กรุงธนบุรี (2): ฝั่งธน

มาต่อกันกับการท่องเที่ยวฝั่งธนต่อครับ หนก่อนพาไปพระราชวังเดิมมาแล้ว คราวนี้ไปเที่ยวชมวัดและชุมชนเก่าแก่สมัยธนบุรีกันบ้าง 149

ภาพด้านล่างคือขอบเขตกรุงธนบุรีที่ขุดคลองคร่อมแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ (วงสีแดง) และเมืองกรุงเทพซึ่งทีแรกตัดเอาเฉพาะกรุงธนบุรีฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาได้ขุดคลองเพื่อขยายขอบเขตเมือง (วงสีเหลือง) และขยายออกไปทางตะวันออกเรื่อยๆ


จุดสีเหลืองคือสถานที่ที่สร้างขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ส่วนจุดสีแดงคือสถานที่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาหรือสร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อไปหมดแล้วครับ
วัดบางหว้าน้อย --> วัดอมรินทราราม
วัดบางหว้าใหญ่ --> วัดระฆัง
วัดแจ้ง --> วัดอรุณ
วัดท้ายตลาด --> วัดโมลี
วัดสลัก --> วัดมหาธาตุ
วัดโพธิ์ --> วัดพระเชตุพน
วัดกลางนา --> วัดชนะสงคราม
วัดสะแก --> วัดสระเกศ
วัดเลียบ --> วัดราชบุรณะ

หลังพระเจ้าตากสินสร้างกรุงธนบุรีเป็นศูนย์กลางอำนาจของคนไทยและคนจีนที่รวบรวมมาขับไล่พม่าออกไปได้ ก็ยกทัพไปปราบชุมนุมต่างๆ ที่กระจัดกระจายไปหลังกรุงแตก เพื่อรวมอำนาจกลับมา
พ.ศ.2311 - ธนบุรีแพ้ชุมนุมเจ้าพิษณุโลก (ถอยทัพกลับ), ธนบุรีชนะชุมนุมเจ้าพิมาย รวมภาคอีสานตอนล่างกลับมาได้
พ.ศ.2312 - ธนบุรีชนะชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช รวมภาคใต้กลับมาได้, ชุมนุมเจ้าพระฝางชนะชุมนุมเจ้าพิษณุโลก
พ.ศ.2313 - ธนบุรีชนะชุมนุมเจ้าพระฝาง รวมภาคเหนือตอนล่างกลับมาได้
ทำให้กรุงธนบุรีกลายเป็นศูนย์กลางอำนาจที่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกับกรุงศรีอยุธยา หลังจากรวมส่วนที่เคยเป็นดินแดนของอยุธยากลับมาได้แล้ว ที่เหลือก็คือศึกกับเวียดนามในสงครามฮาเตียน ปราบหัวเมืองเขมร และการต่อสู้กับพม่าในสงคราม 10 ครั้ง ทั้งการป้องกันกรุงธนบุรี (เช่นศึกบางกุ้ง, ศึกบางแก้ว, ศึกอะแซหวุ่นกี้) และการช่วยล้านนาปลดแอกจากพม่า โดยพระยาจ่าบ้านและพระยากาวิละ ผู้นำคนไทยในล้านนา ได้พากองทัพเข้าสวามิภักกรุงธนบุรี และเปิดศึกกับพม่าอย่างยาวนาน กว่าจะขับไล่พม่าออกจากเชียงแสนและนำล้านนาเข้าเป็นประเทศราชของสยามอย่างสมบูรณ์ก็สมัย ร.1

หนนี้เอาเฉพาะฝั่งธนก่อนนะครับ ฝั่งพระนครแม้จะมีหลายวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยธนบุรีหรือก่อนหน้านั้น แต่ก็ถูกปฏิสังขรณ์และเป็นวัดในเขตเมืองพระนคร ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์กรุงเทพเป็นอย่างมาก ไว้มีโอกาสจะเอาไปเล่าในซีรี่ยส์กรุงเทพแล้วกัน แม้ธนบุรีเดิมจะเป็นเมืองบางกอกที่มีคนมาอยู่อาศัยก่อนหน้านั้นนานแล้ว แต่จากฝั่งธนก็เป็นสถานที่แรกๆ ที่มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติมาปักหลักหลังสิ้นสุดกรุงศรีอยุธยาไป ทำให้เกิดเป็นชุมชนต่างชาติที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพหลายแห่ง


แผนที่เที่ยวโบราณสถานฝั่งธน (click เพื่อชมภาพขยาย)

จากวังเดิมคราวก่อน ขับรถขึ้นมาทางเหนือผ่านวัดเครือวัลย์ขึ้นมาจะถึงวัดบางหว้าใหญ่ เป็นวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา ต่อมาพระเจ้าตากสินมาบูรณะให้เป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของพระสังฆราช ปัจจุบัน rename เป็นวัดระฆังโฆสิตาราม เนื่องจากสมัย ร.1 มีการบูรณะอีกรอบและขุดพบระฆังโบราณ ปัจจุบันนำไปเก็บในพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว
 


วัดสมัยก่อนหน้านี้จะติดกับแม่น้ำลำคลองเพราะคนสัญจรทางเรือครับ และหน้าวัดของวัดนี้มีระฆังจำลองวางอยู่ ด้านในวัดเห็นพระปรางค์ประธานของวัดที่สร้างในสมัย ร.1 ได้รับยกย่องว่าเป็นพระปรางค์ที่สร้ัางได้ถูกต้องตามแบบแผนที่สุด และถือเป็นต้นแบบของปรางค์ในยุคต่อๆ มา

 


สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หรือหลวงพ่อโต เป็นเจ้าอาวาสของวัดระฆังในปี พ.ศ.2395-2415 เป็นลำดับที่ 6 นับจากองค์แรกสมัยธนบุรี เป็นผู้แต่งคาถาชินบัญชร พระเครื่องสมเด็จวัดระฆังที่สร้างโดยหลวงพ่อโตก็เป็นที่หมายตาอย่างถึงที่สุดของนักเล่นพระเครื่องเลยนะครับ

 
วัดระฆัง
 


หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า พระประธานในอุโบสถของวัดเป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริดที่มีพุทธลักษณะงดงาม

 
 

ตอนที่เอาระฆังโบราณไปไว้วัดพระแก้ว ร.1 ได้ชดเชย
ระฆังให้วัดนี้ 5 ลูก ตามที่แขวนอยู่ในหอระฆังเลยครับ

 

 

และโบราณสถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของวัดระฆังคือหอพระไตรปิฎก เดิมเป็นเรือนตำหนักของ ร.1 ในสมัยธนบุรี แต่ถวายให้เป็นเสนาสนะสงฆ์วัดบางหว้าใหญ่ ภายในมีภาพเขียนตั้งแต่สมัย ร.1 ตู้พระธรรมลายรดน้ำ และโบราณวัตถุอื่นๆนิดหน่อย


ติดกับวัดระฆังคือตำหนักแดง เป็นเรือนไม้ที่เคยตั้งอยู่ในเขตพระราชวังเดิม แต่หลังเกิดเหตุไฟไหม้วัดระฆังในสมัย ร.3 ก็ย้ายเอาตำหนักแดงมาไว้ที่นี่แทน สันนิษฐานว่าเป็นตำหนักที่ซึ่งพระเจ้าตากสินใช้เจริญกรรมฐาน เนื่องจากเคยมีภาพอสุภะ (ศพ) ที่ไม้กั้นห้อง แต่ปัจจุบันเลือนไปหมดแล้ว


ลงมาที่วังเดิม ฝั่งตรงข้ามวัดโมลีจะมี มัสยิดต้นสน เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพ  สร้างขึ้นในสมัยพระนารายณ์ ราวปี พ.ศ.2231 เรียกว่ากุฎีบางกอกใหญ่ และเกิดเป็นชุมชนชาวมุสลิมในสมัยกรุงธนบุรี ต่อมาในสมัย ร.2 ชาวมุสลิมบริเวณคลองบางกอกใหญ่ได้ช่วยกันบูรณะ และรูปร่างที่เห็นล่าสุดนี้บูรณะในปี พ.ศ.2495 พร้อมปลูกต้นสนคู่หน้าประตูกำแพง เปลี่ยนชื่อเป็นมัสยิดต้นสน


อยู่ถัดจากมัสยิดต้นสนลงมาคือวัดหงส์รัตนาราม สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดเจ้าสัวหง หรือวัดเจ้าขรัวหง สร้างโดยนายหง เศรษฐีชาวจีน ไม่ได้มีตำนานอะไรกับหงส์หรือคนสร้างเชียร์ลิเวอร์พูลแต่อย่างใด ลานจอดรถกว้างดีครับวัดนี้



วัดหงส์

 
หลังอุโบสถด้านติดที่จอดรถมีวิหารพระพุทธรูปทองคำ เป็นพระพุทธรูปทองคำโบราณสมัยสุโขทัยสร้างปี พ.ศ.1963 ทำจากทองเนื้อผสมนวโลหะ ความสูงจากฐาน 1.83 เมตร เดิมมีปูนพอกทิ้งไว้หลังวิหารร้างของวัดนี้ แต่ภายหลังปูนได้กระเทาะออก พบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ นอกจากองค์นี้แล้วยังมีพระพุทธรูปองค์อื่นๆ ที่จำลองจากพระสมัยต่างๆ ตั้งแต่ทวารวดีไล่มาถึงรัตนโกสินทร์

อุโบสถของวัดนี้มีความใหญ่โตกว่าวัดอื่นๆของฝั่งธน พระประธานไม่มีพระนามและคาดว่าสร้างสมัยอยุธยา สูง 3.5 เมตร มีเศวตฉัตร 7 ชั้น หน้าพระประธานคือหลวงพ่อแสน เป็นพระพุทรูปสำริดปางมารวิชัยศิลปะล้านช้าง อัญเชิญมาจากเมืองเชียงแตงในปี พ.ศ.2401




ทิศใต้ของวัดหงส์มีศาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือศาลเจ้าพ่อตากวัดหงส์ บ้างก็ว่าวัดหงส์เป็นสถานที่ที่พระเจ้าตากสินมานั่งวิปัสสนาบ่อยๆ ประชาชนจึงพร้อมใจกันสร้างศาลนี้ขึ้น บ้างก็ว่าเป็นตำแหน่งที่เลือดพระเจ้าตากหยดลงดินหลังถูกประหารขณะขนไปฝังที่วัดบางยี่เรือใต้ จึงสร้างศาลเพียงตาขึ้นเพื่อป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นตามความเชื่อว่าเลือดพระเจ้าแผ่นดินไม่ควรถูกพื้น (อันที่จริงตอนนั้นพวกก่อการไม่นับพระเจ้าตากเป็นกษัตริย์และประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ เลือดคงหยดตั้งแต่ป้อมวิไชยประสิทธิ์แล้วครับ)


ทางตะวันตกของวัดหงส์มีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ พระอาจารย์ดี วัดประดู่ พระสังฆราชองค์แรกในยุคกรุงธนบุรีได้จารึกพระพุทธมนต์ลงบนแผ่นหินร่วมกับพระโพธิวงศ์ (ชื่น) เจ้าอาวาสวัดหงส์ในสมัยนั้น เพื่อประกอบพิธีสระน้ำมนต์ ใช้ในพระราชพิธีที่สำคัญตลอดสมัยธนบุรี ปัจจุบันเชื่อว่าผู้ที่ได้อาบน้ำมนต์ในทิศต่างๆของสระจะได้ effects ที่แตกต่างกันไปนะครับ (ตะวันออก - เมตตามหานิยม, ใต้ - ค้าขาย, เหนือ - บำบัดโรค, ตก - คงกระพัน) พิธีบรมราชาภิเษกปีก่อนก็ใช้น้ำจากบ่อนี้ร่วมกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อื่นๆจากทั่วประเทศนะครับ

 

หน้าสระมีหินที่ขุดพบใต้สระ ผิวเนียนเรียบ
เชื่อว่าพระเถระสมัยก่อนได้ลงอาคมไว้
สามารถขอพรโดยนำมือสองข้างแตะหินแล้วภาวนา

 

อีกเส้นทางนึงที่น่ามาเดินเที่ยวคือชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ เรานิยมจอดรถที่วัดประยูรแล้วเดินเข้าซอยกุฎีจีน 1 มา ผ่านโบสถ์ซางตาครู้สออกไปด้านหลัง จะมีทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถเดินผ่านบ้านวินเซอร์และศาลเจ้ากวนอันเก๋งได้





มุมนี้เห็นป้อมวิไชยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม และวัดอรุณ
คนที่เดินทางมาทางเรือจะเห็นมุมนี้เป็นแลนด์มาร์คว่าถึงกรุงธนบุรีแล้วจ้า

บ้านวินเซอร์ สร้างบนที่ดินของมิสซังโรมันคาทอลิก เจ้าของคนก่อนคือคุณสมบุญ สมรสกับนายหลุยส์ วินเซอร์ ทายาทเจ้าของกิจการห้างวินเซอร์ เป็นบ้านไม้สองชั้น และมีลวดลายขนมปังขิงที่โดดเด่น (คำนี้จำได้แม่นตั้งแต่บล็อกพี่หนู สายหมอกและก้อนเมฆ พามาเมื่อหลายปีก่อน) ปัจจุบันเจ้าของบ้านคือคุณสมสุข จูฑะโยธิน ทายาทของคุณสมบุญและหลุยส์ ซึ่งอายุเกิน 70 แล้ว บูรณะบ้านเองก็กำลังทรัพย์ไม่พอ จะโอนให้เอกชนก็กลัวเอาไปทำเกสเฮาส์แบบพวกบ้านเก่าแถวเจริญกรุงที่ชีริวพาไปดูเมื่อสามเอ็นทรี่ที่แล้ว แต่ถ้าขึ้นทะเบียนบ้านเป็นโบราณสถานเพื่อให้กรมศิลปากรเข้ามาอนุรักษ์ คุณสมสุขก็จะเสียกรรมสิทธิ์ของบ้านที่ตกทอดมาจากตระกูลของเธอไป ...เป็นทางเลือกที่ลำบากใจจริงๆ ล่าสุดสมาคมสถาปนิกสยามทำแผนปรับปรุงพื้นที่ศักยภาพแถวชุมชนกุฎีจีน และเตรียมขึ้นทะเบียนบ้านวินเซอร์รวมทั้งอาคารอีกหลายแห่งของชุมชนเป็นโบราณสถาน ซึ่งเจ้าอาวาสวัดซางตาครู้สเจ้าของที่ดินก็เห็นด้วยกับความคิดนี้นะครับ ปีหลังๆเริ่มเห็นช่างเข้ามาปรับปรุงบ้านแล้ว


เดินมาจนเกือบสุดทางเดินเลียบแม่น้ำ จะมีทางเข้าไปศาลเจ้าแม่กวนอิม หรือศาลเจ้ากวนอันเก๋ง เดิมเป็นศาลเจ้าสองหลังติดกัน สร้างสมัยธนบุรี คือศาลเจ้าโจวซือกง และศาลเจ้ากวนอู ต่อมาสมัย ร.3 ชาวจีนฮกเกี้ยนก็มารื้อศาลเจ้าทั้งสองลงแล้วรวบเป็นหลังเดียว อัญเชิญเจ้าแม่กวนอิมขึ้นเป็นประธานแทน เนื่องจากเจ้าแม่กวนอิมเป็นองค์อุปถัมป์การข้ามน้ำข้ามทะเลของซำปอกง เมื่อ ร.3 สร้างซำปอกงวัดกัลยาณมิตรเหมือนที่วัดพนัญเชิงแล้วก็จำเป็นต้องมีศาลเจ้าแม่กวนอิมอยู่ใกล้ๆด้วย


กลับมาที่ โบสถ์ซางตาครู้ส กันหน่อยครับ บริเวณนี้เป็นชุมชนชาวโปรตุเกสที่ช่วยพระเจ้าตากสินขับไล่พม่า จึงทรงพระราชทานที่ดินใกล้พระราชวังเดิมให้ชาวต่างชาติที่มีคุณูปการเหล่านี้อยู่อาศัย และสร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2313 ซึ่ง 14 ก.ย. เป็นวันบูชาไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (Feast of the Cross) และซางตาครู้ส (Santa Cruz) ก็หมายถึงไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง เดิมเป็นอาคารไม้ แต่ถูกเพลิงไหม้ และสร้างอาคารปูนทดแทน รูปลักษณ์ที่เห็นล่าสุดนี้ถูกปรับปรุงในปี พ.ศ.2459 ครับ


รอบโบสถ์ซางตาครู้สเป็นชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสที่เป็นเชื้อสายของชาวโปรตุเกสยุคธนบุรี ผสมผสานกับชุมชนชาวจีนบริเวณที่ปัจจุบันคือวัดกัลยาณมิตร จึงเรียกว่าชุมชนกุฎีจีน มีขนมของโปรตุเกสที่หากินที่อื่นได้ยากขายหลายบ้านนะครับ เช่น ขนมฝรั่ง ก๋วยตัส หน้านวล กุสรัง ฯลฯ บางบ้านขายอาหารโปรตุเกสเลยครับ หลายร้านก็มีชื่อเสียง แต่ไม่ขอแนะนำร้านใดร้านหนึ่งนะ ลองกินหลายๆ บ้านให้รายได้กระจายไปทั่วชุมชนนะครับ
 

ชุมชนกุฎีจีน
 

 


ที่นี่มีอาคารเก่าแก่มากมาย อย่างเรือนจันทภาพหลังนี้ก็มีอายุ
กว่า 100 ปี มีกรอบหน้าบันรูปอาทิตย์อุทัยเป็นเอกลักษณ์

 


พ่อค้าแม่ค้าทำขนมขายหน้าบ้านสำหรับนักท่องเที่ยวกันเยอะ

 


ขนมที่โด่งดังที่สุดคงเป็นขนมฝรั่งกุฎีจีน สูตรเฉพาะของชุมชนนี้
คล้ายขนมไข่แต่ใช้เตาอบโบราณทำให้กรอบนอกนุ่มใน

 


อันนี้กินเพลินดี ทำจากแป้งกับไข่ ชอบมากกว่าขนมฝรั่งอีก
ไม่รู้เรียกว่าอะไรครับ หาข้อมูลไม่เจอเลย

 

บ้านหลังนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑฺ์บ้านกุฎีจีนในปี พ.ศ.2560 เป็นสถานที่รวบรวมข้อมูลชุมชนชาวโปรตุเกสในสยาม เป็นตัวบ้านสามชั้น ชั้นดาดฟ้าสามารถขึ้นไปชมวิวชุมชนได้  มีข้าวของเครื่องใช้รวมถึงของเก่าที่หาดูยาก ขึ้นชมฟรี แต่สามารถอุดหนุนกาแฟชั้นล่างได้นะครับ


วัดที่เหลือที่มีความสำคัญของฝั่งธนอยู่กระจุกอยู่ที่บางยี่เรือครับ ต้องลงมาทางใต้อีกพอสมควร ผ่านวงเวียนเล็กและวงเวียนใหญ่มาเข้าถนนเทอดไท แต่ก่อนอื่นพักเบรคแวะท่าดินแดงกินห่านพะโล้ชื่อดังกันก่อนครับ...

ฉั่วเจียบง้วน ร้านเก่าแก่ที่เปิดกิจการมาจะ 80 ปีแล้ว ตระกูลฉั่วนี่ไว้ใจเรื่องห่านพะโล้ได้ ทั้งฉั่วเจียบง้วน ฉั่วคิมฮวด (ท่าดินแดง) ฉั่วคิมเฮง (พัฒนาการ) ฉั่วคิมหลี (ลาดพร้าว) ไม่ว่าไปเปิดที่ไหนก็จะเรียกรวมๆกันไปว่าร้านห่านพะโล้ท่าดินแดง สามารถสั่งห่านจานใหญ่ (740) จานกลาง (370) จานเล็ก (190) มีชิ้นหัว ขา ปีก เครื่องใน ไส้ ให้สั่งเพิ่ม ราคาก็แรงตามราคาห่านในตลาดโลก เมนูที่นิยมกินคู่กันก็คือยำเกี้ยมฉ่าย และมะระตุ๋นซี่โครงหมู ข้าวผัดหนำเลี๊ยบก็อร่อย
 
 

อิ่มแล้วก็เที่ยวกันต่อ... วงเวียนเล็กอยู่ทางใต้
ของวัดประยูร ตรงแยกโรงเรียนศึกษานารี
ประดิษฐานพระบรมรูปพระเจ้าตากสินทรงม้า

 

ส่วน วงเวียนใหญ่ อยู่ตรงวงเวียนใหญ่... ไม่ต้องอธิบายก็ได้มั้ง มีอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินโดดเด่นเป็นสง่า น่าจะเป็นอนุสาวรีย์บุคคลที่โดดเด่นที่สุดของประเทศไทยแล้ว (อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและชัยสมรภูมิไม่ใช่บุคคล) อนุสาวรีย์นี้ขออนุมัติตั้งแต่ปี พ.ศ.2480 ตอนนั้นรัฐบาลพระยาพหลก็รับลูกแล้ว แต่ติดช่วงสงครามโลกบ้าง กบฎแมนฮัตตันบ้าง กลุ่มอำนาจเก่าก็ไม่นิยมในตัวลูกคนจีนอย่างพระเจ้าตากสินเท่าไหร่ กว่าจะได้สร้างก็สมัยจอมพล ป. ที่คณะราษฎร์กลับมามีอำนาจอีกหน โดยใช้แบบของ อ.ศิลป์ พีระศรี สร้างอนุสาวรีย์ขนาดหนึ่งเท่าครึ่งของคนจริง ในปี พ.ศ.2494 ช่วงหลังกบฏแมนฮัตตัน

มีเรื่องเล่าว่าช่วงกบฏแมนฮัตตัน จอมพล ป. หลบหนีจากการจับกุมของพวกกบฏเข้าไปในท้องพระโรงของพระราชวังเดิม ท่านกราบขอบารมีพระเจ้าตากสินคุ้มครอง เมื่อจอมพล ป. รอดพ้นวิกฤติมาแล้วก็มีศรัทธาจึงลงมือก่อสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินขึ้นที่วงเวียนใหญ่จนแล้วเสร็จ


สำหรับรูปแบบของอนุสาวรีย์ ผ่านการคิดคำนึงมาโดยละเอียดสมศักดิ์ศรี อ.ศิลป์ พีระศรีครับ ท่านใช้รูปแบบม้าไทย ซึ่งแตกต่างจากที่เคยปั้นในอนุสาวรีย์ที่เคยศึกษาจากยุโรป ส่วนลักษณะท่าทางของม้า การยกขาห้อทะยานสามารถใช้ได้กับอนุสาวรีย์ของนักรบเท่านั้น ในครั้งที่สร้างอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าของ ร.5 จึงต้องให้ม้าอยู่ในท่าสงบนิ่ง เพราะ ร.5 ไม่ได้ออกศึก กรณีพระเจ้าตากสามารถให้ม้าผาดโผนโจนทะยานได้ แต่ชนชั้นสูงยุคนั้นไม่ต้องการให้อนุสาวรีย์นี้แตกต่างกับพระบรมรูปทรงม้ามากนัก จึงต้องแก้แบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนต้องซ่อนความเตรียมที่จะทะยานไว้ที่หางม้าที่ยกขึ้นมาจากม้าที่ยืนสงบปกติ

กว่าม้าของพระเจ้าตากสินจะได้ห้อทะยานจริงๆ ก็ตอนสร้างอนุสาวรีย์ทุ่งนาเชย จ.จันทบุรี ในปี พ.ศ.2524 เลยครับ (ที่อยู่บนแบงค์ 20 เก่า)

เข้ามาในบางยี่เรือ หากจะพูดถึงสถานที่สำหรับระลึกถึงพระเจ้าตากสินอย่างสูงสุด ย่อมต้องเป็นวัดบางยี่เรือใต้ หรือวัดอินทาราม ครับ วัดนี้เป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อสร้างกรุงธนบุรีแล้วพระเจ้าตากสินได้บูรณะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระราชชนนีพระเจ้าตากสินในปี พ.ศ.2318 พร้อมจัดงานมหรศพอย่างยิ่งใหญ่ เชื่อว่าในสมัยกรุงธนบุรีวัดนี้คงมีพื้นที่กว้างขวางกว่าปัจจุบันมาก

ทุกปีในวันตากสิน (28 ธ.ค.) ประชาชนจะมาจัดพิธีบวงสรวงที่พระบรมรูปพระเจ้าตากสินทรงม้าหน้าวิหารน้อยอย่างยิ่งใหญ่
 

วัดอินทาราม
 

หลังสิ้นรัชสมัยของพระเจ้าตากสินไปแล้ววัดบางยี่เรือใต้ก็ถูกปล่อยทรุดโทรม จนกระทั่งสมัย ร.3 พระยาศรีสหเทพ (ทองเพ็ง) ได้มาบูรณะวัดขึ้นใหม่ และ ร.3 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดอินทาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี แม้จะลดคลาสจากสมัยก่อน แต่วัดก็ไม่ถูกปล่อยทิ้งแล้ว ตัวอุโบสถใหม่อยู่ทางทิศตะวันออกของวัด ประดิษฐานพระพุทธชินวร พระปางมารวิชัย ซึ่งพระยาศรีสหเทพเช่ามาจากพ่อค้าชาวสุโขทัย ผมไปไม่เคยเปิดเลยครับ บริเวณนี้เดิมเป็นลานกว้าง เทียบเท่ากับสนามหลวงในสมัยธนบุรี เคยตั้งพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพทั้งพระชนนีของพระเจ้าตาก และพระเจ้าตากเอง

ใครอยากชมภายในวิหารต่างๆ ในโซนที่สร้างใหม่สมัย ร.3 ซึ่งส่วนใหญ่จะปิด เจ้าของบล็อกก็ไม่ได้ชม เข้ามาที่คลิปนี้นำเที่ยววัดอินทารามได้ครบถ้วนที่สุดแล้วครับ https://www.youtube.com/watch?v=r0bZwQAvsDs (มี 3 ตอน ดูตอนนี้ตอนเดียวพอ)

ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน และใบเสมาบันทึกสูตรยา บริเวณนี้เป็นจุดที่ฝังพระบรมศพของพระเจ้าตากสินหลังถูกประหารที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ สองปีหลังจากนั้น ร.1 จึงดำริให้ขุดศพขึ้นมาทำพิธีเผาที่วัดนี้


มาดูโซนที่มีอยู่ตั้งแต่สมัยธนบุรีกันบ้าง... วิหารน้อยหรือพระวิหารสมเด็จพระเจ้าตากสิน ข้างอุโบสถเก่าประดิษฐานหลวงพ่อดำ (องค์หลัง) ที่พระเจ้าตากสินอัญเชิญมาจากมหาชัย ที่นี่เป็นสถานที่หนึ่งที่ท่านมาเจริญกรรมฐาน ยังคงมีแท่นบรรทม (ขวา) และพระราชอาสน์ที่ประทับทรงศีล (ซ้าย) อยู่


หน้าอุโบสถเก่าคือเจดีย์คู่ที่เชื่อว่าองค์ขวา (ถ้ามองออกไปจากอุโบสถ) บรรจุอัฐิพระเจ้าตากสินและองค์ซ้ายบรรจุอัฐิสมเด็จพระอัครมเหสี กรมหลวงบาทบริจา (สอน) สององค์นี้สร้างขึ้นมาภายหลังนะครับ พระสงฆ์ของวัดไปขออัฐิข้อมือพระเจ้าตากสินจากนครศรีธรรมราช ตามสายที่เชื่อกันว่าพระเจ้าตากหนีไปบวชที่นครศรีธรรมราช ซึ่งก็ไม่น่าเป็นความจริงแต่อย่างใด


พระอัฐิที่เที่ยงแท้ของพระเจ้าตากสินหลังถวายพระเพลิงถูกเก็บไว้ใต้ฐานพระประธานของวิหาร องค์หน้านี้ครับ


ถัดจากวัดอินทารามลงมาจะมีวัดราชคฤห์ หรือวัดบางยี่เรือเหนือ หรือวัดบางยี่เรือใน มีอีกชื่อว่าวัดมอญ เพราะสมัยอยุธยามีพระมอญจำพรรษาอยู่ และท่าน้ำบริเวณนี้มีคลองสามสายชนกันเกิดเป็นน้ำวน วัดราชคฤห์จึงมีอีกชื่อเรียกว่าวัดวังน้ำวน (วัดแถวนี้ชื่อจะเยอะหน่อยนะครับ)
 
วัดราชคฤห์
 

ถึงจะชื่อบางยี่เรือเหนือ แต่อยู่ทางทิศใต้ของวัดบางยี่เรือใต้นะครับ เอ้า งง! สมัยก่อนหากเดินทางจากอยุธยามาธนบุรีจะมาถึงวัดราชคฤห์ก่อนวัดอินทาราม จึงเรียกวัดราชคฤห์ว่าบางยี่เรือใน/บางยี่เรือเหนือ และวัดอินทารามเป็นบางยี่เรือนอก/บางยี่เรือใต้ คนสมัยนั้นไม่มีแผนที่ดูทิศง่ายๆ ก็คาดว่าวัดอินทารามที่ใกล้ทางออกแม่น้ำเจ้าพระยามากกว่าน่าจะอยู่ทางใต้นั่นแหละ ระหว่างวัดราชคฤห์และวัดอินทารามมีวัดจันทาราม หรือวัดบางยี่เรือกลาง เป็นวัดเก่าสมัยธนบุรีเช่นกัน แต่ไม่เคยแวะไปเลยครับ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์น้อยกว่าอีกสองวัด

หลังขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ากรุงธนบุรี พระเจ้าตากได้มอบหมายให้พระยาพิชัยเป็นผู้บูรณะวัดนี้ พระยาพิชัยต้องขึ้นไปรับศึกกับพม่าพร้อมรักษาเมืองพิชัยเกือบตลอดสมัยธนบุรี แทบไม่ได้กลับลงมาที่ธนบุรีเลย หลังจากพระเจ้าตากสิ้นอำนาจ ร.1 ได้ถามพระยาพิชัยว่าจะอยู่รับราชการในแผ่นดินใหม่หรือไม่ พระยาพิชัยเลือกขอตายตามพระเจ้าตาก จึงถูกนำตัวไปประหาร แล้วฝังอัฐิที่ปรางค์วัดราชคฤห์ (ปรางค์องค์เล็กด้านซ้าย) ส่วนองค์ขวาคือปรางค์ประธานของวัด บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากกรุงราชคฤห์ประเทศอินเดีย เป็นที่มาของชื่อวัดนี้


ก่อนหน้านี้มีพระรูปพระเจ้าตากสิน พระยาพิชัย ทหารเอกของพระเจ้าตากสิน และหมื่นหาญณรงค์ ทหารคนสนิทของพระยาพิชัย อยู่หน้าพระปรางค์ให้ชาวบ้านกราบไหว้ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2562 ส่วนราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ได้นำอัฐิพระยาพิชัยกลับไปบ้านเกิดที่เมืองพิชัยแล้ว ที่อนุสรณ์สถานบ้านพระยาพิชัยดาบหักที่เคยพาไปเมื่อเอ็นทรี่นี้ครับ (แต่ตอนนั้นพระยาพิชัยยังไม่กลับบ้าน) ตอนนี้ทางวัดสร้างศาลไว้ริมน้ำเป็นที่ประดิษฐานพระรูปทั้งสามครับ


วัดนี้มีอุโบสถและวิหารน้อยใหญ่ทั้งที่บูรณะสมัยธนบุรีและสมัย ร.3 ที่สำคัญคือวิหารหน้าวัดตรงทางเข้าที่ขับรถเข้ามาเลย มีพระนอนเรียกว่าหลวงพ่อนอนหงาย ปางถวายพระเพลิง สร้างในสมัยพระเอกาทศรถ และบูรณะให้องค์ใหญ่ขึ้นตอนพระยาพิชัยบูรณะวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนที่เสียชีวิตในสงคราม


บริเวณนี้คือ ย่านตลาดพลู เป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีนตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ผสมผสานกับมุสลิมที่ย้ายเข้ามา มีอาหารอร่อยร้านเก่าแก่หลายเจ้า ที่โด่งดังคือร้านกุ้ยช่าย ข้าวหมูแดง บะหมี่ หมี่กรอบ ขนมเบื้อง ขนมหวาน

 
 

 

 
ช่วงปลายปี จะมีขบวนแห่บวงสรวงพระเจ้าตากสินบ่อยมากครับ น่าจะแห่ไปจนถึงวัดอินทาราม

ผมยังไม่เคยแวะกินข้าวในตลาดพลูเลย แต่นอกจากตลาดพลูแล้วฝั่งธนตอนใต้นี้มีร้านอร่อยอีกเยอะนะครับ ไม่ว่าจะเป็นห่านพะโล้ชื่อดังที่ท่าดินแดง ร้านเป็ดย่างกิ๊ดกี่ที่ทำขนมจีบอร่อยที่สุดในโลก หรือสารพัดร้านบนถนนเจริญนคร (โดยเฉพาะ Indian Food 17 สุดที่เลิฟ)

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้คงไม่ได้เข้าไปกินได้ในเร็วๆ นี้ ขอให้พวกเราผ่านพ้นโควิดกันไปได้โดยอยู่รอดปลอดภัย สวัสดี... 155




 



Create Date : 26 มีนาคม 2563
Last Update : 28 มีนาคม 2563 9:46:36 น.
Counter : 5214 Pageviews.

45 comments
พาเที่ยววัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ขอพรวัดเก่าใจกลางเมืองรับปีใหม่ไทย นายแว่นขยันเที่ยว
(15 เม.ย. 2567 13:57:04 น.)
วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง tuk-tuk@korat
(14 เม.ย. 2567 13:54:44 น.)
++ พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม ++ wicsir
(13 เม.ย. 2567 10:29:52 น.)
แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya
(10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณKavanich96, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณทนายอ้วน, คุณThe Kop Civil, คุณอุ้มสี, คุณเริงฤดีนะ, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณmcayenne94, คุณJinnyTent, คุณTui Laksi, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณtuk-tuk@korat, คุณmariabamboo, คุณInsignia_Museum, คุณschnuggy, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณตะลีกีปัส, คุณกาบริเอล, คุณRinsa Yoyolive

  
เจิมก่อน
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มีนาคม 2563 เวลา:22:32:10 น.
  
ไว้ต้องไปบ้างวัดระฆังเคยแต่ผ่านแต่ไม่เคยแวะเข้าไป

มัสยิดต้นสนมีที่มาอย่างนี้นี่เอง จะว่าไปก็ตั้งชื่อง่ายๆ ให้เรียกง่ายนะครับ

พระพุทธรูปทองคำมีปูนพอกทิ้งไว้ที่ไทยสมัยก่อนรู้สึกชอบทำแบบนี้กันนะครับ

บ้านวินเซอร์นี่เก่าเกิน เป็นบ้าสนไม้สองชั้น (แซวๆ)

โบสถ์ซางตาครู้สอันนี้ก็ยังไม่เคยไปเหมือนกัน (คน กทม. แท้ๆ)

อนุสาวรีย์พระเจ้าตากมีที่มาอย่างนี้นี่เอง ตรงนี้ผ่านค่อนข้างบ่อยครับ ถึงไม่ผ่านตรงๆ ก็มองเห็นจากถนนเส้นที่ผ่าน

วัดอินทาราม ผมมีเป้าหมายว่าจะไป แต่ยังไม่ได้ไป แถมมีวิกฤตไวรัสอีก คงยาวเลยกว่าจะได้ไป

วัดราชคฤห์ นี่ก็ยังไม่เคยไปครับ ท่าดินแดงของกินเยอะมากครับ เดินสุ่มๆ เข้าสักร้ายรสชาติก็ไม่ชั่วนะแถวนั้น ว่าแต่ปีนี้เราจะมีโอกาสได้ไปกินข้าวด้วยกันมั้ยเนี่ยะ ดูแล้วน่าจะยากนะ สถานการณืตอนนี้ดูเลวร้ายมาก
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มีนาคม 2563 เวลา:23:23:22 น.
  
ตามมาเที่ยวเมืองเก่ากรุงธนบุรีต่อครับ
มาไหว้พระ พระเจ้าตากสิน พระยาพิชัย หมื่นหาญณรงค์ด้วยครับ
แต่ละที่ น่าไปเที่ยวเยี่ยมชมทั้งนั้น

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 26 มีนาคม 2563 เวลา:23:36:17 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:4:46:24 น.
  
บ้านโบราณวินด์เซอร์ สวยจริง...แต่คงต้องใช้งบ ซ่อมแซม
ดูแลเยอะหลายล้าน น่าเห็นใจ...จะยกให้ ก็เสียสิทธิ์
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:6:10:48 น.
  
ร้านฉั่วเจียบง้วนอร่อยมากๆคราบ น้ำจิ้มเปรี้ยว แซ่บมากๆ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:15:05:17 น.
  
วันนี้อ่านจบอย่างว่อง

พี่คุ้นวัดทางฝั่งธนมากว่ากรุงเทพฯ
อย่างเช่นแม่บวชชีที่วัดท้ายตลาดหลายปี
แล้วพอลาบวชออกมาช่วยน้องสาวเลี้ยงลูก
ไม่ช้อไม่นานก็เจอพ่อพี่ พอมีพี่มาเกิด
ก็ไปขอให้เจ้าอาวาสวัดหงส์เมื่อปี 2481
ตั้งชื่อให้ เราจึงมักกลับไปวัดทางฝั่งธน
วัดประยูรก็ไปบ่อยเพราะสังคญาติขึ้นวัดนี้

โดนสั่งให้คนเกิน 70 อยู่แต่ในบ้านก็ดีเหมือนกัน
มีเวลาทำอะไรๆนิ่งๆได้มากขึ้น

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:15:17:28 น.
  
จากบล็อก งานหนักกว่าเดิมอีกครับ หัวถึงหมอนนี่แทบสลบเลย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:21:35:41 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Diarist ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Health Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
ravio Diarist ดู Blog
จันทราน็อคเทิร์น Diarist ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

เอนทรี่น้องชีริว
พี่อุ้มไม่ได้ไปอยู่ 3 ที่
1.มัสยิดต้นสน
2.ศาลเจ้าพ่อกวนอู
3.ชุมชนกุฎีจีน
นอกนั้นไปบ่อยมาก
คิดไรไม่ออกไปเดินสาย
ส่วนมากจะตั้งต่นวัดอรุณ
แล้วก้เป็นแม่หญิงเรื่อยเปื่อย
ไพข้างทางไม่เปิดไม่กลับบ้าน


โดย: อุ้มสี วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:22:45:56 น.
  
ตามมาเที่ยวชมกรุงธนฯ ตอน 2 ค่ะ
วแม้ดูจะไม่ใช่สายวัด
แต่หากเป็นฝั่ง กทม.ก็ไปครบ
+วัดดังๆ เช่น วัดแจ้ง+วัดระฆัง
และวัดหงษ์ ที่งดงามและกว้างขวางแล้ว

วัดกัลยาฯเคยมา แต่ไม่เคยเดิน
ที่ชุมชนเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา(จินตนาการตามไปก่อน)

ทั้งโบสถ์ซางตาครูส และชุมชนกุฎีจีน
พิพิธภัณท์และร้านกาแฟน่าเดินน่านั่ง
ขนมฝรั่งชอบทาน เพราะมีขายที่ท่าพระจันทร์
(คุณยายวางแผงขายข้างๆร้านนายอินทร์)
แต่แป้งกับไข่ไม่เคยเห็น เลยเดาชื่อไม่ออก(ค่ะ)
อนุโมทนาบุญกับสมาคมสถาปนิกสยามที่จะบูรณะบ้านวินเซอร์
จะมองยังไม่กล้าเลย(กลัวมองมากจะพังเอาได้)


ห่านที่ร้าน "ฉั่วเจียบง้วน" น่ากินๆ
วัดอินฯเคยมา
วัดราชคฤห์ไม่เคยมา อยากไปกราบอัฐิพระยาพิชัย
(เคยแขวนรูปท่านที่คอเมื่อ 30 ปีก่อน)
กราบพระนอนหงายด้วย

ตามๆๆตอนต่อไปค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:5:03:12 น.
  
จากผังภาพเห็นตำแหน่งพระราชวังเดิม วัดแจ้งและวัดท้ายตลาดที่น้องชีริวพาเที่ยวไปแล้วชัดเจน

บ้านวินเซอร์รูปแบบสวยมาก นึกภาพปรับปรุงแล้วเสร็จเจ้าของคงภูมิใจนะคะที่รักษาบ้านดั้งเดิมมานานทำให้คนรุ่นหลังมีโอกาสได้ชม

ส่งกำลังใจก่อนนะคะแล้วพี่ต๋ามาต่อค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:8:00:27 น.
  
มาอ่านบล็อกคุณชีริว แล้วผมนึกขึ้นได้ตอนไปปั่นจักรยานไหว้พระตอนสิ้นปี ผ่านเส้นนี้ หาร้านอาหารทานกัน เลือกกันไปมา ไม่ได้แวะนั่ง 555 รีบปั่นรีบไหว้พระ
ไม่ได้อ่านประวัติ รายละเอียดลึกแบบนี้เลยครับ พอมาอ่านที่บล็อกที่คุณชีริวแล้วนี่ ผมต้องกลับไปอีกครั้งละครับ ขอปักหมุดไว้หน่อยนะครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:8:55:02 น.
  
ตามอ่านเรื่องราว
ตามดูรูปในบล็อกน้องชีริวเพลินเลยครับ

บ้านวินเซอร์สวยมาก
น่าเห็นใจเจ้าของบ้านด้วย
ไม่รู้จะจบยังไง

เที่ยวแบบน้องชีริว
ต้องเที่ยวเกือบทั้งวันเลยนะครับ

ผู้นำมีผลมากจริงๆครับ
ว่าจะเลือกวิธีแก้ไขปัญหายังไง
วิกฤตหนักขนาดนี้
ทำให้เราเห็นฝีไม้ลายมือของผู้นำจริงๆ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:10:52:39 น.
  
ตะเอ๋ ไม่ได้มาตัวเปล่าเน้อ
เอาความคิดถึงมาฝากหนึ่งกระบุง อิอิ

เป็นยังไงบ้าง ตัวเลขผู้ติดเชื้อกรุงเทพหนักหนาเลย
ที่ทำงานหยุดเปล่า ได้ทำงานที่บ้านแทนหรือเปล่า
เพื่อนพี่หลายคน ยังไปทำงานอยู่ แต่ลดวันทำงานสลับกันไปทำงาน
นอกนั้น ก็ทำงานที่บ้านแทน เดือดร้อนกันหลายคนนะ

พี่ตัดสินใจหยุดร้าน เพราะชั่งน้ำหนักดูแล้ว
ระหว่างขายแต่เฉพาะในกล่องกลับบ้านตามประกาศของจังหวัด
กับหยุดร้านเลย แบบไหนเจ็บตัวหน้อยสุด
ก็คุยกับเด็ก ๆ ทุกคน ทำความเข้าใจว่า หยุดแล้ว
ไม่มีรายได้เค้าแฮปปี้มั้ย ทุกคนบอกอยากกลับบ้าน
กลัว ไม่อยากเสี่ยง ไม่มีรายได้ไม่เป็นไร
สรุป 13 คน (ตัวเลขสวยมั้ย 555) กลับบ้านใครบ้านมัน
เค้าก็ไม่เสี่ยง พี่ก็ไม่เสี่ยงเอามาติดลูกสามีที่บ้าน

พี่ก็เลยกลายเป็นคนตกงาน ไม่มีรายได้จากการทำงาน
แถมมีหนี้รายเดือนอีกก้อนโต เลยตั้งสติกันยกใหญ่
ว่าจะมาขอยืมคนแถวนี้ซื้อข้าวกิน คิดดอกแพงมั้ย 5555

ก็กระทบจากสถานการณ์ไวรัสทั้งทางตรงทางอ้อม
จากธุรกิจของครอบครัว แล้วก็ตึกพาณิชย์ที่ปล่อยให้เช่า
ถูกคืนห้องไปหนึ่งราย อีกรายขอลดค่าเช่าเหลือครึ่งเดียวเป็นเวลา 3 เดือน
ก็ให้เค้านะใจเค้าใจเรา แล้วก็อื่นๆ อีกนิดหน่อย
พอประคองตัวอยู่ได้ รอดูสถานการณ์สักพัก
สำหรับร้านติ่มซำ ดูสถานการณ์ถึงกลางเดือนเม.ย.
จะลุยต่อหรือพักยาวอีกระลอกสอง เด่วว่ากันอีกที

เทคแคร์นะ คาดการณ์อะไรไม่ได้จริง ๆ ตอนนี้
มันเป็นปัญญาที่ใหญ่เกินทั่วโลก
อะไรที่รัฐพลาด ก็ไม่รู้จะด่าให้ได้อะไรขึ้นมา
เพราะจุกจนพูดไม่ออก ปวดใจกับการบริหารและปล่อยให้บานปลายจริง ๆ
ทำได้เพียงเซฟตัวเองและครอบครัว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
และใช้มาตราฐานช่วยเหลือให้เป็นประโยชน์มากที่สุด

เออ แล้วขอเงินประกันค่าไฟได้ยัง
พี่ก็ทะยอยขอได้หลายที่ละ ส่วนมาตราช่วยเหลือเงินกู้
ได้ตอบรับมาแบงค์เดียวอยู่ จ่ายแต่ดอกเบี้ย พักต้น
เท่ากับดอกต้องจ่ายฟรี ๆ ไป 4 เดือน เพื่อรักษาสภาพลูกหนี้ชั้นดี
ช่วยแบบไม่ยอมเสียเปรียบจริง ๆ เอาดอกเบี้ยไปฟรี ๆ อีก เหอ ๆ

ก็เป็นห่วงเพื่อน ๆ ทุกคนนะ
แต่ไม่มีใจจะท่องบล็อกจริง ๆ ได้แต่ติดตามข่าวแบบเกาะติด
ขนหนังสือมาเตรียมอ่าน ป่านนี้ยังไม่ได้อ่านสักเล่ม
แงะตัวเองจากข่าวไม่ได้เลย

โดย: JinnyTent วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:12:27:02 น.
  
พระเจ้าตากสิน เป็นบูรพมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ
แต่ราชวงศ์ของท่านอาภัพนะ ประวัติศาสตร์มีแต่เรื่องเศร้า
พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่อยู่ในยุคที่ประชาชนทุกข์ยากแสนเข็ญ
ต้องฟื้นฟูบ้านเมืองจากศึกสงคราม ต้องยืมเงินจีน
มาสร้างบ้านสร้างเมืองมากมาย แม้เป็นช่วงการปกครองสั้นๆ
ก่อนจะมาเป็นราชวงศ์จักรี แต่พระนามของพระองค์ท่าน
ก็อยู่ในความทรงใจของคนไทย ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ที่ท่านได้เสียสละตลอดพระชนชีพของท่านเสมอ

ไล่อ่านและดูรูปมาเรื่อย มาสะดุดตรงที่บ้านวินเซอ
บ้านสวยนะ เห็นใจเจ้าของนะ แต่ถ้าขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
บ้านสวยหลังเดิมก็จะยังคงอยู่อีกนานเลย

วันนี้พาเที่ยวหลายที่เลย ทำเอาคนบ้านนอกงง
ไม่รู้ไหนทิศเหนือไหนทิศใต้ วนเวียนฝั่งธนจนมึนหัว
พักก่อนนะ ไว้มาเม้าธ์ใหม่




โดย: JinnyTent วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:12:40:56 น.
  
เล็งไว้ว่าจะไปเดินเล่นแถวโบสถ์ซางตาครูส มาหลายปีมากๆ แต่ไม่ได้ไปซักที
เที่ยวตามบล๊อกเพื่อนๆ

เมื่อก่อนภายในวิหารใหญ่วัดราชคฤห์ มีลวดลายภาพเขียนด้วยนะคะ
แต่พอเค้ามาบูรณะใหม่ ทาสีขาวทับไปหมดเลย น่าเสียดาย

ของกินตลาดพลู มีเยอะมาก
ไอติมไข่แข็งแถวทางรถไฟก็อร่อย ร้านขนมหวานก่อนถึงทางรถไฟก็อร่อย ข้าวหมูแดงหมูกรอบก็ดีงามค่ะ ^^
โดย: VELEZ วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:14:12:39 น.
  
มาตามเที่ยววังเก่าฝั่งธนบุรี ยุคพระเจ้าตากสินกับบล็อกคุณชีริวต่อ
บอกตามตรงว่าแถวฝั่งธนฯนี่เรามานับครั้งได้ บางปีไม่เคยมาเลยคร้า

ได้ remind me ! ถึงประวัติศาสตร์ไทยยุคคพระเจ้าตาก สร้างกรุงธนฯ
ความรู้เรื่องเหล่านี้ของเราถูกปิดลงไปตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย
เรามุ่งไปทางเอกภาษาตปท.เลยลืมประวัติศาสตร์ชาติไทยในอดีตไปบ้าง
อ่านบรรยายพร้อมภาพเกือบทุกตัวอักษร เห็นภาพกระจ่างขึ้นมาลางๆ
ขนลุกเลยอ่ะคร้า...น่าทึ่งมากมายทั้งในยุคบรรพบุรุษไทยและ
เยาวชนคนรุ่นใหม่อย่าง จขบ.ที่เข้าใจถ่ายทอดเรื่องราวมาอย่างละเอียดน่าสนใจ
แม้กระทั้งเรื่องม้าทรง...ก็เพิ่งเคยได้รู้จากที่นี่ละ ว้าว ๆ
อ่านแล้วก็อยากกลับไปเรียนประวัติศาสตร์ยุคก่อนราชวงศ์จักรีเลยเชียว

วัดทั้งหมดเราได้ยินแต่ชื่อคุ้นหู จนปักหมุดจะตามไปเที่ยว
ตามสื่อโซเชี่ยล แต่มาเจอวิกฤตไวรัส ซะก่อน ทุกอย่างสต๊อปไว้เลย
โชคดีเราได้ไป "วัดหงส์" มาแล้ว โดยใช้บริการ MRTสีน้ำเงิน
ว่าจะลงรีวิวในบล็อกเช่นกันช่วง Stay Home- Stay safe!
คงมีเวลาเลือกภาพมากหน่อย เราไปเที่ยวตามกระแสนั่ง MRT
ชม 4 สถานี แล้วเลยไปเที่ยวชมวัดหงส์ด้วย

บล็อกนี้ได้ตามชมครบรสตามสไตล์ จขบ. เที่ยว เรียนรู้สถานที่ประวัติศาสตร์
(ที่มิใช่ซากอิฐ...) พร้อมของกินอร่อยๆแถวนั้น มีโอกาสจะตามรอยค่ะ
คงรอไปอีกนานแค่ไหน ไม่มีใครตอบได้ Stay Strong! ไปด้วยกันค่ะ
โดย: Tui Laksi วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:16:44:49 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

มาอ่านตั้งแต่บ่ายห้าโมง กว่าจะจบสองทุ่ม จ้ะ อ่านแล้วก็
ซึม ๆ ในอารมณ์เหมือนเดิมนะ คิดถึงพระองค์ท่าน เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเสียสละตลอดพระชนมชีพจริง ๆ เนาะ
บล็อกนี้ เป็นบล็อกวัดจริง ๆ เป็นสิบ ๆ วัดเลยเชียว เริ่ม
- วัดระฆัง วัดนี้ ครูเคยไปไหว้หลวงพ่อโตจ้ะ คนไปไหว้มากเหมือนกัน ตอนไปรู้สึกจะไปเรือ ชอบชื่อ หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า จัง
เสียดายไม่เห็นมีประวัติเลยว่า ทำไมจึงได้ชื่อนี้ ห้าห้า
- มัสยิดต้นสน โห สร้างมานานสมัยสมเด็จพระนารายณ์เชียว
- วัดหงส์รัตนาราม ได้ทราบประวัติของชื่อวัดตามชื่อผู้สร้าง
มีศาลพระเจ้าตากสินด้วย บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ นี่ก็สำคัญ งาน
พระบรมราชาภิเษกใน ร.10 ก็ได้มานำน้ำที่นี่ไปประกอบพิธีด้วย
- บ้านวินเซอร์ โบสถ์ซางตาครู้ส เออ เพิ่งรู้ว่า ซางตาครู้ส
แปลว่า ไม้กางแขน อิอิ
- ชุมชนกุฎีจีน รูปที่ถ่ายมา ครูชอบนะ คิดถึงบรรยากาศแบบนี้
ในนวนิยาย ของโบตั๋น เรื่อง อยู่กับก๋ง ประตูจะเป็นประตูไม้
โดยเฉพาะรูปอาหารจีน ที่ถ่ายมา น่ากินมากโรยผักชีด้วย
-วงเวียนเล็ก วงเวียนใหญ่ ตลาดพลู ย่านนี้ สมัยครูสอนที่
อิสลามวิทยาลัย ฯ ต้องผ่านแถวนี้ หรือมาเดินแถวนี้บ่อย ๆ ของ
ขายเยอะมาก น่ากินทั้งนั้นเลย อ่านถึงตรงนี้ เพิ่งได้ความรู้
ในเรื่องของการสร้างอนุสาวรีย์เกี่ยวกับเรื่องม้า
- ความสำคัญของวัดบางยี่เรือใต้ หรือปัจจุบันคือ วัดอินทาราม
อ่านเรื่องที่เธอเล่า ก็เศร้าใจเนาะ เป็นที่ถวายพระบรมศพทั้ง
แม่และลูก
-วัดราชคฤห์ รู้สาเหตุที่ได้ชื่อนี้ แต่อ่านเรื่องราวแล้วก็รู้สึกเศร้า
ที่พระยาพิชัยดาบหัก ต้องถูกประหารเพียงเพราะไม่ยอมเป็น
ข้าราชการสองแผ่นดิน เป็นความซื่อสัตย์ น่ายกย่องมากกว่าจะ
ต้องถูกประหารชีวิต เฮ้อ!


จบแล้วจ้ะ สำหรับการไปนมัสการ สังเวชนียสถาน ครู
ว่า เราชาวพุทธถ้าได้ไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ไปเถอะ ความ
ลำบาก ครูก็ว่าไม่ได้ลำบากอะไร ยิ่งผู้ชายยิ่งสบาย เข้าป่า
ไปยิงกระต่ายได้สบาย ๆ เดี๋ยวนี้ เขาพัฒนา มีซุ้มเต๊นท์ให้
พวกผู้หญิงเข้าไปฉี่ด้วยนะ ห้าห้า ตอนสองจะถ่ายรูปมาให้ชม

เรื่องสถานที่สำคัญก็เหลือแต่ซากอิฐซากปูน หน้าตาก็
คล้าย ๆ กันด้วย เขารู้ได้อย่างไรว่า ตรงไหน เป็นเรื่องใด
คิดว่า นักโบราณคดี คงมีวิธีศึกษาของเขาแหละเนาะ

โหวดหมวด ท่องเที่ยว



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:21:06:20 น.
  
อ่านแล้วพาลให้อบากไปๆหลายวัดเลยค่ะ
วัดหงส์ คงเดินสักครึ่งวัน


ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เห็นภาพแล้วเหมือนไปเอง
โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:21:32:58 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:7:13:27 น.
  
สวัสดีค่ะน้องชีริว

พิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่เอกชนเป็นเจ้าของและเปิดให้เข้าชมฟรีน่านับถือในความตั้งใจดีและน้ำใจของผู้ก่อตั้งนะคะ
เข้าชมพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนได้ทั้งความรู้และเห็นข้าวของเครื่องใช้ของชาวโปรตุเกสที่เข้ามาไทยในอดีต น่าไปมาก
ขนมฝรังกุฎีจีนโด่งดังพี่ต๋าเคยชิมนานแล้ว พูดถึงก็อยากหาซื้อตอนนี้เลยค่ะ

การออกแบบม้าของอนุสาวรีย์มีความความหมายลึกซึ้งมาก
พระบรมรูปพระเจ้าตากสินทรงม้าหน้าวิหารน้อยก็มีลักษณะการยืนของม้าและหางม้าคล้ายที่วงเวียนใหญ่
มีโอกาสสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากครั้งต่อไปคงได้สังเกตมากขึ้นค่ะ

"เจ้าคุณพิชัยดาบหัก ผู้กล้าหาญยิ่งนัก ล้วนเป็นต้นตระกูลไทย"
ส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงต้นตระกูลไทยแว่วเข้ามาเมื่ออ่านถึงชื่อของพระยาพิชัย
ท่านเป็นทหารเอกคู่พระทัยพระเจ้าตากต่อสู้ด้วยดาบสองมือจนดาบหัก
วีรกรรมของท่านทั้งกล้าหาญและมีความกตัญญูอย่างเปี่ยมล้น

จุดที่ฝังพระบรมศพพระเจ้าตากสิน สถานที่ตั้งพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพพระชนนีของพระองค์และพระองค์เอง
แท่นบรรทม พระราชอาสน์ที่ประทับทรงศีล เจดีย์คู่ ที่เก็บพระอัฐิ
นับว่าวัดอินทารามเป็นวัดที่สำคัญมากเป็นสถานที่สำหรับระลึกถึงพระเจ้าตากสินอย่างสูงสุดตามที่น้องชีริวบรรยาย
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ วันนี้คงได้ตามรอยน้องชีริวไปวัดนี้แล้วค่ะ
และคงต่อด้วยแวะวัดราชคฤห์เพื่อกราบสักการะหลวงพ่อนอนหงาย

ขอบคุณน้องชีริวที่พาเที่ยวนะคะ ได้ความรู้ความเพลิดเพลิน
ได้แรงบันดาลใจในการตามรอยเหมือนเคย

ดูแลรักษาสุขภาพนะคะน้องชีริว
ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อกพี่ต๋าด้วยค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:9:16:32 น.
  
ศิลปินสมัยก่อน
พี่ก๋าว่าเค้าผูกพันกับความตาย
มองเห็นความตายเป็นเรื่องปกติ
แล้วก็ถ่ายทอดสัจธรรมผ่านรุปวาดเหล่านัั้น
อยู่ที่คนดูจะมองเห็นสัจธรรมนี้หรือเปล่า

ชนชั้นถูกสร้างขึ้น
เพื่อการปกครอง
แต่สำหรับความตาย
ไม่มีชนชั้นอะไรใดใดเลย


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:9:25:50 น.
  
วัดหงส์สวยมากครับ อยากไป ยังไม่เคยไปเลย

เคยเดินไหว้พระ 9 วัด แถวๆเส้นอรุณอัมรินทร์ครับ แค่ไม่ได้ไปศาลเจ้ากับโบสถ์คริส เสียดายมากๆ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:14:34:23 น.
  
สวัสดีวันพักผ่อน อยู่บ้านกันอีกยาววววว...ค่ะคุณชีริว
มาแจ้งด้วยว่า ตื่นมาเช้านี้ นั่งลุยอัพบล็อก วัดหงส์ฯ เสร็จละ !!!

กว่าจะเสร็จ ก็ต้องหยุดพักไปทำโน้นนี่นั่น พักเที่ยงอีก
มานั่งอัพต่อเลือกภาพกันวุ่นเลย ...ได้ใช้เวลาไม่ให้หายใจทิ้งเปล่าๆ
ขอบคุณมากคร้าที่แวะไปเซย์ฮัลโหลวันหยุด
ใช้ๆ เราก็มีลิสต์ เตรียมเที่ยวแถวฝั่งธนฯ โดยนั่ง MRT
ไปไว้แล้วบ้าง...หากไม่เจอพิษโควิค เลยต้องปิดเทอมเรื่องนี้ไว้ก่อน
หากเจอกัน...อย่าลืมทักทายกันน๊า...
โดย: Tui Laksi วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:15:12:44 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจมากที่มาให้คำตอบว่า ทำไมจึงได้ชื่อว่า "พระยิ้มรับฟ้า" เออ เข้าใจตั้งจริง ๆ ฟ้าเป็นที่สูง เนาะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:15:24:20 น.
  
เขาอยากไปมาก
รอเขาไปด้วยนะคะ อย่างเพิ่งปิดหรือย้ายไปไหน
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:20:44:33 น.
  
ชีริว Travel Blog

มีหลายวัดที่น่าเที่ยวมีประวัติศาสตร์ให้น่าค้นหา แม่น้ำยิ่งอยากทำให้อยากนั่งเรือค่ะ ขอบคุณที่แวะไปชมไม้หนามนะคะ เริ่มเลี้ยงจริงจังมาสามปีแล้วค่ะ เค้าก้จะโตของเค้าเอง แฮร่
โดย: mariabamboo วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:21:44:29 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:6:34:15 น.
  
ย่านนี้คุ้นเคยมากๆครับ
อ่านแล้วได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากๆครับ
นึกย้อนไปตอนที่ผมเรียนมอปลายเคนเดินผ่านชุมชนกุฎีจีนทุกเช้าเย็น เพราะต้องไปชุมชนหลังวัดกัลยาฯ
แถบนี้จึงเนื่องแน่นไปด้วยสิ่งที่น่าศึกษา น่าไปชม ใกล้ๆกัน หรือเดินถึงกันได้ ถือว่าเป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองซึ่งยังเห็นความรุ่งเรืองเหล่านั้นภายในวัดวาอาราม และได้รับการบำรุงรักษาไว้อย่างดี
โดย: Insignia_Museum วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:11:53:57 น.
  
เอนทรี่นี้เคยไป 3-4 ที่ ตัวบ้านดูขลังแต่ก็ดูน่ากลัวด้วยนะนั่น ขอให้มีทางออกที่ดีแล้วกัน

ขนมกุฎีจีนนี่พอได้ไปกินร้านที่เค้าทำอร่อยจริงๆ มันอร่อยมากเลยนะ จากที่ไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นขนมที่อร่อยเลยอ้ะ 55555

โควต้าหมด ไม่รู้จะได้เข้ามาอีกเมื่อไหร่เน้อ เข้ามาแล้วจะมาโหวตเอนทรี่นี้ให้แล้วกัน เก็บลิงก์ไว้แระ


อะจ้ะ ความรู้สึกเธอคงเหมือนฉันรู้สึกกับคนที่ไปกินอาหารคอร์สละสามสี่หมื่นน่ะแหละ 55555

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:12:56:00 น.
  
จากบล๊อก
ตอบช้าไปหน่อยครับช่วงนี้ยุ่งไปหมดเลย
เรื่องงดบิน เพื่อนผมที่เป็นติวเตอร์นี่ไม่มีงานเลยครับ สอนก็ไม่ได้ บินไปสอนตามโรงเรียนก็ไม่ได้ ตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆ เหงาๆ เลย
จนเพื่อนบอกว่า เข้าใจเลยว่าทำไมสุนัขอยู่บ้านแล้วกัดเฟอร์นิเจอร์ เพราะมันก็เริ่มอยากกัดเหมือนกัน 5555

นั่นสิครับ น้ำไม่ได้ท่วม 55555
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:13:23:06 น.
  
มาโหวตแระนะเธอ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตะลีกีปัส Food Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 มีนาคม 2563 เวลา:22:03:14 น.
  
ถ้ามาเตร็ดเตร่ท่องเที่ยวแถวนี้
มาทางเรือแล้วเดินลัดเลาะตรอกซอกซอยเอา ได้ฟีลดีครับ ^^

อันนั้นพูดถึงที่เที่ยวนะ ถ้ามาตามหาบ้านคนนี่คนละเรื่องเลย
บ้านหัวหน้าเก่าผม อยู่ระหว่างระหว่างวัดซางตาครู้สกับวัดกัลยาฯ
โห~ หายากมาก ซอยมันแคบ ๆ อย่างในรูปนั่นแหละ
ถ้าเค้าไม่ออกมารับนี่ไปไม่ถูกเลย (แต่ไปรษณีย์ไทยไปถูก ^^")

ขนมฝรั่งกุฎีจีนนี่เมื่อก่อนผมกินบ่อย
แต่ขนมรูปข้าง ๆ ไม่รู้จักชื่อเหมือนกัน เพราะเค้าไม่เคยซื้อมาฝากน่ะ 55
ถ้ารสชาติออกหวาน ๆ หอม ๆ ผมว่าผมเคยเห็นนะ แต่ไม่ใช่แถวซอยกุฎีจีน
น่าจะเป็นของกินทั่ว ๆ ไป ถ้าเป็นขนมสูตรโบราณมีชื่อน่าจะรู้แล้วแหละ

มัสยิดต้นสน ผมสงสัยนิดหน่อย
ถ้าสร้างสมัยพระนารายณ์จริงนี่ย้อนไปหลายร้อยปีเลยนะ
ตอนนั้นทะเลน่าจะกินพื้นที่เข้ามาในแผ่นดินมากกว่าปัจจุบัน
ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าตาคงไม่เหมือนปัจจุบันแน่นอน
แล้วตอนสร้างเนี่ย มัสยิดน่าจะตั้งอยู่ริมน้ำหรือเปล่า
อืม~ จะมีใครรู้เนอะ ^^"
โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 3 เมษายน 2563 เวลา:18:52:25 น.
  
เมื่อก่อนคงมีคนเชื่อว่าลุงเหมาะกับการเป็นผู้นำ
ตอนนี้พี่ก๋าเชื่อว่าหลายคนคงรอ
เหมือนที่พี่ก๋ารอ
ว่าเมื่อไหร่ลุงจะไป
ไม่ใช่เพราะเกลียดลุงนะ
แต่พี่ก๋ามองว่าลุงไม่เหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้แล้วล่ะครับ

ควรเปลี่ยนให้คนอื่นมาลองบ้าง
แล้วก็ล้างระบบ ระบอบการเมืองเดิม
ที่ก่อปัญหามิหยุดหย่อนไปซะที

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2563 เวลา:21:38:41 น.
  
สวัสดีมีสุขค่ะ

ไปชมมาเกือบทุกวัดแล้วค่ะ มีวัดโมลี ที่ยังไปเคยเจ้าชม
ส่วนวุดระฆังเคยอยู่มา5ปีเต็มๆ
ตั้งแต่พ.ศ.2514 คุ้นมากสุดค่ะ
เดินเข้าเดินออกที่ซอยวังหลัง
จนจะหลับตาเดินได้เลยในสมัยโน้น
หากเป็นตอนนี้
...เดินเบิกตาโพลง ยังสะดุดกระจาดแม่ค้าหัวคว่ำได้ค่ะ
ขอบคุณกำลังใจที่แวะไปให้ผัดถั่วงอกด้วยค่ะ
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 3 เมษายน 2563 เวลา:21:44:15 น.
  
จากบล็อก
ผมอยากจะร้องเพลง (แค่บางวรรค) ให้ฟังนะครับ

"ใช่มันจะน้อยลง แปลกต้องที่มันยังเพิ่ม" 555

ไวรัสทำเอาลำบากจริงๆ พรุ่งนี้น่าจะต้องไปตุนของหน่อยแล้ว คุณชีริวน่าจะเห็นข่าวในหลายๆ ส่วนแล้ว โดยเฉพาะช่วงประมาณ 21.00 น. ผมว่า เคอร์ฟิว24ชั่วโมง 24/7 ไม่น่าใช่ความฝันแล้วล่ะ อยู่ที่ใครจะอึดกว่ากันแล้วตอนนี้ ถ้าโดน 1 สัปดาห์จะไหวกันมั้ย? อาจจะไหว แต่ถ้าลากยาวถึงครึ่งเดือนคงมีตายไปข้างแน่
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 เมษายน 2563 เวลา:23:57:44 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 เมษายน 2563 เวลา:6:38:54 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

แฟนพันธุ์แท้ ประจำบล็อกครู มีไม่กี่คนหรอกจ้ะ แต่มีชีริว
และกะว่าก๋า เป็นขาประจำตลอด ห้าห้า
ช่วงนี้ เขียนแต่เรื่องไปแสวงบุญ เพราะกลัวนานไป จะยิ่ง
จำอะไรยากมากขึ้น อิอิ เลยอัพบล็อกเร็วกว่าปรกติ ประกอบกับ
มีน้องๆ ที่ร่วมทริปรออ่าน เขาช่วยหารูปสถานที่ต่างมาเพิ่มเติมให้
ด้วย เลยทำงานง่ายและเร็วขึ้นจ้ะ

ถามว่า พระอาจารย์ ดร. จบดร.แล้วมาบวชเป็นพระ
เหรอ ไม่ใช่หรอกจ้ะ ท่านบวชเณรแต่เด็ก แล้วก็บวชเป็นพระ
ตั้งใจจะสึก แต่พระอาจารย์ของท่านว่า ลองไปปฏิบัติวิปัสสนา
ก่อน แล้วตัดสินใจอีกที ถ้าจะสึก ก็จะสึกให้ ท่านก็เลยทำ
ตามพระอาจารย์ที่บวชให้ ท่านเกิดความซาบซึ้งในการนั่ง
วิปัสสนา 7 วันนั้น ก็เลยไม่สึก และเรียนหนังสือในขณะที่เป็น
พระ พระอาจารย์ท่าน ก็ได้ส่งเสียท่านไปเรียนปริญญาโท เอก
ที่มหาวิทยาลัยพาราณสี เป็นเวลา 7 ปี ดังนั้น ท่านจึงมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ทางพุทธศาสนาได้แจ่มแจ้งดี จ้ะ

ส่วนต้นโพธิ์ที่กล่าวถึงในบล็อกนี้ เป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุมากที่สุด จ้ะ มากว่า พ.ศ. อีก ส่วนต้นโพธิ์ที่พุทธคยานั้น
โดนทำลายไปแล้วก็ปลูกใหม่ ปัจจุบันนี้ น่าจะเป็นต้นที่ 4 นะ
เดี๋ยวครูคงจะเล่าในตอนไปพุทธคยา จ้ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 4 เมษายน 2563 เวลา:13:04:02 น.
  
เพิ่งได้กลับมาอ่านละเอียด ๆ ค่ะ ชอบจัง ตัวหน้งสือใหญ่ขึ้นอ่านง่าย ไม่เน้นรูป (แต่ก็มีให้นึกภาพตามได้) แต่เน้นเรื่องที่อ่านสนุกเพลิดเพลินเช่นเคย

เหมือนได้ทบทวนไปด้วยเลยค่ะ มัสยิดต้นสนตอนพี่ไปกำลังบูรณะ หลังจากนั้นไม่ได้ไปอีกเลย พี่อ่านเจอว่า พระสหายร่วมรบ ร่วมกู้แผ่นดินคนสำคัญของพระยาตาก ชื่อเจ้าพระยาจักรี (แขก) พอท่านตาย พระเจ้าตากพระราชทานที่ดินฝังศพให้ (กูโบ) น่าจะเป็นแถวมัสยิดต้นสนนี้แหละ ตอนพี่ไปเห็นกูโบเรียงรายเยอะมาก แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องเล่านี้ด้วย

เพิ่งรู้ว่าระฆังโบราณเอาไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว...จนบัดนี้พี่ยังไม่ได้เข้าไปพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้วเลย ข้างในห้ามถ่ายรูป เลยผลัดตัวเองมาเรื่อย 555 พระปรางค์วัดระฆังของคุณชีริวขาวจั๊วะเลย

ชอบพระอุโบสถวัดหงส์ค่ะ ตอนเห็นครั้งแรก โห งามกว่าที่คิด หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตร สร้างก่อนองค์วัดหงส์หรือเปล่าคะสมัยสุโขทัยเหมือนกัน

บ้านวินเซอร์ถ้าได้นั่งเรือผ่านก็ยังเก็บภาพกลับมาทุกรอบค่ะ แต่ยังไม่ได้ไปเดินเลียบริมน้ำอีกเลย โบสถ์ซางตาครู้ส ได้รูปภายนอกโบสถ์อย่างเดียวเหมือนกันค่ะ ในทริปเดียวกันนี้แหละ พี่ไปเดินชุมชนกุฏีจีน ยังเช้าเกินไป ไม่มีอะไรขาย เสียดายมาก พี่พลาดศาลเจ้ากวนอันเก๋งค่ะ ...น่าจะต้องไปซ่อมอีกรอบ รอโควิดสงบก่อน อยากไปเดินถ่ายรูปมาก 555

วงเวียนเล็ก ไปถูกวันจะเห็นแผงขายพระเครื่องเรียงรายเต็มเลยค่ะ วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์พระเจ้าตาก พี่เพิ่งรู้ลักษณะท่าทางของม้า จากคุณชีริวนี่ล่ะค่ะ ถ้าได้ไปวัดอินทารามอีก จะโฟกัสที่พระประธานองค์หน้า เรื่องพระอัฐท่านเพิ่งรู้อีกเหมือนกัน ขอบคุณเรื่องดี ๆ ที่ค้นหามาเล่ามาฝากค่ะ

วัดราชคฤห์เคยไปครั้งเดียวค่ะ เดินไม่ทั่ว ไม่เห็นหลวงพ่อนอนหงายด้วย ย่านตลาดพลูเคยผ่าน แต่ไม่เคยแวะค่ะ เค้าว่าของอร่อยเยอะแต่ไม่ใช่แนวถนัดพี่ 555 เคยไปเดินท่าดินแดงเค้าต้องกินห่านพะโล้ แต่พี่ไปกินหมูสะเต๊ะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 4 เมษายน 2563 เวลา:15:34:23 น.
  
ขอบคุณค่ะคุณชีริว ที่แวะทักทายกันคร้า
เราดองบล็อกนานไปเลย เพราะกังวลกับการกลัวจะติดโควิดนี่ละ
ที่บ้านเราไม่มีแม่บ้านผู้ช่วย ทำเองหมด เช็ดล้าง สเปรย์น้ำยาฆ่า
เชื้อโรคจากสิ่งของที่ซื้อนำเข้าบ้าน แถมต้องทำอาหารเองบางมื้อ
หลังๆไม่ไหว ใช้บริการ Food delivery แล้วต้องมาสเปรย์ถุง
ใส่อาหาร และอุ่นอาหารให้ร้อนก่อนทาน ดูเหมือนวุ่นๆกัน
แต่ก็เพลินๆได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ไม่นั่งๆนอนๆอยู่กับบ้านนะคะ
ส่งเข้านอนด้วยจ้า...ราตรีสวัสดิ์
โดย: Tui Laksi วันที่: 4 เมษายน 2563 เวลา:21:41:33 น.
  
วัดเยอะเหมือนกันนะ ที่เขตสีเหลืองกับสีแดงที่วงไว้เนี่ย
วัดเพียบเลย แต่ก็เห็นความแออัดในมุมสูงของ กทม.มากกก
ดีนะที่ไม่ได้มีบ้านพักอาศัยอยู่แถวนั้นอ่ะ

มัสยิดต้นสน ที่เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพ เนีย ในภาพไม่เก่าไม่แก่เล้ยย บูรณะทำมาอ่ย่างเอี่ยม ผิดคอนเซปต์บล็อกชีริว อิอิ
แต่ที่ชอบจริงๆ เอานะ บ้านไม้เก่าวินเซอร์เนี่ย ขลังมากกกกก
แต่กลัวขึ้นบันไดไปเหยียบแล้วบ้านเขาจะพัง
แต่ก็อยูรายล้อมกับบ้านรอบข้างที่ปลูกให่ม่เลยดุแปลกๆ
อยากให้ไปอยู่ในพื้นที่กว้างๆ เนาะจะสวยมาก
ไม่มีเงินบูรณะเอง ต้องยอมยกให้เป็นสมบัติของหลวงอ่ะ ทำไงได้
ยอมก็ยอม ได้เป็นสมบัติของชาติก็ว่าดีอยุ่คิดบวก กรมศิลปากรเขาก็ดูแลดีอยู่นะ
คามอ่อนช้อยของตัวบ้านนี่ดูมีเสน่ห์สวยงามฝีมือละเอียดมากจริงๆ

วัดอรุณสวยจริง เคยนั่งเรือหลงไปเห็นก็ว่าสวย ได้ไปขึ้นเรือตรงนั้น ก็เดินไปชมหน่อยนึงรีบกลับ
แต่พอได้มานังร้านอาหาร ศาลารัตนโกสินทร์ตรงข้ามวัดอรุณนะ
ตอนเย็น ทไวไลท์แสงโคตรสวยเลย ชอบๆ

โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 4 เมษายน 2563 เวลา:23:43:26 น.
  
แต่ละวัดก็ rename ใหม่หมดแล้ว
เคยแวะไปที่ลานป้อมวิไชยประสิทธิ์หนนึง
อยากเห็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าตากช่วงสุดท้ายน่ะ
แต่ก็ไม่ได้เที่ยวในเขตพระราชวังเดิมเท่าไหร่(ก็เขตทหารอ่ะน้อ)

แถวฝั่งธนฯ หน้าร้อนนี่ร้อนจริงจังมาก ยังไม่เคยสำรวจตรอกซอก
ซอยเท่าไหร่ สนใจบ้านกุฎีจีน กับบ้านวินเซอร์
บ้านวินเซอร์ดูทรุดโทรมไปมากอ่ะ ถ้าให้เจ้าของบูรณะเอง
ก็ลำบาก จะโอนในเอกชน หรือขึ้นทะเบียนฯ คิด ๆ แล้วน่าเห็นใจ

ชุมชนแถวนั้น อยู่กันแบบนานาชาติแต่ดั้งเดิมเลยอ่ะ
เห็นขนมแต่ละอย่างก็ไม่คุ้นซักอัน จะฝรั่งก็ไม่ใช่ จีนก็ไม่เชิง ~

เคยอ่านเรื่อง "หางม้า" ที่ว่าทำไมต้องชี้
ใช่จากศิลปวัฒนธรรมรึปล่าว ...โดนชะลอการสร้าง
รื้อแบบ กันใหม่ซะหลายตลบเลยอ่ะ

โดย: กาบริเอล วันที่: 4 เมษายน 2563 เวลา:23:58:51 น.
  
โควิดซา-เจอกันแน่ถิ่นนี้
ปักหมุดเที่ยวใกล้ๆ
ว่าแต่โควิดจะซาปีไหน
เอ๊ย เดือนไหน คริคริ
โดย: อุ้มสี วันที่: 5 เมษายน 2563 เวลา:9:27:02 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

ใช่ครับ
ความไม่ประมาท
ช่วยประคับประคองชีวิตไว้ได้จริงๆ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 เมษายน 2563 เวลา:6:36:38 น.
  
สวัสดีอีกรอบเด้อออออ

เตอร์กิชดีไลท์เจอเจ้าอร่อยก็อร่อยไปเลยจริง แต่ก็หวานจริง ควรกินกับชาแหละ กำลังดี
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 เมษายน 2563 เวลา:7:58:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Shiryu.BlogGang.com

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]

บทความทั้งหมด