##### รีวิว วัดศรีสุพรรณ เชียงใหม่ - อุโบสถเงินอันงดงาม #####






สวัสดีค่า





เอนทรี่ล่าสุด รีวิวร้านอาหารกรุงเทพฯ - ก๋วยเตี๋ยวเรือพระนคร ถูกและอร่อย ณ อนุเสาวรีย์ชัยฯ ค่ะ (คลิกเพื่ออ่าน)








หลังจากปล่อยรีวิวเชียงใหม่มาแล้วดังนี้

เอนทรี่สุดท้ายของรวมรีวิวกินๆ เที่ยวๆ เชียงใหม่ (คลิกเพื่ออ่าน)

ห้องพักของธาตุคำวิลเลจ (คลิกเพื่ออ่าน)

อาหารเช้าโรงแรมธาตุคำวิลเลจ








วันนี้ก็จะพาไปเที่ยวกันต่อบ้างนะคะ ซึ่งเป็นที่ที่เราหมายมั่นปั้นมือมานาน เห็นรีวิวมาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่สบโอกาสไปสักที พอไปรอบนี้ก็เลยได้โอกาสไปจนได้ นั่นก็คือวัดศรีสุพรรณนั่นเอง

และเช่นเคยว่าทริปนี้นี่ ไปตอนที่ยังใช้กล้องเดี้ยงๆ ตัวเก่า ยังไม่ใช่ OMD นะคะ เพราะงั้นคุณภาพภาพก็ตามที่เห็นหละค่ะ แหะๆ




สำหรับประวัติของวัดนี้ก็ตามนี้นะคะ

credit : //www.comingthailand.com/chiangmai/wat-srisuphan.html

เป็นวัดเก่าที่สร้างขึ้นในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2043 โดยได้อัญเชิญพระเจ้าเจ็ดตื้อ พระพุทธรูปสำริดมาประดิษฐานเป็นประธานภายในพระอุโบสถ ภายหลังต่อมาได้มีการบูรณะวัดโดยการสร้างพระวิหารขึ้นในสมัย พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2403


สำหรับการเดินทางมาวัดศรีสุพรรณ ถ้าเริ่มต้นจากถนนรอบเมืองให้เลี้ยวเข้าถนนวัวลาย แล้วตรงมาประมาณ 600 เมตร จะเห็นป้ายวัดศรีสุพรรณอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปอีก 50 เมตรก็จะเจอวัดศรีสุพรรณแล้วหละค่ะ


พอเข้าไปในวัดปุ๊บก็เจออาคารหลังนี้ค่ะ แล้วก็เห็นป้ายบอกทางไปอุโบสถเงิน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเราน่ะค่ะ ก็เดินไปตามป้ายเลย





















ระหว่างทางก็เห็นศาลาซึ่งมีช่างฝีมือที่กำลังช่วยกันสร้างวัดอยู่ค่ะ (แต่เราไปมาปีกว่าเกือบสองปีแล้วนะคะ แหะๆ เพราะฉะนั้นป่านนี้ตรงนี้อาจจะไม่มีแล้วหละค่ะ)





















ก็เลยเดินเข้าไปเก็บภาพสล่า (คำเรียกช่างฝีมือทางภาคเหนือ) ที่กำลังสร้างสรรค์ชิ้นงานมาฝากค่ะ

























หันไปทางขวาก็จะเห็นวิหารสีทอง และอุโบสถเงินที่กำลังสร้างอยู่ไกลๆ แล้วนะคะ


สาเหตุที่วัดนี้สร้างอุโบสถเงินเพราะว่า วันนี้อยู่ในย่านถนนวัวลายซึ่งเป็นย่านทำเครื่องเงินเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นอุโบสถเงินหลังแรกของโลก อาจจะถือได้ว่าเป็น Unseen แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่เลยหละค่ะ





















สำหรับวิหารของวัดนี้ ก็มีความเป็นมาตามนี้นะคะ

เครดิต //www.comingthailand.com/chiangmai/wat-srisuphan.html


พระวิหาร เป็นพระวิหารทรงล้านนา สร้างในสมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2403 จิตรกรรมฝาผนังภายวิหารเป็นภาพเกี่ยวกับชาดกและพุทธประวัติ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นประธาน





















พระประธานภายในวิหารซึ่งเป็นปางมารวิชัยนะคะ























นอกจากพระประธานแล้วก็มีพระองค์อื่นๆ รายล้อมนะคะ รวมทั้งรูปหล่อพระสาวกด้วยค่ะ





















ใบหน้าท่านดูนิ่งๆ เนาะ ด้านหลังเป็นรูปเงาของพระพุทธรูปหลายๆ องค์ด้วยนะคะ





















พระพุทธรูปองค์อื่นๆ ด้านซ้ายและขวาค่ะ





















บุษบกค่ะ ถ้าหันหน้าเข้าพระประธาน จะอยู่ทางขวามือนะคะ





















ภาพจิตรกรรมภายในวิหารค่ะ

























งานฝีมือที่ใช้ประดับภายในวิหารค่ะ เท่าที่ดูเป็นเรื่องของทศชาติชาดกนะคะ

ที่คุ้นๆ สุดก็พระมหาชนกนี่แหละนะคะ





















แล้วก็มีเรื่องของพุทธประวัติ ตอนประสูติด้วยนะคะ (เห็นภาพแล้วเสียดาย ที่ตอนนั้นยังไม่มี OMD)





















อย่างเหนือบานประตูเข้าวิหารก็จะเป็นกัณฑ์ต่างๆ ในพระเวสสันดรชาดกนะคะ























นอกจากนั้นก็มีพระธาตุให้ได้สักการะกันด้วยค่ะ





















ไปที่อุโบสถกันบ้างดีกว่านะคะ ตรงก่อนถึงพระอุโบสถ จะมีรูปพระพิฆเณศวร์ด้วยค่ะ

แต่ตอนเราไปยังไม่ลงสีนะคะ เห็นในเว็บบางเว็บเป็นสีนวลอมชมพูไปแล้ว























อย่างที่ได้บอกว่า ที่นี่เป็นพระอุโบสถเงินแห่งแรกของโลกนะคะ

มีป้ายบอกเล่าความเป็นมาหลายๆ อย่างด้วย เสียดายค่ะ ไม่ได้อ่านมาละเอียดๆ (แต่ต่อให้อ่าน เราว่ากว่าจะมารีวิว เราลืมหมดแล้วแหงๆ ฮา )























ไปที่อุโบสถกันค่ะ ตอนเราไปการก่อสร้างยังมีเพียงเท่านี้หละนะคะ


สำหรับในส่วนของการก่อสร้างอุโบสถเงินนะคะ

ได้ข้อมูลมาจาก //www.emagtravel.com/archive/wat-srisuphan.html


อุโบสถเงิน วัดศรีสุพรรณ สร้างโดยชาวบ้าน เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา อนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น หัตถกรรมเครื่องเงิน ใช้งบประมาณ 25 ล้านบาท ดำเนินการสร้างมาแล้ว 8 ปีกว่า ใช้งบประมาณไป 12 ล้านบาทเศษ งานเสร็จไป 60% ตอนนี้ยังขาดทุนทรัพย์อีกประมาณ 13 ล้านบาท ในการดำเนินการส่วนประดับตกแต่งศิลปหัตถกรรมเครื่องเงิน ทั้งภายในและภายนอก





















มีต้นไม้ทองอยู่ด้านหน้าอุโบสถด้วยค่ะ





















ถ่ายเข้าไปให้เห็นพระพุทธรูปในอุโบสถค่ะ

แต่ก่อนจะก้าวเข้าไปนั่นเองก็เห็นป้ายห้ามสุภาพสตรีเข้าค่ะ

เลยได้แต่สักการะพระเจ้าเจ็ดตื้ออยู่ด้านนอกค่ะ























เลยพยายามซูมพระเจ้าเจ็ดตื้อมาแบบใกล้ๆ ที่สุดเท่าที่จะทำได้มาฝากเพื่อนบล็อกนะคะ

























เสียดายจริงๆ ค่ะ ที่เข้าไปไม่ได้อ้ะ

ถ้าเข้าไปด้านใน น่าจะได้เก็บภาพแบบเจาะมามากกว่านี้อะค่ะ
































ที่จริงมีเรื่องเล่าอิงประวัติศาสตร์ด้วยว่า ในสมัยสงครามโลกวัดศรีสุพรรณเคยเป็นที่ตั้งของกองทหารญี่ปุ่น และกองทหารนี้เคยถูกโจมตีด้วยกระสุนปืน และกระสุนปืนนั้นเข้ามาโดนที่พระบาทขององค์พระ ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นจริงที่พระบาทขององค์พระประทานจะมีรอยอยู่นะคะ แต่ว่าเราไม่ได้ซูมตรงรอยพระบาทมาน่ะค่ะ ถ้าอยากเห็นลองไปดูที่ //www.emagtravel.com/archive/wat-srisuphan.html นะคะ

แต่ที่เราถ่ายรูปมา มันเห็นที่พระบาทท่านไม่ชัดง่า





















เก็บลวดลาบนพื้นปูนทางเข้าพระอุโบสถ และการตกแต่งต่างๆ มาฝากค่ะ

ถ้าเสร็จน่าจะงามมากๆ ทีเดียวหละค่ะ

























ตรงข้ามอุโบสถ จะมีตู้ให้หยอดบริจาคร่วมสร้างอุโบสถด้วยนะคะ ท่านใดอยากทำบุญด้วยการทำทานถวายปัจจัยสร้างอุโบสถก็นับว่าเป็นบุญจากทานที่มีผลมากนะคะ เพราะอุโบสถก็เป็นสิ่งก่อสร้างสาธารณะประโยชน์ที่มีประโยชน์ในทางธรรมด้วยน่ะค่ะ


แล้วก็มีน้ำมนต์ของพระพุทธปาฏิหาริย์ให้ได้นำกลับไปกันด้วยนะคะ แต่ก็ต้องร่วมทำบุญด้วยนะคะ ตามภาพเลยค่ะ





















ตอนเห็นต้นไม้ทองหน้าอุโบสถ เราก็นึกว่ามีใครทำมาถวายค่ะ มาทราบความจริงตอนเห็นอันนี้นี่เอง เค้าให้จารึกชื่อบนใบโพธิ์ค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต่อไปจะเอาใบโพธิ์นี้ไปหลอมรวมสร้างเป็นอะไรหรือเปล่านะคะ























ที่อเมซซิ่ง สุนัขที่นี่ก็เป็นสีเงินนะคะ (สีนี้จริงๆ นะเออ) ใครอาจจะดูว่าน่ารังเกียจ แต่เรามองว่า "งามแปลก" ค่ะ อันนี้พูดจริงไม่ได้ประชด ไม่งั้นไม่ถ่ายรูปมาฝากหรอกค่ะ


















สำหรับเอนทรี่นี้ก็พาเที่ยวแต่เพียงเท่านี้นะคะ ตอนนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าวัดนี้สร้างไปมากน้อยเพียงใดแล้ว ถ้าท่านใดมีโอกาสไปเชียงใหม่ ไปแถวถนนวัวลายก็ลองไปเที่ยวดูนะคะ สำหรับเรา..ถ้าอุโบสถสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ เราเองก็ตั้งใจว่าจะไปอีกสักครั้งหละค่ะ








ปฏิทินธรรม








วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2557

1. ตักบาตรพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น วัดพุทธบูชา (ทุกวันเสาร์แรกของเดือน)




วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น.


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447





วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2557 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts





วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗

1. เชิญทุกท่านร่วมสวดมนต์ และฟังการแสดงธรรม โดย พระครูเกษมธรรมทัต (พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรํสี) วัดมเหยงคณ์ จ. พระนครศรีอยุธยา

เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น.

ณ บ้านอารีย์

เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net





วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือน)

1. ตักบาตรพระกรรมฐาน (นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่น) ที่วัดบรมนิวาส (ไม่มีรายละเอียดอย่างอื่นค่ะ)





วันพุธที่ 23 เมษายน 2557

1. ฟังธรรม พระอาจารย์มานพ อุปสโม แห่งวัดนายโรง และศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จันทบุรี

18.30 น. - สวดมนต์ ทำวัตรเย็น / 19.00-21.00 น. - นั่งสมาธิ และ ฟังธรรม (เน้นการปฏิบัติ ตามแนวมหาสติปัฏฐาน 4)

ณ หอประชุมพุทธคยา อมรินทร์พลาซ่า ชั้น 22

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/events/134572353382966/?ref=5




วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2557 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)

1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม พระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตร โดย พระราชภาวนาพินิจ (หลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย) วัดพุทธบูชา กรุงเทพฯ พระครูพุทธิสารสุนทร (หลวงพ่อบุญกู้ อนุวฑฺโน) วัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพฯ

เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ บ้านอารีย์

เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net




















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+1514822=2984518/10446/847





Create Date : 21 เมษายน 2557
Last Update : 21 เมษายน 2557 8:53:17 น.
Counter : 4841 Pageviews.

20 comments
ตลาดเช้า, สถานีรถไฟพินอูลวิน สายหมอกและก้อนเมฆ
(18 เม.ย. 2567 17:06:42 น.)
วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง tuk-tuk@korat
(14 เม.ย. 2567 13:54:44 น.)
ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มฟื้นคืนชีพ สวยสุดซอย
(12 เม.ย. 2567 14:13:40 น.)
หาอะไรดับร้อนกับน้องถั่วแดงที่ร้านเย็น เย็น หวานเย็น สาขาMRTท่าพระ นายแว่นขยันเที่ยว
(12 เม.ย. 2567 00:32:31 น.)
  
กรี๊ดดด
โดย: Close To Heaven วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:9:43:16 น.
  
เสียดายที่เข้าไปไม่ได้ค่ะพี่เต้ย
ไม่อย่างนั้น บุ๊งก็จะมีโอกาสได้ชมภาพด้านในสวย ๆ ด้วยอีกคน เนอะ ๆๆๆๆๆ
โดย: Close To Heaven วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:9:43:45 น.
  
ขอมาเที่ยวชมวัดด้วยคนนะคะ
โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:11:53:39 น.
  
~ โหหห พี่คะ เชื่อเลยว่าพี่ถ่ายน้องหมามา 555555555555

โดย: ~ ริมน้ำ_VoUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:12:35:01 น.
  
สวัสดีค่ะ ไปมาเมื่อปีที่แล้วค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:16:41:42 น.
  
สวัสดีค่ะ ตามสาวไกด์มาเที่ยวค่ะ

อิชั้นแอบดีใจนะคะ ที่เห็นว่าช่างฝีมือยังมีสืบต่อกันอยู่ ซึ่งดูๆแล้วหายากนะคะ ไม่อยากให้สูญหายไป

ปล. เค้าห้าม ผญ เข้าไป ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะ ที่อุตส่าห์ซูมๆ ถ่ายมาให้ดู

แต่ น้องหมา เอิ่ม...น่าสงสารอ่ะค่ะ
โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:17:51:20 น.
  
สวัสดีครับคุณเต้ย

วัดนี้
ผมว่าจะๆไป
แต่ก็ยังไมไ่ด้ไปเสียทีครับ
ดูจากรูปในบล็อกคุณเต้ยแล้ว
ต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆเลยนะครับ
วัดสวยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:20:50:00 น.
  
เข้ามาตามพี่เต้ยไปเที่ยววววว

คุณหมาสีเงินทรงผมเท่มากเลย
โดย: Tisiny วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:22:34:34 น.
  
งดงามอลังกาณ์มากจริงๆค่ะ
ตื่นตาตื่นใจทุกภาพเลย
ฝีมืองานแกะสลักของช่างชาวเชียงใหม่
จะหาใครมาเทียบนั้น ยากจริงๆ
โดย: ฝากเธอ วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:22:41:43 น.
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:3:55:19 น.
  
สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย

โหวตบล็อกท่องที่ยวให้นะครับ
วัดนี้ไม่พลาดแน่นอนครับ
เดี๋ยวหาเวลาไปถ่ายภาพครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:6:40:26 น.
  
ตามมาเที่ยวค่า น่าเสียดายผู้หญิงเข้าไม่ได้
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:7:58:30 น.
  
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog


วัดนี้น่าเดินทั้งกลางวัน กลางคืน
หากเป็นวันที่มีถนนคนเดิน
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:8:03:14 น.
  

ยังไม่เคยไปเลยค่ะวัดนี้น่าสนใจสวยงามดีค่ะถ้าไปเชียงใหม่จะต้องหาโอกาสไปชมบ้างค่ะโหวตด้วยค่ะ

สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: พรไม้หอม วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:15:24:42 น.
  
สวัสดีค่ะ แวะมาบอก เด๋ววันศุกร์นี้จะไปเมืองเพชร ตามรอยร้านขนมจีนทอดมันกับลอดช่องน้ำตาลข้นนะคะ แล้วจะกลับมารีวิวให้ดูคร้าาาา
โดย: touch the sky วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:19:53:28 น.
  
มันเป็นเรื่องที่น่าขัดใจอยู่อ่ะค่ะเวลาไปวัดทางเหนือ เพราะบางที่ บางโบสถ์/วิหาร ก็จะห้ามผู้หญิงเข้าไป T.T
โดย: keigolin วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:22:32:00 น.
  
ตัววัดดูสวยดีครับ ภายในดูอลังการมากๆ

พวกช่างฝีมือนี่ดูแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ นี่สินะเงาะซ่อนรูป

สุนัขดูน่าสงสารครับ สังเกตตรงคอเหมือนจะเป็นแผลเลย

+
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:0:22:26 น.
  
อยู่ใกล้บ้านแต่ไม่เคยเข้าไปเลยค่ะ สวยมากค่ะ
โดย: mariabamboo วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:8:34:26 น.
  
บางทีการเกิดมาเป็นสตรีก็อับเฉานัก

กว่าพี่จะได้ไป...อุโบสถเงินหลังงามน่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้วแน่เลย

งบ 25 ล้าน คงอลังการงานสร้างดีจ้ะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 5 พฤษภาคม 2557 เวลา:17:10:41 น.
  
ท่ีว่าบุษบกนั้น ความจริงคือธรรมมาสน์แบบโบราณล้านนา สมัยเม่ือธรรมมาสน์ของส.ธรรมภักดี(ก่อนพ.ศ.๒๕๐๐)ยังไม่มีไปเผยแพร่ ธุและพระ(เณร)ทางภาคเหนือก้อขึ้นไปบนธรมมาสน์นี้แหละเพื่อเทศน์ธรรมให้พ่อออก-แม่ออก(ศรัทธาญาติโยม)ฟัง
โดย: หนานเตอะ (สมาชิกหมายเลข 726927 ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2557 เวลา:16:36:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pakwan.BlogGang.com

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

บทความทั้งหมด