จุดเริ่มต้น..... ก่อนข้ามน้ำ ~ ข้ามทะเลมาอยู่เมืองแขก ตอนที่ 1
มายังงัย ไปยังงัย มาโผล่ที่เมืองแขก ดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ จนได้ เรื่องไม่ยาวแต่อาจโม้กันยาวหน่อยนะ ในบางเวลา ง่ายๆ สั้นๆ มาเป็น "แม่บ้าน" ค่ะ งานหลัก...
งานรอง คือเป็นสาวสวยที่สุดประจำอ๊อฟฟิต จริงๆ นะคะ จะไม่สวยได้งัยทั้งอ๊อฟฟิตมีเราเป็น ผู้หญิงคนเดียวเองอ่ะ รายละเอียด เรื่องราวสนุก มัน และฮา ในอ๊อฟฟิต ค่อยๆ เล่ากันไปอีกทีละกัน วันนี้ขอเป็นแบบเปิดตัว ก่อนละกัน
เราก็ได้แต่ไปเที่ยวก่อน
ที่ดูไบ ณ ตอนนั้น (ปี 2008) มันช่างดูแห้งแล้งชะมัด
ไม่ไหวๆ คิดในใจว่า ถ้าให้มาอยู่คงคิดหลายตลบแน่นอน
จนกระทั่งวันหนึ่ง... ที่มันกำลังจะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเราก็ว่าได้ เจ้านายสุดที่เลิฟ (เลิฟจริงๆ ใจดีชะมัด) เรียกเราเข้าไปคุย ... "ยูอยากอยู่ใกล้ๆสามีมั้ย?" อ้าวถามงี้ เราก็ตอบแบบไม่ต้องคิดซิคะบอสขา "Absolutely YES" นายก็เริ่มเลย (เกริ่นก่อนจิ้ดนึง เรากับเจ้านายค่อนข้างสนิทกัน เพราะทำงานด้วยกันมานาน แล้วเราก็ใช้ลูกอึด ขยัน อดทน บวกกับถึกๆ อีกนิด ในการทำงาน จนชนะใจนาย ... ปราศจากการประจบประแจง นะจ๊ะ ความไว้วางใจ และชื่นชมจากเจ้านาย แลกมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราทั้งนั้น เอาหัวโตๆ เป็นประกันเลย นี่คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามานั่งตัวดำ หัวดำ ที่เมืองแขกในวันนี้ได้)... โม้ๆ แระ ต่อๆ นายบอกว่า "เรากำลังจะเปิดสาขาใหม่ที่ดูไบ ยูสนใจมั้ย' ตอนนั้น คิดก่อนนะไม่ตอบพรวดพราดเหมือนครั้งแรก.... เพราะว่ามันคือ การไปทำงานต่างแดนนะ ไม่ใช้ไปอยู่บ้านเฉยๆ เป็นแม่บ้านให้สามีเลี้ยง ... ก็เลยตอบนายไปแบบไม่เต็มปาก แบบอ้อมแอ้มๆ ไม่ค่อยมั่นใจที่จะตอบ นายคงรู้ล่ะ เพราะรู้นิสัยยัยนี่ดี ถ้ามันใจ ตอบเลยไม่รีรอ นายบอกไม่เป็นไร ไอให้เวลายูไปคิด และตัดสินใจก่อน "ถ้าพร้อม ยูเดินเข้ามาหาไอเลย"
แล้วจะไม่หวลคืนมาอีก แน่นอน...
เราก็ไปตอบตกลงกับนายเลย ว่า เราพร้อมและต้องการไปทำงานที่สาขาดูไบค่ะ ...
ชีวิตค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนทันที
... ยังงัยก็ต้องสู้ๆ ยิ้มหวานงามๆ ทักทายก่อนเลย เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้นมาบ้าง ระหว่างนั้นก็ถามมาตอบไป แต่..... แต่ ท่านว่าที่พูดเร็วเป็นจรวด ฟังออกมั่งไม่ออกมั่ง ความหวังลดลงไปบ้างเลย เพราะรู้สึกว่า ภาษาอังกฤษเรานี่แย่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกจะมั่นใจ อย่างเลิศ 55555
แต่จำได้อย่างขึ้นใจกับคำถามของเค้าข้อนึง "ถ้ายูเจอปัญหาเรื่องงาน ยูจะทำยังงัย" เราก็ตอบอย่างมั่นใจ "ชั้นก็จะใช้ประสบการณ์ของการทำงานที่ผ่านมาในการแก้ปัญหานั้นๆ ให้หมดไป เพราะการทำงาน กับปัญหาเป็นของคู่กัน การแก้ปัญหาก่อให้เกิดประสบการณ์"
เค้าเลยรีบถามต่อไปอีกว่า "ถ้าเป็นปัญหาใหม่ที่ยูไม่รู้ ยูจะทำยังงัย ...." อุ่ย อันนี้หยุดคิดแป้บนึง เพราะมันอาจเป็นคำตอบสุดท้าย และคำตอบว่า ชั้นจะผ่านมั้ยเนี่ย แต่ตอนนั้น ตอบคำถามนี้แบบสั้นๆ ไม่เวิ่นเว้อนะ ว่า
"if I am sure that I have try all the way I can but finally it's not working. I will see you right away to discuss this problem and ask your suggestion to avoid the big problem.
ประมาณว่า ถ้ามันแก้ไม่ได้ก็ต้องไปขอคำปรึกษาจากผู้บังคับบัญชาโดยเร็วล่ะ ก่อนที่มันจะเป็นปัญหาใหญ่โต ... ก็แคนี้ที่ตอบไป แล้วเค้าก็พูดเรื่องอื่นเลย แล้วก็บอกว่า ยูต้องพูดอังกฤษให้คล่องกว่านี้ เราก็เชื่อ 100% เราต้องมีปัญหากับการฟังแน่ๆ ก็ลูกพี่เล่นรัวอย่างกับจรวด ลิ้นนี้พันกันเชียว
อ้อลืมบอกไปว่า ว่าที่เจ้านายเป็นคนอินเดียค่ะ ... เป็นงัยล่ะ รัวรึไม่รัว หลังการสัมภาษณ์เจ้านายเราก็เรียกเข้าไปฟังผล ..... สรุปว่าเค้ารับเราเข้าทำงานล่ะ โห เหมือนง่ายเลยอ่ะ พร้อมทั้งบอกเงินเดือน และสวัสดิการคร่าวๆ ให้ส่วนเรื่องสัญญา (Contract & Agreement) จะทยอยส่งมาให้อีกที หลังจากนี้แล้วงัยล่ะ ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของชีวิตทีละน้อย กำหนดการเดินทางคือช่วงต้นปี 2555 (2012) ยังไม่สามารถระบุวันได้ เพราะสาขาที่ดูไบ ต้องมคการจัดการเรื่องใบอนุญาติ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง
To be continue
ท่าทางจะฟังยาก ภาษาอังกฤษสำเนียงแขกนี่..ตอนไปอินเดียเงี่ยหูแทบแย่...ขอให้สนุกกับการทำงานนะคะ
โดย: Maeboon
![]() 555 อ่านแล้วนึกภาพไปด้วยล่ะ
ฮาและเนียนเจงๆ คุงน้อง เอาอีกๆ โดย: P' June IP: 203.209.80.242 วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:10:58:50 น.
เข้ามาอ่านด้วยความสนุกและแอบอิจฉาเล็กค่ะ สองปีก่อนเราเคยหางานที่ดูไบอยู่เหมือนกัน อยากไปทำงานที่นั่นมากๆเพราะห้างสวยๆงานสถาปัตย์เริ่ดๆทั้งนั้น แต่สุดท้ายเจอพิษเศรษฐกิจ บริษัทที่โน่นปิดตัวเองไปก็มากเลยอดเสียแล้ว ได้มาอ่านประสบการณ์คนที่ได้ไปทำงานที่นี่ก็น่าจะสนุกนะคะ แล้วจะตามเข้ามาอ่านบ่อยๆค่ะ
![]() โดย: noksamui
![]() |
บทความทั้งหมด
|