###### รีวิวคุ้ม (บ้าน) วงศ์บุรี บ้านสีชมพูที่สร้างขึ้นด้วยความรักและเพื่อความรัก ######









สวัสดีฮ้าบบบบบ






เอนทรี่นี้พาไปเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่ที่เราชอบมาก และนี่เป็นการแวะมาเป็นครั้งที่สองค่ะ กับบ้านวงศ์บุรีนะคะ







สำหรับที่นี่ ตอนเราไปตอนเช้าเลยจะเข้าได้จากทางเดียวนะคะ แม้จะมีประตูอีกฝั่ง แต่จะปิดไว้ตลอด (จนตอนแรกเรานึกว่าปิด แหะๆ) แต่พอตอนจะกลับ เหมือนจะเห็นเปิดนะคะ เลยไม่แน่ใจว่ายังไงแน่นะคะ สวนที่จอดรถ หันหน้าเข้าอาคารตามรูปบน ต้องไปทางขวามือค่ะ จะมีที่จอดรถซึ่งจะอยู่ใกล้ๆ กับร้านอาหารเลย แต่ตอนเราไปร้านอาหารไม่ได้เปิดเช่นกันค่ะ







หันหน้าเข้าบ้าน เดินขึ้นไปทางขวามือนะคะ ต้องถอดรองเท้าและซื้อตั๋วเข้าค่ะ ราคา 30 บาท โดยจะมีน้องผู้หญิงนำเที่ยวชมด้วยนะคะ โดยด้านหลังที่ขายตั๋วจะเป็นห้องที่ขายของที่ระลึกค่ะ







จากนั้นน้องก็พาขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองค่ะ ก่อนจะพาไปชม แปะผังที่เราทำให้ดูเป็นเบื้องต้นก่อนแล้วกันเนาะคะ








ขึ้นปุ๊บทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นเวิ้งที่มีรูปของแม่เจ้าบัวถา ชายาองค์แรกของเจ้าหลวงฯ นะคะ







ส่วนอีกฝั่ง จะมีชุดรับแขกอยู่ เครื่องเรือนเหล่านี้เป็นของเก่าหมดทั้งสิ้นเลยค่ะ และจะเห็นพระฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยนะคะ







ประวัติคุ้มวงศ์บุรีค่ะ ทำให้ทราบว่าทำไมถึงสามารถเรียกที่นี่ว่าคุ้มได้ (แต่เราเคยเจอทั้งคนเรียกว่าคุ้มและบ้านแหละ แหะๆ) และสาเหตุที่มีการก่อสร้างแบบขนมปังขิงก็เพราะเป็นความนิยมในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ นั่นเองค่ะ


ซึ่งอย่างที่ในป้ายได้บอกเล่าไว้นะคะ แม่เจ้าบัวถาสร้างคุ้มหลังนี้ก็เพื่อเป็นของขวัญให้กับเจ้าสุนันตา ลูกสาวของน้องชาย มีศักดิ์เป็นหลาน แต่ท่านรับเป็นบุตรีบุญธรรมด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นจึงถือว่าเป็นการสร้างด้วยความรักที่ท่านมีต่อหลานและเพื่อความรักของหลานกับหลานเขย จึงทำให้ท่านสร้างบ้านหลังนี้เป็นสีชมพูนั่นเองค่ะ ซึ่งบ้านหลังนี้สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2440 นับจนถึงปีนี้ก็มีอายะ 119 ปีแล้ว (ปีหน้าครบ 120 น่าจะจัดอะไรสักหน่อยนะคะนี่) และลูกหลานก็ได้อาศัยที่คุ้มหลังนี้มาจวบจนปัจจุบันเลยนะคะ สืบทอดกันมาทั้งหมด 5 รุ่นแล้วค่ะ (ถ้านับจากแม่เจ้าบัวถา) แม่เจ้าบัวถาเสียชีวิตเมื่อมีอายุได้ 97 ปีค่ะ


ซึ่งที่นี่ถูกออกแบบและดูทิศทางลมด้วยชาวจีนกวางตุ้ง แต่สล่าไทยเป็นคนสร้างนะคะ และเป็นคุ้มแห่งแรกที่สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลังค่ะ (แต่แพร่เขาก็เมืองไม้สักอยู่แล้วน่ะนะคะ)







มาดูห้องต่างๆ ของชั้นบนนะคะ จากห้องรับแขก เราไปยังปีกขวาของบ้าน มีทางเดินคั่นอยู่ตามภาพนะคะ ห้องแรกจะเป็นห้องนอนของเจ้าสุนันตาและหลวงพงษ์พิบูลผู้เป็นสามีนั่นเองค่ะ










จากห้องนอนของเจ้าสุนันตา ติดกันเป็นห้องผีครู ซึ่งห้ามถ่ายรูป จึงไม่มีรูปมาฝากนะคะ เป็นห้องที่เก็บศาสตราวุธ อาวุธปราบช้าง ทุกๆ ปีจะมีงานทำบุญ แต่ไม่ได้กำหนดวันแน่นอนค่ะ


ถัดไปจากห้องผีครู จะเป็นห้องทำงานนะคะ ก็จะมีเอกสารการซื้อขาย การขอสัมปทานป่าไม้ ฯลฯ มากมายเลยค่ะ ห้องนี้ถ่ายรูปได้ จึงมีรูปมาฝากกันค่ะ จะมีเอกสารที่มีหัวเขียนว่าห้างล่ำซำด้วยนะคะ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อนด้วยค่ะ












มีรายชื่อเจ้าผู้ครองนครแพร่ทั้งหมดด้วยค่ะ 







ตรงด้านหน้าห้องทำงาน จะมีตู้สำหรับเก็บเอกสารสำคัญ ซึ่งให้เราดูได้ แต่ถ่ายรูปไม่ได้นะคะ เป็นเอกสารการซื้อขายทาส ที่จะมีการทำกากบาทไว้ท้ายกระดาษ เพื่อไม่ให้มีการโกงเพิ่มชื่อด้วยค่ะ ซึ่งราคาทาสสมัยนั้นก็มีตั้งแต่ 20-60 บาทนะคะ นอกจากนั้นก็ยังมีตั๋วช้าง ที่จะระบุลักษณะสำคัญของช้างแต่ละเชือก เปรียบเสมือนเป็นบัตรประชาชนของช้างนั่นเองค่ะ


สำหรับโถงด้านหลัง จะมีขันโตกกลางบ้านอยู่ด้วยนะคะ เอาไว้เป็นที่รับประทานอาหารค่ะ ที่จริงจะติดพืื้นนะคะ แต่ว่ามีการยกขึ้นมาเพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นน่ะค่ะ 






นอกจากนั้นน้องยังเล่าให้ฟังว่า หมอนใบนี้เรียกว่าหมอนสอดค่ะ เวลามีผู้ชายมาจีบสาว ก็จะให้ผู้ชายเอามือสอดเข้าไปในหมอนนะคะ แล้วผู้หญิงก็จะถือไส้หมอนไว้ ถ้าผู้ชายทำรุ่มร่าม ก็จะใช้ไส้หมอนตีค่ะ (แหม้ เป็นสมัยนี้นี่ ผู้หญิงอาจจะต้องเป็นฝ่ายเก็บมือแทนก็ได้นะคะ เย้ยยยย  )






ไปที่อีกปีกหนึ่งของบ้านกันบ้างค่ะ ห้องแรกจะเป็นห้องบรรพบุรุษนะคะ มีรูปของทายาทรุ่นที่ 4 ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยค่ะ อายุ 83 ปีแล้วนะคะ 






ติดกับห้องบรรพบุรุษจะเป็นห้องพระค่ะ มีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่ด้วย ห้องนี้ห้ามถ่ายรูปนะคะ เลยไม่มีรูปมาฝาก น้องเล่าให้ฟังด้วยว่า แต่เดิมเคยเป็นห้องเก็บสมบัติด้วยค่ะ


ถัดจากห้องพระ เป็นห้องนอนของแม่เจ้าบัวถาค่ะ เป็นห้องสีฟ้า ซึ่งเป็นสีโปรดของแม่เจ้าบัวถานั่นเองค่ะ มีห้องใต้หลังคาด้วยนะคะ แต่เดิมก็มีบันไดสำหรับขึ้นจากห้องนี้ไปใต้หลังคาด้วยค่ะ









ทั้งหมดที่พาไปชม จะเป็นในส่วนของคุ้มวงศ์บุรีเดิมทั้งหมดนะคะ ต่อไปน้องเขาก็พาไปชมส่วนที่ต่อเติมด้านหลัง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยของทายาทแต่ละรุ่นค่ะ







ส่วนที่ต่อเติมไปทางปีกขวาของคุ้ม ตรงนี้คือที่พักอาศัยของทายาทรุ่นที่ 4นะคะ (เมื่อสองสามปีก่อนโน้น เราได้พบท่านด้วยค่ะ ตอนพาลูกค้ามา ลูกค้ายังได้ถ่ายรูปหมู่กับท่านเลยแหละ) น้องเรียกว่าคุณยายค่ะ






นอกจากนั้น จากบ้านฝั่งปีกซ้าย ก็จะสามารถเห็นวัดพงษ์สุนันท์ ซึ่งเป็นวัดประจำตระกูลของตระกูลนี้ด้วยนะคะ ซึ่งตระกูลนี้เป็นคนบริจาคที่เพื่อการสร้างวัดนี้ค่ะ









ส่วนด้านหลังสุดของปีกซ้าย จะเป็นส่วนที่ทายาทรุ่นปัจจุบันที่อาศัยอยู่ที่นี่เอาไว้ใช้รับแขกค่ะ 







หลังจากชมเรียบร้อยแล้ว น้องก็พาเดินมาทะลุโถงกลางค่ะ แต่ด้านบนก่อนจะทะลุมาโถงกลาง จะมีรูปของแต่ละท่านในตระกูลนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแม่เจ้าบัวถา พระยาบุรีรัตน์ เจ้าสุนันตาและสามี ฯลฯ







ก่อนจะลงไปชั้นล่าง ก็ขอเก็บภาพตรงโถงกลางก่อนค่ะ สวยจริงๆ นะคะ เราหละชอบบ้านหลังนี้จัง







ลงไปที่ชั้นล่างกันค่ะ ที่ปีกขวาด้านหลังจะเป็นห้องที่ใช้จัดแสดงผลิตภัณฑ์จากไม้สักทองค่ะ







ส่วนที่ปีกซ้ายด้านหลัง จะเป็นห้องแสดงการแต่งกายของคนสมัยก่อน วึ่งจะมีทั้งไทยเขิน (จะแต่งกายออกแนวพม่าหน่อย) และไทยยวน (ซิ่นตีนจก) ค่ะ







สำหรับปีกขวาด้านหน้า จะมีผังเมืองแพร่ (คล้ายๆ ที่คุ้มเจ้าหลวงค่ะ) และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเมืองแพร่ค่ะ







นอกจากนั้น หากใครต้องการซื้อของที่ระลึกของคุ้มวงศ์บุรี ก็จะมีจำหน่าย อยู่ในห้องตรงด้านหลังที่ขายตั๋ว (เชิงบันไดขึ้นลง) นะคะ ราคาก็ไม่แพงเลยค่ะ มีเสื้อและแก้วมัคของทางคุ้มวงศ์บุรีเองด้วยนะคะ







แต่ถ้าใครอยากได้ของฝากที่เป็นของกิน ตรงข้ามคุ้มวงศ์บุรี จะมีมะขามโอท็อปสี่ดาวอยู่ค่ะ ชื่อมะขามแก้วแม่ขันทอง ซึ่งต้องไปซื้อหลัง 10 โมงเช้านะคะ เพราะตอนเช้าเจ้าของร้านจะไปตลาดค่ะ แล้วถ้าไม่มีคนนั่งขายอยู่ ก็กดกริ่งเรียกได้เลยค่ะ

ตัวมะขามจะมีแพ็คเกจด้วยกันสองแบบคือ แบบใส่ถุง ข้างในมีห้าแพ็ค และแบบเป็นกล่องๆ หนึ่งกล่องมีหนึ่งแพ็ค แล้วก็ใส่ถุงไว้อีกที แพ็คไว้สิบกล่องค่ะ ราคาที่เป็นถุงละห้าแพ็คคือ 50 บาท ส่วนที่เป็นกล่องก็ร้อยบาท ตกกล่องละ 10 บาทนะคะ รสชาติจะไม่เน้นหวานนักค่ะ เนื้อมะขามเยอะดี แล้วก็เคี้ยวหนึบหนับมากค่ะ







สำหรับเอนทรี่นี้ก็พาเที่ยวคุ้มวงศ์บุรีแบบเจาะลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้เรียบร้อยแล้วนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์หากใครจะไปเที่ยวที่นี่กันบ้างนะคะ 








ปฏิทินธรรม


วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2559 1. ฟังธรรมเสวนา เรื่อง งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์โดย ท่าน ว.วชิรเมธี 
เวลา 14.00 -15.30 น.ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ (ใกล้สถานทูตจีน)
https://www.facebook.com/v.vajiramedhi/photos/a.290267315876.154324.180070180876/10153490872720877/?type=3&theater




วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2559

1. งานทำบุญครบรอบ 21 ปี ศูนย์การค้า แฟชั่นไอส์แลนด์ ถวายภัตตาหาร และทอดผ้าป่า 15 วัด เวลา 6.30 น.ณ ศูนย์การค้า แฟชั่นไอส์แลนด์ คันนายาว กทม.

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.335848433125466.75888.335629013147408/1110969598946675/?type=3&theater


2. ตักบาตรพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น วัดพุทธบูชา (ทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2559
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. ง
านไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน
ณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ

https://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2559
1. พระอาจารย์มานพ อุปสโม แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน
ตั้งแต่เวลา 9.30 น. - 15.00 น. 
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2

ปฏฺิทินธรรมบ้านจิตสบาย
//www.jitsabuy.com/calender.html



วันอาทิตย์ที่ 12 และ 26 มิถุนายน 2559 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2559 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)


1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม พระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตร โดย


เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net


กิจกรรมอื่นๆ ของบ้านอารีย์
//www.baanaree.net/e_news/enews87.html



วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2559

1. พระราชทานเพลิงศพ พระญาณวิศิษฏ์ (หลวงพ่อทอง จันทสิริ) วัดอโศการาม

ณ เมรุชั่วคราววัดอโศการาม เวลา 15.00 น.

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.335848433125466.75888.335629013147408/1106788246031477/?type=3&theater
















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+3391926=4861622/12228/1151



Create Date : 16 มิถุนายน 2559
Last Update : 16 มิถุนายน 2559 8:31:54 น.
Counter : 6324 Pageviews.

11 comments
Slow Life ในเมืองเลย Alex on the rock
(15 เม.ย. 2567 07:44:23 น.)
++ พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม ++ wicsir
(13 เม.ย. 2567 10:29:52 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
ร้อนนี้ชวนเที่ยว ออบขาน เชียงใหม่ สมาชิกหมายเลข 4313444
(11 เม.ย. 2567 08:07:33 น.)
  
ชอบมากค่ะน้องเต้ย
บรรยายความรู้สึกไม่ถูก เห็นแล้วนึกจินตนาการ้อนหลังไปถึงสมัยนั้นเลยทีเดียว
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
บ้านต้นคูน Food Blog ดู Blog
ดาวริมทะเล Travel Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: เนินน้ำ วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:9:35:04 น.
  
อ้าว อันก่อนวิ่งมาไวซะงั้น
มาเจอะ แพร่รีส ต่อ แหะๆ
คุ้ม สวยมากอ่ะพี่เต้ย ชอบงานฉลุ บ้านโปร่งๆ หันทิศรับลมถูกงี้คงไม่ร้อนเนอะ

แอบฮาเรื่องหมอน 5555

โหวตไม่ได้ซะแหล่ว พรุ่งนี้มาอีกรอบดีกว่า
โดย: กาบริเอล วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:10:16:18 น.
  
สวัสดีครับ
ตัวอาคารสวยงามจับใจ
ชอบห้องนอนที่ถ่ายมาครับ แสงเงาสวยมาก

หากมีโอกาสไปทางแพร่
จะไม่ยอมพลาดที่นี่แน่ครับ

ขอบคุณครับ

โดย: loongchat (สมาชิกหมายเลข 3016924 ) วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:10:33:52 น.
  
ยังไม่มีโอกาสไปเมืองนี้เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
ถ้าได้ไปแพร่ ไม่พลาดแน่นอนค่ะ
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:11:25:37 น.
  
บ้านสวยมากเลยค่า
ยังมิเคยไป
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:13:01:02 น.
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:2:31:11 น.
  
มาโหวตฮ้าบบบ
โดย: กาบริเอล วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:7:19:59 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog

คราวหน้าแม่บุญจะต้องไปชมให้ได้ค่ะ เขียนเอาไว้แล้วว่าต้องไป แพร่ น่าน ...ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ แบบนี้ ภาพสวยมากๆ เช่นกันค่ะ
โดย: Maeboon วันที่: 18 มิถุนายน 2559 เวลา:22:32:23 น.
  
ภาพสวยเชียวครับ ถ่ายทอดออกมาได้น่าไปมาก
โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 19 มิถุนายน 2559 เวลา:22:10:52 น.
  
เคยไปเมื่อหลายปีก่อน ชอบมากเลยค่ะ บ้านสีสวย ถึงจะเป็นบ้านเก่า แต่ก้ดูแลดีมาก
เมื่อก่อนด้านหน้าจะมีต้นม่านบาหลี รู้จักจากที่นี่เลยค่ะ อ้อ ต้นมะเขือการ์ตูนอีก


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
zungzaa Parenting Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: kai (aitai อ่านว่า อะอิไต้ ) วันที่: 21 มิถุนายน 2559 เวลา:16:57:10 น.
  

ไปแพร่คราวหน้าต้องไม่พลาด
คุ้มวงศ์บุรีค่ะ

สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: พรไม้หอม วันที่: 22 มิถุนายน 2559 เวลา:10:08:15 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pakwan.BlogGang.com

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

บทความทั้งหมด