Women in White เพื่อเธอ เพื่อฉัน...เพื่อเรา - บทที่ ๕ (YURI)

 

ดลลชาคลอเคลียจูบญาณินซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนจะชดเชยหลายปีที่เราห่างเหินกันไป จุมพิตค่อยๆ ทวีความเร่าร้อนดูดดื่มมากขึ้น เรียวลิ้นตวัดเกี่ยวทักทายชนิดไม่มีใครยอมใคร ลมหายใจถี่หอบกระชั้น ลืมสิ้นทุกอย่างยกเว้นผู้หญิงตรงหน้า

...แต่ก่อนที่จะไปไกลกว่านั้น เสียงระฆังขัดจังหวะก็ดังขึ้น

ติ๊ง!

เสียงเตาอบดัง ทำให้ทั้งคู่สะดุ้ง หันขวับไปมองเตา แล้วมาสบตากันอีกครั้ง

อ๊าย! น่าอายชะมัด

หมอสาวแว่นเม้มเรียวปากอย่างอายๆ ที่เห็นสายตาล้อเลียนของหล่อน จึงเผลอค้อนใส่

“คุณแกล้งนิน”

“ก็เธอให้ฉันแกล้งเธอคนเดียวไม่ใช่เหรอ ดังนั้นห้ามบ่น” น้ำเสียงหวานดังเสนาะโสตไม่ต่างจากระฆังแก้ว

คนขี้แกล้ง

เธอเบะปากแบบเด็กๆ ก่อนหันไปสนใจเอาถาดคุกกี้กาแฟออกจากเตา มาวางเรียงบนโต๊ะเพื่อรอให้เย็น

“อืม หอมมาก”

สาวสวยชอบขนมชนิดนี้มาก ชอบทานกับกาแฟหอมๆ

“เดี๋ยวคุณพลอยต้องไปทานข้าวเย็นนะคะ อย่าทานเยอะ” หมอสาวร่างสูงเตือน หลังเห็นหล่อนจ้องขนมตาเป็นมัน

สาวสวยปรายตามองเธอนิ่งๆ ที่โดนดักคอ

“ต้องชิมก่อนว่าอร่อยรึเปล่า”

“รอให้เย็นก่อนค่ะ อีกสักพักก็ใช้ได้แล้ว”

เธอหันไปใช้ที่แซะขนมรูปหัวใจ ตักทีละชิ้นไม่ให้ติดก้นถาด วางเรียงรอให้เย็นก่อนใส่โหลแก้ว จากนั้นเก็บอุปกรณ์ที่ใช้เสร็จไปทำความสะอาดที่อ่างล้างจาน สาวสวยตามมาอยู่ข้างๆ “คุณไปนั่งรอเถอะ นินล้างแป๊บเดียวก็เสร็จ”

“เธอทำขนมให้ฉัน ให้ฉันช่วยดีกว่า จะได้เสร็จเร็วๆ” หล่อนไม่เห็นด้วย ไม่คิดเอาเปรียบกันจนเกินไป

“ตามใจค่ะ”

สวยขึ้นเยอะทีเดียว จะมีใครตามจีบเด็กน้อยของฉันบ้างรึเปล่า?

ดลลชาลอบมองใบหน้าสวยคมของสาวแว่น ที่กำลังขะมักเขม้นล้างอุปกรณ์ แล้วอดคิดไปถึงบางอย่างที่ค้างคาใจไม่ได้

“เธอสนิทกับอุ้มเหรอ?” ถามเสียงเรียบราบ

หืม?

คนน้องเอียงหน้าไปมองคนถามอย่างงงๆ แล้วส่ายหัว

“ไม่ค่ะ เพิ่งคุยกันบ้างหลังเธอย้ายมาที่นี่ ส่วนใหญ่นินไม่ค่อยเจอเธอหรอกค่ะ”

“แต่เขาดูสนิทกับเธอมาก” ร่างบางพูดตามที่เห็น

...ถ้าไม่สนิทสนมกัน คงไม่เกาะแขนติดหนึบเป็นตุ๊กแกแบบนั้นหรอกจริงไหม?

“น้องอุ้มก็สนิทกับหลายคนนะคะ ไม่ใช่แค่นินคนเดียว”

“น้องอุ้ม?” สาวสวยทวนคำเบาๆ รู้สึกไม่ชอบขึ้นมาตงิดๆ ที่อีกคนดูให้สิทธิพิเศษลูกคนใหม่ของบิดา

...สิทธิ์ที่หล่อนไม่ได้รับ

ญาณินรับรู้ได้ถึงอารมณ์ไม่พอใจของผู้หญิงสวยตรงหน้า จึงรีบอธิบายก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าใจผิดไปไกล

“คือเธอให้เรียกแบบนั้นน่ะค่ะ เราไม่ได้สนิทกันจริงๆ นะคะ”

“แล้วทำไมเธอไม่เรียกฉันว่าพี่บ้าง?” สายตาคู่หวานจับจ้องเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง กดดันให้อีกคนต้องตอบ

“เอ่อ...นินแค่ไม่อยากทำตัวเสมอคุณพลอย คุณเป็นเจ้านาย เป็นผู้มีพระคุณ แต่นินเป็นแค่เด็กในบ้าน...”

ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นซะหน่อย

หมอสาวสวยขมวดคิ้วแทบเป็นปม กับเหตุผลความแตกต่างของเรา ซึ่งหล่อนไม่อยากจะยอมรับนัก

...อยากได้ความเท่าเทียม

...อยากได้ความเสมอภาค

...อยากจะก้าวผ่านมันไปเสียที

ตลอดเวลาที่ผ่านมา หัวใจดลลชาโหยหา อยากให้มีเรา...ไม่ใช่ เธอกับฉันเหมือนตอนนี้

ทว่าหมอสาวแว่นไม่เคยร่วมมือแม้แต่น้อย

“ไม่ได้เหรอ?” น้ำเสียงเย็นเยือกกว่าเดิม ส่งสายตาจิกจนคนถูกมองสัมผัสได้ “ทำไมถึงไม่ได้?”

งานเข้าแล้ว!

ญาณินไวกับปฎิกิริยาของผู้หญิงตรงหน้าเสมอ จึงรีบล้างมือ ทิ้งทุกอย่างแล้ว สวมกอดร่างบอบบางไว้แน่น

“ดะ ได้สิคะ ถ้าคุณต้องการ” เธอรับปาก

ในที่สุดก็ยอมแล้วสินะ

สาวสวยยืนนิ่ง ไม่ดิ้นรนขัดขืน จิตใจเยือกเย็นลงหลังอีกคนยอมตามใจ

“ไม่ใช่คุณ ต้องพี่พลอยต่างหาก” คนพี่พูดแก้

“เฉพาะตอนอยู่กันแค่สองคนนะคะ นินไม่อยากให้คนอื่นมองคุณไม่ดี” เธอมีเงื่อนไข

“ก็ได้” หล่อนยอมรับข้อเสนอนั้น ก่อนยกสองแขนโอบเอวอีกคนไว้ “เรียกสิ”

หา!

ร่างสูงทำหน้าเหลอหลา

“เดี๋ยวนี้เหรอคะ?”

“ใช่ ฉันอยากฟัง”

หลังอดทนรอมาตั้งนาน ระยะห่างระหว่างเราลดลงบ้างแล้วแม้จะเล็กน้อย จึงไม่อยากเสียเวลาอีกแม้แต่สักนาทีเดียว

หมอสาวแว่นทำหน้าอึกอัก

“เอ่อ พะ พี่ พลอย...”

“ดังๆ ไม่ได้ยิน”

“พี่พลอยคะ” เสียงดังขึ้นอีกหน่อย

ทว่าร่างบางยังไม่หนำใจ จึงแกล้งกระซิบข้างหู

“เรียกอีก”

ได้ทีขี่แพะไล่เชียว ชิส์

“พี่พลอย พี่พลอย พี่พลอย” เรียกดังรัวเหมือนประชด “พอใจรึยังคะ?”

ดลลชาคลี่ยิ้มสวยกว้างที่กระชากวิญญาณคนมองไม่น้อยออกมา

“พอใจมาก”

“คนขี้แกล้ง” คนน้องอดต่อว่าออกมาไม่ได้ รู้สึกว่าร่างบางจะร้ายกาจมากกว่าตอนก่อนไปเรียนต่อเสียอีก

“ช่วยไม่ได้ ก็เธอน่าแกล้งนี่” หล่อนหัวเราะคิกคัก เหลือบตามองนาฬิกาที่ติดบนผนังแล้วถอนใจเบาๆ ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว “ฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้อย่าลืมเอาคุกกี้ไปให้ฉันด้วย”

“เจ้าค่ะแม่หญิง” พูดแหย่ จึงได้หยิกไปหนึ่งทีเป็นรางวัล ให้ต้องร้อง “โอ๊ย!” ออกมา

“พูดมาก เดี๋ยวไม่ให้ของฝากเสียหรอก” ดลลชาหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ยัดใส่มืออีกฝ่าย

“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มกว้าง มองกล่องกำมะหยี่สีแดงด้วยสายตาเป็นประกาย

อะไรเนี่ย?

“เปิดสิ” สาวสวยพูดคะยั้นคะยอ รอดูปฏิกิริยาของคนน้องที่เปิดกล่องขึ้น แล้วทำตาโต

“ว้าว!” ญาณินอุทานเบาๆ ตื่นเต้นหลังเห็นสร้อยคอทองคำขาวที่มีจี้รูปตัว Y ที่มีทับทิมประดับอยู่บนตัวอักษร

“ชอบไหม?”

“ชอบมากค่ะ”

“หันหลังมา ฉันสวมให้”

ร่างสูงรวบผมยาวเพื่อให้คนพี่สวมสร้อยให้ได้อย่างสะดวก หลังเสร็จโน้มตัวไปจูบปากอีกคนเป็นการขอบคุณ

“ขอบคุณนะคะ”

“ดีใจที่ชอบ” หล่อนเผยรอยยิ้มสวยที่ไม่ค่อยปรากฏบ่อยนัก ยกมือขยี้ผมอีกคนที่ดูน่ารัก ไม่ต่างจากสมัยก่อน “ไปนะ”

“ค่ะ” สาวแว่นพยักหน้าเข้าใจ แอบเสียดายที่เราไม่มีเวลาคุยกันนานๆ

“ขอชิมหน่อยนะ” คนพี่หยิบคุกกี้กาแฟติดมือไปสองชิ้น หยิบเข้าปาก ขณะเดินออกไปจากเรือนเล็ก

ญาณินมองยิ้มส่งจนอีกคนลับตา แม้จะได้คุยกันไม่นาน แต่ก็ทำให้หัวใจพองฟูโต ก่อนกลับไปจัดการกับขนมต่อ

 

ถ้าเป็นไปได้ ดลลชาอยากจะอยู่คุยกับเธออีกนานๆ แต่ไม่อยากให้สองแม่ลูกนั่นรู้สึกผิดสังเกต หลังนพคุณเคยเตือนไว้ว่า

“จะทำอะไรก็ระวังหน่อยล่ะ...เรามีสปายอยู่ในบ้าน” พี่ชายพูดจบก็หัวเราะร่วน

คนฟังค้อนผ่านสายตา กับตลกร้ายที่ขำไม่ออกของเขา

นอกจากหน้าตากับรูปร่างที่พอดูได้...ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ

สาวสวยคิดถึงสองแม่ลูกนั้น ขณะก้าวเท้าจากเรือนเล็ก เพื่อไปเรือนใหญ่ ประเมินแม่เลี้ยงของตนหลายครั้ง หากเต็มสิบคงให้สัก 6 หรือ 7 คะแนนเท่านั้น แถมยังมีลูกสาวตัวเบ้อเริ่มมาด้วยตั้งหนึ่งคน ไม่เข้าใจว่าพ่อเลือกศยามลเพราะเห็นอะไรดี?

...แต่เห็นแก่ความสุขของนภดล หล่อนจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไร

ส่วนน้องสาวนอกไส้ที่ชื่ออุ้ม อาจได้แค่ 5 แต้ม หลังมาวุ่นวายกับคนของตน จึงคิดคาดโทษเอาไว้ในใจ

ถ้าล้ำเส้นมากเกิน รับรองว่า...ได้เห็นดีกันแน่

 

“เสาร์นี้พี่หมอพลอยว่างไหมคะ?” อุ้มถามขึ้น ขณะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเย็น พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งห้าคน อยากหาวิธีใกล้ชิดกับพี่สาวคนสวยคนนี้...ตามคำสั่งมารดา

หล่อนเงยหน้าขึ้นจากจาน พอเคี้ยวอาหารเสร็จจึงพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเรียบราบ

“มีอะไรเหรอ?”

“วันเกิดอุ้มน่ะค่ะ อุ้มขอคุณพ่อจัดงานวันเกิดที่บ้าน”

“แล้ว?”

“อุ้มอยากเชิญพี่หมอพลอยด้วยค่ะ แขกที่จะเชิญมาก็เพื่อนๆ ที่ทำงานทั้งนั้น”

“ยังไม่รับปากนะ ช่วงนี้ว่าจะอ่านงานวิจัยน่ะ” หมอสาวสวยตอบตามตรง

แม้จะทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่ทั้งสองสาวทำงานคนละสายงาน อุ้มทำงานอยู่ฝ่ายสำนักงาน ส่วนหล่อนอยู่ฝ่ายแพทย์ ประกอบกับไม่ได้เป็นพวกเฟรนลี่ ให้มานั่งยิ้มเจ๊าะแจ๊ะกับคนไม่คุ้นเคยเป็นอะไรที่น่าเบื่อ

ถ้าเลือกได้ เลือกจะหากิจกรรมอย่างอื่นที่น่าสนใจมากกว่ามาทำอะไรที่ไร้สาระเสียเวลา

“เหรอคะ” น้องสาวนอกไส้ทำหน้าสลดลง ที่ได้รับคำตอบปฎิเสธกลายๆ ก่อนหันไปทางแม่บ้านใหญ่ “ป้ากัญคะ”

“คะ?” แม่เธอขานรับ

“วันเสาร์นี้ พี่หมอนินหยุดรึเปล่าคะ?”

“ไม่ทราบค่ะ” กัญญาตอบตามตรง

ปกติญาณินไม่ค่อยพูดเรื่องงานกับตน แต่ถ้าวันไหนว่างจะมาหาก็จะโทรมาบอกก่อน แล้วซื้ออะไรติดไม้ติดมือมาฝาก

ว่าแล้วเชียว

สุพรรณีถอนใจเบาๆ

“คุณอุ้มมีอะไรกับนินเหรอคะ?”

“คืออุ้มอยากชวนมางานวันเกิดน่ะค่ะ แต่ไม่เป็นไรไว้เจอตัว อุ้มจะชวนเอง”

“ค่ะ” กัญญายิ้ม ไม่ปริปากบอกว่าตอนนี้ลูกสาวอยู่ที่เรือนเล็ก ไม่อยากให้อุ้มไปวุ่นวายด้วย พอเห็นจานข้าวอีกฝ่ายพร่องไปมาก จึงพูดขึ้น “คุณอุ้มจะรับข้าวเพิ่มอีกไหมคะ?”

“ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ”

ถึงนินจะว่าง นินคงไม่มาหรอกค่ะคุณอุ้ม

คิดตอบแทนลูกสาวในใจ แต่ไม่อยากพูดให้อีกฝ่ายเสียใจ

แม่เธอรู้มานานแล้วว่า ญาณินมีใจให้กับใคร แต่ไม่เคยคิดเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของลูก ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ

ไปยุ่งกับนินมากไปรึเปล่าครับน้องอุ้ม ระวังแม่เสือจะขย้ำคอนะครับ

นพคุณนั่งทานข้าวเงียบๆ ซ่อนยิ้มในหน้า หลังน้องสาวสองคนให้ความสำคัญกับสาวแว่นมาก แน่นอนว่าเขาเลือกเข้าข้างน้องสาวแท้ๆ ของตนอยู่แล้ว

...หมอญาณินคือคนสำคัญของดลลชา

เขาบังเอิญรู้เรื่องนี้ตอนที่เห็นน้องสาวจูบกับเธอในสวน ตอนนั้นตกใจไม่น้อยที่หล่อนชอบรักเพศเดียวกัน พี่ชายจึงหาโอกาสเปิดใจคุยกัน รวมถึงรับคำฝากฝังให้ช่วยดูแลญาณิน ตอนที่ดลลชาไปเรียนต่อ รวมถึงรายงานเรื่องของเธอให้เป็นระยะอีกด้วย

พี่ชายปรายหางตามองไปทางดลลชา ที่มีสีหน้าอ่านยาก แต่แววตาดูขุ่นมัว

...หากไม่สนิทจริงๆ จะไม่มีทางรู้อารมณ์หล่อนเด็ดขาด

อย่าเพิ่งองค์ลงนะครับคุณน้อง

นึกเสียวสันหลังแทนสุพรรณี ที่ไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่

“ถ้าอุ้มอยากได้อะไรเพิ่ม ก็บอกกัญญานะ พ่อจะสั่งเค้กก้อนใหญ่ให้ก้อนหนึ่ง ดีไหม?” นภดลเอ่ยอย่างใจดี

หลังลูกเลี้ยงร่าเริงแจ่มใสสมวัย ผิดกับดลลชาที่เป็นผู้ใหญ่เกินตัวยิ่งหลังแม่หล่อนเสีย สาวสวยก็เงียบขรึมมากขึ้น ทำให้เขามีช่องว่างกับลูกสาวมาก เวลาคุยกันจะดูเป็นงานเป็นการ น้อยครั้งที่จะได้ยินอีกฝ่ายเสียงหัวเราะสดใสแบบอุ้ม จึงทำให้เขาเอ็นดูลูกเลี้ยงมาก

สุพรรณียิ้มร่าเริง

“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”

“อืม” บิดาหล่อนส่งยิ้มให้ลูกเลี้ยง เหลือบมองไปทางลูกสาวที่นั่งเงียบๆ จึงสลายยิ้มลง

ดีมากลูก อ้อนท่านไว้ลูก

ศยามลนึกชมลูกสาวที่เข้ากับสามีได้ดีมาก ชำเลืองตาไปยังหมอสาวคนสวยที่ดูนิ่งเย็นชา จึงเข้าใจไปว่า หล่อนหวงพ่อที่แสดงความเอ็นดูน้องสาวนอกไส้

...หารู้ไม่ว่าแท้จริง ดลลชาหงุดหงิดเรื่องญาณินต่างหาก

คิดเหรอว่านินจะมาร่วมงานของเธอ นินไม่ใช่คนเฟรนลี่ หรือให้ใครเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ แบบที่เธอคิดหรอกนะ

สาวสวยนึกสมเพชสุพรรณี ที่ไม่รู้จักหมอสาวแว่นดีพอว่า ชอบหรือไม่ชอบอะไร ก่อนตักข้าวทานเงียบๆ โดยเลือกเป็นผู้ฟังที่ดี เงี่ยหูฟังพ่อคุยกับพี่ชายเรื่องที่ทำงาน

ทานอีกไม่กี่คำ หล่อนรวบช้อนส้อม แล้วดื่มน้ำตาม

“ขอตัวนะคะ รู้สึกเหนื่อยๆ”

“พักผ่อนเยอะๆ นะพลอย ไม่ไหวก็บอกพี่” นพคุณพูดอย่างเป็นห่วง ถึงจะเป็นหมอรักษาคนอื่น แต่ก็มีวันที่เจ็บไข้ไม่สบายเป็น

...หมอไม่ใช่คนเหล็ก

“ขอบคุณค่ะพี่นพ”

“ถ้าไม่ไหวพรุ่งนี้ก็พักนะลูก” นภดลบอกลูกสาว

“ค่ะพ่อ”

“หายเร็วๆ นะคะคุณพลอย” ศยามลพูดเสียงอ่อนหวานกับหล่อน...ตามมารยาท

“ขอบคุณค่ะ”

“อุ้มช่วยประคองนะคะพี่หมอพลอย” น้องสาวนอกไส้ลุกยืนหมายจะไปช่วยประคองแขนพี่สาวคนสวย

“ไม่ต้องหรอก ขอบใจนะ”

หล่อนลุกจากเก้าอี้ เดินไปชั้นสองปีกทางซ้ายของคฤหาสน์ ซึ่งเป็นส่วนห้องนอนของตนกับห้องของพี่ชาย

ฉันทำอะไรให้พี่หมอพลอยไม่ชอบรึเปล่า?

อุ้มคิดสงสัย

แม่เลี้ยงมองตามแล้วกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ กับชัยชนะเล็กๆ น้อยของตนกับลูกสาว

ต่อมอิจฉาทำงานล่ะสิ...

ขณะที่นพคุณชำเลืองมองแม่เลี้ยงน้องเลี้ยงอย่างอึดอัดใจ แต่ไม่พูดอะไร ก่อนตักข้าวสองคำสุดท้าย เพื่อจะได้กลับขึ้นห้องพักผ่อนบ้าง

ต่างคนต่างอยู่...จะดีกว่านะครับ

OoXoO

เรื่องนี้จะมีหลายอารมณ์สลับกันขึ้นๆ ลงๆ เป็นระยะ คือไรท์ไม่ใช่สายหวานรถน้ำตาล จริงๆ น่าจะเป็นสายโหดมากกว่า 5555 

ตอนนี้เขียนร่างแรกใกล้เสร็จแล้ว จำนวนหน้าเกิน 350 แน่นอน  ต้องรีไรท์และส่งคุณพี่บอกอตรวจแก้ไขอีก อาจต้องใช้เวลาอีกสักพัก อดใจรอกันอีกนิดนะคะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์ ทุกหัวใจ และทุกการติดตามค่ะ

นาง ^^

OoXoO

 




Create Date : 20 สิงหาคม 2564
Last Update : 20 สิงหาคม 2564 16:18:29 น.
Counter : 692 Pageviews.

0 comments
คืนบ้านเก่า@ห่างหาย 12ปี@ ไม่น่าเชื่อ!! catt.&.cattleya..
(1 ก.ย. 2567 21:47:03 น.)
Oh!!my sassy boss ตอนที่ 31 หน้า3 unitan
(31 ส.ค. 2567 07:10:08 น.)
: เพลงรัก....เพลงนั้น : กะว่าก๋า
(28 ส.ค. 2567 04:06:14 น.)
เาลาที่หายไป - บทที่ 47 ดอยสะเก็ด
(27 ส.ค. 2567 06:10:27 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nuinang.BlogGang.com

นิ้วนาง-เดียนา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]