .. หยุดคิดแล้ว ..แกก็ยังนึกไม่ออก .. นาน ๆ มาที แล้วทำเป็นมีฟอร์ม .. ไม่ยอมถามกรรมการ .. เป็นอันว่าจุดที่หา RC ตัวอักษรที่ต้องเทียบระยะไมล์ก็เป็นอันแห้วไปซะเกือบทุกจุด โธ่ ๆๆๆ ทั้งที่เส้นทางการแข่งขันค่อนข้างง่าย ทั้งเกมเรียงภาพ เติมคำในช่องว่าง RC ก็ไม่ยากอย่างที่คิด สังเกตุจากรถที่เข้าร่วมแข่งขันวิ่งกันฉิวทั้งขาไปและขากลับ .. เลยมาเป็นข้ออ้างของคุณนายป้าเวลาใบบอกทางบอกจุด RC มาอยู่บริเวณที่ต้องวิ่งลงไปดู คุณนายป้าแกก็บ่นกะปอดกะแปด ไม่เอา ไม่วิ่ง .. ขี้เกียจ ไปเลยก็แล้วกัน .... มี RC ที่ให้วิ่งขึ้นไปดูที่บันไดขั้นที่ 16 ของสะพานลอย โห .. คุณนายป้าแกบ่นตั้งแต่ 1 กิโลก่อนถึงจุด ..ถามอยู่นั้นแหละทำไมต้องวิ่งขึ้นกะได ๆ แล้วก็บ่นเลยมาอีก 1 กิโลหลังจากนั้น .. น้องหนูดีชักตาขวาง เลือดลมสูบฉีดแรง จะให้ลงไปหา RC ให้ด้วยเลยมะ เอามะ . . เอ๊อ .บ่นอยู่ด้าย วัยรุ่นเซ็งงงง ว่ะ(ค่ะ) .. เห็นคนขับฉุนเฉียวออกอาการ คุณนายป้าแกก็แอบหันไปพูดกับคนข้างทางเบา ๆ ดีซิ .. ทั้งขับ ทั้งหา RC ด้วย เวิร์คมั่ก ๆ .. ..ระยะไมล์คลาดเคลื่อนแล้วยังไม่พอ ..ความที่ไม่ได้ฟังว่าการแข่งขันเป็นแบบเข้าก่อนเวลาได้ .. สองสามจุดแรกสองป้าหลานก็เอารถไปจอดจ่อหน้ากรรมการแต่ไม่ยอมเข้าไปส่งใบเวลา .. รอให้ตรงเวลาเป๊ะ .. (เชยเป็นพิเศษ ) ทำเอากรรมการอยากจะบึ้มหัวซักสองที ไปจอดมองหน้าอยู่ได้ สบตาก็แล้ว เรียกก็แล้ว ก็ยังไม่ยอมเข้า TC ซะอีก คงนึกไปว่ากรรมการอยากมานั่งรอสบตาล่ะเนาะ โดย: ป้าทุยบ้านทุ่ง วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:10:04:17 น.
.. ชาวบ้านเขาขับกันมาว้าบ .. หายไป .. ป้ากับหลานต้วมเตี้ยม เตาะแตะ กันอย่างสบายใจ .. แถมตอนหา RC คุณนายป้าก็ทำหน้าเซ่อซ่าเด๋อด๋า (อาการคล้าย ๆ กับอาการซื่อใสไร้เดียงสาในวัยทีนนั่นแหละ แต่มันไม่น่ารักเท่าน้อง ๆ เขาทำ ) เกือบโดน RC ทิ่มตาซะแล้ว อ่อนใจกรรมการเป็นที่สุด
ตรงไหนที่มีรอถ่ายวีดีโอ ตรงนั้นแหละกรรมการต้องชี้ให้ทุกที นี่ไง นี่ไง เห็นมั้ย แต่ที่ฮาไปกว่านั้น .. คือ .. จุดสุดท้ายขับรถเลย TC ไปเฉย ๆ ทำเอากรรมการตาค้าง .. ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เริ่มรู้สึกตัวว่าทำไมมันไกลนักนะ ก็เลยซิ่งรถเร็วจี๋วนกลับมาที่จุดเช็ค ยังดีนะแกยังนึกได้ ควบปุเลง ๆ กลับมาส่งใบเวลา .. อารมณ์กลัวจะโดนหัก 30 คะแนนเพราะไม่เข้าจุดเช็คเวลานั่นเอง .. กลับมาถึงจุดสิ้นสุดการแข่งขัน .. กรรมการเกือบยกแผงเกมที่จุด Finishกลับบ้านแล้ว แต่ในที่สุดทีมงานต้วมเตี้ยมแอนด์ทากโชว์ก็โผล่โฉมมาหน้าใสปิ๊ง เสี่ยงเซียมซี โยนปิงปอง เพิ่มคะแนนลบให้มันสุด ๆ กันไปเลย เสร็จแล้วก็รีบไล่ เอ้ยไม่ใช่ รีบเชิญให้ไปที่ร้านอาหารเพื่อจะได้หม่ำ ๆ และประกาศผลความชั่วร้ายกันเสียที ..ไม่รู้ว่าจะกลับไปทำแบล๊คลิสท์เลยหรือเปล่านะเนี่ย .. .. วีรกรรมขนาดนี้ ผลงานขนาดนั้น ..ตอนประกาศผล คุณนายป้าแกยังแอบตั้งความหวังว่า ทีมเราน่าจะได้บู้บี้ เนอะ .. โธ่คุณนาย .. หมายเหตุ TC = Time Check, RC = Route check, บู้บี้ = ตำแหน่งที่ 2 จากท้ายสุด หรือ รองบ๊วย โดย: ป้าทุยบ้านทุ่ง วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:10:05:02 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ลงทะเบียนเสร็จก็ได้สติกเกอร์มา 1 หอบ เริ่มภารกิจหลักของนักแข่งแรลลี่ตอนเช้า ๆ คือพยายามออกแบบการติดสติกเกอร์กันให้เต็มที่ ขนาดว่าการแข่งขันครั้งนี้มีจำนวนรถแข่งอยู่ไม่มากนัก แต่จำนวนสติกเกอร์ก็ยังเป็นหลักสิบอยู่นั่นแหละ .. ยิ่งมาเจอป้าหลานผู้ไม่ค่อยสันทัดศัพท์แสงทางรถยนต์สักเท่าไร บอกให้ติดบังโคลนก็พาซื่อจะเอาสติกเกอร์ไปมุดติดแผ่นบังโคลน บอกให้ติดตรงตำแหน่งกันชนก็เอาลงไปติดซะที่กันชนมันซะเลย แค่นี้ สติกเกอร์สิบแผ่นก็เหมือนมีสติกเกอร์เป็นร้อยแผ่นแล้ว หลังแต่งตัวให้รถเรียบร้อย กรรมการก็เชิญร่วมประชุมก่อนออกเดินทาง .. เสียงลมพัดดังหึ่ง ๆ แทรกด้วยเสียงป้าหลานคุยกันจ้อกแจ้กเหมือนไม่เจอกันมาหลายปี
เจ้าหน้าที่กัดฟันบรีฟการแข่งขันได้ห้านาทีเต็ม ๆ ก่อนจะให้ทุกคนไปเตรียมตัวเดินทาง คณะนักแข่งส่วนใหญ่ 1 คันรถมีสมาชิกกันโดยเฉลี่ยที่ 4 คน ถึงจุด RC บางคันเปิดประตูรถออกมานับได้ทั้งหมด 6 คน ช่วยกันตะลุยหา RC อย่างเมามัน ทำเอาทีมบ้านนอกที่มีแค่ 1 คนขับ + 1 คนนำทางอย่างสองป้าหลานอิจฉาเป็นการใหญ่