###### เที่ยวแพร่ ตระเวนกินของอร่อยเมืองแพร่ 3 วัน 2 คืน นี่ฉันไปอยู่ที่ไหนมาาา ######







สวัสดีค่าาาา







สำหรับเอนทรี่นี้จะเป็นการพาไปเที่ยวและตระเวนกิน ณ เมืองแพร่กันนะคะ โดยการไปครั้งนี้เป็นการเดินทางโดยลำพังฮ่ะ หุๆ (คือพยายามล่อลวง เอ๊ย อ้อนวอนเพื่อนแล้ว แต่เพื่อนอยู่ในช่วงมรสุมของการตรวจสอบบัญชี เลยไม่ว่างไปด้วย) แล้วก็เน้นเรื่องการไปตระเวนกินเป็นหลักโดยการเดินทางครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการททท. คือ 12 เมนูต้องห้ามพลาด 12 จังหวัดพลัสค่ะ โดยเรารับจ.แพร่มานะฮับ ซึ่งเป็นการตระเวนกินแบบ...ตอนที่เช็คอินในเฟซนี่...มีแต่คนบอกว่า ไปกับใคร (ตรูไปคนเดียวนี่แหละ  ) / เฮ้ย กินอีกแล้วเหรอ (เออสิยะ  ) / นี่มันทริปกินชัดๆ (ก็กินไง..จำไม่ได้เหรอ  ) ฯลฯ 


และด้วยเวลาอันจำกัดที่บริษัทให้พักร้อนได้แค่ปีละ 6 วัน (แต่ไปหยุดช่วงปีใหม่กับสงกรานต์แทน ซึ่ง..เที่ยวช่วงนั้นไม่ไหวฮ่ะ แพงเกิ๊น คนก็เยอะ เราไม่ชอบเที่ยวช่วงเทศกาลง่ะ) ก็เลยลาไปแค่หนึ่งวัน (เพราะมีอีกหลายแพลนนะคะสำหรับปีนี้) เป็นทริปแบบไป 3 วัน 2 คืนนะคะ ซึ่งก็ปรากฏว่า ขนาดอัดเที่ยวอัดกินแล้วก็ยังไม่ครบเลย ต้องมีไปซ้ำอีกแน่ค่ะ แฮ่...


หมายเหตุ บล็อกนี้จะแสดงผลได้ดี เมื่อดูด้วย browser Google Chrome นะคะ หากดูผ่านมือถือหรือบราวเซอร์อื่น อาจจะทำให้หน้าตาผิดเพี้ยน (เหมือนเจ้าของบล็อก เย้ยยย) ได้ค่ะ








ช่วงการเตรียมตัวเรื่องการเดินทาง ที่พักต่างๆ
ท่านใดไม่ต้องการข้อมูลส่วนนี้ เลื่อนไปอ่านด้านล่างกรอบของแผนการเดินทางได้เลยนะฮ้าบบ 


ไปไกลขนาดนั้น 3 วัน 2 คืน คงมิบังอาจขับรถไปจากกรุงเทพฯ นะคะ ก็ต้องอาศัยบินไปแล้วไปเช่ารถค่ะ 


มีเพียงสายการบินนกแอร์ ซึ่งจะมีบินสองไฟลท์ดังนี้นะคะ  กรุงเทพฯ - แพร่  DD8002 10.00-11.25 น. (มีเฉพาะวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์) DD8004 13.00-14.15 น. (มีทุกวัน)   แพร่-กรุงเทพฯ DD8003 12.00-13.30 น. (มีเฉพาะวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์) DD8005 13.35-16.50 น. (มีทุกวัน)
ซึ่งตอนแรกเราเช็คตั๋วที่บินลงแพร่โดยตรงนั้น...มีเพียงสายการบินนกแอร์ ซึ่งจะมีบินสองไฟลท์ดังนี้นะคะ

กรุงเทพฯ - แพร่ 
DD8002 10.00-11.25 น. (มีเฉพาะวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์)
DD8004 13.00-14.15 น. (มีทุกวัน) 

แพร่-กรุงเทพฯ
DD8003 12.00-13.30 น. (มีเฉพาะวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์ จันทร์)
DD8005 13.35-16.50 น. (มีทุกวัน)





แต่พอดูจากเวลาบินแล้วไซร้..อ่า..มันเสียเวลาครึ่งวันแรกกับบ่ายวันหลังไปง่ะ เลยลองหาทางอื่นค่ะว่าจะบินลงน่านหรือว่าบินลงลำปางดี

จากการปรึกษากับ Google Map ได้ความมาว่า ถ้าลงน่านแล้วขับรถมาแพร่ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงนะจ๊ะนายจ๋า (ห้ะ จริงง่ะ? ) ขณะที่จากลำปางนั้น แค่หนึ่งชั่วโมงครึ่ง โอเค งั้นหาตั๋วบินลงและกลับจากลำปางค่ะ เซิร์ชหาก็ปรากฏว่ามีบางกอกแอร์เวย์ ซึ่งเวลาไฟลท์บินก็ตามนี้เลยนะฮับ ไฟลท์สวยกว่ากันมากๆ ไฟลท์แรกนี่...อิชั้นลงเครื่องขับรถไปถึงแพร่แล้ว นกแอร์ยังไม่ได้บินเลยฮ่ะ ส่วนขากลับแน่นอนว่าไฟลท์มืดสุด ซึ่งโอเคมากอีกเช่นกัน หุๆ ทั้งนี้จากคอนเนคชั่นงานMeet the Bloggers ที่เพชรบุรี ทำให้เราได้ราคาตั๋วมาที่สองพันแปดร้อยกว่าบาทนะคะ ซึ่งถือว่าโอเคมากค่ะ แฮ่...กราบขอบพระคุณทางบางกอกแอร์เวย์สไว้ ณ โอกาสนี้นะฮ้าบบบบ 



กรุงเทพฯ - ลำปาง
PG203 06.20-07.50 น.
PG207 12.00-13.30 น.
PG205 17.45-19.15 น.

ลำปาง-กรุงเทพฯ
PG204 08.20-09.50 น.
PG208 14.00-15.30 น.
PG206 19.45-21.15 น.





จากนั้นก็ทำการจอง พร้อมกับให้ทางสายการบินตัดบัตรเครดิตเรียบร้อยก็ได้บุ๊คกิ้งนัมเบอร์มา แล้วต่อไปก็คือ การหาเช่ารถสิคะ ตอนแรกว่าจะสนับสนุนของไทยซะหน่อย ปรากฏว่าลำปางไม่มีฮ่ะ อดดดดด เลยต้องลองถามคนลำปาง เค้าบอกว่าเห็นที่สนามบินมี Avis นะ ก็เลยโทร.ไปจองที่คอลล์เซนเตอร์ค่ะ มีสองราคาสำหรับรถสองรุ่น แต่เราเลือกตัววันละ 1099 เพราะการขับรถลำปาง-แพร่ มันมีขึ้นเขาง่ะนะ รถ 1.2 คงไม่ไหวจริงๆ ขอ 1.5 แล้วกัน โดยจองสามวัน รวมเป็นราคา 3297 บาท (รวมภาษีแล้ว) และเจ้าหน้าที่ก็จะเมลคอนเฟิร์มกลับมาเพื่อให้เรามีหมายเลขการจองยืนยันนะคะ ซึ่งวันไปถึงก่อนรับรถต้องแสดงบัตรประชาชน ใบขับขี่ และบัตรเครดิตที่สามารถกันวงเงินได้ 8000 บาทด้วยนะคะ โดยเราต้องเซ็นสลิปไว้ก่อนด้วย พอวันมาคืนรถ เค้าก็จะคืนสลิปอันนั้นมาให้ค่ะ


เสร็จสรรพเรื่องเครื่องบินกับรถเช่า ต่อไปก็ที่พักแล้วค่ะ โดยโปรแกรมแล้วจะเน้นหนักที่ตัวเมืองเป็นหลัก ก็เลยจองที่พักในตัวเมืองแพร่ทั้งสองคืนนะคะ ซึ่งตั้งใจว่าจะไปนอนที่พักสองรูปแบบ แบบแรกคือที่พักหลักร้อย เก๋ๆ หน่อย ส่วนอีกคืนจะไปนอนโรงแรมที่ดีที่สุดของแพร่ ณ ขณะนั้นกันค่ะ (ตัวหลังนี่โทร.ไปถามททท.แพร่ว่าตอนนี้รร.ไหนแพงที่สุดในแพร่ (aka น่าจะดีที่สุดในความหมายอิชั้น  ) เค้าก็แนะนำมานะฮับ) 




จัดการจองโรงแรมไปโดยคืนแรกพักที่Come Moon Loft Hotelจองผ่าน booking.com ราคา 690 บาทเน็ต (ไปรูดบัตรตอนเช็คอินค่ะ) ซึ่งโรงแรมนี้เพิ่งเปิดเมื่อก่อนปีใหม่ 2559 ที่ผ่านมานี้เองนะคะ ชมการรีวิวละเอียดๆ ของโรงแรมนี้ได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยค่าา











ส่วนอีกโรงแรมที่ ณ ปัจจุบันถือว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดโรงแรมหนึ่งของแพร่เลยก็คือเฮือนนานาบูติคโฮเต็ลค่ะ โดยเราจองผ่านอโกด้า (อย่าถามว่าทำไมไม่จองที่เว็บเดียวกัน อิชั้นเบลอฮ่ะช่วงนั้น คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้) ราคาห้องเดอลักซ์อยู่ที่ 1841.04 ค่ะ โดยตัดผ่านบัตรเครดิตไปเลยนะคะ ชมการรีวิวละเอียดๆ ของโรงแรมนี้ได้ตามลิงค์ด้านล่างเช่นเดียวกันนะคะ










แผนการเดินทาง 3 วัน 2 คืน



ทริปหม้อห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง ลือเลื่องแพะเมืองผี



วันแรก

04.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ (ที่จริงเร็วไปหน่อยหนึ่งค่ะ แต่ก็ทำให้ไปยืนรอเป็นคิวแรกๆ) เคาน์เตอร์เปิดเช็คอิน 04.30 น. ไปใช้เล้าจน์ของบางกอกแอร์เวย์ส
06.20 น. บินไฟลท์ PG203 06.20-.7.50 น. 
07.50 น. ถึงสนามบินลำปาง ติดต่อเรื่องรถที่เคาน์เตอร์ Avis ถ่ายรูปรอบรถให้เรียบร้อยว่ามีรอยอะไรอยู่ก่อนแล้วบ้าง
08.30 น. ออกเดินทางจากลำปางสู่แพร่ ใช้เวลาประมาณ 1.30-1.45 ชม.
10.00 น. ถึงแพร่ แวะร้านกาแฟน่ารักๆ 1 ร้าน (API) ใกล้พระธาตุช่อแฮ (30 นาที)
10.45 น. ไหว้พระธาตุช่อแฮ ทำบุญ (อยู่ราวๆ 45 นาที - 1 ชม.)
11.45 น. กินอาหารกลางวันใกล้ๆ พระธาตุช่อแฮ (ชลลชาติ) หรือละแวกนั้น
12.40 น. ออกเดินทางไปพระธาตุอินทร์แขวนจำลอง (ไม่เคยไป เผื่อเวลาด้วย) จากพระธาตุช่อแฮ ใช้เวลา 40 นาทีสำหรับเดินทาง
13.20 น. ถึงพระธาตุอินทร์แขวน ใช้เวลา 30 นาที
13.50 น. ออกเดินทางไปบ้านทุ่งโฮ้ง ดูการทำม่อห้อม ช็อปปิ้ง
14.10 น. ถึงบ้านทุ่งโฮ้ง ใช้เวลาราว 30 นาที
14.40 น. ออกจากบ้านทุ่งโฮ้ง ตีไปอุทยานลิลิตพระลอและวัดพระธาตุพระลอ ระหว่างทางแวะกินขนมครกแม่หล่ายสาขาใหม่
15.10 น. แวะซื้อขนมครกแม่หล่าย ใช้เวลา 20 นาที
15.30 น. ออกเดินทางต่อ (จากแม่หล่ายใช้เวลาอีก 45 นาที)
16.15 น. ถึงวัดพระธาตุพระลอและอุทยานลิลิตพระลอ (ตรงนี้พลาดค่ะ เพราะอุทยานฯ ปิด 16.30 น. ควรไปแวะแม่หล่ายขากลับมากกว่า)
17.00 น. ออกเดินทางกลับตัวเมือง หาร้านอาหารพื้นเมืองกิน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชม.)
18.20 น. กินอาหารเย็น (ร้านอาหารครัวไม้เมืองหรือมอกม่วนชวนกิน)
19.20 น. เดินทางไปเช็คอินรร. Come Moon Loft Hotel เดินถนนคนเดินแพร่



วันที่สอง (วันตระเวนกินและเที่ยวในเมือง)

9.00 น. ออกจากรร. แวะร้านกาแฟน่ารักๆ (เฌอหรือ Owl School)
9.40 น. เริ่มตระเวนกินขนมจีนเจ้าดังในเมือง
-ป้าดา 
-ปั๋นใจ๋ ตอนไปปั๋นใจ๋ แวะวัดพระบาทมิ่งเมืองด้วย
-เก๋ากึ้ก (ดวงเนตร) 

ร้านน่านั่ง ดูเวลาและรูตติ้งอีกทีว่าไปร้านไหนได้บ้าง
- Gingerbread House (ใกล้ๆ มีข้าวเหนียวมะม่วงพร้อมภัณฑ์)
- บ้านหัวเราะ
- @แพร่
- Charlotte Hut

14.00 น. ถ้าเวลาเหลือ ไปเช็คอินเฮือนนานาก่อน เก็บภาพตอนกลางวัน
15.00 น. คุ้มเจ้าหลวง+ไปนั่งรถราง (จันทร์-ศุกร์ มีรอบ 16.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ รอบ 10.00, 14.00,16.00 น.) ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่าๆ
16.45 น. ออกเดินทางไปแพะเมืองผี เก็บภาพยามเย็น (ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที)
17.05 น. ถึงแพะเมืองผี ใช้เวลาเที่ยว 30 นาที
17.35 น. ออกเดินทางกลับมาในเมือง
18.00 น. เก็บร้านมื้อเย็น (ร่มไม้ใหญ่ หรือจะไปตลาดประตูชัย (บ๊วยนมสด / แต๋วรวมมิตร / เย็นตาโฟ / ลูกชิ้น))



วันที่สาม

9.00 น. ออกโรงแรม แวะเก็บร้านน่านั่งอีกสัก 1 ร้าน (ถ้าเมื่อวานเก็บไม่หมด)
10.00 น. บ้านวงศ์บุรี
11.00 น. ออกจากแพร่ ไปวัดพระธาตุสุโทนมังคลคีรี (ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที)
11.30 น. ถึงวัดพระธาตุฯ (ไหว้พระ ทำบุญ 45 นาที)
12.15 น. ออกเดินทางไปอ.ลอง ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
13.00 น. ถึงอ.ลอง
- กินขนมจีนน้ำย้อย (มีร้านอาหวังกับแม่ลาน)
- ดูผ้าทอตีนจกศิลปินแห่งชาติ
- ร้านกาแฟแห่ระเบิด

15.30 น. ออกเดินทางไปลำปาง (อ.ลอง-ลำปาง 1.10 ชม.)
16.45 น. ถึงลำปาง เที่ยวพระธาตุลำปางหลวง (ใช้เวลาเที่ยว 1 ชม.)
17.45 น. กินข้าวเย็น ถ้ามีเวลาแวะร้านกาแฟสักร้าน
18.45 น. ถึงสนามบินลำปาง คืนรถ เช็คอิน 




ป.ล. 

1. แผนวางไว้อย่างนี้จริง แต่พอถึงเวลา ก็มีเวลาคลาดเคลื่อนบ้างนะคะ

2. เจ้าของเพจเดินทางคนเดียว และกินแต่ละที่คือแค่ "ชิม" ซึ่งกินไม่หมด ดังนั้นจะใช้เวลาน้อยกว่าปกติ

3. จากการเดินทางคนเดียว ทำให้เสียเวลาที่เที่ยวแต่ละที่น้อยกว่าไปหลายๆ คน และไม่ได้เสียเวลาถ่ายรูปเซลฟี่เท่าไหร่ (ทริปนี้เซลฟี่ที่เดียวคือแพะเมืองผีค่ะ 555) เน้นถ่ายสถานที่ เวลาก็จะใช้น้อยกว่าปกติเช่นกันค่ะ

ดังนั้นหากใครวางแผนเที่ยว อาจจะอัดแน่นขนาดนี้ไม่ได้นะคะ ให้ศึกษาเส้นทางและวางแผนการเที่ยวให้ดี จัดโปรแกรมหลวมๆ ไว้ก่อน เวลาเหลือค่อยเอาที่สำรองไว้มาเสียบเพิ่มก็จะดีกว่าค่ะ


4. จากลำปางไปแพร่ วิ่งได้ทั้งผ่านเส้นอ.ลอง (ซึ่งระยะทางสั้นกว่าไปทางเด่นชัย 10 กม.ใช้เวลาสั้นกว่า 10 นาที) หรือไปทางเด่นชัยก็ได้นะคะ แต่ขาไปเรายังไม่แวะลองเพราะว่าตั้งใจจะไปไหว้พระธาตุช่อแฮเอาฤกษ์เอาชัยก่อน ซึ่งถ้าใครไม่ได้ตั้งใจอย่างเรา จะเปลี่ยนเป็นขาไปแวะเที่ยวและกินที่อ.ลองก่อน แล้วขากลับค่อยมาแวะเด่นชัย (เพื่อวัดพระธาตุสุโทนฯ) ก็ทำได้เช่นกันค่ะ











จบสิ้นเรื่องการเตรียมตัว เรามาเริ่มเที่ยวกันเลยดีกว่าค่าา เย้ๆๆ Smiley




วันแรกของการเดินทาง บินสู่ลำปาง เช่ารถ และเที่ยวรอบนอก



วันนั้นเราตื่นแต่เช้ามืดค่ะ นัดแท็กซี่มารับตีสามครึ่ง ถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอนตีสี่ค่ะ ปรากฏว่าเคาน์เตอร์ยังไม่เปิด (บางกอกแอร์เวย์สใช้ประตูสามนะคะ เคาน์เตอร์ F ค่ะ) จนใกล้ๆ ตีสี่ครึ่งเราก็ไปเข้าคิวรอ ได้เช็คอินเป็นลำดับที่สาม เรียบร้อยแล้วก็โหลดกระเป๋า (ห้ามพาวเวอร์แบงค์ ห้ามแล็ปท็อป ให้ถือขึ้นเครื่อง แต่พาวเวอร์แบงค์ก็ต้องไม่เกิน 32000 มิลลิแอมป์นะคะ) จากนั้นก็เอกซเรย์ แล้วก็ไปที่เล้าจน์ของบางกอกแอร์เวย์สกันค่ะ ซึ่งเล้าจน์ของบางกอกแอร์เวย์สจะมีด้วยกันสองส่วน คือ สำหรับผู้โดยสารทั่วไป และเล้าจน์สำหรับบิสสิเนสคลาส+สำหรับผู้ถือบัตรบลูริบเบิ้นระดับพรีเมียร์ ฯลฯ ซึ่งจะมีโปรฯ ของเครือข่ายโทรศัพท์ที่สามารถมาใช้สิทธิ์เล้าจน์พิเศษตรงนี้ได้ด้วยค่ะ




วันนั้นเราได้ใช้เล้าจน์ของบิสสิเนสคลาสนะคะ อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าเล้าจน์ทางฝั่งปกติเช่นเคย มีไวไฟให้ใช้บริการฟรีด้วยค่ะ แล้วก็ช่วงนี้มีอาหารเมนูพิเศษที่เป็นเมนูอาหารประจำภาคบริการที่เล้าจน์ด้วยนะคะ (นอกเหนือจากบนเครื่องน่ะนะคะ) ซึ่งมีด้วยกันสามเมนูคือ ปลาดอลลี่ทอดตะไคร้กับข้าวผัดน้ำพริกอ่อง แกงฮังเลไก่พร้อมข้าวกล้องและข้าวหอมมะลิ กับเมนูมังสวิรัติคือ เต้าหู้ผัดพริกแกงพร้อมข้าวกล้องและข้าวหอมมะลิ

แต่ในไลน์ก็มีอาหารอีกมากมายตามภาพนะคะ ขอไม่ลงหมดนะคะ แหะๆ ไม่งั้นจะยาวเกิ๊น










หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็ไปที่เกท A8 ค่ะ ซึ่งเป็นบัสเกทนะคะ ต้องนั่งรถบัสไปขึ้นเครื่อง เพราะเครื่องบินสำหรับรูตติ้งนี้จะเป็น ATR72 (เครื่องใบพัด) ซึ่งไม่สามารถต่องวงได้ค่ะ เป็นที่นั่งแบบ 2-2 ตามภาพนะคะ อาหารที่บริการวันนั้นเป็นฟักแม้วผัดไข่พร้อมข้าวหอมมะลิและข้าวกล้องค่ะ โดยมีน้ำส้ม และชากาแฟบริการนะคะ







ถึงสนามบินลำปาง ซึ่งเป็นสนามบินเล็กๆ นะคะ ก็รับกระเป๋า จากนั้นก็ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ Avis ค่ะ (ออกไปอยู่ทางซ้ายมือนะคะ) แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็เอาเอกสารต่างๆ มาให้เซ็นพร้อมกับขอบัตรประชาชน ใบขับขี่ และนำบัตรเครดิตเราไปรูดทั้งค่าเช่ารถและค่าประกัน รวมทั้งสิ้น 3197+8000 (ตัวหลังนี่พอเราเอารถมาคืนก็จะคืนสลิปให้ แต่วงเงินจะคืนเมื่อผ่านไป 14-15 วันนะคะ) - ป.ล. เคาน์เตอร์ Avis เปิด 07.00-19.00 โดยพักสองช่วง 12.00-13.00 และ 15.00-16.00 น.ค่ะ




จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาไปที่รถเพื่อตรวจรับรถค่ะ สิ่งที่เราต้องทำนะคะ

1. ถ่ายรูปรอบรถ (เพื่อเป็นหลักฐานว่าตรงไหนเป็นรอยตั้งแต่แรก) และไมล์รถไว้

2. ตอนเซ็นในใบเช็ครถให้ดูสัญลักษณ์ที่เจ้าหน้าที่ทำว่าตรงกับรอยที่รถมีจริงๆ และครบหรือไม่ก่อนเซ็นรับรถนะคะ

3. เช็คเกจ์น้ำมันว่าเต็มถังถูกต้อง / ถ้ามีบัตรสะสมคะแนนปั๊มน้ำมันเอาไปด้วยนะคะ

4. ปรับเบาะ กระจก ทุกอย่างให้พอเหมาะกับเราค่ะ ตรวจสอบระบบทุกอย่างของรถให้เรียบร้อยก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดและปรับแอร์ / ฝั่งไหนที่ปัดน้ำฝนหรือสัญญาณไฟ (เรามีปัญหาเพราะมันสลับฝั่งกับรถเราน่ะ เลยเปิดผิดบ่อยมาก) / การเปิดท้ายรถหรือเปิดฝาถังน้ำมันรถ (รวมทั้งฝาถังน้ำมันอยู่ฝั่งไหนด้วย อันนี้ก็สลับกับรถเราเองเหมือนกัน แหะๆ) / รถมีเซนเซอร์หรือเปล่า (ซึ่งคันนี้ไม่มี ขณะที่รถที่เราขับประจำมี ทำให้ต้องกะเวลาถอยหลังเองค่ะ ดีว่าพอกะได้อยู่บ้าง  )

5.  อันนี้เราลืม ซึ่งเสียดายมาก เพราะขับรถไกลๆ ถ้าเตรียมไปจะทำให้การขับรถสุนทรีย์ขึ้นมากมายค่ะ คือ เตรียมแผ่นซีดีเพลงหรืออื่นๆ ที่ชอบฟังไปเปิดระหว่างขับรถค่ะ เราไม่ได้เตรียมไปเลย เลยขับรถเงียบๆ ไปตลอดทาง (แต่ก็ดีค่ะ มีสมาธิดี...เหรอ 555)





ได้พาหนะเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางค่ะ เราอาศัยแอพฯ กูเกิ้ลแมพสำหรับนำทางเป็นหลัก (ซึ่งมีเพี้ยนไปที่เดียว นอกนั้นพาไปถูกหมดค่ะ) โดยเดสติเนชั่นแรกเป็นพระธาตุช่อแฮค่ะ แล้วพอใกล้ๆ ถึงก็โทร.ไปถามร้านกาแฟที่จะไปอีกที (เพราะที่หาข้อมูลมาบอกว่าอยู่ก่อนถึงพระธาตุ 1 กิโลเมตร) 


วันนั้นเราไปถึงที่ร้าน API (อภิ) ตอน 10.00 น.ค่ะ ใช้เวลาขับรถประมาณ 1.30 ชม.นะคะ เป็นร้านเล็กๆ น่ารัก มีไวไฟให้ใช้ได้ฟรีค่ะ ร้านนี้ทำเค้กเองค่ะ วันนั้นที่กินแล้วชอบคือ นมน้ำผึ้งปั่นค่ะ อร่อยมาก แถมไม่แพงด้วยนะคะ 50 บาทเอง เค้กก็ 60 บาทค่ะ รีวิวร้าน API คลิกที่นี่







รองท้องเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางไปสักการะพระธาตุช่อแฮกันนะคะ ซึ่งก็เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีขาลค่ะ ตามตำนานเล่าว่า ขุนลัวะอ้ายก้อมสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ (พระศอกซ้าย) ราวปีพ.ศ. 1879 ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไทแห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งในขณะนั้นเมืองแพร่เป็นประเทศราชของอาณาจักรสุโขทัย

ชื่อ "ช่อแฮ" มาจากผ้าแพรชั้นดีที่ขุนลัวะอ้ายก้อมนำมาผูกบูชาถวายพระธาตุนั่นเองหละค่ะ



รอบนี้เราวนรถ (ทวนเข็มนาฬิกา) รอบพระธาตุไปจอดที่อีกฝั่ง ซึ่งจะขึ้นลิฟท์ได้ใกล้ๆ นะคะ (เพราะฉะนั้นสำหรับผู้สูงอายุ สามารถใช้ลิฟท์ได้ค่ะ มีอยู่หนึ่งตัวนะคะ ตอนขับรถไปก็ดูป้ายไว้ค่ะ เค้าจะมีบอกว่าต้องวนไปจอดรถตรงไหนนะคะ) พอจอดรถแล้วก็สังเกตอาคารสูงๆ สี่ชั้นตามภาพ ชั้นล่างจะเป็นที่ขึ้นลิฟท์ค่ะ 

ที่นี่ต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามขาสั้นนะคะ และมีเทียนประจำวันเกิดเช่นเคยค่ะ ส่วนในเรื่องของการทำบุญก็มีทั้งถวายห่มผ้าพระธาตุ ถวายเครื่องสักการะที่มีรูปจำลองเสือเป็นชุดๆ ในถาด และในวันที่เราไปมีร่วมบุญหล่อพระสิงห์ ๒ ช่อแฮ โดยบูชาแผ่นเงิน (แผ่นละ 300 บาท - รับบัตรเครดิต) แล้วเขียนชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดนะคะ แล้วก็ที่นี่จะมีหลวงพ่อทันใจที่ชาวบ้านค่อนข้างศรัทธา หากต้องการมาขออะไรด้วยค่ะ

หลวงพ่อทันใจ จะต้องทำการหล่อให้เสร็จภายในหนึ่งวันนะคะ (ตั้งแต่ตะวันขึ้นจนตะวันตก) แล้วจะมีไม้วัดวาที่ให้สอบถามเรื่องต่างๆ ว่าจะสำเร็จหรือไม่ วิธีการคือ ตอนแรกเอาไม้วัดวามาวัดเราก่อน ให้ปลายมือข้างหนึ่งอยู่ปลายไม้ ปลายมืออีกข้างให้เลื่อนยางมาไว้ที่ปลายนิ้วกลาง จากนั้นยกมือพนมถือไม้ สอบถามเรื่องที่ต้องการทราบ จากนั้นวัดอีกรอบ หากยางเลื่อนออกยาวกว่านิ้วมือ แสดงว่าสำเร็จค่ะ แต่เราไม่ได้ทำหรอกนะคะ คิวคนรอกราบหลวงพ่อทันใจเยอะมาก เลยได้แต่กราบท่านและขอเฉยๆ ค่ะ








เสร็จสรรพจากการทำบุญไหว้พระแล้ว ก็สิบเอ็ดโมงกว่าๆ ใกล้เที่ยงแล้วค่ะ ก็เลยไปกินอาหารกลางวันกันดีกว่า หามาแล้วว่าชื่อร้านชลลชาติ ริมธารค่ะ เลือกร้านบรรยากาศริมน้ำหน่อยค่ะ อยู่ห่างจากพระธาตุช่อแฮไป 7 กิโลเมตรนะคะ หันหน้าเข้าวัด ต้องวิ่งต่อไปทางซ้ายมือน่ะค่ะ แล้วก็ไปตามทางเรื่อยๆ (กูเกิ้ลแม็พพาไปได้อยู่ค่ะ) 





ร้านจะอยู่ทางขวามือของถนนนะคะ เป็นร้านอาหารอยู่ริมลำน้ำเลย แต่ตอนเราไปน้ำน้อยง่ะ (ปีนี้แล้งอะนะ เข้าใจได้อยู่) ไวไฟมีให้ใช้ฟรี (เพราะสัญญาณทรูตายสนิทฮ่ะ ฮือ) แต่สัญญาณตรงริมน้ำที่เราอยู่อ่อนมาก พอคนเริ่มซาๆ ไป ถึงพอเล่นได้บ้างค่ะ


อาหารที่นี่ เราสั่งไข่ป่าม ตำยอดมะพร้าวอ่อนไข่เค็มและอ่อมแห้งจิ๊นหมูค่ะ (ตอนแรกว่าจะสั่งแกงแคไก่บ้านใส่เห็ดเผาะ แต่ตอนที่เราไปเห็ดเผาะไม่มีค่ะ อด) ที่นี่ทำอาหารรสจัดอร่อยนะคะ เผ็ดจัดสะใจเลย แต่เค็มออกนำไปนิดหนึ่งค่ะ ที่สำคัญคือราคาโอเคมาก สามอย่างพร้อมน้ำอัดลม หมดไป 268 บาทค่ะ







อิ่มท้องแล้วก็ไปเที่ยวกันต่อค่ะ สถานที่นี้ไปเพราะเราสอบถามททท.ว่ามีที่เที่ยวใหม่ๆ มั้ย ททท.บอกว่าก็มีพระธาตุอินทร์แขวนจำลอง ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุช่อแฮค่ะ (เห็นจากหนังสือพิมพ์ซึ่งถูกตัดใส่กรอบไว้ ที่เห็นอยู่ใกล้ๆ ที่จอดรถขององค์พระธาตุฯ เรียกว่า พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์นะคะ) แต่เราไปจากร้านอาหารระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตรนะคะ ใช้เวลาราวๆ 40 นาที โดยเส้นทางก็ประมาณนี้เลยค่ะ (จะเห็นว่ามีขึ้นเขาอยู่ที่ปลายทางนะคะ ทางโหดพอควรค่ะ อารมณ์ประมาณกึ่งๆ พระธาตุดอยสุเทพผสมอินทนนท์ แต่ไม่ยาวขนาดอินทนนท์ค่ะ รถบัสใหญ่ขึ้นไม่ได้นะคะ ทางแคบ ไม่มีไหล่ทางค่ะ) ตอนเซิร์ชให้เลือกองค์ที่อยู่บ้านสวนเขื่อนนะคะเพราะตอนเซิร์ชหาด้วยคำว่าพระธาตุอินทร์แขวนจำลอง จะขึ้นมาหลายอันค่ะ ต้องอันที่บ้านสวนเขื่อนถึงจะเป็นองค์นี้นะคะ










ที่จอดรถที่นี่ค่อนข้างน้อยนะคะ ถ้าช่วงเทศกาลเราว่าหลีกเลี่ยงได้ก็ดีแหละ 


ด้านบน (ที่ต้องเดินขึ้นไปพอควรค่ะ แต่ไม่ได้ลำบากหรือเหนื่อยมาก) จะมีพระธาตุอินทร์แขวนจำลอง (องค์จริงอยู่ที่ Myanmar นะคะ จะขนาดใหญ่กว่านี้ และอยู่หมิ่นเหม่ที่ริมผามากกว่านี้ค่ะ) รอยพระพุทธบาท และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่เฉพาะตรงบริเวณด้านหน้าองค์พระพุทธรูปค่ะที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้เช็คอินได้ 555 









เสร็จสรรพจากพระธาตุอินทร์แขวน ยังมีเวลาเหลือค่ะ ก็ไปเก็บบ้านทุ่งโฮ้งกันต่อ กับแหล่งผลิตหม้อห้อม หนึ่งในคำขวัญของแพร่นะคะ


ซึ่งที่บ้านทุ่งโฮ้งนี่ ถ้าจะเพียงมาซื้อก็มีหลายร้านให้เลือกสรรนะคะ หรือหากสนใจจะลองทำหม้อห้อมหรือดูวิธีการทำหม้อห้อม ก็มีที่บ้านป้าเหลืองที่ต้องติดต่อล่วงหน้าค่ะ จะมีการสาธิตให้ดูนะคะ (แต่เป็นรอบๆ ค่ะ โทรสอบถามที่ 054-622274 นะคะ) หรือจะซื้อแพ็คเก็จทำผ้าเช็ดหน้าหรืออื่นๆ ก็ได้ค่ะ นอกจากนั้นก็มีหม้อห้อมพิมพ์ลาย (คล้ายๆ การทำบาติก) ด้วยนะคะ


สำหรับที่บ้านทุ่งโฮ้งนี่ ชื่อที่มามาจากแต่เดิมคนที่นี่เป็นชาวไทยพวนที่อพยพมาและส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพตีเหล็ก และตีจนกระทั่ง "ทั่ง" ที่ใช้รองเป็นหลุมลงไปเรียกว่า "โห้ง" จึงเรียกกันว่าบ้าน "ทั่งโห้ง" ต่อมาเพี้ยนเป็นบ้าน "ทุ่งโห้ง" และภาษาราชการใช้ว่า "ทุ่งโฮ้ง" ค่ะ จากนั้นหลังจากมีบริษัทฝรั่งมาทำไม้ ชาวบ้านก็ไปรับจ้างลากซุง ซึ่งทำให้เสื้อผ้าเปรอะเปื้อน จึงเอาพืชที่ให้สีน้ำเงินมาย้อมผ้าเพื่อจะได้เสื้อผ้าที่ไม่เปื้อนง่าย ซึ่งแต่เดิมก็ทำใช้กันในหมู่บ้านและจำหน่ายในท้องถิ่นนะคะ จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งจำหน่ายหม้อห้อมนี่แหละค่ะ










จากนั้นยังมีเวลาเหลืออยู่ (เพราะเราไม่ได้ดูการทำหม้อห้อมนะคะ รอบสุดท้ายผ่านไปแล้ว แง้วๆ) ก็เลยตัดสินใจไปยังวัดพระธาตุพระลอกับอุทยานลิลิตพระลอ (สองที่นี่อยู่ห่างกันไม่กี่ร้อยเมตรค่ะ) โดยจากบ้านทุ่งโฮ้งไปอุทยานลิลิตพระลอ ใช้เวลาราวๆ 45 นาที - 1 ชั่วโมงค่ะ แต่เราแวะไปกินขนมครกเจ้าดังของแพร่ที่ร้านขนมครกแม่หล่ายก่อน (อยู่ระหว่างทางค่ะ ซึ่งปัจจุบันมีสามสาขา สาขาเดิมคือที่ตัวแม่หล่ายเลย แต่เราไม่ได้เข้านะคะ ส่วนอีกสองสาขาอยู่เยื้องๆ กัน บนถนนเส้นเลี่ยงเมืองค่ะ มีทั้งขาไปเชียงรายและขากลับเมืองแพร่เลย) ร้านนี้ที่เราซื้อมามีทั้งหมดห้าอย่าง (แต่ที่จริงเค้ามีเยอะกว่านี้นะคะ แต่ตอนเราไปนี่หลายอย่างหมดแล้วง่ะ) แต่ที่เราเชียร์จะมีสองอย่างนะคะ


ดูเตาที่เป็นขุมกำลังการผลิตซะก่อน ขายดีไม่ดีอ้ะ คิดดู๊วววว  วันนั้นที่นับคร่าวๆ มีราวสี่สิบเตาได้อะค่ะ 



ร้านขนมครกแม่หล่ายปัจจุบันเป็นรุ่นที่สามแล้วค่ะ รุ่นคุณยายทำมาตั้งแต่ปี 2511เลยนะคะ ซึ่งมะพร้าวที่ใช้ทำนำมาจากทางภาคใต้ค่ะ เพราะฉะนั้นผลิตผลของมะพร้าวก็จะมีผลต่อปริมาณการผลิตขนมครกของที่ร้านเช่นกัน 

ถ้าใครอยากได้ขนมครกแบบกรอบๆ ต้องมาเช้าๆ นะคะ จะเป็นการแคะจากเตาร้อนๆ กรอบๆ เลย แต่ถ้าไปบ่ายอย่างเรา ปิดเตาแล้ว ก็จะซื้อแบบกล่องๆ ซึ่งจะไม่กรอบ แต่ขนาดเย็นแล้วรสชาติก็ยังดีอยู่เลยค่ะ อีกตัวที่เชียร์คือ วุ้นใบเตยตัวนี้ค่ะ อร่อยมาก ยิ่งแช่เย็นๆ นะคะ อร่อยมากๆ ค่ะ ชอบๆ (ขนมครกราคากล่องละ 35 บาท สามกล่อง 100 บาทนะคะ)

ป.ล.ถ้าช่วงเทศกาล ทางร้านแนะนำให้โทร.ไปจองขนมครกก่อนนะคะ เพราะอาจจะไม่มีได้ค่ะ แหะๆ (เห็นสมุดข้างกล่องขนมครกมั้ยคะ นั่นล่ะสมุดคิวฮ่ะ)

สาขาฝั่งขึ้นเชียงราย (ฝั่งไปพระธาตุพระลอที่เราแวะเนี่ยแหละค่ะ) เบอร์ 062.4955491 

สาขาเข้าตัวเมืองแพร่ 062-9245464









จากนั้นเราก็เดินทางต่อค่ะ จากร้านขนมครกแม่หล่าย ไปยังอุทยานลิลิตพระลอใช้เวลาอีกราวๆ 40-45 นาทีนะคะ ซึ่งตรงนี้เราพลาดหละ เพราะไม่รู้ว่าพิพิธภัณฑ์ที่อุทยานปิด 16.30 น. แถมเฉพาะที่นี่ค่ะที่กูเกิ้ลแมพทำรวน เลยไปถึงตอนปิดแล้ว 


ตัววัดพระธาตุพระลอ จะมีอนุสาวรีย์พระลอ พระเพื่อน พระแพง รวมทั้งพระธาตุพระลอที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพระลอและพระเพื่อนพระแพงด้วยค่ะ





ส่วนของอุทยานลิลิตพระลอนั้น อย่างที่บอกว่าเราไปไม่ทันเข้าพิพิธภัณฑ์ และถ้ำปู่เจ้าสมิงพรายที่ปิด 16.30 น.นะคะ (มีน้องคนท้องถิ่นบอกว่าถ้ำสวยค่ะ เสียดายเหมือนกัน) ซึ่งถ้าใครสนใจที่จะศึกษาเรื่องราวของลิลิตพระลอและอยากเก็บคำขวัญเมืองแพร่ให้ครบ ก็ควรมานะคะ แฮ่...





หลังจากผิดหวังเรียบร้อยแล้ว (แง) ก็มีคนท้องถิ่นเป็นน้องผู้หญิงสองท่านขี่มอเตอร์ไซค์พาไปสู่ทางออกถนนใหญ่ค่ะ (ขอบคุณน้องสองคนนั้นไว้ ณ ที่นี่นะคะ คนแพร่น่ารักจริงๆ  ) จากนั้นก็เดินทางกลับสู่ตัวเมืองแพร่เพื่อกินอาหารเย็นฮ้าบบ ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงนิดหน่อยค่ะ ตอนแรกโทร.ถามทางแต่ทางร้านบอกทางไม่ถูกแหละ  เลยเปิดกูเกิ้ลแม็พเอาค่ะ 





สำหรับร้านอาหารครัวไม้เมือง จะเป็นอาคารพาณิชย์สองห้อง แยกทางเข้าและไม่ได้ทะลุถึงกันนะคะ 


เราสั่งอาหารไปสามอย่างค่ะ (วันที่ไปของหมดหลายอย่างมาก เลยสั่งที่ทางร้านมีค่ะ) คือ แกงแคซี่โครงหมู แป้งนมทอด และหลามปลาช่อน ในสามอย่างชอบแป้งนมทอดที่สุดค่ะ แกงแครสชาติออกแนวเบาๆ หน่อย ส่วนหลามปลาช่อนตัวรสหวานของเนื้อปลาจะไปอยู่กับน้ำซุปหมดนะคะ เพราะงั้นต้องกินเนื้อปลากับน้ำจิ้มสามรสค่ะ ถึงจะโอเค


แต่อาหารที่นี่ช้านะคะ อย่างที่สองกับสามเราห่างกันครึ่งชั่วโมงน่ะ (หลามปลาช่อน) น้ำแข็งหมดต้องตามสามรอบ รวมทั้งตอนเรียกคิดเงินก็ตามอีกเช่นกันค่ะ ใช้เวลาเฉพาะที่ร้านนี้ทั้งหมดเกือบสองชั่วโมงน่ะค่ะ ซึ่งตอนไปเม้นท์เพจหนึ่งที่เค้าพูดเรื่องสิบร้านอาหารเมืองแพร่ ก็บ่นนิดหน่อยเรื่องนี้ ทางแอดมินก็บอกว่าร้านนี้ระบบไม่ค่อยดี ก็ตรงกันหละค่ะ ค่าใช้จ่ายหมดไปที่ 470 บาทนะคะ


ถ้าใครจะไปกินก็ใจเย็นและอย่าไปตอนหิวมากๆ แล้วกันค่ะ แหะๆ






จากนั้นก็เข้าที่พักคืนแรกของเรานะคะกับ Come Moon Loft Hotel (คลิกเพื่ออ่านรีวิวแบบละเอียด) โดยแจ้งว่าจองผ่าน booking.com ทางรร.ก็โอเคค่ะ แล้วก็ให้เรารูดบัตรเครดิตที่เคาน์เตอร์ได้เลยนะคะ เก็บของเรียบร้อยก็เดินไปถนนคนเดินค่ะ ซึ่งจะมีเฉพาะทุกวันเสาร์นะคะ 15.00-20.00 น.ค่ะ (อยู่ห่างจากรร.ที่เราพักประมาณ 300 เมตรได้ค่ะ) เราว่าที่เด่นคือของกินค่ะ มีของกินพื้นถิ่นเยอะเลยแหละ  แต่นอกจากร้านของกินแล้วก็ยังมีร้านนั่งดื่มนั่งคุยแบบชิลล์ๆ และร้านขายของชำที่มีของสมัยเก่าๆ ขายด้วยนะคะ







หลังจากเดินเที่ยวถนนคนเดินเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารร.ค่ะ สำหรับวันนี้ก็...นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะฮ้าบบบบบ





จบวันที่หนึ่งแล้วค่าาา เย้ๆๆ Smiley





วันที่สอง ตระเวนกินและเที่ยวในเมือง (ศึกวันพุงนำ)



เช้าวันที่สอง ตื่นสายพอควรค่ะ ก็รับประทานอาหารเช้าแบบอลาคาร์ท แล้วก็เริ่มแผนการเที่ยวของวันนี้ที่เน้นตระเวนกินและเที่ยวในเมืองค่ะ โดยที่แรกที่เราไปคือร้านเฌอบาร์นะฮับ (อ่านรีวิวร้านเฌอบาร์และคาเฟ่อื่นๆ ทั้งหมด 6 ร้าน คลิกที่นี่) 


จากนั้นก็เริ่มเก็บสแปร์ร้านขนมเส้น (ขนมจีน) เพราะสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ของแพร่ที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่นของภาคเหนือ ก็คือ ขนมเส้นน้ำเงี้ยวแพร่ หรือบางคนก็เรียกน้ำหมู / น้ำใส ค่ะ โดยร้านแรกที่ไปก็คือ ร้านขนมเส้นป้าดานั่นเองค่ะ แต่เดิมร้านป้าดาจะอยู่ที่หลังร.ร.นารีรัตน์นะคะ แต่ปัจจุบันย้ายมาอยู่หลังสวนสุขภาพแล้วค่ะ 


ถ้าเอารถมาก็จอดในสวนสุขภาพแล้วเดินเอานะคะ เพราะร้านป้าอยู่ใกล้ไฟแดงเลย จอดหน้าร้านก็ไม่สะดวกค่ะ อ้อๆ ร้านป้าหยุดทุกวันเสาร์นะคะ


เราสั่งทั้งขนมเส้นน้ำหมู (หรือน้ำใสหรือน้ำเงี้ยวแพร่นั่นเองค่ะ) แล้วก็น้ำเงี้ยวเชียงใหม่ค่ะ แล้วก็สั่งข้าวส้ม (ข้าวผัดมะเขือเทศ) และแค็ปหมูมากินแกล้มกันด้วยค่ะ


เราชอบน้ำหมูของป้าดานะคะ น้ำซุปป้าเข้มข้นและรสชาติกำลังดีค่ะไม่เค็มหรือมีรสอะไรโดดมากเกินไป ตัวหมูสับก็นุ่มละเอียดค่ะ ถือว่าเป็นการกินขนมเส้นน้ำหมู (หรือน้ำใส) ครั้งแรกที่ประทับใจของเราเลยหละค่ะ










จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังร้านปั๋นใจ ร้านขวัญใจคนต่างถิ่นค่ะ 555 (มีคนแพร่บางคนบอกว่า น้ำเงี้ยวแพร่ร้านนี้เค็มไปสำหรับเขาน่ะนะ) 




พิกัดร้านอยู่ในซอยข้างๆ ไปรษณีย์แพร่ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับวัดพระบาทมิ่งเมืองเลยค่ะ เข้าซอยไปหน่อยหนึ่งก็จะเจอร้านอยู่ทางขวามือนะคะ มีที่จอดรถอยู่บ้างที่หน้าร้านค่ะ แต่ว่าถ้าช่วงเทศกาล น่าจะพอจอดที่ไปรษณีย์แพร่ได้ค่ะ 


ลักษณะของร้านจะมีซุ้มอาหารหลายๆ อย่างนะคะ เวลาสั่งก็ต้องสั่งในใบสั่งที่ต่างสีกันค่ะ สั่งอันไหนก็เขียนใบสั่งอันนั้นนะคะ 


วันนั้นที่เราสั่งมาคือ ชุดขนมเส้นโดยเลือกสองน้ำคือ น้ำหมู (หรือน้ำใส) และน้ำพริก รวมทั้งหมูสะเต๊ะด้วยค่ะ 


ตัวเนื้อหมูสะเต๊ะหมักดี แต่เค้าเอาส่วนไม่มีมันเลยมาทำค่ะ ซึ่งเราชอบแบบมีมันหน่อยหนึ่งมากกว่าน่ะนะคะ ตัวน้ำจิ้มรสค่อนข้างเข้มและเค็มปลายค่ะ อาจาดรสชาติดี ส่วนตัวน้ำเงี้ยวแพร่ของที่นี่จะเค็มกว่าเจ้าอื่นนะคะ รสชาติจะออกแนวต้มจืดกระดูกหมูของภาคกลางน่ะค่ะ แล้วก็ที่นี่ไม่ได้ใช้หมูสับนะคะ ส่วนน้ำพริกมีบางคนเม้นท์ว่าหวาน แต่วันที่เรากินเราว่าเปรี้ยวนำมากกว่านะคะ








จากนั้นก็ขอเบรคกระเพาะด้วยการไปกราบพระหน่อยค่ะ เราไปที่วัดพระบาทมิ่งเมืองนะคะ ซึ่งจะมีพระคู่บ้านคู่เมืองแพร่อยู่ค่ะ






สำหรับวัดแห่งนี้ เป็นการรวมกันระหว่างวัดพระบาทกับวัดมิ่งเมืองนะคะ แต่เดิมวัดพระบาทก็จะเป็นวัดของประชาชนทั่วไป ขณะที่วัดมิ่งเมืองจะเป็นวัดของเจ้านาย  ซึ่งที่วัดพระบาทก็มีรอยพระพุทธบาทอยู่ ขณะที่วัดมิ่งเมืองก็มีเจดีย์มิ่งเมืองค่ะ จนพ.ศ.2492 จึงได้รวมสองวัดนี้เป็นวัดเดียวกัน 

ที่ฝั่งวัดพระบาทเก่านั้น นอกจากรอยพระพุทธบาทสี่รอยในมณฑปแล้วก็ยังมีพระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนี ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระพุทธชินราชงดงามมากเชียวค่ะ ถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของแพร่นะคะ ส่วนฝั่งวัดมิ่งเมืองเก่านั้น ภายในวิหารก็มีคัมภีร์ปักด้ายไหมผืนเดียวในประเทศไทย ซึ่งแม่เจ้าบัวไหลจัดทำขึ้นเมื่อพ.ศ. 2416 ด้วยค่ะ แล้วภายในวิหารก็จะมีของต่างๆ ที่มีคนมาถวายอยู่ด้วยค่ะ

สำหรับที่นี่ถ้าใครบูชาเทียนประจำวันเกิด (30 บาท) ทางคุณป้าผู้ดูแลก็จะนำไปปักให้ด้วยนะคะ









จากนั้นก็ได้เวลากินอีกแล้วสิ (ห้ะะะ  ) กับขนมเส้นอีกหนึ่งร้านที่ตั้งใจจะไปลองกินเป็นร้านที่สามของเมืองแพร่ค่ะ ร้านขนมเส้นดวงเนตร (เก๋ากึ้ก) - บางคนก็จะเรียกว่าร้านเก๋ากึ้กเฉยๆ นะคะ


ร้านนี้เป็นร้านขนมจีนหรือขนมเส้นเก่าแก่สืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณทวดนะคะ สำหรับนักท่องเที่ยวอาจจะไม่รู้จักกันเท่าไหร่ แต่นี่เป็นร้านหนึ่งที่คนท้องถิ่นแนะนำมาค่ะ เส้นทางไป เราใช้กูเกิ้ลแมพเช่นเคย หาด้วยคำว่าขนมเส้นดวงเนตรนะคะ สำหรับที่จอดรถ ถ้าไม่จอดที่หน้าร้านข้างทาง ก็มีที่จอดรถอยู่ติดกับร้านเลยค่ะ แต่ต้องตีวงหน่อยเพื่อจะขึ้นไปจอดนะคะ

ร้านนี้จะไม่ได้ใช้หมูสับค่ะ ใช้หมูติดกระดูก ซึ่งให้รสชาติที่อร่อยไปอีกแบบ ไฮไลท์คือสามารถสั่งตัวกระดูกหมูราคา 50 บาท (ขนมเส้นน้ำหมู กับข้าวส้มราคาอย่างละ 15 บาทค่ะ) มากินได้ด้วย ตัวกระดูกหมูเปื่อยนุ่มกินง่ายมาก แต่รสจะเค็มนำนิดหนึ่ง ข้าวส้มของร้านนี้เท่าที่กินมา จะค่อนข้างมีรสมีชาติกว่าร้านอื่นนะคะ เพราะใช้มะเขือเทศแท้ๆ ในการทำ ไม่ได้ใช้ซอสมะเขือเทศในการผัดข้าวค่ะ และปิดท้ายด้วยของหวาน ถ้วยละ 20 บาทค่ะ วันนั้นเราลองลอดช่องนะคะ แต่เห็นบางรีวิวแนะนำสาคูแหละ







หลังจากกินคาวแล้วก็ต้องกินหวานกันสักหน่อยนะคะ จัดกันไปตามลำดับค่ะ ขับรถย้อนกลับไปนิดหนึ่ง (เมื่อกี๊ตอนขับรถจากวัดพระบาทมิ่งเมืองไปร้านดวงเนตรก็ผ่านแล้วแหละ) ไปแวะกินขนมที่ร้าน Ginger Bread House&Gallery ค่ะ





เป็นอีกร้านที่เป็นร้านอาหารภายในที่พักนะคะ ที่จริงเน้นความเป็นร้านอาหารมากกว่า แต่เรายังอิ่มจากขนมเส้นอยู่ เลยลองสั่งขนมค่ะ และก็ปรากฏว่าเป็นร้านที่ขนมอร่อยเว้ยเฮ้ย เลยเอามาแนะนำกันได้นะคะ


ตัวเครื่องดื่มเราสั่งเป็นมะนาวน้ำผึ้งค่ะ โอเคค่ะ เข้มข้น เปรี้ยวหวานหอมกำลังดี ส่วนขนมนั้น ตอนแรกก็ถามน้องว่าระหว่างไอศกรีมทอดกับจิงเจอร์เบรดวัฟเฟิลน้องเชียร์อะไร น้องบอกวัฟเฟิลค่ะพี่ เลยจัดมาค่ะ หน้าตาก็ตามภาพ 


ซึ่งตัวจิงเจอร์เบรดวัฟเฟิลนี่กรอบนอกนิดๆ หอมเนย เนื้อหนาและนุ่มพอควรเลยค่ะ ไอศกรีมนี่อร่อยมาก เข้มข้น เนื้อเหนียวนิดๆ แบบที่ควรเป็น อร่อยค่ะ หมดไปกับร้านนี้ 150 บาท (วัฟเฟิล 90 บาท มะนาวน้ำผึ้ง 60 บาท)











หลังจากกินขนมหวานแบบฝรั่งๆ แล้วก็หาขนมไทยกินกันเถอะค่ะ (บอกแล้วว่าขอย้ายจาก #สายบุญ เป็น #สายกิน นะคะทริปนี้ อิอิ) ซึ่งร้านนี้เดินไปจากร้านจิงเจอร์เบรดได้ค่ะ ห่างกันราว 6 ห้องแถวแค่นั้นเอง เดินย้อนกลับไปทางถนนข้างๆ จิงเจอร์เบรดนะคะ ไม่ใช่ด้านหน้า 


ร้านข้าวเหนียวมูนเจ้านี้ ไม่ได้ขายตลอดทั้งปีนะคะ จะขายเฉพาะช่วงฤดูร้อน ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอนค่ะ เป็นซุ้มเล็กๆ ภายในร้านขายอุปกรณ์กีฬาชื่อร้านพร้อมภัณฑ์ค่ะ ถ้าวันไหนมีขาย ทางร้านก็จะเอาป้ายว่ามีข้าวเหนียวมะม่วงตั้งไว้ที่หน้าร้านนะคะ


ตัวข้าวเหนียวมูน พี่เจ้าของร้านได้สูตรมาจากร้านที่ตัวเองชอบที่เชียงรายค่ะ (เจ้าของร้านเป็นคนเชียงรายแต่มาแต่งงานกับคนแพร่..แหนะ รู้ขนาดนั้น 555) วันที่เราไปพี่เค้าบอกก่อนเลยว่ามะม่วงเปรี้ยวหน่อยนะ (วันนั้นมีแต่น้ำดอกไม้นะคะ อกร่องพี่เค้าบอกว่าช่วงนั้นไม่ค่อยดีแล้ว) แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยวเกินค่ะ 


ตัวข้าวเหนียวอร่อยมากๆๆๆ ค่ะ เม็ดข้าวกำลังดี ไม่แข็งไปไม่แฉะไป หวานมันพอดี ไม่หวานจัด ไม่หวานแหลม นอกจากมะม่วงแล้วก็มีปลาแห้งกับสังขยาที่พี่เค้าทำเองด้วยนะคะ


ราคาตกจานละ 60 บาทค่ะ (ที่จริงที่นี่มีโต๊ะแค่โต๊ะเดียวนะคะ ส่วนใหญ่จะซื้อกลับกันมากกว่า) ซึ่งจะซื้อเฉพาะข้าวเหนียวก็ขายนะคะ ไม่จำเป็นต้องซื้อคู่มะม่วงหรืออื่นๆ ค่ะ







อิ่มแล้วแต่ยังต่อของหวานสุดท้ายต่อไปค่ะ กับอีกหนึ่งร้านที่คนท้องถิ่นแนะนำแต๋วรวมมิตร

ร้านนี้ที่จริงแต่เดิมจะขายที่ตลาดประตูชัย ซึ่งเป็นเหมือนตลาดโต้รุ่งรวมร้านอาหารไว้หลายๆ ร้านนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเย็นตาโฟประตูชัย ลูกชิ้นอ้วน บ๊วยนมสด ฯลฯ แต่ร้านนั้นเปิดเฉพาะตอนเย็นค่ะ  ทว่าล่าสุดร้านนี้มาเปิดสาขาที่สามารถไปกินตอนกลางวันได้แล้วนะคะ

พิกัดร้าน หาด้วยกูเกิ้ลแม็พได้ค่ะ หรือหาทางไปโรงพยาบางแพร่คริสเตียนให้เจอนะคะ ร้านนี้จะอยู่เยื้องๆ กับโรงพยาบาลนี้เลยค่ะ

สำหรับเมนูเด็ดของร้านนี้จะเป็นไอศกรีมเนื้อเนียนหอมอร่อย สามารถสั่งแบบเปียกคือใส่ผสมกับรวมมิตรน้ำกะทิ หรือแบบแห้งที่ใส่เฉพาะเครื่องรวมมิตรก็ได้นะคะ








จากนั้นด้วยสภาพอันร้อนระอุ และเวลาบ่ายสองแล้วเราเลยไปเช็คอินรับแอร์ก่อนค่ะ ซึ่งโรงแรมเฮือนนานาก็อยู่ไม่ไกลจากร้านแต๋วรวมมิตรนักนะคะ ขับรถราวห้านาทีแค่นั้นเองค่ะ รีวิวโรงแรมเฮือนนานาบูติคคลิกอ่านได้เลยฮับบ







พักแป๊บหนึ่งเราก็ออกเดินทางไปที่คุ้มเจ้าหลวง กะว่าจะไปขึ้นรถรางค่ะ แต่ปรากฏว่า ถ้าแค่คนเดียวเค้าไม่ออกง่ะ แงๆ อด  (จันทร์-ศุกร์ มีรอบ 16.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ รอบ 10.00, 14.00, 16.00 น.) เลยถือโอกาสเที่ยวคุ้มเจ้าหลวงแทนค่ะ ซึ่งที่นี่จะมีมัคคุเทศก์น้อยในการนำชมด้วยนะคะ ควรให้น้องนำชมค่ะ เพราะจะได้ความรู้ความเข้าใจมากกว่าการเดินชมเองนะคะ




คุ้มเจ้าหลวงเป็นคุ้มของเจ้าเมืององค์สุดท้ายของแพร่ คือ เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์นะคะ ภายในก็จะมีผังตัวเมืองแพร่ ที่แสดงให้เห็นว่าคุ้มเจ้าหลวงจะอยู่กลางเมืองพอดีค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีพวกถ้วยโถโอชามที่เคยใช้ ช่องเก็บสมบัติ ห้องนอน (ที่ในหลวงกับพระราชินีในรัชกาลปัจจุบันเคยมาพัก) รวมทั้งชั้นล่างสุด (ชั้นใต้ดิน) ที่เคยเป็นคุกด้วยค่ะ อ่านรีวิวโดยละเอียด เชิญที่ - รีวิวคุ้มเจ้าหลวง แพร่ ย้อนรอยอดีตกาล ณ "บ้าน" ของเจ้าเมืององค์สุดท้าย


gimmic อีกอย่างของที่นี่การผ่านประตูต่างๆ ซึ่งจะมีความหมายที่แตกต่างกัน บางประตูก็ทำให้เจริญด้วยยศศักดิ์ถึงลูกหลาน บางประตูทำให้สวยขึ้น และมีประตูชื่อประตูตองคำใต้ที่สามารถขอพรได้ โดยวิธีการคือ ให้ขอพรแล้วพอจะก้ามข้ามก็ร้องว่า "โห่.." พอข้ามไปก็บอกว่า ฮิ้ววว ค่ะ ตามคลิปนี้เลยนะคะ







เราใช้เวลากับคุ้มเจ้าหลวงราวชั่วโมงนิดหน่อยค่ะ จากนั้นก็ขับรถต่อไปที่แพะเมืองผี ซึ่งอยู่ห่างจากคุ้มฯ ไปราวๆ 11 กิโลเมตรนะคะ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีค่ะ




ที่นี่เปิดเวลา 07.00-18.00 น.นะคะ เราไปถึงตอนห้าโมงเย็นค่ะ เจ้าหน้าที่ไม่อยู่แล้ว แล้วก็ร้านค้าก็ปิดไปเยอะแล้วค่ะ เหลืออยู่ร้านสองร้านเอง แต่การไปเที่ยวที่นี่ ถ้าไม่ไปช่วงเช้าเลยก็ควรไปเย็นๆ ประมาณเราแหละค่ะ ไม่อย่างนั้นจะร้อนเกิ๊น

สำหรับแพะเมืองผี ก็ถือว่าเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในสมัยก่อนนะคะ มีเรื่องเล่าว่ายายแก่คนหนึ่งไปหาของป่า แล้วเจอหลุมเงินหลุมทอง ก็ใส่หาบจะเอาออกมา แต่หลงทางหาทางออกไม่ได้ เพราะเจ้าป่าเจ้าเขาท่านไม่ได้ต้องการให้เอาออกไป ยายแก่จึงวางหาบแล้วทำราวคาดไว้ พอกลับไปถึงบ้านก็กลับมาตามราวคาดเพื่อจะมาเอา แต่ก้าวออกไปก็เหมือนยิ่งก้าวถอยหลัง ตัวเองจึงไปเรียกชาวบ้านมาดู ชาวบ้านพากันไปดูก็ปรากฏว่าพอไปถึง เงินทองหายไปหมดแล้วมีแต่รอยเท้าที่หายไปที่เสาเมโรค่ะ คำว่าแพะ แปลว่า ป่าละเมาะ ส่วนคำว่าเมืองผี หมายถึง เงียบเหงาเหมือนเมืองผีนะคะ








จากนั้นก็ได้เวลาอาหารเย็นค่ะ ตอนแรกว่าจะไปตลาดประตูชัยค่ะ แต่ไปๆ มาๆ ก็อยากไปดูร้านนี้ก็เลยเปลี่ยนใจไปร้านนี้แทนค่ะกับร้านร่มไม้ใหญ่นะคะ ห่างจากแพะเมืองผี 14 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีค่ะ



บรรยากาศร้านนี้ค่อนข้างดีค่ะ (มีคนบอกว่า เอาไว้รับแขกบ้านแขกเมือง ฮา) มีดนตรีเล่นสดด้วยนะคะ ช่วงเย็นๆ นี่แมลงวันจะเยอะหน่อย ถ้าจะไปเราแนะนำให้ไปตอนค่ำเลยก็จะไม่มีแมลงวันแล้วค่ะ เพลงช่วงเย็นจะเป็นเพลงยุค 80 แหละ ชอบอ้ะ (วัยป้าค่ะ เข้าใจนิดหนึ่ง ) แต่วงถัดมาจะเป็นแนวสากลหน่อยนะคะ ในส่วนของอาหารเราสั่งมาสามอย่าง เมนูที่โอที่สุดคือ ยำร่มไม้ใหญ่ค่ะ นอกนั้นปลากระพงทอดน้ำปลา น้ำปลาน้อยไป ปลาเหมือนชุบแป้งหน่อยๆ ทอด พอเย็นแล้วแข็งค่ะ แล้วก็น้ำพริกเห็ดออรินจิ คล้ายน้ำพริกหนุ่ม แต่ไม่เผ็ดค่ะ 



อิ่มเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับที่พักค่ะ ว่ายน้ำสลายแคลอรี่พักหนึ่งแล้วก็เข้านอนไปด้วยความอ่อนเพลีย (จากการกิน ฮา)





จบวันที่สองแล้วค่าาา เย้ๆ (ยาวขนาดนี้มีใครอ่านครบจบสามวันมั้ย ฮือออ)  Smiley





วันที่สาม เจอเพชรก่อนจากแพร่ ไหว้พระ ชมผ้า และเครื่องดื่มอันแสน unique



เช้าวันสุดท้ายแล้ววว ตื่นสายอีกแล้ว แหะๆ  กินอาหารเช้าที่รร.เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางสู่สถานที่แรกกันเลยค่ะกับบ้านวงศ์บุรี (ที่นี่เสียค่าบัตร 30 บาทนะคะ มีคนนำชมเช่นเดียวกันค่ะ) บ้านหลังนี้ แม่เจ้าบัวถา ชายาองค์แรกของเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ สร้างเป็นเรือนหอให้กับหลานค่ะ (เป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นบ้านสีชมพู) ภายในมีห้องต่างๆ ที่น่าชมและเอกสารต่างๆ เช่น เอกสารการซื้อขายทาส บัตรประจำตัวช้าง การจำลองการแต่งกายของชาวไทยพวนและไทยม่าน และจากที่นี่มุมหนึ่งจะเห็นวัดพงษ์สุนันท์ซึ่งเป็นวัดประจำตระกูลของบ้านนี้ด้วยนะคะ (วัดสร้างด้วยการบริจาคที่ดินของตระกูลนี้ค่ะ) แล้วก็ที่นี่จะมีของที่ระลึกของทางคุ้มวงศ์บุรีเองจำหน่ายด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ แก้ว หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากไม้สักด้วยค่ะ









สำหรับท่านใดที่มาเที่ยวบ้านวงศ์บุรี ตรงข้ามบ้านวงศ์บุรีจะมีร้านขายมะขามโอท็อปสี่ดาวอยู่นะคะ ชื่อร้านมะขามแก้วแม่ขันทองค่ะ สามารถซื้อไปฝากได้เช่นกันค่ะ







จากนั้นก็ขอนำพาทุกท่านไปสู่ร้านกาแฟที่เราชอบที่สุดของทริปนี้ (เท่าที่ได้ไปกิน 6 ร้านนะคะ) เรียกว่าเจอ "เพชร" สำหรับเราเลยหละค่ะ กับร้าน Charlotte Hut Coffee&Tea Bar ค่ะ 





ต้องบอกก่อนว่าเป็นร้านที่ไปค่อนข้างยากนิดหนึ่งค่ะ เพราะไม่ได้อยู่บนถนนสายหลักนะคะ อยู่ในซอยอีกที และอยู่ในคาร์แคร์ด้วย 


ร้านมีบริเวณค่อนข้างเยอะพอควร มีที่นั่งทั้งเอาท์ดอร์และในห้องแอร์ค่ะ ที่นี่ไม่ได้ทำขนมเองนะคะ แต่เจ้าของร้านบอกว่าเอามาแต่ขนมอร่อยๆ ค่ะ 555 แล้วก็เคยมีครูสอนบาริสต้ามาดื่มกาแฟที่นี่แล้วก็เซ็นชมรสชาติกาแฟไว้ให้ที่ข้างฝาด้วยค่ะ อิอิ วันนั้นทั้งเครื่องดื่มและขนมที่เราสั่งมา อร่อยทั้งคู่นะคะ บราวนี่เซ็ตนี่ตัวบราวนี่เทกซเจอร์ดี รสชาติเข้มข้นมาก ราคา 90 บาท และกาแฟชาล็อตฮัทราคา 65 บาทค่ะ เพราะฉะนั้น..ที่นี่เราถึงชอบ เพราะบรรยากาศก็ดี ขนมก็อร่อยค่ะ











จากนั้นเราก็อำลาตัวเมืองแพร่สู่จังหวัดลำปางค่ะ โดยจะไปแวะที่วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี ซึ่งต้องวิ่งไปเส้นทางอ.เด่นชัยนะคะ ระหว่างทางผ่านอนุเสาวรีย์พระยาไชยบูรณ์ วีรบุรุษในช่วงกบฎเงี้ยวค่ะ กราบลาท่าน และหวังว่าคงจะได้มีโอกาสกลับไปแพร่อีกนะคะ อ่านประวัติของท่านได้จากลิงก์นี้ค่ะ







จากตัวเมืองไปวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี ใช้เวลาราว 30 นาทีนะคะ อยู่ราวๆ กม.ที่ 278 หรือไงเนี่ยค่ะ แต่ถ้ามาจากทางแพร่ พอเห็นสนามกอล์ฟเวียงโกศัยอยู่ทางซ้ายมือ เลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นวัดนี้แล้วค่ะ อยู่ฝั่งเดียวกันกับสนามกอล์ฟเลยนะคะ




วัดแห่งนี้มีสิ่งก่อสร้างที่สวยงามวิจิตรมากมายเลยนะคะ ซึ่งเราเคยรีวิวไว้เมื่อนานมาแล้วหนึ่งรอบ สำหรับรอบนี้ สิ่งก่อสร้างบางอย่างก็มีเพิ่มเติมขึ้นและยังสวยงามเช่นเคยค่ะ เป็นอีกวัดหนึ่งที่ไปแพร่ก็ไม่ควรพลาดนะคะ 

ซึ่งความสวยงามทั้งหมดที่เห็นนี้เป็นฝีมือของเจ้าอาวาสที่อายุเพียง 30 กว่าปีเท่านั้นค่ะ ท่านชื่อหลวงพ่อมนตรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าครูบาน้อย ได้จำลองรูปแบบมาจากวัดสำคัญๆของภาคเหนือ และจากประเทศอื่นได้แก่ พม่า จีน และลาว โดยเลือกเอาจุดเด่นของแต่ละแห่งมารวบรวมไว้ที่วัดนี้ เป็นการผสมผสานที่ทำให้มีลักษณะต่างจากวัดทั่วไปค่ะ นอกจากนั้นครูบาฯ ท่านยังระดมช่างฝีมือชั้นยอดที่เรียกว่า"สล่า"ของภาคเหนือมาร่วมกันก่อสร้างจนแล้วเสร็จ โดยท่านได้ควบคุม ออกแบบ และลงมือก่อสร้างด้วยตัวเองในส่วนที่เป็นงานชิ้นสำคัญๆ นะคะ




จากนั้นก็เดินทางต่อไปกินขนมจีนอีกอย่างที่มีเฉพาะที่แพร่อีกเช่นกันค่ะ กับขนมจีนน้ำย้อย
ซึ่งก็คือ ขนมจีนที่ทำเส้นแบบสดๆ ค่อนข้างเปียก แล้วก็คลุกเคล้าเข้ากับน้ำพริกน้ำย้อย ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีสูตรเฉพาะตัวของตัวเองนะคะ



โดยเราตั้งใจจะไปร้านอาหวังที่มีคนแนะนำมานะคะ แต่ปรากฏว่าไปถึงขนมจีนหมดแล้ว มีป้ายเขียนบอกเลยค่ะ ฮือๆ  เลยได้แต่ซื้อน้ำพริกน้ำย้อยของเจ้านี้มากินกับขนมจีนภาคกลางในภายหลัง ซึ่งเครื่องก็ไม่ครบนะคะ เลยได้รสชาติไม่เต็มที่เท่าไหร่ค่ะ 


อ้อ ที่จอดรถของร้านนี้ จากประตูที่แขวนป้าย วิ่งตรงไปเลี้ยวขวา แล้ววิ่งต่ออีกหน่อยจะมีลานให้จอดรถในร้านอยู่ค่ะ แต่จอดได้ไม่กี่คันนะคะ แหะๆ






แต่ ณ วันนั้นยังมีอีกร้านที่เปิดอยู่คือ ร้านขนมจีนน้ำย้อยป้ารัตน์ค่ะ (จะถึงก่อนร้านอาหวังที่อยู่ลึกกว่า) การจอดรถสามารถจอดรถในวัดดอนมูลแล้วเดินเอาค่ะ ร้านป้ารัตน์จะอยู่ห่างจากวัดประมาณสี่ร้อยเมตรได้นะคะ


สำหรับการกิน พี่เค้าเห็นเราเก้ๆ กังๆ เลยมาทำให้ดูเลยค่ะ เราก็ถ่ายวีดิโอไว้ตั้งแต่ทำเส้นจนกระทั่งคลุกเลย (คนแพร่ใจดีมากๆ  ) รสชาติมันแซ่บบบบมันอร่อยมากค่ะ แต่ต้องกินแกล้มกับให้ครบคือ แคปหมูแบบไม่มีมันติด และถั่วฝักยาวต้ม (ที่จริงพี่เค้าบอกว่าขาดซุปอีกอย่างด้วยนะคะ) มันอร่อยเข้ากันมากมายค่ะ 







วิธีการทำเส้นและกิน ดูตามคลิปนี้เลยฮับ




ป.ล.ซึ่งนอกจากร้านอาหวังและป้ารัตน์แล้วก็มีร้านขนมจีนน้ำย้อยแม่ลานอีกเจ้านะคะ แต่เราไม่ได้ไปเก็บภาพมาให้นะฮับ แฮ่..แต่อยู่ที่อ.ลองเหมือนกันค่ะ







หลังจากนั้นก็ไปหาเครื่องดื่มเย็นๆ ดื่มกันค่ะ ทราบมาว่าอำเภอลองมีร้านกาแฟแห่งหนึ่งชื่อร้านกาแฟแห่ระเบิด ซึ่งมีหลายรีวิวที่พูดถึง เลยขอไปลองหน่อยค่ะ ร้านนี้อยู่ห่างจากวัดที่เราจอดรถตอนกินขนมจีนน้ำย้อยประมาณ 6 กิโลเมตรนะคะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ

วันนั้นที่เราไปลองคือ ชาเขียวมะนาวมะกรูด ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านและเคยทำถวายพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุนะคะ รสชาติสดชื่น หอมมะกรูด เราชอบหละ นอกจากนั้นร้านนี้ยังมีผลงานศิลปะ, เรื่องราวของวลีที่ว่า "แพร่แห่ระเบิด" เกิดมาจากอะไร รวมทั้งมีน้ำพริกน้ำย้อยที่มีความเผ็ดสามระดับขายด้วยค่ะ







อิ่มท้องแล้ว ได้เวลาไปยังอีกสถานที่ที่มาอ.ลองแล้วไม่ควรพลาดนะคะ กับบ้านศิลปินแห่งชาติ ประนอม ทาแปง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการทอผ้าซิ่นตีนจกค่ะ แต่วันที่เราไปนี่คุณประนอมไม่อยู่ค่ะ ไปออกงานที่กรุงเทพฯ ฮับ

ที่นี่เราสามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อให้ดูวิธีการทำต่างๆ ก่อนจะมาเป็นผ้าซิ่นตีนจกค่ะ และมีผ้าซิ่นตีนจกจำหน่าย ราคาตั้งแต่ 1500 บาทจนสูงสุดที่อยู่ ณ วันนั้นคือ 30000 บาท  ที่จริงมีผืนแปดหมื่นบาทด้วยค่ะ แต่คุณประนอมนำไปกรุงเทพฯ ด้วย คนชอบผ้าสวยๆ น่าจะชอบนะคะ ตอนเราโพสต์เฟสบุ๊คนี่ คนชอบผ้ามากรีดร้องกันเต็มเลย 







หลายคนอ่านแล้วอาจจะสงสัยว่า ทำไมบางผืนถึงแพ้ง แพง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายของลาย และวิธีการทำด้วยค่ะ อย่างผืนสามหมื่นจะเป็นดิ้นทองนะคะ (ที่ใส่อยู่ในหุ่นตามภาพข้างบนน่ะค่ะ) เรื่องราคาผ้านี้น้องที่อยู่ที่นี่ ณ วันนั้นอธิบายให้ฟังตามคลิปนี้ค่ะ







จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางไปลำปางแล้วค่ะ เราแวะไปไหว้พระธาตุลำปางหลวง ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของหนานทิพย์ช้าง วีรบุรุษที่ยิงแม่ทัพพม่าตาย วิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยพระนางจามเทวี เงาพระธาตุ พระแก้วดอนเต้า ฯลฯ ซึ่งเป็นอีกที่ที่เราจะทำรีวิวละเอียดๆ ในลำดับต่อไปนะคะ







จากนั้นเราก็ไปแวะหาอะไรดื่มที่ Log In Cafe ใกล้ๆ พระธาตุลำปางหลวงต่อด้วยกินอาหารเย็น ณ ร้านอร่อยบาทเดียวที่ลำปาง แล้วก็เติมน้ำมันให้เต็มถัง (สำหรับทริปนี้ทั้งหมด เติมน้ำมันไปสองครั้งค่ะ รวมแล้ว 1030 บาท (เราเติม 95 กับ 91 แต่ที่จริงเติม E20 ได้นะคะ ซึ่งจะถูกกว่านี้ แต่เราลืม นึกถึงแต่ตอนรถตัวเองเติมน่ะ 555) แล้วก็นำรถไปคืนที่สนามบิน ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็คืนสลิปมัดจำ 8000 บาทมา จากนั้นก็เช็คอิน โหลดกระเป๋า ก่อนจะไปหาอะไรกินเพิ่มนิดหน่อยที่เกท ซึ่งบางกอกแอร์เวย์ส จะมีเคาน์เตอร์อาหารบริการให้น่ะนะคะ แล้วก็บินกลับมาสู่กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพฮ้าบบบ (ป.ล.ขอบอกว่า ขนมปังหน้าน้ำพริกอ่องบนเครื่องอร่อยมากค่ะ ชอบอ้ะ)







สรุปสำหรับทริปตระเวน+ตะลุยกินของอร่อย ณ เมืองแพร่ครั้งนี้ ค่อนข้างประทับใจเรามากๆ นะคะ ได้กินอาหารที่..อายุป่านนี้แล้วเพิ่งเคยกิน 555 (เป็นที่มาของคำถามว่า "นี่ฉันไปอยู่ที่ไหนม้าาาา') แล้วค่าครองชีพของแพร่ก็ยังปราณีต่อคนธรรมดาๆ อย่างเราอยู่มาก มีร้านน่ารักๆ เยอะแยะมากมาย เยอะจนไปเก็บไม่ครบค่ะ (มีไปเก็บเพิ่มอีกแน่ ขอเวลาก่อน หุๆ)


ที่สำคัญ เราเจอคนแพร่น่ารักๆ ดีๆ เยอะเลยค่ะ ยังมีน้ำจิตน้ำใจพร้อมให้การช่วยเหลือตลอดๆ ค่อนข้างประทับใจมากๆ เลยค่ะ


เป็นอีกครั้งที่ประทับใจกับการท่องเที่ยวเมืองไทยนะคะ และเป็นการเที่ยวเมืองไทยในจังหวัดที่ไม่เคยไป (คือแค่เคยแวะเที่ยวบางที่และผ่าน แต่ไม่เคยพัก) คนเดียวเป็นครั้งแรก (ตอนไปเชียงใหม่นั่นไม่นับ เพราะไปจนโชกโชน แถมมีเพื่อนอยู่นั่นคอยดูแลบางวันด้วยอีกต่างหาก) ซึ่งเรียกได้ว่า ตอนแรกกลัวอยู่เหมือนกัน แต่พอได้ไปจริง ได้เจอคนแพร่ที่น่ารักจริงๆ ก็พบว่า ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ (ทุกที่พอรู้ว่าเราไปคนเดียว ล้วนแล้วแต่อึ้ง 555 ก็มันไม่มีใครไปด้วยนี่คะ ให้ทำไงอ้ะ )


ซึ่งถ้าใครจะไปแพร่ ที่ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ ขนมเส้นน้ำหมู/น้ำใส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแพร่นั่นเองค่ะ โดยลิ้นเรา เราชอบของร้านป้าดาที่สุดนะคะ แต่ขณะเดียวกันซี่โครงหมูเปื่อยนุ่มของร้านเก๋ากึ้กก็ยังถูกใจไม่น้อย ส่วนถ้าใครผ่านทางอ.ลองก็ไม่อยากให้พลาดขนมจีนน้ำย้อยแบบออริจินัลเช่นกันนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายแซ่บทั้งหลาย ต้องลองค่ะ มันแซ่บนัว ลำแต๊ลำว่ามากๆ นะคะ  ยังไงถ้าใครได้ไปกิน ก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ อิอิ




ขอจบการรีวิวอันแสนยาวนานแต่เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบด้วยค่าาา







ลิงก์อื่นๆ ของโครงการ









ป.ล. เวลา 18.00 น.ของเย็นวันที่ 20 มิ.ย.เป็นต้นไป จะมีกิจกรรมแจก voucher หลายอันที่เพจ saoguide นะคะ ถ้าสนใจก็ลองไปส่องๆ ดูเนาะ แฮ่...



Create Date : 20 มิถุนายน 2559
Last Update : 29 มิถุนายน 2559 12:27:46 น.
Counter : 18824 Pageviews.

72 comments
Ta Moke Shwe Gu Gyi Temple สายหมอกและก้อนเมฆ
(8 เม.ย. 2567 18:52:20 น.)
สักการะองค์พญานาคใหญ่ที่สุดในไทย วัดถ้ำแจง เพชรบุรี นายแว่นขยันเที่ยว
(8 เม.ย. 2567 12:34:14 น.)
Tobu Zoo (東武動物公園)ในวันที่ค่าเข้าแล้วแต่จะบริจาคตั้งแต่ 1 เยนขึ้นไป SN_monchan
(6 เม.ย. 2567 20:15:04 น.)
นายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ IGNITE TOURISM THAILAND จุดพลังการท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่ Tourism Hub travelistaนักเดินทาง
(2 เม.ย. 2567 14:19:22 น.)
  
เมืองแพร่มีสถานที่เที่ยวที่นาสนใจหลายอย่างเป็นอีกจังหวัดที่พี่อยากไปเที่ยวชม
วันนี้น้องเต้ยลงรูปแบบจัดเต็มมากอ่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
moresaw Funniest Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

โดย: mambymam วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:8:34:19 น.
  
สวัสดีค่ะคุณเต้ย..

ลุยเมืองแพร่กันอย่างละเอียดเลยนะค่ะ

อาหารพื้นบ้านน่าทานหลายอย่าง..

เห็นแล้ว อยากไปเมืองแพร่ทันควัน

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ Literature Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:8:43:34 น.
  
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่าาาา


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mastana Literature Blog ดู Blog
เนินน้ำ Literature Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Health Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ออมอำพัน วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:9:28:49 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณสาวไกด์ฯ
ขอบคุณที่นึกถึงกันและแวะไปเยี่ยมนะคะ

จริงๆคิดไว้ว่าจะเขียน Blog ให้ตลอด เป็นเหมือน Diaryไปเลย แต่ก็ล่มเพราะหลังแต่งงานชีวิตต้องปรับเปลี่ยนโยกย้ายอะไรมากมายน่ะค่ะ เลยยังไม่ได้กลับมา Bloggang เลย

ช่วงนี้ย้ายบ้านไปอยู่ต่างจังหวัด ช่วยบ้านสามีขายของ
กำลังเริ่มทำอะไรใหม่ๆ เลยยังไม่ได้อัพ Blog เลยค่ะ

แต่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะกลับมา Blog นี้อีก ยังไงเจอกันนะคะ ^^
โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:10:04:49 น.
  
ทำอย่างที่ว่าดีเลยจ้ะ เป็นระเบียบและน่าจะดูง่ายดีนะ
คือไม่ปนกันบางทีเยอะไปก็ตาลายเหมือนกันจ้ะ
ทำให้้ดูไม่ค่อยทั่วถึงอ่ะ


โดย: mambymam วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:10:37:02 น.
  
ต่ออีกหน่อยจ้ะ ทำแบบรวมๆ
แล้วมารีวิวแบบเป็นอย่างๆไป
โอเคจ้ะ ตามนั้น

โดย: mambymam วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:10:38:51 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วย
มีที่เที่ยวเยอะเลย
ตรงพระธาตุช่อแฮ จะมีลิฟท์ขึ้นใกล้ๆทางเดินขึ้น
บอกไว้เผื่อพาคนแก่ไปไหว้ฯนะครับ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
phunsud Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: moresaw วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:10:41:11 น.
  
ทริปนี้ทริปใหญ่เลยนะคะ จริงๆ ก็ใหญ่ทุกทรีปเนอะ อิอิ

ขนมจีนมีพริก อิอิ คิดถึงน้องซีจะบอกว่านางชอบกินมาก 555 แซบๆ ไม่ต้องมรเนื้อสัตว์ ของโปรด

โดย: kae+aoe วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:11:03:35 น.
  
หญิงเดี่ยวเที่ยวแพร่

บล็อกนี้ภาพเยอะจุใจ
ข้อมูลแน่นปึ๊ก

ดูในเฟซตอนนั้นเหมือนมีแต่รูป
พอใส่ข้อมูลเรื่องราวเข้าไป
จัดเรียงออกมาเป็นบล็อกสวยงามเลยครับคุณเต้ย

โหวต travel blog ครับ

ผมเห็นด้วยเลย
ว่าไม่ต้องบังคับลูกอ่านหนังสือ
แค่เตรียมสภาพแวดล้อมให้เค้าเห็น
เดี๋ยวเค้าก็อ่านตามเราเองครับ

บ้านผมหันไปทางไหนเจอแต่หนังสือครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:11:04:01 น.
  
ตามติดมาเที่ยวแพร่ด้วยครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Raizin Heart Literature Blog ดู Blog
Tui Laksi Travel Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Literature Blog ดู Blog
เป็ดสวรรค์ Photo Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: The Kop Civil วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:11:05:34 น.
  
อ่านจบแล้วหิวเลยคร้าบบ หาตั๋วไปแพร่ด่วนนน
โดย: benz47 วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:11:26:47 น.
  
ในบ้านผมมี 4 พี่น้อง
ผมอ่านเยอะสุด
แล้วก็น้องเล็กสุดท้อง

อีกสองคนก็ไม่ค่อยอ่านเท่าไหร่ครับ

เรื่องบล็อกนั้น
แบบนี้ผมก็ชอบนะครับ
เหมือนกับบล็อกเดียวเที่ยวครบจบในตอนเลย

ถ้าจะแยกหลายๆตอน
เนื้อหาต้องเยอะพอสมควรเลยนะครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:12:51:09 น.
  
แพร่ ยังเป็นเมืองที่น่าเที่ยวอยู่ค่ะเพราะยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเร็วมากนัก
ได้รับ voucher เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณมาก
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: เนินน้ำ วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:13:05:08 น.
  
ไปเที่ยวไกลของกินเยอะเลยนะคะ
ส่งกำลังใจกันก่อนน้าาาา

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
The Kop Civil Diarist ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog


โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:14:20:14 น.
  
คราาวหน้าถ้ามีโยไปด้วยนะจะไม่เหงาตอนขับรถเลยจ๊ะ
จะไปนั่งกรนอยู่ข้าง 5555
แบบนี้ไม่กล้าพาไปด้วยเลยใช่ป่าวคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: FreakGirL วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:15:08:43 น.
  
คุณเตยขรา เราต้องไม่มียั้งปาก อัดกันให้เต็มที่
อ่า ที่ตามคุณเต้ยมานี่จะถึงคอหอยแระ ขอเวลาย่อยแพร้บ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: จี้ดจ้าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:15:41:32 น.
  
น่าไปตามรอยทีเดียวเชียว อาหาร ขนม แต่ละร้านน่ากินไปหมด ขนมพี่ปิ๊งจินเจอร์เบรดนั่น ของคาวปิ๊งขนมเส้น ขนมจีน 3-4 ร้านที่เต้ยชวนไปนั่นล่ะ

link ที่พัก เฮือนนานา ทั้งบน ทั้งล่าง link ไม่ไปนะเต้ย

พี่เพิ่งรู้ว่าหม้อห้อมเขียนแบบนี้ พี่เขียนเป็นม่อฮ่อม มาตั้งนาน

ร้านอาหาร ให้อร่อยแค่ไหน ถ้าจัดการเวลาไม่ดี รอนานเกินนนนน พี่บายจ้ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
praewa cute Parenting Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:16:23:34 น.
  
เป็นทริปที่สุดยอดเลยจ้าน้องเต้ย
โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:16:30:06 น.
  
เก่งจังเลยจ้า จะทายบัญชี อิอิ หน้าให้เน๊อะ บอกแล้วเค้าออกจะเรียบร้อย

สรุปยังไม่ได้ไปดูหนัง Me before you เลยจ๊ะ อารมณ์แบบไม่เคยเข้าไปโรงหนังคนเดียว แก่แล้วมองไม่ค่อยจะเห็นทาง ลื่นล้มไปอายเด็กๆแย่เลย 555

ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ
โดย: FreakGirL วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:17:17:30 น.
  
เก่งจังครับพี่เต้ย ทำบล็อกที่เที่ยวที่เดียวก็จะตายอยู่แล้วนี่ทำแบบครบเลย ... สุดยอดดดด
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:18:03:37 น.
  
วะว้าวววว ตั้งร้อยกว่าเอนทรี่เชียวหรา
งั้นรอชมจ้าาาา

โดย: mambymam วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:18:12:42 น.
  
ตามมากันแต่ละทีนี่น้ำหนักเพิ่มไปมากเลยค่ะ
ทั้งเที่ยวทั้งกิน ครบเครื่องจริงๆ
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog



โดย: ตุ๊กจ้ะ วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:19:17:51 น.
  
มาบล็อกนี้ของพี่เต้ยคุ้มมาก ทั้งที่กินที่เที่ยว ที่พักครบมากเลยค่ะ น่าสนุกด้วย
โดย: sawkitty วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:19:27:54 น.
  
โธ่เสียจายยย วันนี้เค้า up blog ใหม่แร้วอ่ะตะเอรง

ว่าแต่เป็นการแก้แค้นที่สาสมมากมาย น้ำลายท่วมจอกันเทีเดียวเชียวล่ะคร่างานนี้
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:19:30:58 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ไม่ไหวตไม่ได้เลยค่า
สุดยอดจริงๆ
เดินทางคนเดียว เขียนรีวิวละเอียด เป็นทริปที่คุ้มและน่าตามรอยเที่ยวแพร่สุดๆค่า
ถ้าน้องมีเวลานะคะ 555
อยากไปร้านอภิ จิบกาแฟ
อยากไปซื้อชุดแซคด้วย ชอบมาก
และ...มันยาวากค่า พุทราจะมาค่อยๆอ่านที่ละตอนนะคะ
ส่วนเกม ยังอยากได้ที่พัก
เด๋วหาเวลาไปเล่นที่เพจนะคะ
โดย: prizella วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:21:39:39 น.
  
จะว่าไปมันก็มีข้อดีคนละแบบจริงๆครับคุณเต้ย
บล็อกเดียวจบก็กระชับดี

หรือจะแบบ 10 ตอน 20 ตอนอันนั้นก็ละเอียดไปอีกแบบครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:21:45:54 น.
  
มาแบบสรุปเต็มๆ ละลานตาไปหมดเลยค่ะ (ตาคอยแต่จะจ้องของกิน)

โหวต Travel Blog นะคะ
โดย: ออโอ วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:21:52:50 น.
  
ผมยังไม่เคยนั่งเครื่องบินไปซะที มันประหยัดเวลาเดินทางดีนะครับ แต่ที่บ้านเที่ยวกัน 4 คน ค่าเครื่องบินมันแพงกว่าขับรถ
ถ้าลืมเอา CD ไปฟัง ก็เปิดฟังวิทยุท้องถิ่นไปพลางๆครับ กลับมาร้องหมอลำเป็นกันเลยทีเดียว

ตามมาไหว้พระธาตุช่อแฮครับ ผมยังคงจำสลับกับแช่แห้งอยู่ตลอดเวลา
วัดภาคเหนือค่อนข้างเข้มงวดนะ บางที่ไม่ให้ผู้หญิงขึ้นด้วย

พระธาตุที่ใกล้เคียงพระธาตุอินทร์แขวนที่สุดผมยกให้พระธาตุดอยหินกิ่วที่แม่สอดครับ อันนั้นหมิ่นจริงๆ (ไม่รู้โดน 112 ไปรึยัง? #ผิด)
ขนมครกบ้านทุ่งโฮ้งน่าทานครับ แต่ไม่รู้ถ้าไปแพร่จะมีโอกาสแวะหรือเปล่า
อนุสาวรีย์โดนธนูปักอย่างเท่ คิดว่าเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์คนไหน ที่แท้พระลอ

อาหารพื้นเมืองน่ากินทั้งสองร้านเลย ♥
ว่าแต่แป้งนมทอดนี่มันอะไรครับ?

...จบวันที่หนึ่ง ...เห้ย!! ทำไมบล็อกนี้มันยาวขนาดเน้!!!! นี่บล็อกที่อัพเกือบทุกวันเขียนได้ยาวขนาดนี้เลยเหรอครับพี่เต้ยยยยย


รีวิวของเว็บอื่นส่วนใหญ่จะไปร้านที่ดังในหมู่นักท่องเที่ยว ซึ่งคนในถิ่นก็จะนินทาว่าร้านพวกนี้มีแต่คนกรุงเทพนั่นแหละมานั่ง แต่พี่เต้ยตะลุยร้านขวัญใจคนท้องที่กันเลย แบบนี้ถึงพริกถึงขิงแน่นวล!
แล้วก็เจอเมนูประหลาดแบบที่คนกินยากไปไม่ถูกแน่ๆ
ขนมจีนน้ำเงี้ยวผมกินไม่เป็นครับ ถ้าอาหารเหนือที่ชอบๆก็มีข้าวซอยกับแกงฮังเลนั่นแหละ พอได้หน่อย
ของหวานข้าวเหนียวมูลน่ากินจ้า ว่าแต่พี่เต้ยลุยร้านของหวานสามร้านเลยเหรอครับ?! (เอ๊ะ หรือขนมจีนนั่นออเดิร์ฟ เมนูหลักคือข้าวเหนียวมะม่วง?)

คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่เคยแวะมาอ่านจากบล็อกก่อนไปแล้ว อันนี้น่าไปจริงๆครับ รอบไปแพร่ไม่พลาดแน่นอน

แพะเมืองผีผมเคยไปตอนเที่ยง ร้อนจ้าเลยจ้า แวะมาเย็นๆแบบพี่เต้ยท่าจะดี


...วันที่สาม (อ่านด้วยพลังชีวิตที่เหลือน้อยเต็มที พี่เต้ยทรมานคนอ่าน...)

สนใจตรงร้านกาแฟที่พี่เต้ยถึงกับ recommend ไปยากแต่อยู่มาได้ถึงป่านนี้แสดงว่าเขามีดี บราวนี่น่ากินนะครับ

พระธาตุสุโทนมงคลคีรีนี่ไม่รู้จักเลยจ้า แต่ดูวัดอลังการเหมือนกันนะ คงเพิ่งสร้างไม่นาน นอกจากวัดเก่าแก่แล้ววัดใหม่ๆน่าสนใจภาคเหนือก็เยอะนะครับ อย่างวัดร่องขุ่น วัดห้วยปลากั้ง ฯลฯ เดี๋ยวต้องไปเก็บให้ครบ

ขนมจีนน้ำเงี้ยวก็กินไม่เป็นแล้ว มาวันนี้เจอขนมจีนน้ำย้อย! เสียจัย มันหมด อดยลโฉม แต่ยังดีที่อีกร้านก็ย้อยนะครับ ได้ถ่ายวิธีทำมาด้วย

คนเหนือน่ารักครับ ไปเที่ยวทีไรก็สบายใจ ^^ เดี๋ยวจะคอยติดตามทริปลำปางต่อจ้า


กดโหวตไปหนักๆครับ บล็อกทุ่มทุนสร้างห้าพันล้านระดับนี้


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
NENE77 Home & Garden Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ชีริว วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:22:15:43 น.
  
สวีสดีค่ะคุณเต้ย

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
เห็นภาพประกอบแล้วอยากไปมาก
ยิ่งพาตระเวณกินส สู้ตายค่ะ

สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:22:23:38 น.
  
โหวต Travel blog ให้จ้ะ หูยยยย แพลนได้แบบแน่นมากๆ ดีอ่ะ คราวหน้าพี่จะไปไหนต้องพยายามหาข้อมูลและวางแผนการเดินทางให้ได้แบบนี้บ้าง จะได้ไม่มีคำว่าพลาด อิอิ
โดย: Max Bulliboo วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:22:31:07 น.
  
ตอนนี้กำลังพุงแฟ่บเลยค่ะ
แต่ว่าตุนเอาไว้พรุ่งนี้ได้ป่ะคะ
มีรับประกันพุงแตกด้วยนี่เอาแบบเต็มที่เลยเนาะ

โหห.. แวะเที่ยวทุกที่แวะกินตลอดทางยังงี้เอง
หิวๆค่ะ ดึกแล้วซะด้วยสิ
แวะไหว้พระก่อนนะเนี่ยยังข่มไม่ลงเลยอ่ะ
ปาดน้ำลายก่อน



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
NENE77 Home & Garden Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:22:48:27 น.
  
คุณเต้ยคะ
3 วัน 2 คืนกับแผนการเดินทางที่จัดเต็มทั้งที่เที่ยวและที่กิน
ถ้าตามรอยได้ครึ่งหนึ่งของคุณเต้ยก็เยี่ยมแล้วค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

AppleWi Beauty Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Music Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Fanclub Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

.............................
โดย: Sweet_pills วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:0:35:51 น.
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:4:14:50 น.
  

สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:6:21:38 น.
  
ฮัลลลโหล มาชวนไปฟังเพลงบรรเลงเพราะๆกันจ้ะ

โดย: mambymam วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:8:18:39 น.
  
พี่ก็ชอบ ทำนองเพลงเพราะจริงๆ
แฝงความเศร้านิดๆ+อารมฌ์ชวนคิดถึงและโหยหาหน่อยๆ
ยิ่งฟังตอนฝนตกๆนี่ น้ำตาอาจพรั่งพรูรัวๆ

ขอบคุณที่แวะฟังด้วยกันจ้ะ

โดย: mambymam วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:8:43:24 น.
  
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog

ไปๆ อยากไปมากค่ะ
โดย: kae+aoe วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:10:08:29 น.
  
ผมมาพลิกชีวิตจากที่โหล่มาเป็นที่หนึ่ง
ตอนย้ายบ้านครับ
จากกรุงเทพไปอยุ่จังหวัดเลย

เรียนเก่งซะงั้น 555

อาจเพราะตอนอยู่กรุงเทพเรียนเยอะด้วยมั้งครับ
เด็กในกรุงเทพเรียนเร็ว เรียนเยอะจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:10:21:41 น.
  
ตามไปด้วยยยยย
ชอบมากเลยค่ะทัวร์กินไปเที่ยวไปแบบนี้

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: Raizin Heart วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:11:17:19 น.
  
ก็ไม่ยอมเรียนพิเศษแบบเพื่อนๆ เค้า ก้สนุกสิค่ะ เห็นว่าเทอมนี้เธอจะเอาที่ 1. โห...ขี้โม้สะด้วย คือขอต้นคริสมาสแม่ไม่ยอมซื้อให้ค่ะ...
โดย: kae+aoe วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:11:38:42 น.
  
ใช่เด็กคนนี้ป่าวจ๊ะ Sungha Jung
ตามคลิปนี้นี้อ่ะจ้ะ
https://www.youtube.com/watch?v=IBAVuzZAdmE

โดย: mambymam วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:11:50:42 น.
  
คุณเต้ยยอมแพ้เรื่องช๊อป แต่ไม่ยอมแพ้เรื่องกินชิมิ ท่าทางจี๊ดจ๊าดจะกินได้หนำใจเท่าคุณเต้ยมั้ยเนี่ย

จี๊ดจ๊าดเกิดปี 2518 ค่ะ ขออนุญาตเรียกชื่ออยากหนินหนมน้า เป็นน้องเต้ยรึพี่เต้ย รึเต้ยดีอ่ะคระ
โดย: จี้ดจ้าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:12:16:16 น.
  
ย่องๆๆๆ มาบอกว่า เป็นคนแรกที่ทายถูก!!! ฮ่าๆๆ เฮ้ยไอ้คนรักเก่านั่นลืมมันไปเหอะ หาใหม่ๆๆๆๆ เมื่อวานเจ๊ไปว่ายน้ำมา หนึ่งชั่วโมงน้ำ! จิบอกว่า ฟรีสไตล์ ช้านนน ทำได้แล้ววววว เย้ เย้ เริ่มคล่อง เริ่มพลิกตัวหายใจได้คล่องแคล่ว ไม่มีการยกหัวหายใจ สบ๊าย สบาย...แถม ไอ้หนุ่มคนที่ว่ายอยู่เลนข้างๆนี่ หล่อโคตรเลยว่ะ 555
โดย: Max Bulliboo วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:13:47:13 น.
  
ใช่เลยครับ
ผมก็เชื่ออย่างนั้นครับ
ถึงเวลา รู้เอง
เพียงแต่ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะรู้ไว้เรื่อยๆด้วยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:14:00:36 น.
  

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

วันนี้จัดเต็มจัดหนักเลยนะคะ
รายละเอียดข้อมูลเยี่ยมมาก
เลยค่ะ ของกินของอร่อยก็มา
เพียบ เยี่ยมเลยค่ะ
โดย: AppleWi วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:15:57:01 น.
  
จุใจเลยค่ะ
+
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:16:02:07 น.
  
น่าจะยากค่ะที่.1 เนี่ย แต่ถึงไม่ได้มี้ก็ซื้อให้ตลอดๆ 555555
โดย: kae+aoe วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:17:07:08 น.
  
เด็กคนนี้เล่นกีร์ต้าเก่งมากกก
พี่เคยเอาผลงานเค้าลงบล็อกเมือสองปีมาแล้วล่ะ
ตอนนั้นเล่นเพลง i'm your ฟังเพลินมาก
ตามลิ้งค์นี้จ้ะ

//goo.gl/AAf8Ks


โดย: mambymam วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:18:36:05 น.
  
ดีมากเลยครับ
โดย: แมน AdminM IP: 27.145.53.241 วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:19:17:22 น.
  
แวะมาเยี่ยมนะคะ
แล้วต่อไปพี่คงจะไม่ได้มาบ่อย
และคงต้องมาสั้นๆด้วย

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:20:21:59 น.
  
จัดเต็มเลยครับพี่เต้ย ชอบร้านกาแฟแต่ละร้านที่พี่เต้ยไป ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ นะครับ
โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:20:36:26 น.
  
การเดินทางของคุณเต้ย งี้ละเอียดยิบ
แม่ซองฯเวลาจะไปไหนไปเลย
บางทีไปเก้ๆกังๆเสียเวลาไปเยอะ ไปหลายวันเที่ยวได้ไม่ถึงไหนเลย
ยกนิ้วโป้งให้ เก่งจริงๆค่ะ

แต่โหวดหมดตัวค่ะวันนี้
พรุ่งนี้มาใหม่นะคะ คุณเต้ย

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:21:06:49 น.
  
ราคาบางกอกแอร์เวย์ดีงามมากเลยค่าพี่เต้ย
รถเช่าที่เป็นระบบการจัดการแบบนี้จะมีการวางบัตรเครดิตไว้แบบนี้นะคะ
ไม่เหมือนรถเช่าที่บริหารเอง
ประกัน 3000 ก็รับรถขับได้แล้ว อิอิ

เห็นแล้วอยากลองไปคนเดียว เดินทางคนเดียวบ้าง
จะทำให้เราแกร่งขึ้นนะรินมั่นใจ

ไม่มีเหงาแน่นอนค่า ชอบๆ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
FreakGirL Diarist ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Fanclub Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:22:37:45 น.
  
สวัสดีค่ะคุณเต้ย
ขอบคุณสำหรับรีวิว
ชอบรีวิวแบบนี้ละเอียดดีค่ะ
ตามรอยไปเที่ยวได้ตามนี้เลย
แล้วจะตามไปเที่ยวค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ 

ผู้เขียน Blogหมวดเนื้อหาBlog ได้รับโหวต
mambymamMusic Blogดู Blog
ชมพรAbout Weblogดู Blog
MaeboonTravel Blogดู Blog
ออมอำพันLiterature Blogดู Blog
ก้นกะลาMusic Blogดู Blog
ปรัซซี่Food Blogดู Blog
ดอยสะเก็ดLiterature Blogดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อTravel Blogดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: pantawan วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:23:32:16 น.
  

สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:6:32:46 น.
  
กว่าจะอ่านจบ 5555
รู้สึกว่าจะไม่เคยไปแพร่นะเนี่ย ดูเป็นจังหวัดที่ยังมีความเป็นธรรมชาติมาก ๆ

ข้อมูลเจ๊แน่นจัดเต็มตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านอย่างชิ้งว่าจริง ๆ แฮ่

อยากไปไหว้หลวงพ่อทันใจที่พระธาตุช่อแฮ บ้านทุ่งโฮ้งนี่ก็น่าไปอ่ะชุดหม้อห้อมสมัยใหม่รูปแบบเก๋ ๆ ดี น่าช็อป คุ้มเจ้าหลวงนี่น่าไป ชอบบ้านสมัยโบราณมีช่องเก็บสมบัติด้วยดูลึกลับดี พระธาตุสุโทนมงคลคีรี นี่ก็สวยจริงค่ะ

ส่วนของกินนี่ทั้ง ขนมครกแม่หล่าย ขนมจีนน้ำย้อยป้ารัตน์ จิงเจอร์เบรดวัฟเฟิล ร้าน Ginger Bread House&Gallery บราวนี่เซ็ตร้าน Charlotte Hut Coffee&Tea Bar โอ้ยอยากกินไปหมด ว่าแต่แป้งนมทอดคือไรอ่ะ ?? แล้ว"แพร่แห่ระเบิด" เกิดมาจากอะไร ??

ปล.นี่ถ้าลาได้ลาไปเป็นเพื่อนแล้ว อิอิ

ปล.2 โหวตท่องเที่ยวฮ้าบบบบ
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:8:23:12 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Music Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
ชีริว Funniest Blog ดู Blog
The Kop Civil Diarist ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โหหหหหหหหหหห
หนูไม่รู้จะกินอะไรก่อนดี
ขนมจีน หรือ ขนมครก
ของกินเยอะมากกก

ปอลิง ซูชิมาแล้วน้าาาพี่เต้ย

ตอบค่ะ รอบ ๆ โรงแรมมีร้านอาหารอยู่ค่ะ แต่บุ๊งไปกินที่ JR อ่ะพี่
โดย: Close To Heaven วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:10:00:22 น.
  
พี่ก็อยากจะอุทานเหมือนเต้ยแหละ แพร่ ... นี่ชั้นไปอยู่ที่ไหนมา ฮึ

ไปดูเฮือนนานาแล้วจ้ะ

3 วัน 2 คืน เต้ยเก็บรายละเอียด ทั้งที่เที่ยวที่กิน มาเยอะมาก อยากไปตามรอยหลายที่ พี่ต้องเผื่อวันขับรถไปกลับด้วยเนอะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:14:43:17 น.
  
เข้าไปที่ https://goo.gl/
แล้วพิมพ์เว็บที่เราเราจะเข้าไปดู แปะลงไปในช่องว่างจ้ะแล้วจะมีคำให้ติ๊ก ก็จัดการเลย
แล้วจะได้ลิ้งค์แบบสั้นๆออกมาจ้า

โดย: mambymam วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:15:52:08 น.
  
หมิงหมิงใส่รองเท้าเบอร์ 37 แล้วครับ
ผมใส่เบอร์ 39 ครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:16:07:26 น.
  
ขอบคุณนะคะที่แวะไปทักทายกัน
โดย: ออมอำพัน วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:16:50:28 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณสาวไกด์

มาเยี่ยมบล็อกนี้ทีไรข้อมูลการท่องเที่ยวแน่นเปรี้ยะจริงๆ
ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ
เราไม่ซีเรียสค่ะจะโหวตหมวดไหนก็ได้
ไม่ค่อยเข้าใจกติกาโหวตด้วยล่ะค่ะ...อิอิ

สำหรับบล็อกนี้เราโหวตให้นะคะ
>>สาวไกด์ใจซื่อTravel Blog<<
โดย: ผีเสื้อยิปซี วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:18:30:21 น.
  
มาโหวดให้ค่ะ คุณเต้ย
เห็นคนขยันเขียนบล๊อกแล้วอายค่ะ
อิอิ วันไหนตั้งใจจะเขียนก็ไม่ได้เขียนซักที
ขี้เกียจเป็นประจำ 555
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:18:54:51 น.
  
ใช้เว็บตัวที่พี่บอกน่ะสะดวกดีจ้ะ
เพราะบางเว็บที่เราอ้างอิงนี่ยาวมากกก
ทำให้เลอะบล็อก ทีนี้พอเว็บไหนยาวๆก็เอาไปแปะเลย
มันก็จะแปลงออกมาชื่อสั้นๆ สบายฝุดๆจ้ะ

โดย: mambymam วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:19:02:09 น.
  
นั่นน่ะสิครับคุณเต้ย
โตเร็วมาก เสื้อผ้าเปลี่ยนไซส์แทบไม่ทันเลย 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:19:18:30 น.
  
แพร่ก็เคยเที่ยว แบบผ่านๆ ไม่เต็มที่เลย

ภาพถ่ายสะสมมาเยอะค่ะ เดินทางบ่อยจนเพื่อนถาม เป็นไกด์ป่ะ ทำบริษัททัวร์ เปิดเหอะ 555 คือชอบเที่ยวชอบเดินทาง มีความสุขค่ะ งานประจำก็ทำ แต่พอมีเวลาก็หาที่เที่ยวอีกละ
โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ IP: 1.47.104.134 วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:19:31:36 น.
  
คุณเต้ยวางแผนการเที่ยวละเอียดยิบ เห็นแล้วนับถือเลยค่ะ แสดงว่าเป็นคนทำงานมีระบบระเบียบมาก ชอบค่ะ


หญิงเดี่ยว....เที่ยวแพร่ จัดเต็มพุงแตกแน่ รับประกัน ชอบคำนี้อีกแล้ว


ทริปนี้จัดเต็มทุกอย่าง คนทำเหนื่อย แต่คนอ่านคุ้มค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:22:57:58 น.
  
ตามมาเที่ยว มาอิ่มพุง ด้วยครับ
ภาพและข้อมูลเพียบเลยครับ
ไปแพร่มาเมื่อต้นปี ได้ไหว้พระอย่างเดียวครับ
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:23:18:25 น.
  

สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มิถุนายน 2559 เวลา:6:26:05 น.
  
ว๊าวววว ผัดไทยใส่ตับ ยังไม่เคยลองคราบ คราวหลังจะไปกินอะไรที่เพชรบุรีแอบถามพี่เต้ยดีก่า อิอิอิ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 23 มิถุนายน 2559 เวลา:6:55:50 น.
  
แพร่ เป็นเมืองที่ห้ามพลาดจริงๆ เลยค่
โดย: A Pun Aru (Pun Arun ) วันที่: 24 มิถุนายน 2559 เวลา:6:09:25 น.
  
Perfect!!
ทริปนี้เพอร์เฟคมากฮะ ที่เที่ยว ที่กิน ที่นอน แจ๋วๆ ทั้งนั้น แพร่เมืองน่าเที่ยวจริงๆ
โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 26 มิถุนายน 2559 เวลา:11:07:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pakwan.BlogGang.com

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

บทความทั้งหมด