แล้ววันที่รอคอย (แต่ไม่อยากให้มาถึง) ก็มาถึงจนได้ ตอนที่ 2/2 . >"< ต่อจากตอนที่แล้ว วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 >"< . เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่เราต้องเดินทาง จริงๆ แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่เราเกลียดมันที่สุด กับการที่ต้องมาสัมผัสกับ ความรู้สึกเยี่ยงนี้ เราโตมา 33 ปี เราไม่เคยไปจากอก พ่อแม่ และครอบครัวของเราเลย เราก็ยังคิดอยู่ตลอดเวลาว่า เรายังเป็นเด็กที่ต้องอยู่กับพ่อและแม่ บอกแล้วถึงแม้ลึกๆ เราอยากก้าวหน้า แต่เราปวดร้าว เศร้าใจที่สุด เราทำงาน 5 วัน 2 วันต่อสัปดาห์ที่เหลือ เราไม่เคยไปไหนนอกจากกลับบ้าน ไปช่วยงานพ่อกับแม่ ที่สมุทรสาคร ~ >"< ถ้าไม่ถึงที่สุดเราไม่เคยคิดจะไปไหนในวันหยุด เราทำงานเกือบทุกอย่างเท่าที่เราจะทำได้ในวันหยุด เราคิดตลอดเวลาว่า ทำยังงัยก็ได้ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระ ของที่บ้าน จะช่วยทำตลอด.... แต่นับจากวันนี้เราคิดมากว่าเรา อัคตัญญูหรือไม่ ที่ทิ้งเค้าไป คิดเยอะแยะเหมือนเดิม.... แต่สุดท้ายเราก็มายืนอยู่ตรงนี้แล้วนี่ ถอยหลังกลับไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อไป โอกาศของชีวิตไม่ได้มาหาเราบ่อยๆ >"< . . > " < . สบตาที่มันแดงๆ กับพวกเค้า พร้อมกับคำพูดเชิงขอร้องว่า "ฝากดูแล แม่ด้วยนะ" แล้วเราก็เข้าไปกอดแม่ (โดยปกติเราไม่ค่อยกอดแม่ ไม่รู้จะอายอะไรเหมือนกัน) ~ >"< วันนี้แม่เองก็กอดเราแน่นเชียว แล้วก็มองตากัน แม่เราทำตาแดงๆ ทำไมเนี่ย แล้วน้ำตาเราจะยังเก็บไว้ได้ยังงัยเล่า .... ไหลพรากๆ แล้ว มันเก็บไว้ไม่อยู่อีกต่อไป (ขี้แย อ่อนแอ มากๆ เราเนี่ย) ภาพนั้นยังติดตาเราตลอด อกอุ่นๆ ที่นานๆ จะได้กอดกันแบบนี้ แม่เองไม่พูดอะไรซักคำ แต่สายตาที่มองมา... มันมีความหมายแทนหลายล้านคำ ว่าเราคงคิดถึงกันและกัน.... >"< . คิวต่อมา พ่อ เราก็โผไปกอดพ่อ พ่อบอกว่า "โชคดี" พร้อมกับลูบหัวเราเบาๆ น้ำตาแตกกันไปอีกรอบ แล้วเราก็มองหาน้องสาว... โน่นเธอยืนก้มหน้ากดโทรศัพท์อยู่ในมุมโน่น... "แหม่มๆ" เราเรียก เธอหันหน้ามา พร้อมด้วยน้ำตาที่นองหน้า เรารู้อยู่แล้วว่ายัยแหม่ม ต้องร้องไห้เยอะแยะ เพราะเราสนิทกันมาก ห่างกันตั้งเกือบ 14 ปี ตอนเล็กๆ เลี้ยงกันมาอย่างกับลูกแน่ะ .... ~ >"< คนสุดท้ายแล้วจริง น้องสาว อีกคน (คนกลาง) วันนี้มาส่งพร้อมกับข่าวดี ครอบครัวเรากำลังจะมีหลานคนแรก วันนี้เราเลยมีหลานในท้องน้อยๆ ของเธอมาส่งด้วย เธอเพิ่งประกาศในวันนี้ก่อนมาว่า เธอกำลังท้องได้ 2 เดือนแล้ว หลังจากแต่งงานมาปีกว่าๆ ถือเป็นข่าวดี ของครอบครัว และสิ่งดีๆ ของเราจริงๆ ตื่นเต้นแทนน้องเลย... ยัยหมวย เราโผไปหาเธอ และกอดเธอแน่นๆ เธอบอกเราทันทีว่า "ไม่ต้องห่วง พ่อกับแม่ จะดูแลเป็นอย่างดี" ~ >"< เหมือนจะรู้ว่าเรากำลังจะอ้าปากพูดอะไร รู้ใจเราจริงๆ เพราะสิ่งที่เราห่วงเป็นสิ่งเดียว คือกลัวพ่อแม่ ลำบากไม่มีใครช่วยงานที่บ้าน... แต่อย่างน้อย วันนี้ทุกๆ คนก็รับปากกับเราแล้วว่า จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแล พ่อกับแม่ อย่างน้อยก็สบายใจไปได้ล่ะ >"< . . " " "สวัสดี และ ขอบคุณ" ทุกๆ คนที่มาส่ง และให้กำลังใจในวันนี้ โบกมือ บ้าย บาย แล้วนะ ... เรารีบเดินเข้าไปข้างใน คิดว่าจะไม่หันมามองอีก กลัวทำใจอดทนไม่ให้ร้องไห้ ไม่ได้ แต่จนแล้ว จนรอดก็ต้องแอบหันหลังกลับมาแอบมอง พ่อ แม่ และน้องสาวอยู่เนือง จนต้องละสายตาด้วยความจำเป็น >"< .
มันทั้งเหงา ทั้งอ้างว้าง รู้ทั้งรู้ว่า เรากำลังจะได้อยู่กับสามีแล้ว...
ไม่มีติดขัดอะไร ถึงเวลาที่ต้องบินแล้ว 16.15 น. ตามเวลาประเทศไทย แต่เครื่องดีเลย์ (ล่าช้า) กว่ากำหนดจริงเอามากๆ กว่าจะออกจริง โน่นเกือบ 17.45 น. ไม่รู้ติดขัดอะไรกัน แต่ความล่าช้า ทำให้เราได้คุยกับ แม่ น้องสาว และ พ่อไปตลอดทาง จนกระทั่งเค้าถึง บ้านอย่างปลอดภัย >"< .
. .
|
บทความทั้งหมด
|