เมืองเชียงใหม่ที่ไม่เคยเห็น

วันนี้ว่าด้วยทริปปีใหม่ตอนต่อจากบล็อกที่พาขึ้นดอยอ่างขางครับ! วันที่ 1 ม.ค. 64 ตั้งใจว่าปีใหม่นี้จะเที่ยวเมืองเชียงใหม่ แม้จะเคยมาหลายรอบแล้ว แต่ครั้งนี้ตั้งใจมาเที่ยววัดที่ยังไม่เคยเที่ยวทั้งหลาย ซึ่งดูจากแผนที่แล้วก็มีวัดเก่าแก่ที่น่าสนใจอีกมากมาย

ป่ะ เที่ยวปีใหม่ หาวัดใหม่ๆ ในเมืองเชียงใหม่ กัน   355

สำหรับวัดดังๆ ในเมืองเชียงใหม่ที่เคยมาเที่ยวแล้ว ติดตามได้จากบล็อกนี้เลยจ้า https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=shiryu&month=08-2013&date=03&group=7&gblog=30

จากตอนที่ลงจากเชียงดาว-ไชยปราการ รถมาถึงพื้นดินยามมืด ไม่มีร้านมื้อเย็นที่เล็งไว้เป็นพิเศษ แต่กว่าจะเข้าที่พักได้ วนรถหลายรอบมาก เพราะถนนช้างคลานซึ่งต้องผ่านเพื่อเข้าที่พักมันปิดทำถนนคนเดิน แถมถนนมีวันเวย์เยอะมาก วนกันสนุกสนานกว่าจะหาทางเข้าที่พักได้ครับ ที่จอดรถก็แสนน้อยและคับแคบ ยามต้องไปไล่รถที่มั่วมาจอดโดยไม่ได้พักออกไปจอดที่อื่น

คืนนี้กินมันแถวถนนคนเดินนี่แหละครับ ไหนๆก็มาบังทางเข้าที่พักเราแล้ว ชื่องาน Fine Day @Night Bazaar มีทั้งของกินของขาย มีทีมของวงในมาถ่ายทำรายการด้วย ที่น่าสนใจคืออาคารทั้งหลายที่แสนคิดถึงบนถนนเส้นนี้ครับ ทั้งตลาดอนุสาร ห้างพันธุ์ทิพย์เชียงใหม่ กาแลไนท์บาซาร์ และไนท์บาซาร์เชียงใหม่ ซึ่งผมดีใจมากเมื่อรู้ว่ามันยังไม่เจ๊ง แต่ละแห่งดูรกร้าง แต่ก็เป็นเพราะโควิดร้านเลยไม่ค่อยเปิดด้วยครับ เวลาปกติน่าจะดีกว่านี้มั้ง เบียร์ช้างมาซื้ออาคารพาณิชย์พวกนี้ไปทำใหม่ น่าจะมีศักยภาพในการทำเงินอยู่


ที่พักของสองคืนนี้คือ Ratana Hotel อยู่ถนนถัดเข้ามาอีกเส้น จากเส้นช้างคลาน ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเงียบเลยครับ เห็นใน Booking ราคาที่พักลดจาก 2500 เหลือ 700 ผมนี้รีบจองเลย แต่คุณภาพห้องพักก็สมควรจะ 700 นั่นแหละ ไม่ได้หรูหราหมาเห่าอะไร Booking แม่มโก่งตัวเลขให้ดูลดเยอะอีกละ เครื่องทำน้ำอุ่นตัดง่ายมาก ต้องให้ยามมาสับสวิตซ์ คืนปีใหม่แท้ๆ แต่มีพักอยู่ไม่กี่ห้องเอง ช่วงนี้ธุรกิจท่องเที่ยวยากลำบากหน่อยนะครับ

 
 
 


192

เช้าแล้วววว รีบออกเดินทางกันตั้งแต่ 7 โมงเช้าครับ วันนี้มีที่อยากไปหลายที่มาก ขับมาแถวถนนกำแพงดิน ไม่ได้มากินเต้ยติ่มซำนะครับ วันนี้พี่จินปิดร้านช่วงปีใหม่จ้าาา กำแพงดินนี้อยู่รอบนอกเมืองเชียงใหม่ คาดว่าเป็นดินที่ขุดขึ้นมาตอนพญามังรายขุดคูเมือง แล้วเอาดินมาถมเป็นกำแพง ส่วนกำแพงดินชั้นในถูกแทนที่ด้วยกำแพงอิฐที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากาวิละครับ เห็นดินเกะกะเนี่ย อย่าไปรื้อนา มันคือขอบเขตของเมืองเชียงใหม่เดิมนะครับ

 


เนื่องจากเช้าตรู่ยังไม่ค่อยมีร้านไหนเปิด ขอเที่ยววัดก่อนครับ วัดแรกของวันนี้คือ วัดบุพพาราม ถนนท่าแพ สร้างโดยพระเมืองแก้วในปี พ.ศ.2040 ช่วงที่พม่าเข้ายึดครองล้านนามีพวกมอญเข้ามาอยู่และทำนุบำรุงวัดมาก จึงมีศิลปะแบบมอญผสมด้วย วัดนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์จีนเรื่อง Lost in Thailand ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วยนะครับ ถ้ามาช่วงที่ไม่ติดโควิดน่าจะมีคนจีนเดินอยู่ไม่น้อย

 


วิหารใหญ่ของวัดบูรณะครั้งใหญ่สมัยเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในยุครัตนโกสินทร์คนที่ 6 ประดิษฐานพระมหาพุทธปฏิมากร หล่อด้วยทองแดง

 


ด้านขวาพระประธานมีพระพุทธนเรศร์สักชัยไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปไม้สักทั้งองค์ นำมาจากเมืองหาง เขตไทยใหญ่ ประเทศเมียนมาร์ ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปของพระนเรศที่สร้างขึ้นในสมัยขับไล่พม่า

 


เจดีย์ประธานบรรจุพระเกศาธาตุ ไม่ทราบยุคสมัยที่สร้าง

 

 

วิหารเล็กอายุราว 300 ปี ประดิษฐานพระพุทธไชยลาภประสิทธิโชค ด้านหน้าวิหารมีตัวมอมเป็นเอกลักษ์วิหารล้านนา
 


ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามมี วัดแสนฝาง สิ่งก่อสร้างโดดเด่นคือพระเจดีย์มงคลแสนมหาชัย ซึ่งหลวงปู่ครูบาโสภา (เถิ้ม) อดีตเจ้าอาวาส จำลองจากเจดีย์ชเวดากอง ครอบทับเจดีย์องค์เดิมในปี พ.ศ.2443

 

วิหารหอคำของวัดนี้สร้างโดยเจ้าอินทวิชยานนท์เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่คนที่ 7 โดยรื้อตำหนักเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์มาถวายวัดในปี พ.ศ.2420 ดัดแปลงเป็นวิหารปิดทองล่องชาดทั้งหลัง
 


จะเก้าโมงละ หิวข้าวได้ ตระเวนหาร้านเปิดเช้าๆมาจนถึงถนนพระปกเกล้า เจอ ร้านโจ๊กประตูเมือง มีทั้งโจ๊ก ต้มเลือดหมู และก๋วยจั๊บน้ำใส ปกติกินอาหารพวกนี้เป็นมื้อเช้าของวันท่องเที่ยวอยู่แล้วนะครับ เจอร้านไหนก็สุ่มกินแหลก แต่ร้านนี้อร่อยจนตกใจ! น้ำซุปหอมอร่อย เครื่องในไม่คาว โจ๊กก็อร่อย นี่คือเดอะเบสต์ของมื้อเช้าเลย มาอ่านๆ เอาตามหลังก็พบว่าเป็นร้านดังของชาวเชียงใหม่เลยหละ แต่จอดรถยากไปนิด ต้องเลยไปจอดแถวตลาดแล้วเดินย้อนมา


ถัดไป วัดเจ็ดลิน วัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2060 สมัยพระเมืองแก้ว แต่ถูกทิ้งร้างหลายรอบ จนได้รับการบูรณะเมื่อปี พ.ศ.2546 นี้เองครับ เจดีย์ประธานเป็นทรงมณฑปผสมศิลปะสุโขทัยแบบเดิมสร้างตั้งแต่ยุคล้านนา ส่วนวิหารที่เห็นนี้สร้างแทนวิหารเดิม มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่เป็นประธาน
 

 
 


มีรูปปั้นประหลาดดึงดูดความสนใจตั้งแต่หน้าวัด นี่คือแมงสี่หูห้าตา มาจากนิทานธรรมะบนคัมภีร์ใบลาน มีชายคนหนึ่งในเจอแมงสี่หูห้าตาบนภูเขาและเชื่อว่าเป็นพ่อตัวเองกลับชาตจิมาเกิดจึงนำกลับมาเลี้ยงที่บ้าน แมงตัวนี้กินถ่านไฟแล้วขี้ออกมาเป็นทองคำ ทำให้เขารวยจนไปสู่ขอธิดาเจ้าเมืองมาได้ ไม่รู้เอาเรื่องนี้มาผูกกับปริศนาธรรมเรื่องไหนนะครับ แต่ช่วงท้ายๆเรื่องเจ้าเมืองไปติดถ้ำและรอดออกมาได้เพราะการช่วยเหลือจากเมียน้อย จึงเป็นที่มาให้ผู้ชายรักเมียน้อยมากกว่าเมียหลวง... สรุปว่านิยายเรื่องนี้ต้องการอะไร??

 


เนี่ย เราต้องการประวัติของศีรษะพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่เห็นหน้าวัดนี้มากกว่า ดันไม่มี แต่ตำนานแมงสี่หูห้าตางี้มาอย่างยาวเชียะ คาดว่าเป็นพระประธานของวิหารองค์เดิม พบตกอยู่ด้านหลังวิหารก่อนบูรณะ

 


ด้านหลังวัดมีหนองน้ำโบราณ เป็นสถานที่สรงน้ำพุทธาภิเษก ของกษัตริย์ราชวงศ์มังรายก่อนขึ้นครองราชย์ เดิมหนองน้ำแห่งนี้จะมีรางน้ำเรียกว่า "ลิน" ทำด้วยทองคำทั้งเจ็ดราง หลั่งน้ำพุทธาภิเษกจากสุวรรณหอยสังข์เพื่อสรงพระวรกาย ก่อนเปลี่ยนเครื่องทรงกษัตริย์ เป็นที่มาของชื่อวัดเจ็ดลิน ปัจจุบันทำเป็นศาลาศึกษาพระธรรมและที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยว มีสะพานโต่วะ (ภาษากะเหรี่ยงแปลว่าสะพานไม้ไผ่) พาดหนองน้ำยาว 200 เมตร แบ่งโซนอนุรักษ์ผักตบชวาให้เป็นที่อยู่ของนกน้ำ และมีใบบัววิคตอเรียประกอบทิวทัศน์สวยงาม

 


 

วัดพระเจ้าเม็งราย หรือวัดกาละก้อด แปลว่าคานหามพระพุทธรูปที่กร่อนลง เชื่อว่าคานหามชำรุดจนขนพระพุทธรูปไปต่อไม่ได้ จึงสร้างวัดขึ้นบริเวณนี้ ตามตำนานเชื่อว่าเป็นพระอารามหลวงที่พญามังรายสร้างขึ้นในยุคแรกสร้างเมืองเชียงใหม่ เช่นเดัยวกับวัดเชียงมั่นและอีกหลายวัด จึงเรียกชื่อว่าวัดพระเจ้าเม็งราย ในพระวิหารใหญ่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปที่จำลองจากพระพุทธสิหิงค์ในปี พ.ศ.2012 ล้อมด้วยกลุ่มพระพุทธรูปปางมารวิชัย ด้านหลังวิหารเป็นเจดีย์ทรงปราสาท มีซุ้มพระพุทธรูปยืน 4 ด้าน
 

วันปีใหม่มีญาติโยมมาไหว้พระกันเยอะ และวัดเล็กๆ นี้ก็มีคนเข้ามาไม่ขาดสายเลยครับ

 


อุโบสถทำใหม่ แต่เสมายังคงเดิมนะครับ อายุ 700 กว่าปี
 


โบราณวัตถุเดิมตั้งแต่สมัยพญามังรายคือองค์นี้ครับ พระเจ้าค่าคิงพญามังราย เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ สูง 5.4 เมตร ภายในบรรจุพระพบรมสารีกริกธาตุ อยู่ในวิหารเก่า
 


วัดพวกหงษ์ คาดว่าสร้างโดยชาวมอญในสมัยพระยอดเชียงราย เมื่อปี พ.ศ.2030 มีเจดีย์ทรงปราสาทสูง 7 ชั้น ชื่อเจดีย์ศรีพวกหงษ์ สวยงามจนแปลกใจที่มาอยู่ในวัดที่แทบไม่มีคนเข้ามาเลย


วัดหมื่นเงินกอง สร้างในสมัยพญากือนา ช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 โดยหมื่นเงินกองผู้เป็นขุนคลัง สิ่งก่อสร้างที่สำคัญมีอุโบสถ วิหาร พระนอนแบบล้านนาชื่อพระนอนสุขสบายหมื่นเงินกอง และพระธาตุ 12 ราศี


วัดดวงดี พระพุทธรูปในวิหารสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2039 สมัยพระเมืองแก้ว ส่วนเจดีย์ทรงระฆังสร้างขึ้นภายหลังในพุทธศตวรรษที่ 24 สมัยก่อนช่วงที่พม่าปกครองใช้วัดนี้เป็นที่บวชก่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่และเป็นที่เรียนของบุตรหลานเจ้านาย


ช่วงปีใหม่ คนนิยมมาวัดที่ชื่อเป็นมงคลอย่างวัดหมื่นเงินกองหรือวัดดวงดีกันเยอะนะครับ

วัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ เป็นวัดเก่าแก่ยุคต้นล้านนา เดิมชื่อวัดโพธิ์น้อย ต่อมาพระมหาเถรจันทร์ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวล้านนาในสมัยพญากือนาได้มาบูรณะวัดโพธิ์น้อยที่ร้างลง ในปี พ.ศ.1918 เปลี่ยนชื่อเป็นวัดอุโมงค์ จากนั้นก็ไปบูรณะวัดเวฬุกัฏฐารามที่เชิงดอยสุเทพ เปลี่ยนชื่อเป็นวัดอุโมงค์อีกวัดนึง เจดีย์ทิศใต้ (ภาพขวา) นี้เป็นรุ่นแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตรวรรษที่ 19 เลยนะครับ หาได้ยากเต็มทีในล้านนา ประธานในวิหารหลวงคือหลวงพ่อโต สร้างสมัยพระมหาเถรจันทร์บูรณะวัด


ขับมากลางเมืองเชียงใหม่ จะมี คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (มหาอินทร์) เป็นคุ้มของเจ้าบุรีรัตน์ น้อยมหาอินทร์ โอรสของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้านครเชียงใหม่คนที่ 7 สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2432-2436 ต่อมาตกทอดสู่ลูกหลานของคนที่ซื้อบ้านต่อจากลูกหลานเจ้าเมืองเดิม และเจ้าของยกให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี พ.ศ.2544


ตอนนี้อาคารอยู่ในความดูแลของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ค่าเข้า 60 บาท เป็นค่าบำรุงสถานที่ด้วยครับ ให้เขารักษาเรือนโบราณไว้ให้ลูกหลานสืบไป มีนิสิตของ มช. นำเยี่ยมชมนะ ที่นี่ไม่เกี่ยวกับกรมศิลป์ คุ้มนี้และพิพิธภัณฑ์กรมธนารักษ์เป็นคุ้มเจ้านายฝ่ายเหนือที่เหลืออยู่และเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้เพียงสองแห่งของเชียงใหม่ คุ้มอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ ส่วนใหญ่ตกเป็นของเอกชน หรือไม่ก็ถูกดัดแปลงเป็นอาคารอย่างอื่นไปแล้วครับ


สี่แยกตรงข้ามคุ้มเจ้าหลวง มี หอพญามังราย สร้างในปี พ.ศ.2518 เพื่อเป็นอนุสรณ์พญามังราย ซึ่งต้องอัสนียบาตสวรรคตในปี พ.ศ.1854 ที่ตลาดกลางเมือง พญาไชยสงครามบุตรชายได้สร้างเจดีย์ไว้ตรงที่เกิดอัสนียบาต และเป็นศาลพญามังรายกทอดมา แต่ปัจจุบันที่ศาลตกเป็นของเอกชน ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปกราบไหว้ได้ ราชการจึงสร้างหอพญามังรายแห่งนี้ขึ้นทดแทน


อันนี้ขับรถผ่านแล้วเห็นซากอิฐริมทาง พอแวะคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ก็เลยเดินย้อนกลับมาเก็บภาพหน่อยครับ วัดเชษฐา เป็นวัดร้างอยู่ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง ปัจจุบันอยู่ในเขตโรงเรียนพุทธิโศภน

 

ใกล้เที่ยงเต็มที นัดพี่ก๋าไว้ครับวันนี้ รีบไปที่ร้านเครื่องหนังนิวบุญครอง ศูนย์รวมเครื่องหนังคุณภาพดีทั้งกระเป๋า เข็มขัด และอื่นๆอีกมากมาย แต่ตอนนี้ปิดร้านมาปีกว่าแล้วจ้า ทางไปแม่ออนเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของต่างชาติ แต่โควิดทำเอาเส้นทางนี้ล็อคไปยาวๆเลย ปกติก็เจอพี่ก๋าบนบล็อกกับในเฟซทุกวันนะ แต่เจอตัวเป็นๆ ครั้งนี้ครั้งที่สอง ได้เม้าท์หลายเรื่องแต่ไม่กล้ายาวมากเพราะเกรงใจพี่ก๋า ผมนี้ก็มาถึงร้านซะสายเลย คุยได้สักพักก็ได้เวลามื้อเที่ยงแล้วครับ
 


 


มื้อเที่ยงนี้จะไปกินพิซซ่าเชิงดอยสะเก็ดครับ ก่อนหน้านี้เห็นบนเฟซพี่ก๋าแล้วก็อยากกินแต่เสียดายมันอยู่ไกลจากยุดยามากไปหน่อย แต่อยากกินอะ....ว่าแล้วก็เลยไปกิน Pizza Plus ร้านอยู่ดอยสะเก็ด เลยจากร้านพี่ก๋าไป 20 กม. จัดว่าไกลเอาเรื่อง แต่เทียบขับรถขึ้นดอยเมื่อวานแล้วจิ๊บๆ ร้านแต่งสวยแต่เหม็นขี้แมวไปหน่อย ครัวเล็กถ้ามีหลายโต๊ะใช้เวลารอสักนิดนะครับ ของผม 40 นาที แล้วก็ได้เวลามื้อเที่ยงเชียงใหม่แสนอลัง~ Beef-Tenderloin นี้ดีงาม เนื้อฉ่ำ เครื่องถึงใจ พวกเนื้อดีๆ ปกติย่างแรร์ๆโรยเกลือหิมาลัยกินก็อร่อยแล้ว แต่จานนี้ มีสารพัดเครื่องให้เนื้อแสนอร่อยของคุณน่าสนุกสนานยิ่งขึ้น ส่วน Je' taim Roll เป็นแผ่นแป้งพิซซ่าม้วนกับไก่ เบคอน และผักสลัด ประมาณกินเคบับ มีเมนูน่าลองอีกเยอะเลยครับ พิซซ่าแบบไทยฟิวชั่นก็มี เสียดายมากับแม่สองคนสั่งได้น้อยอย่าง


อิ่มแล้วก็กลับเข้าเมืองเชียงใหม่ต่อครับ วันนี้เที่ยวเมืองเชียงใหม่ทั้งวัน (ส่วนตอนเที่ยงนั่นออกนอกเมืองเพื่อไปหาพี่ก๋าและกินเทนเดอร์ลอยด์โดยเฉพาะ) มาที่ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ที่ได้เห็นเมื่อไหร่ก็รู้สึกว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่เท่สุดๆ แต่พอถ่ายมุมตรงแล้วเหมือนเสาธงงอกมาจากชฎาพญามังราย ทั้งสามเป็นกษัตริย์แห่งแคว้นพันธมิตรแดนเหนือ คือพญางำเมือง (พะเยา) พญามังราย (ล้านนา) และ พญาร่วง (สุโขทัย) ครับ เป็นแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงแรกยุคก่อตั้งล้านนา และยุคของกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแคว้นทั้งสามก็อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย ทั้งสามทำสัญญาว่าจะไม่รุกรานกัน และช่วยกันผนึกกำลังต้านข้าศึกจากแคว้นอื่นๆ


วันนี้จะมาเที่ยวตึกด้านหลังอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ คือ หอศิลปะวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ เป็นที่ที่เล็งไว้นานมากแล้วว่าต้องเข้าให้ได้สักครั้ง แต่มาเชียงใหม่ทีไรก็ตรงวันจันทร์-อังคาร ซึ่งมันปิด! แต่ครั้งนี้ไม่พลาดครับ 1 ม.ค. 64 ตรงกับวันศุกร์ โซนนี้มีสามพิพิธภัณฑ์ติดกันนะครับ คือหอศิลปะวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ติดกับหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ และข้ามถนนไปก็จะมีพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ค่าเข้าเท่ากันหมดคือผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10 บาท ถ้าเหมาชมสามแห่งเลยก็ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20

บริเวณนี้เดิมทีเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้วที่ถูกสร้างขึ้นสมัยต้นรัตนโกสินทร์ให้เป็นวัดประจำวังหลวง (ในแผนที่เก่าเชียงใหม่จะเรียกว่าหอพระแก้วร้างเพราะถูกทิ้งร้างหลังย้ายวังไป) ส่วนวังหลวงอยู่ในเขตเวียงแก้วซึ่งเป็นที่ตั้งวังตั้งแต่สมัยล้านนา แต่เลิกใช้งานสมัยที่พม่าเข้ายึดครอง และถูกนำกลับมาใช้เป็นวังอีกทีในสมัยเจ้ากาวิละ พอเจ้าอินทวิชยานนท์ย้ายคุ้มหลวง บริเวณเวียงแก้วก็ถูกเปลี่ยนเป็นเรือนจำ และพอย้ายเรือนจำออกนอกเมืองก็กลายเป็นกลุ่มตึกมากมาย ทั้งวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ และโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ส่วนพื้นที่วัดพระแก้วร้างก็ถูกสร้างเป็นศาลากลางของมณฑลพายัพและต่อมาเป็นศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

...พื้นที่วังเดิมของเชียงใหม่นี้ในยุครัตนโกสินทร์ถูกเปลี่ยนการใช้งานแทบจะรัชกาลต่อรัชกาลเลยครับ ถ้าลำดับตรงไหนผิดไปช่วยบอกกล่าวกันด้วยเน่อ

มาเริ่มจากตึกแรกกันก่อน
หอศิลปะวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ เดิมเป็นศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลพายัพ และศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ สร้างในปี พ.ศ.2467 พอย้ายศูนย์ราชการออกนอกเมืองก็ปรับเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี พ.ศ.2539 มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของเชียงใหม่ ตั้งแต่ยุคหิน ยุคแรกตั้งล้านนา ยุคเจ้าเจ็ดตน มาจนถึงประเพณี อาชีพ ความเป็นอยู่ของชาวเชียงใหม่ท้องถิ่น ใช้เวลาชมมากที่สุดในสามอาคารแล้วครับ ส่วนโบราณวัตถุจะมีของราชวงศ์เจ้าเจ็ดตนเยอะ แต่ถ้าเป็นยุคล้านนาไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ตรงซูเปอร์ไฮเวย์เลยครับ
 
 

   

   

(click ที่ภาพเพื่อชมภาพขยาย)

หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ด้านหลังหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ เก็บภาพถ่ายเก่า และจำลองสิ่งก่อสร้างสำคัญไว้นิดหน่อย


 

ชั้นล่างเป็นแนวกำแพงโบราณของวัดพระแก้ว ที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นให้เป็นวัดประจำวัง (คุ้มหลวง) แต่พอย้ายคุ้มหลวงไปวัดก็ถูกทิ้งร้าง และรื้ออิฐไปก่อสร้างอย่างอื่น จึงเหลือแต่ฐานกำแพงถูกฝังอยู่ใต้ดินนี้ครับ


พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา อยู่ฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เดิมเป็นอาคารศาลแขวง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวิถีชีวิตผู้คนชาวล้านนา ทั้งด้านพุทธศิลป์ พิธีกรรม สถาปัตยกรรม จิตรกรรม และประติมากรรม แบ่งนิทรรศการเป็น 13 ห้อง


อาคารนี้ถูกเปลี่ยนการใช้งานมาหลายสมัย แรกเริ่มเดิมทีเป็นที่ตั้งคุ้มของเจ้าอุปราชสุริยะ ก่อนขึ้นเป็นเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าหลวงเชียงใหม่คนที่ 8 แต่รื้อไปและใช้พื้นที่เป็นที่ทำงานข้าราชการบ้าง สนามเสือป่าบ้าง จนกระทั่งมีการสร้างศาลจังหวัดขึ้นในปี พ.ศ.2478 ก่อนย้ายออกไปและใช้เป็นศาลแขวงในปี พ.ศ.2527 และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี พ.ศ.2548

   

   

ห้องนี้เป็นที่ว่าการศาลแขวง ยังคงอนุรักษ์ไว่ในสภาพเดิมนะครับ


ด้านล่างของคุ้มหลวงเดิมคือบริเวณที่พญามังรายปักเสาอินทขีล (เทียบเท่าเสาหลักเมือง) ของเมืองเชียงใหม่ไว้นะครับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.1839 และสร้างเป็นวัดกลางเมืองขึ้นคือวัดอิทขีล แต่คนนิยมเรียกว่าวัดสะดือเมือง ชื่อปัจจุบันเลยรวมกันเป็น วัดอินทขีลสะดือเมือง วัดถูกทิ้งร้างช่วงที่พม่าเข้ายึดครอง พอเจ้ากาวิละขึ้นครองเชียงใหม่ ก็ย้ายเสาอินทขีลไปที่วัดเจดีย์หลวง และบูรณะวัดอินทขีลขึ้นใหม่จากซากฐานเดิม พร้อมอัญเชิญพระเจ้าอุ่นเมืองหรือหลวงพ่อขาวมาเป็นพระประธาน วัดอินทขีลถูกทิ้งร้างไปอีกรอบช่วงที่ล้านนาถูกผนวกเข้ากับสยามในยุค ร.5 และขาดแคลนทรัพยากรในการทำนุบำรุงวัด ยุคนี้บูรณะขึ้นมาแล้วก็จริง แต่เล็กและลดบทบาทลงไปเยอะเลยครับ ถนนก็มาตัดพาดผ่าวัดอีก

 


เจดีย์สี่เหลี่ยม เป็นโบราณสถานเดียวที่ยังคงสภาพเดิมของวัดนี้

 


หลังวัดทำศาลประดิษฐานเสาอินทขีลจำลอง
ของจริงยังคงอยูที่วัดเจดีย์หลวงนะครับ

 
 

เจดีย์อีกองค์หนึ่งกระเด็นไปอยู่ในเขตรั้วหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ เป็นเจดีย์แปดเหลี่ยม ไม่รู้ว่าเป็นเจดีย์ของวัดอิทขีลหรือวัดพระแก้ว


ถัดไปคือ วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) สร้างในสมัยพญาแสนเมืองมา ปี พ.ศ.2063 และถูกทิ้งร้าง ก่อนบูรณะในปี พ.ศ.2536 บูรณะจนแทบไม่เหลือความเก่าแก่ เหลือไว้แค่พระมหาธาตุเจดีย์วัดหัวข่วง

วัดนี้เข้ายากแสนยาก อยู่ในซอยชุมชน ถนนเข้าไปแคบมากนะครับ ต้องจอดรถข้างถนนเวียงแก้วแล้วเดินเข้าไปอย่างเดียว พอไปถึง....ปิดจ้ะ! (ภาพนี้ได้จากการถ่ายลอดลูกกรง)


ลงมาทางใต้ของเมืองเชียงใหม่หน่อยนึง วัดนี้กำลังโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวครับ วัดศรีสุพรรณ เป็นวัดเก่าสมัยพระเมืองแก้ว เพิ่งมาสวยงามในยุคหลังด้วยเครื่องเงินประดับวัดและมีอุโบสถเงินแห่งแรกของโลก เป็นฝีมือของชาวชุมชนวัวลาย ที่เป็นชุมชนหัตถกรรมช่างหล่อ เครื่อเงิน เครื่องเขิน ภายในวัดเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาสล่าสิบหมู่ล้านนา และมีตลาดสินค้าชุมชนเล็กๆด้วย ในวัดไม่มีที่จอดรถนะครับ ฝากรถกับชาวบ้านแถววัดแล้วจ่ายค่าจอดรถได้
 


วิหารหลวงสร้างในสมัยเจ้ากาวิโรรส ในปี พ.ศ.2342

 


เครื่องเงินดุนลายเป็นพุทธประวัติ พระเจ้าสิบชาติ ประดับรอบวิหารหลวง

 

พระอุโบสถเงิน สร้างแทนอุโบสถเดิมที่ชำรุด ประดิษฐานพระเจ้าเจ็ดตื้อ เป็นพระประธานองค์เดิม อายุราว 500 ปี ทำจากทองสัมฤทธิ์

 

ใกล้กันมี วัดหมื่นสาร ที่มีศิลปะเครื่องเงินงดงามไม่แพ้กัน แต่คนรู้จักน้อยกว่า ที่สำคัญที่จอดรถเหลือเฟือเลยครับวัดนี้ สร้างโดยหมื่นวิมลกิตติในสมัยพระเกษเกล้า ภายในมีพิพิธภัณฑ์เครื่องเงินด้วย แต่ตอนผมไปเขาปิดอะ

(ภาพขวา) อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยภายในวัด

 


 
 



อาคารที่น่าสนใจที่สุดคือ หอศิลป์สุทธฺจิตฺโต ประดับเครื่องเงินดุนลายทั้งหลัง ฝีมือชาวบ้านชุมชนวัวลายเช่นกันครับ


จบกระบวนความแล้วครับ สำหรับทริปเชียงใหม่ปีนี้ คืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับเดินถนนคนเดินนี่แหละ งานถนนคนเดินท่าแพ ปกติจัดทุกวันอาทิตย์บนถนนราชดำเนิน ยาวไปถึงประตูท่าแพ แต่อันนี้พิเศษช่วงปีใหม่ เลยมีหลายวันเลยครับ (วันนี้วันศุกร์) จัดงานยาวทั้งถนนราชดำเนินและถนนพระปกเกล้า เป็นถนนคนเดินที่ยาวสุดๆ มีทั้งของกิน ของเล่น งานศิลป์ นวดไทยก็มีหลายเจ้านะ ชม. ละ 140-150 เอง


มีเวิ้งขายอาหารในวัดสำเภา ได้ลองอาหารท้องถิ่นอย่างไข่ป่าม ปูอ่อง อันนี้รู้สึกจะใส่ไข่เยอะไปหน่อยครับ ไม่ค่อยได้กลิ่นมันปูเท่าไหร่ กลับมาสั่งปูอ่องบนเว็บ จิ้มข้าวเหนียวกิน อร่อยม้ากกก ♥

 


จุดสแกนคนเข้าถนนคนเดินหน้าประตูท่าแพ

 


หน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์มีเวทีร้องเพลง เป็นบรรยากาศหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์แบบที่ไม่ค่อยได้เห็น

 
 


และแล้วก็จบทริปปีใหม่ วันที่ 2 ม.ค. ดิ่งกลับกรุงเทพครับ ฝากท้องมื้อเช้ากับร้านกาแฟไข่ลวก แม้แต่ไข่ลวกก็ต้องหาร้านดัง ร้านนี้มีให้เลือกทั้งลวกแบบปกติหรือลวกเป็นไข่ออนเซน ถ้าสายสัก 7 โมง มีอาหารตามสั่งขายด้วยนะ


จุดแวะยอดนิยมหลังกลับจากภาคเหนือคือตลาดทุ่งเกวียนครับ ไม่ได้แวะมาหลายปีแล้วเหมือนกัน ไส้อั่ว แคบหมู และแมลงทอด ที่นี่ยังคงเดอะเบสต์
 


แมลงทอดร้านนี้คุณป้าเจ้าของร้านใจดีให้ชิมด้วยแถมด้วย
มีตัวหายากๆอย่างแมลงมันกับเงาะจั๊กจั่นด้วยนะ
น่าจะมีที่ร้านนี้ร้านเดียวเลย ร้านน้องยิว

 


หลายๆคนจะมีร้านไส้อั่วประจำตระกูลที่ต้องแวะทุกครั้งที่มา
ส่วนผมไม่มีอะ กินมั่วตามที่แม่ซื้อ

 


ขับมาถึงปั๊ม ปตท. โค้งวิไลไทยเสรี ที่กำแพงเพชรตอน 11.30 น. มื้อเที่ยงพอดีอย่างที่ตั้งใจ ปั๊มนี้มีร้านให้เลือกมากมาย แต่คราวก่อนดันนั่งกินฟู้ดคอร์ทอย่างสิ้นคิด คราวนี้เลือกร้านโคขุนสเต็กเฮาส์xไก่ย่างเขาสวนกวาง (รวมเป็นร้านเดียวกัน) สั่งไก่ย่างกับแกงเนื้อ ไก่หนังอร่อยแต่เนื้อเยอะแบบที่ไม่ชอบเลย ภูมิปัญญาในการเลี้ยงไก่ให้มีหนังเยอะๆ ควรได้รับการเผยแพร่ในวงกว้างกว่านี้ ส่วนแกงเนื้อใช้เนื้อดี (ก็ร้านสเต็กหนิ) ส่วนน้ำแกงเฉยๆ จ้า กะทิมันไม่แตกมัน

 

มาปั๊มนี้ต้องซื้อตลาดสินค้าเกษตร และแน่นอนว่ามัลเบอร์รี่สายพันธุ์ต่างประเทศร้านสวนสามต้นนี่ติดใจตอนซื้อไปครั้งก่อน มันหวานชื่นใจผิดปกติหม่อนมาก ต้องเอากลับบ้านครับ เอาทุกแบบให้น้องเขาคละมาเหมือนเดิม น้องคนละคนกับปีก่อนนะ บ้านนี้ลูกสาวสาม
 


ถึงบ้านประมาณ 6 โมงเย็น จัดระเบียบสินค้ามากมายที่ได้จากการเดินทาง ส่วนใหญ่ก็โยนเข้าตู้เย็นครับ
 
(ขวา) ของฝากมากมายจากพี่ก๋า นอกจากเตรียมหนังสือไว้ให้สองเล่มแล้วยังให้เข็มขัดของร้านมาอีกเส้นนึง พี่ก๋าปิดร้านมาเป็นปีว่าจะช่วยไปอุดหนุนซะหน่อย พี่ก๋าให้ฟรีมาอีก ขอบคุณมากคร้าบ 155

(ล่าง) และนี่ครับเงาะจั๊กจั่น หรือตัวอ่อนจั๊กจั่น แมลงทอดที่แพงที่สุดในตลาดทุ่งเกวียน ขีดละ 350 (รถด่วน 300 แมลงมัน 250) หายากครับ ต้องออกไปขุดตามต้นไม้ในเดือน ต.ค. ขีดนึงมันเยอะ กลัวกินไม่ไหว ป้าเลยเสนอขายให้ตัวละ 5 บาท ขอซื้อร้อยนึงป้าตักแถมให้รัวๆ ได้มา 40 ตัวมั้งครับ


 


ช่วงนี้งานเยอะแยะมากมาย บล็อกนี้ก็ดันยาวซะอีก นี่เขียนตั้งแต่วันแรงงาน เขียนสะสมไปเรื่อยกว่าจะได้อัพก็ล่อไปครึ่งเดือนพฤษภา 555 ช่วงนี้อย่าเพิ่งออกไปแร่ดกันเลยนะครับ โควิดโจมตีเราหนักหน่วงจริงจังมาก

/me สั่งแมลงทอดกับมันปูอ่องดีลิเวอรี่ไปพลางๆ แก้คิดถึงอาหารช่วงปีใหม่ 14


 



Create Date : 13 พฤษภาคม 2564
Last Update : 13 พฤษภาคม 2564 21:20:12 น.
Counter : 2498 Pageviews.

38 comments
TK Palace Hotel & Convention หลักสี่ แมวเซาผู้น่าสงสาร
(21 เม.ย. 2567 09:58:44 น.)
บางปู : นกกาบบัว ผู้ชายในสายลมหนาว
(19 เม.ย. 2567 10:34:34 น.)
The Proud Exclusive Hotel นครปฐม ที่พักทันสมัยใจกลางเมือง แมวเซาผู้น่าสงสาร
(17 เม.ย. 2567 09:22:45 น.)
กงสุลใหญ่สมใจ ตะเภาพงษ์“ร่วมฉลองสงกรานต์ปีใหม่ไทยในไทม์สแควร์” newyorknurse
(17 เม.ย. 2567 02:18:24 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณtoor36, คุณzungzaa, คุณSertPhoto, คุณhaiku, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณKavanich96, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณTui Laksi, คุณInsignia_Museum, คุณ**mp5**, คุณทนายอ้วน, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอุ้มสี, คุณRinsa Yoyolive, คุณSweet_pills, คุณโอพีย์, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmariabamboo, คุณmultiple, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก

  
เจิมก่อน เดี๋ยวมาอีกที
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2564 เวลา:21:24:05 น.
  
สวัสดีค่ะคุณชีริว..

อยากบอกว่า วัดที่เขียนถึง อ้อมแอ้มไปมาหมดแล้วคะ...

ร้านโจ๊กประตูเชียงใหม่ก็ไปทานมาแล้ว..

สมัยก่อน จะเป็นร้านเล็กๆริมถนน..

ช่วงนี้ไม่ได้ขึ้นเชียงใหม่ล่ะ..

คงรออีกนาน..

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2564 เวลา:22:53:13 น.
  
สถานการณ์ตอนนี้การที่ไนท์บาซาร์เชียงใหม่ยังไม่เจ๊ง ถือว่าเก่งมากแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะยื้อไปได้อีกนานแค่ไหนเหมือนกัน คลัสเตอร์ใหม่ๆ มีให้เห็นเรื่อยๆ บ้านเราคงจะใช้ทฤษฎีแมวของชโรดิงเจอร์ในการรับมือกับปัญหาโควิดมั้งครับ

ราคาที่พักแบบตอนที่การท่องเที่ยวยังพีคมั้งครับ แล้สค่อยหั่นราคา บางทีผู้ประกอบการอาจไม่มีงบมาปรับปรุงแล้วก็ได้เลยเป็นแบบที่เห็น (มองในแง่ดี) วัดบุพพารามวัดนี้นี่เองที่พี่จีนมาถ่ายทำ เวลาที่ไหนเคยมีการถ่ายทำภาพยนตร์เราก็อยากแวะไปดูสถานที่จริงแหละครับ ไปแสดงท่าทางแบบในหนัง ตอนผมไปอยุธยาก็มีวัดลักษณะนี้เหมือนกัน

วัดเจ็ดลินรูปปั้นแปลกดี แมงสี่หูห้าตา จินตนาการเล่นๆ ถ้ามันไม่ดุร้ายก็น่าเล่นด้วยนะครับ (คิดได้ไงฟะ) นิยายนี้เป็นปริศนาธรรม...... อันที่จริงมันไม่ควรมีหลายเมียไม่ใช่รึ

หลายๆ วัดชื่อดีเป็นมงคล ก็ดึงดูดให้คนเข้า จะว่าไปในหลายๆ เมือง ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ขนาดเขตในการจดทะเบียนสมรสใน กทม. บางคนยังถือเรื่องชื่อเขตเลย

มีไปเจอคนดังด้วย ยามนี้ต้องช่วยกันขายของหน่อยครับ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ถ้าผมจำไม่ผิดมีเด็กไปคอสเพลย์แถวนั้นก็มีเรื่องดราม่า เคยมีคนใช้ PS ใส่หน้ากากเพื่อสื่อให้เห็นว่าปัญหา PM 2.5 มันแย่แล้ว ทางภาครัฐก็บ้าจี้จะไปจับเขาอีก -*-

คุณชีริวชอบพิพิธภัณฑ์แบบจริงจังเลย วัดแสนเมืองมาหลวง มายากถึงแล้วปิดนี่น่าเศร้านะ วัดศรีสุพรรณอุโบสถเงินสีสวยดี

ช่วงที่ไปยังคึกคักระดับหนึ่ง ถ้าเป็นช่วงนี้น่าจะเงียบกันหมดแล้ว



จากบล็อก
โจทย์นี้ดองมา 6 เดือนครับ ตอนนั้นยังไม่มีแค็คตัส แต่โชคดีได้มาจากคนรู้จัก เลยได้เอามาเล่นในโจทย์นี้ การที่เป็นคนจัดคิวโจทย์มันก็มีข้อดีตรงนี้แหละ พูดคุยกับคนที่มาร่วมตั้งโจทย์เลื่อนเวลาได้ แต่โจทย์นี้พี่ภากล่าวว่า "ไม่ต้องรีบร้อน" ถ้าเป็นคนที่พึ่งเคยตั้งโจทย์ครั้งแรก ผมมักจะหาทางลัดคิวให้ (ถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้เข้าร่วมตั้งโจทย์ครั้งแรก)

ถ้ามีโอกาสในงานเขียนใดงานเขียนหนึ่งของถนนสายนี้มีตะพาบ ผมจะพูดถึงเรื่องหลังบ้านบางอย่างของโครงการนี้ให้ทุกคนที่ร่วมเขียนได้รับทราบ เราทำโครงการนี้จริงจังเกินไปหรือไม่? ถึงขนาดมีหลักฐานทุกเม็ดเพื่อป้องกันความขุ่นเคือง และดราม่าที่อาจเกิดขึ้น
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2564 เวลา:22:54:20 น.
  
จะบอกว่าน้องชีริวเที่ยวเชียงใหม่
ละเอียดกว่าพี่ก๋าเที่ยวอีกครับ 555
อย่างประวัตินี่พี่ก๋าไม่ค่อยรู้เรื่องเลยครับ
หลายวัดที่น้องชีริวเที่ยวก็เคยไปนะ
แต่ไม่ได้กลับไปนานมกา
จนวัดดูเปลีี่ยนไปเยอะเลย
ดูดีขึ้นมาก เช่น วัดเจ็ดลินเป็นต้น
สมัยก่อนเก่าโทรมมากครับ
ว่ากันว่าวัดนี้เกี่ยวข้องกับเพลงอุ้ยคำของครูจรัลด้วย
เหมือนอุ้ยคำจะเคยอยู่ในบริเวณหนองน้ำใกล้วัดนี่ล่ะครับ

สภาพเชียงใหม่ตอนนี้
สถานที่เที่ยวสำคัญ
ไม่ต่างจากเมืองร้างเลยครับ

ดีใจที่ได้เจอกันนะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 พฤษภาคม 2564 เวลา:23:16:41 น.
  
สวัสดีครับคุณชีริว


ผมชอบบล็อกของคุณชีริวนะ คือมันแน่น และครบเครื่องดี

ชมภาพแต่ละวัดมีดีเทลสวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ
อาหารร้าน pizza plus ก็น่ากินอ่ะ

อ่านตรงแมงสี่หูห้าตาจนจบ อ้าว ไมเป็นงี้ 555
หน้าตาก็แอบน่ากลัวอยู่นะครับ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยียนและส่งกำลังใจให้นะครับ
ผมว่างาน อ. ฟุยูมิ โซเรียว ค่อนข้างอาร์ตในหลายๆ เรื่องเลยครับ งานออกแนวน้อยแต่มาก อย่างเรื่องนึงที่เป็นพล็อตแนวรักวัยรุ่น ก็ทำให้นึกถึงสไตล์งานอาดาจิเลยครับ ในแง่ของมุก และมู้ด

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 13 พฤษภาคม 2564 เวลา:23:34:17 น.
  
ตามมาเที่ยวเมืองเชียงใหม่ด้วยคนครับ สารภาพเลยผมเคยไปเชียงใหม่มา 3 ครั้ง ไม่ค่อยได้เข้าวัดเลยครับ พอมาอ่านบล็อกคุณชีริวแล้ว เสียดายมากเหมือนพลาดอะไรไปสักอย่าง เคยไปไหว้พระแถวถนนคนเดินนะครับ พอมาอ่านรายละเอียดของทุกวัดแล้ว มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากครับ ขอปักหมุดร้านอาหารไว้ด้วยคนนะครับ
ตลาดไนท์บาร์ซ๋ายังอยู่ใช่มั๊ยครับ คิดถึงเชียงใหม่ คิดถึงรถแดง 555
ความจริงผมจะมีเลี้ยงรุ่นที่เชียงใหม่ ตอนต้นปี โควิดมา ทำให้เลื่อนไปไม่มีกำหนดเลยครับ เซ็งมาก
โดย: The Kop Civil วันที่: 13 พฤษภาคม 2564 เวลา:23:46:35 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:3:09:31 น.
  
เดี๋ยว ๆ คุณอ้อมแอ้มไปเที่ยววัดข้างบนหมดแล้ว...
ผมคนเจียงใหม่ ยังไปไม่หมดเลยครับ 555......แต่ถ้าเดินผ่าน
หรือขับรถผ่านน่าจะผ่าน 60 %
...

พูดถึง การตั้งราคาค่าที่พักผ่านมาก ๆ นึกถึง ยาสมุนไพรใน
ทีวี 3 กล่่อง 9600 บาทเดี๋ยวก่อนแถมอีก 1 กล่องไม่ขาย
ลดเหลือ 1050 บาท.. ไม่รู้ใครเลียนแบบใครนะ 555
...
ถนนคนเดิน เป็นอีกแห่งที่ผมชอบไปเดินเที่ยว ดูสบาย ๆ แต่
ที่อยากไปมาก คือร้านของคุณก๋า ยังไม่เคยไปเลยทั้งที่
ผมกับคุณก๋าคุยกันทุกวัน
อีกแห่งร้าน เต้ย ของคุณจินอยากไป.. แต่ไม่รู้เป็นไงไปเชียงใหม่ทีไร เพื่อนตามไปหลายคน พอบอกว่าจะไปกิน
ติ่มซำ เพื่อนลงมติว่า ไปกินที่ กท.เถอะ. ไปเที่ยวที่อื่น
เราก็ มึนต้องใช้เสียงข้างมาก
..
ไม่เหมือน ลุง พำมำไนน.. คนนั้นเนาะ รวบไว้คนเดียว 555
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:5:43:01 น.
  
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:7:10:52 น.
  
P E R F E C T !!!
สวัสดีค่ะคุณชีริว
สุดยอดกับทริปทัวร์วัด+พิพิธภัณฑ์+ของกินแห่งเมืองเชียงใหม่
อ่านไปคิดไปว่า จขบ.ทำการบ้านประว้ติวัดทั้งหลายมาได้ดีขนาดนี้
กับการวางรูปแบบเล่าเรื่อง...ใช้เวลาเยอะป่ะคร้า!??
คำตอบมาเฉลยตอนท้าย...เขียนรีวิวได้สรุปครบจบทุกกระบวนทริป
รวมของกินด้วย ...ไม่ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มที่ไหน
มาเที่ยว ชม.ครั้งหน้าต้องมาเปิดบล็อกคุณชีริวแน่ๆ

ปล.ขอบคุณด้วยนะคะ...ที่แวะไปเยี่ยมบล็อกใหม่ของเรา
เริ่มดองแล้ว...มันเข้าทางเราช่วงนี้เจรงๆ เพิ่งจะเห่อหัดเลี้ยงค่ะ
ยังไม่มีต้นไหนส่ออาการร่อแร่...นอกจากโดนหนูแทะคร้า อิ อิ

โดย: Tui Laksi วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:9:02:23 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:13:41:11 น.
  
อยากไปชมเจดีย์วัดพวกหงษ์มากครับ ทรงนี้มีเฉพาะในเชียงใหม่ครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:13:47:10 น.
  
เห็นแล้วคิดถึงเชียงใหม่เลยครับ เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ผมชอบเลยละ
เห็นวัดอุโมงค์ แต่สงสัยจะคนละอุโมงค์กับที่ผมไป 555555
แถมเพิ่งได้เห็นถนนคนเดินช่วงโควิดว่า เค้าต้องมีที่คัดกรองคนเข้าด้วย พิพิธภัณฑ์ตรงนั้นผมเห็นละ เข้าไปแป็บเดียวแค่หลบอากาศร้อน แต่ไม่ได้เดินดูเลยครับ มัวแต่เที่ยว

หุยยยยยย Pizza plus นี่ใช่แนวเลยครับ Beef-Tenderloin น่าทานมากกกก คุณชีริวกินเนื้อแบบแรร์มากอ่ะครับ ผมไม่ไหวอ่ะ ผมต้อง Medium well เลยอ่ะ อาจจะไม่ช้ำเท่าที่ควรแต่ไม่เลือดแน่ๆ 555555
รวมๆ เมนูนี้อยากไปลองมากครับ

แมลงทอด ไม่ไหวฮะ คิดถึงเชียงใหม่เหมือนกันแต่ขอคิดถึงไส้อั่วแทนนะครับ อิอิ
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:15:52:53 น.
  
ตามรอยเที่ยวทิพย์
โดย: อุ้มสี วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:16:23:52 น.
  
ต่อๆ เชียงใหม่ ดีจะพี่จินปิดร้านตอนปีใหม่ อิอิ
ร้านแถวกำแพงดินมีบัวลอยด้วยอร่อยมากเจ้านึง
วัดเก่า ซุกซ่อนเยอะจริงๆตอนไป ได้ขับผ่านไม่กี่วัดเอง
ไปวัดพระสิงห์นี่เอาจริงๆวัดใหญ่มาก แต่กลายเป็นที่จอดรถซะเยอะ
เพราะอยู่ในเมือง

ถนนคนเดินจำไม่ได้ว่าเคยเดินไหม มีของขายเยอะดี
ส่วนมาก ไปหาของกินตลอดอ่ะริน

โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:17:13:15 น.
  
พี่ก๋าเคยไปถ่ายภาพที่วัดเจ็ดลินครั้งเดียว
แต่เข้าใจว่าไม่ได้ถ่ายอะไรมาสักเท่าไหร่
ตอนนั้นเพิ่งเล่นกล้องใหม่ๆเลยครับ

ความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ
สำคัญจริงๆ
ถ้าวิธีพูดล้มเหลว
การสื่อสารก็ล้มเหลว
ถ้าการกระทำย้อนแย้งกับคำพูด
คนก็ยิ่งหมดศรัทธา

อย่างเรื่องวัคซีน
ก็เห็นได้ชัดนะครับ
ว่าการสื่อสารมีปัญหาจริงๆ
ข้อเท็จจริงเป็นยังไง
พี่ก๋าว่าคนส่วนใหญ่อยากรู้นะ
ไม่ใช่แค่บอกว่าฉีดดีกว่าไม่ฉีด

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:22:49:13 น.
  
วัดสองแห่งยังไม่เคยไปค่ะน้องชีริว
มาดึกไป แล้วพี่ต๋าจะแวะมาเที่ยวอีกรอบนะคะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:0:35:21 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:6:33:43 น.
  

พี่อ้อ..เดินผ่านRatana กลับ รร Diamond เพชรงาม ( ที่พักประจำ )
ริมแม่น้ำปิง ใกล้สะพานเหล็ก
เพราะฝากท้อง แถวตลาดอนุสาร เสมอๆ
ทุกครั้งที่มา ชม.และแวะเยี่ยม"เต้ยติ่มซำ"ง่ายๆค่ะ
ราคาเท่ากัน มี อาหารเช้าด้วย



ถึงว่าวัดบุพพาราม ทัวร์จีนตรึม
ด้านหลังมีเจดีย์ประธาน ท้ายสุดติดกำแพงมีศาลาบรรจุพระเครื่องเก่าๆ และ พระทันใจ(ให้อธิษฐาน)
และมีจั่วไม้เก่าๆวางไว้หน้าเจดีย์ประธานด้วย


ตามมากราบพระ วัด 7 รินด้วย

วัดดวงดี ต้องเข้า..เพราะชื่อดีจริงๆ
วัดศรีสุพรรณงดงามมาก
มากลางคืนยิ่ง มลัง มะเลืองค่ะ

เห็นทริปเชียงใหม่งวดนี้ของคุณชิริวแล้ว

อยากให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เร็วๆ

จะได้หดสนใจ หายคอคล่องสักที


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:10:44:30 น.
  
ใช่คร้า....เพื่อนบล็อกที่ ชม.หลายคนเลยดีจัง
เราไปเยี่ยมแวะทักทายคุณก๋ามา สองรอบแล้วคร้า
คนอื่นๆ ยังไม่เคยคุยกันสนิทเท่าคุณก๋า
จึงแวะเยี่ยมคุณก๋าคนเดียวเอง อิ อิ
โดย: Tui Laksi วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:16:37:39 น.
  
จากบล็อก
นักกีฬาก็ติดกันเยอะเลยครับ แต่ด้วยความแข็งแรง แปบเดียวก็หายละครับ ผมปั่นจักรยานใส่ผ้าบัฟ ปั่นห่าง ๆ เลยครับ กลัวเหมือนกัน 555 แวะมาแฮบจั๊กจั่น กับไข่ลวก เพิ่มพลังสักหน่อยครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:17:04:21 น.
  
ขอบคุณชีริวที่นำมาฝากกัน
เที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
ในมุมที่ไม่ค่อยเคยเห็น น่าจะมีรูปถ่าย
คู่กับคุณก๋ามาฝากกันด้วยนะ

โดย: หอมกร วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:19:42:08 น.
  
สวัสดีตอนค่ำๆวันเสาร์ครับ




ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อก 3F - ยำไข่ดาว ด้วยนะครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:20:22:38 น.
  
สวัสดีคะคุณชีริว..

ตอบคำถามที่ว่า อยู่เชียงใหม่มากี่ปี..?

ไปๆมาๆเชียงใหม่-กรุงเทพประมาณ 30กว่าปีคะ

เดือนละครั้ง พอจะรู้ทุกซอกทุกมุมของเชียงใหม่..

แต่ปีนี้ยังไม่ได้ขึ้นเชียงใหม่คะ

ไปครั้งสุดท้ายปลายพย.ก่อนโควิดระบาดคะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:21:30:09 น.
  
ที่ไปคุย
เดี๋ยวคิดก่อนว่าจะแทรกโจทย์ลักษณะที่พูดถึงเบื้อหลังอย่างไรดี อย่างน้อยๆ น่าจะต้องรอถึงเดือนกันยายนเลย (คิวโจทย์ยาวถึงกันยายนแล้วครับ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:22:39:59 น.
  
มาเที่ยวเชียงใหม่ถิ่นคุณก๋าด้วยครับ
เชียงใหม่ ยังไม่ได้เที่ยวจริงจังเลยครับ ไปพักเป็นทางผ่านไปเชียงราย
Lost in Thailand ผมมาเขียน ถนนสายนี้...มีตะพาบ ก.ม.ที่ 277 แคคตัสอินเทรนด์ "แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์"

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:23:02:48 น.
  
สวัสดีครับคุณชีริว

นึกถึงการ์ตูนสยองขวัญรุ่นนั้น
น่าจะต้องผ่านตา สยองขวัญ กับ ขวัญผวา ของมิตรไมตรีด้วยแน่ๆ
ใช่มั้ยครับ ผมไม่รู้ว่าเค้าแยกประเภทยังไง แต่ก็ว่ามันเหมือนกัน
(แล้วทำไมต้องแยกชื่อนะ?) ตอนนั้นก็ฮิตมาก
คนที่เขียนเรื่องฝ่ามิตินรก และ มาโคโตะเด็กฮาร์ด เขียนแนวนี้น่ากลัวมาก บางเรื่องนี้สยองเกิ๊น
โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:23:14:46 น.
  
ที่พี่ก๋าขำมาก
คือเอารองนายกมานั่งเป็นประธานโครงการพัฒนาอวกาศ
เอิ่ม ... ไม่รู้ข่าวจริงหรือข่าวลวง
ถ้าจริงก็เอวังล่ะครับ 5555

พี่ก๋าคุยกับหมิง
เด็กรุ่นนี้เค้าก็มีความคิดเป็นของเค้าเองนะครับ
พี่ก๋า แค่ปรามๆ
อันไหนแรงไปก็เบรกซะหน่อย 555
แต่โดยรวมก็ให้เค้าเรียนรู้และศึกษาเรื่องราวต่างๆเอง
เด็ก 12-13 เค้าสนใจการเมืองแล้วนะ
ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนคิด


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:23:21:06 น.
  
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤษภาคม 2564 เวลา:7:01:30 น.
  
อ.เต๊ะ มาโหวตมัดจำไว้กันนะครับ
พอดีเน็ตเจ๊ง เม้นท์ทางมือถือไม่สะใจครับ555
โดย: multiple วันที่: 16 พฤษภาคม 2564 เวลา:14:51:04 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

อ่านตอนสาย ๆ กว่าจะจบ บ่ายแล้ว บล็อกนี้ น่าจะตั้งชื่อว่า
พาเที่ยววัด ชิม ช้อป ด้วย อิอิ ครบเครื่อง การมีรถส่วนตัวขับไป
เที่ยวมันดี อยากไปเที่ยวที่ไหน ก็แวะไปอยู่ได้นานไปกับทัวร์ก็ต้อง
ตามใจทัวร์ ไปตามโปรแกรมของเขา
วัดที่พาไปชมนั้นนับดูคร่าว ๆ 12-13วัด แต่ละวัด เธอเล่าประวัติความเป็นมาของวัดละเอียดดีจัง ค้นคว่ามาละเอียดยิบเลย อ่านแล้วเหมือนไปเที่ยวด้วย อิอิ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวนะคงนึกออกว่า เคยอ่านเจอที่บล็อกเธอ ห้าห้า
เช่น วัดบุพพาราม ทำไมคนจีนชอบแวะมาเที่ยว เพราะเป็นที่
ถ่ายทำภาพยนตร์จีน นั่นเอง
วัดแสงฝาง มีเด่นที่เจดีย์
แนะนำอาหารมื้อเช้า ร้านโจ๊กประตูเชียงใหม่ มีโอกาสจะได้ไปกิน
วัดเจ็ดลิน รูปปั้นหน้าตาประหลาด ชื่อ แมงสีหู ห้าตา มีการเล่า
ประวัติของแมงตัวนี้ด้วย
วัดพระเจ้าเม็งราย ได้คำแปลของคำว่า กาละก้อด คือ คานหาม
วัดพวกหงษ์ วัดหมื่อเงินกอง ชื่อเป็นมงคลดี เนาะ
วัดดวงดี ชื่อ วัดแปลกดี เข้าไปไหว้พระแล้ว น่าจะเป็นมงคล
ดวงดีไปด้วยเนาะ ก็คงเป็นเช่นนี้น เพราะตามประวัติที่เธอเล่า
เป็นที่บวชเรียนของเจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ และเป็นที่เรียนหนังสือ
ของบุตรหลานเจ้านายด้วย นี่นา
วัดอุโมงค์มหาเณรจันทร์ ยังพาเที่ยวคุ้มบุรีรัตน์ เล่าประวัติ
ได้เจอน้องก๋าด้วยเหรอ ดีจัง ได้เม้าส์กันตัวเป็น ๆ เลย
ได้ของที่ระลึกกลับบ้านด้วย อิอิ
สิ่งที่เธอชอบ คงเป็นพิพิธภัณฑ์ หอศิลปะวัฒนธรรม
วัดศรีสุพรรณ เป็นวัดดัง ของนักท่องเที่ยว เพราะมีโบสถ์เงินแห่งแรกในโลก เห็นจากภาพที่เธอถ่ายมา สวยมากเลย จ้ะ

สรุปจากทริปนี้ แวะตลาดทุ่งเกวียน ตลาดนี้ ครูเคยไปแวะ
เหมือนกัน จ้ะ ซื้อไส้อั่ว องุ่นแห้ง กระเทียมดอง อิอิ ยังเหลือ
อยู่ในตู้เย็นเลย ห้าห้า

โหวดหมวด ท่องเที่ยว

ครูกำลังจะลงเรื่อง ทวาทศมาส เดือน ก.ย. ต.ค.จ้ะ
เดี๋ยวจะอ่านไม่ครบ 12 เดือน อิอิ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 16 พฤษภาคม 2564 เวลา:17:03:26 น.
  
สวัสดีค่ะน้องชีริว

คนมีบ้านเชียงใหม่กลับไม่ค่อยได้เที่ยวเชียงใหม่ละเอียด
ทั้งที่เชียงใหม่มีวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง มีวัดเป็นที่รู้จักดีและวัดที่อยู่ตามอำเภอ ตามตำบลอีกจำนวนมาก
คืนนั้นมาดึกบอกน้องชีริวว่ามีวัดสองแห่งที่ไม่เคยไป
อะไรกันไม่ใช่แค่สองนะแต่มากกว่านั้นค่ะ

ตอนไปวัดเจ็ดลินครั้งแรกไม่นึกว่าจะกว้างและมีหนองน้ำ
ตอนนั้นไปยืนพักตรงศาลาชมหนองน้ำก็ได้ความสงบแล้ว

ตำนานแมงสี่หูห้าตาเชื่อว่าเป็นเหตุให้สามีรักเมียน้อยมากกว่า
ข้อนี้ก็ดูผิดศีลแล้วๆโยงกับปริศนาธรรมข้อไหน น่าคิดจริงด้วย



อนุสาวรีย์สามกษัตริย์บริเวณนี้คืนวันอาทิตย์ก่อนโควิด ถนนคนเดินคึกคักมาก
พี่ต๋าไม่เคยเดินทั่วเพราะหลังๆไม่มีแค่ถนนหลักแต่แยกย่อยซ้ายขวา
นักท่องเที่ยวเยอะมาก บางครั้งเหมือนไม่ได้เดินแต่ไหลไปตามฝูงชน
ช่วงกลางวันได้แต่ขับรถผ่านค่ะ
จะมีก็พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา วัดอินทขีลสะดือและร้านกาแฟในหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่เท่านี้ค่ะที่เคยไป
วันหลังควรไปเก็บรายละเอียดเพิ่ม

น้องชีริวพากินพาเที่ยว ได้พบคุณก๋าด้วย มีโอกาสอยากไปร้าน Pizza Plus บ้าง
โจ๊กประตูเชียงใหม่เป็นร้านที่ซื้อกลับบ้านบ่อยเหมือนกัน
น้องชีริวเข้าถูกร้านเลย

เงาะจั๊กจั่นในจานดูๆแล้วน่าจะถึงขีดนะคะ ป้าตักเพลินเกินจากที่สั่งอีกเกือบเท่าตัว
กลับกรุงเทพฯทีก็ออกจากบ้านสาย
ด่านเกวียนพี่ต๋าแวะนานๆครั้งค่ะ ริมทางก่อนถึงลำปางมักแวะจอดรถที่อินทราเอาท์เลทแป๊บนึงแล้วเข้าลำปางช่วงอาหารกลางวันพอดี

เที่ยวกับน้องชีริวครบรสทำให้รู้จัดวัดและสถานที่อีกหลายแห่ง
ได้ความรู้ ความเพลิดเพลิน ขอบคุณมากนะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 17 พฤษภาคม 2564 เวลา:8:50:28 น.
  
จากบล๊อก

หยุด 14 วันมีที่ไหนครับ ที่ทำงานผม 55555
นายบอกว่า ไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่ได้ติดง่ายๆ นั่งทำงานข้างๆ กัน 8 ชั่วโมง ใส่แมสตลอด ไม่ติดซักคนเห็นไหม

แต่ระดับผู้บริหารไม่มีใครมาออฟฟิศเลย เท๊เท่

หิวตอน 4 ทุ่ม เซเว่นช่วยได้ฮะ 5555555
นี่ก็เชียร์เหมือนเป็นพนักงาน CP ALL
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 17 พฤษภาคม 2564 เวลา:17:10:15 น.
  
โอ้โห คุณชีริวซอกแซกละเอียดจริง ๆ ครับ
บางที่ผมไม่รู้จักมาก่อนเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
แต่บางที่ผมว่าเจียงใหม่แต้ ๆ ยังไม่เคยแวะไปเลยมั้ง ^^”

แต่บางที่คุ้น ๆ เหมือนกัน
อย่างวัดพวกหงษ์ แวะไปตอนกลางวันแทบไม่ค่อยมีคนอยู่แล้วล่ะครับ
ถ้าเป็นวันเสาร์ 4 ทุ่ม (ถ้าฤดูร้อนก็ 3 ทุ่ม) ถึงจะมีคนเข้ามาตรึม
ผมรู้จักที่นี่ดีเลยล่ะ ทางลงบันไดออกสู่ลานวัดมีป้ายติดอยู่เหนือหัวด้วย
ในนั้นมีข้อความว่า...

.

.

.

.

.

.

"THIS IS ANFIELD"
(*คลิ้กดูความไร้สาระเพิ่มเติมที่ข้อความ)
^
^
^
(พวกน่อล: นั่นมัน “พวกหงส์” เฟ้ย โยงมาได้ไงฟะ! )



เม้นต์สั้น ๆ แค่นี้แหละ ถ้ายาวกว่านี้สงสัยไร้สาระออกพม่านู่น



ป.ล.1 คุณก๋าตั้งใจเปิดร้านรับคุณชีริวโดยเฉพาะเลยเหรอครับ VIP สุด ๆ ^^
ป.ล.2 ยินดีด้วยครับที่ไปเที่ยวตรงกันวันที่พิพิธภัณฑ์เปิดทำการซักที 55
โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:21:25:53 น.
  
โอ้ โชคดี ยังได้ไปเที่ยวก่อนโควิดระบาดหนักนะครับนี่
เที่ยวนี้ ชมวัดเต็มอิ่มเลยนะครับ8-9วัด
นี่ถ้า อ.เต๊ะ ไปด้วยต้องแอบไปนั่งหลับแถวๆหลังเจดีย์ ระหว่างรอ แหงๆ เย้ย 555

แล้วก็ คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ นี่ เห็นแล้วรู้สึกอยู่อย่างเดียวคือ
อยากได้ไม้เก่า เย้ย555 โดยเฉพาะราวลูกกรงระเบียงนี่ งามสุดๆเลยนะครับ


ส่วนอาหารการกินนี่ Pizza Plus น่าสนใจมาก
ถ้ามีโอกาสได้ไปเชียงใหม่ จะตามลายแทงนี้ไปนะครับ

แล้วก็แหม อุตส่าห์ไปเจอพ่อรูปหล่อ คุณก๋าทั้งที น่าจะร้องคาราโอเกะกระชับความสัมพันธ์กันซัก 2-3เพลง
แล้วอัดคลิปส่งมาให้ อ.เต๊ะดูมั่งนะครับ นี่หน้าตาก็ไม่เห็นเลย
ถ่ายแขน ถ่ายพุงมาให้ อ.เต๊ะ ดูมั่งก็ยังดีนะครับ อิอิ

คุณก๋าทนไม่ไหว ต้องข้ามบล็อกมาตอบ
เอาไว้เอ็งมา ข้าจะเตรียมต้อนรับให้สาสมเล้ยยย
ของฝากสำหรับเอ็ง ข้าก็มี แส้หนังอย่างดี
แน่จริงเอ็งมาๆๆๆเลย เย้ย 555

ด้านของฝากนี่ แมลงทอดน่าอร่อย ไส้อั่วก็ต้องมากับน้ำพริกหนุ่มนะครับ น้องคนขายผลไม้ก็น่ารัก แต่รวมๆแล้ว
คุณซีริว น่ารักมากกว่าใคร เพราะพาคุณแม่เที่ยว 2 คนนี่แหละ อ.เต๊ะ ประทับใจตรงนี้มากเลยครับ





โดย: multiple วันที่: 19 พฤษภาคม 2564 เวลา:8:43:34 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ
โดย: **mp5** วันที่: 20 พฤษภาคม 2564 เวลา:8:49:35 น.
  
น่าไปเยื่อนทุกที่เลยครับ
โดย: SertPhoto วันที่: 22 พฤษภาคม 2564 เวลา:8:28:06 น.
  
จะหมดเดือนพ.ค. แล้ว มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม "ซัมเมอร์นี้ฉันต้องรอด!" ให้ได้นะครับ เผื่อลุ้นรางวัล ฮี่ๆๆ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2564 เวลา:16:18:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Shiryu.BlogGang.com

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]

บทความทั้งหมด