Women in White เพื่อเธอ เพื่อฉัน...เพื่อเรา - บทที่ ๓ (YURI) ๓
งานเลี้ยงแบบย่อมๆ ในบ้านถูกจัดขึ้น เพื่อต้อนรับแพทย์สาวดลลชา นอกจากพ่อกับพี่ชาย มีสมาชิกใหม่คือแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงเพิ่มเข้ามาด้วย นภดลนั่งเป็นประธานหัวโต๊ะ ขวามือเป็นลูกชายลูกสาว ซ้ายมือเป็นภรรยาคนใหม่กับลูกเลี้ยงนั่งร่วมโต๊ะกันเป็นครั้งแรก สองปีที่แล้วตอนที่เขาแต่งงานใหม่ ดลลชาไม่ได้บินกลับมาร่วมงาน ...อาหารคาวบนโต๊ะวางเรียงหกอย่าง ล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของหล่อนเกินครึ่ง อาทิ ต้มยำไก่ หมูทอดกระเทียมพริกไทย สลัดผัก เจ้าของบ้านอารมณ์ดีมาก สั่งให้เปิดไวน์เพื่อดื่มฉลอง แต่มีเพียงลูกชายที่ดื่มเป็นเพื่อน ส่วนคนอื่นปฎิเสธหมด “ยินดีด้วยค่ะคุณพลอยที่เรียนเฉพาะทางจบ” ศยามลวัยสี่สิบห้าพูดเสียงหวาน แต่งตัวในชุดสวยหรู ราวกับจะไปงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ ขณะที่คนอื่นแต่งตัวในชุดทำงาน หล่อนยิ้มน้อยๆ ให้แม่เลี้ยงที่อัพเกรดจากเลขาฯ ของพ่อ มาเป็นภรรยาผู้อำนวยการ “ขอบคุณค่ะ” “น้าฝากอุ้มกับคุณพลอยด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรก็ตักเตือนสั่งสอนได้เลย ถือว่าเป็นน้องสาวอีกคน” เอ่ยฝากฝังต่อหน้าสามี แม่เลี้ยงรู้ว่า บุคคลที่ต้องเกรงใจเป็นอันดับต้นๆ ของบ้านหลังนี้ รองจากสามี ไม่ใช่นพคุณ...แต่เป็นดลลชา “ค่ะ” สาวสวยมองเลยไปยังสุพรรณีแล้วยกยิ้มเล็กน้อย มองอีกฝ่ายที่ยิ้มกว้างมา ด้วยสายตาพินิจพิจารณาวงหน้าที่มีส่วนคล้ายคลึงกับศยามล หน้าตาพอใช้ได้ อายุน้อยกว่านินไม่กี่ปี ใจเหม่อลอยหวนคิดไปถึงหมอสาวแว่น ที่ได้เจอแต่ยังไม่คุยกันสักคำ กัญญาที่เพิ่งนำปลาราดพริกสามรสจานสุดท้ายออกมา ก่อนสั่งให้สาวใช้วางบนโต๊ะ แล้วกระซิบถามหล่อน “ถูกปากคุณพลอยบ้างไหมคะ?” “อร่อยทุกอย่างค่ะน้ากัญ” แพทย์สาวสวยตอบเสียงนุ่ม ด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติมากกว่าเมื่อกี้ “เจอนินหรือยังคะ?” “เจอแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้คุยกัน” “ค่ะ” แม่เธอพยักหน้ารับรู้ พอรู้ว่างานของหมอยุ่งไม่น้อย ไม่ได้ว่างเหมือนพนักงานทั่วไป ก่อนเปลี่ยนเรื่องคุย “จานนี้ของโปรดของคุณพลอย น้าทำสุดฝีมือเลยนะคะ” “น่าทานจัง” หล่อนยิ้มกว้าง ใช้ช้อนกลางตักมาใส่จานตัวเอง แล้วชิมทันที หลังเคี้ยวเสร็จก็เอ่ยชม “สุดยอดค่ะ” กัญญายิ้มกว้างหลังได้รับคำชม “อยากได้อะไรเพิ่มบอกน้านะคะ” “ค่ะ” แม่บ้านคนเก่งขยับตัวออกไป แล้วช่วยตักข้าวให้นพคุณ “รับข้าวอีกหน่อยนะคะคุณนพ” “ขอบคุณครับ” แม่เธอตักข้าวให้เขา มองไปยังจานของเจ้าของบ้าน “คุณท่านรับข้าวเพิ่มอีกไหมคะ?” “ไม่ไหวแล้ว ผมน้ำหนักขึ้นไม่ยอมลง เป็นเพราะคุณเลยนะเนี่ย” นภดลพูดทีเล่นทีจริง “ขอโทษค่ะ” กัญญาพูดยิ้มรับคำชมกลายๆ นั้น สองแม่ลูกทำหน้าประหลาดใจ หลังเห็นแม่บ้านวัยกลางคนคุยกับหล่อนอย่างสนิทสนม ก่อนหน้านี้ศยามลแทบไม่เคยเห็นรอยยิ้มของดลลชาแบบนี้ แม้ในที่ทำงานดลลชาจะยิ้มบ้าง แต่ไม่แจ่มใสเป็นกันเองขนาดนี้ ไม่ยักรู้ว่าพี่หมอพลอยสนิทกับน้ากัญมาก อุ้มรู้สึกแปลกใจ หลังคิดไปถึงตอนที่หล่อนเจอกับหมอสาวแว่นเมื่อตอนเย็น ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ ...แค่สบสายตากันเท่านั้น สงสัยฉันคงคิดมากไป น้ากัญทำงานเป็นแม่บ้านที่นี่ตั้งนาน ไม่สนิทกันสิแปลก ลูกเลี้ยงสะบัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง แล้วทานข้าวต่อ ดลลชามองอาหารมากมายบนโต๊ะอาหาร พอหวนคิดถึงญาณินที่คงยุ่งหัวปั่นอยู่กับงานช่วยชีวิต จึงอดคิดสงสัยไม่ได้ ฉันคิดผิดหรือเปล่า ที่ชวนเธอมาเป็นหมอ “ท่านคะ” ศยามลเรียกสามีอย่างที่เคยเรียก “ว่าไง?” พ่อหล่อนหันไปมองภรรยาใหม่ “เสาร์หน้าเป็นวันเกิดของยายอุ้มค่ะ” “อ้าวเหรอ ขอโทษทีผมจำไม่ได้” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบนสายตามองไปยังลูกเลี้ยงสาว “อุ้มอยากได้อะไรเป็นของขวัญล่ะ?” สุพรรณียิ้มบาง รับรู้ได้ถึงความเอ็นดูของเขา สองปีกว่าที่ผ่านมาพ่อเลี้ยงใจดีกับตนมาก ของขวัญวันเกิดปีที่แล้วคือ รถเก๋งญี่ปุ่นป้ายแดง ส่วนปีก่อนเป็นทัวร์ต่างประเทศหนึ่งสัปดาห์ ...การเป็นลูกสาวบ้านนี้ ช่างเป็นเรื่องที่เลิศเลอยิ่งกว่าความฝันของตนเสียอีก “อุ้มยังไม่ได้คิดค่ะคุณพ่อ” “งั้นไปคิดมา แล้วมาบอกพ่อ” “ค่ะ” ศยามลชำเลืองมองปฏิกิริยาของดลลชา แต่สาวสวยไม่ได้แสดงท่าทางอะไรผิดปกติออกมาแม้แต่น้อย หล่อนกำลังสนทนากับพี่ชายเรื่องงานวิจัยที่กำลังจะทำต่อ ...ประหนึ่งเรื่องงานวันเกิดของสุพรรณี ไม่ได้เป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร เป็นคนใจกว้าง หรือไม่เห็นอยู่ในสายตา? แม่เลี้ยงคิดฉงนสนเท่ห์ อ่านใจสาวสวยแทบไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
อีกด้านแพทย์สาวญาณินถูกตามมาช่วยงานที่ห้องฉุกเฉิน หลังมีรถยนต์ชนกันห้าคันรวด ผู้บาดเจ็บแปดคนถูกส่งมายังโรงพยาบาลนี้ ถือเป็นงานหนักไม่น้อย สองในแปดคนมีอาการสาหัส อวัยวะภายในฉีกขาดต้องผ่าตัดด่วน ...โอกาสผ่าตัดสำเร็จเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่สูงนัก คนไข้อาจจะพิการหรือทุพพลภาพได้ แม้จะรู้แบบนั้น แต่เหล่านักสู้ในชุดขาวไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ “หมอนินฝากคนไข้ทางนี้ด้วยนะ เดี๋ยวเคสผ่าตัดผมกับหมอกันต์ดูเอง” หัวหน้าแพทย์เวรแบ่งงานอย่างรวดเร็ว “ค่ะอาจารย์” ญาณินรับคำอย่างกระตือรือร้น แพทย์อาวุโสกวาดตาไปทางเหล่าคนชุดขาวหญิงชาย “ฝากด้วยนะทุกคน” “ค่ะ” / “ครับ” บุคลากรทางการแพทย์รับคำอย่างหนักแน่น หมอสาวแว่นหันไปทางนางพยาบาลเวรกับผู้ช่วยอีกสามคน “เริ่มกันเลยค่ะ” “ค่ะคุณหมอ” สาวชุดขาววัยสามสิบปลายรับคำหนักแน่น เชื่อใจหมอสาวผู้นี้ หลังสาวร่างสูงได้แสดงทักษะยอดเยี่ยมหลายครั้งที่อยู่กะดึกด้วยกัน หมอญาณินไม่ได้อยู่ตรงนี้เพราะเส้นสาย แต่มีความสามารถไม่น้อยด้วย การทำแผลเริ่มต้นขึ้น โดยไม่ลืมที่จะเช็คอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่า คนไข้จะปลอดภัยจริงๆ ไม่มีอะไรผิดพลาดภายหลัง
“เป็นอะไรนิน?” ดลลชาถามสาวแว่นที่นั่งเหม่อดูเศร้าซึมผิดปกติอยู่ในสวนหลังบ้าน เธอรีบปาดน้ำตาทิ้ง แล้วส่ายหัวแรงๆ แต่ไม่ยอมสบตา “ไม่เป็นอะไรค่ะ” หล่อนไม่เชื่อ จึงถามใหม่ “เกิดอะไรขึ้น?” น้ำเสียงเรียบราบ กดดันให้อีกคนต้องยอมพูด “คนไข้ที่นินคอยดูแล เพิ่งเสียเมื่อคืน นินก็เลยรู้สึกผิด” น้ำเสียงสะอื้นเล็กน้อย ‘โธ่เอ๊ย! เด็กน้อย’ แพทย์สาวดลลชาถอนใจเบาๆ ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ “เธอดูแลคนไข้เต็มที่รึยัง?” “นินตั้งใจทำเต็มที่นะคะ” “ถ้าเธอทำเต็มที่แล้ว จะมานั่งเศร้าทำไมอีก” คนพี่ย้อนถาม “หมอไม่ใช่เทวดานะ ที่จะช่วยชีวิตทุกคนให้รอดตายได้ทั้งหมด เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาของทุกคน ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอกนะนิน” สาวแว่นนิ่งฟัง แล้วคิดตาม “ฉันอยากให้เธอเป็นหมอที่ดี แต่ไม่ต้องมานั่งแบกความรู้สึกผิดเอาไว้แบบนี้ ขอแค่เธอทำสุดความสามารถ ไม่มีใครตำหนิเธอหรอก เชื่อฉันสิ เอาความเสียใจเป็นพลัง เรียนรู้ให้มากขึ้น พัฒนาตัวเองให้เป็นหมอที่เก่งกว่าเดิม เพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด เข้าใจไหม?” “ค่ะคุณพลอย” ดลลชายกมือลูบหัวเด็กน้อย แล้วโคลงศีรษะเบาๆ อย่างเอ็นดู “พยายามต่อไปนะนิน” “เข้าใจแล้วค่ะ” “ดีมากเด็กน้อยของฉัน” หล่อนโอบไหล่บางให้มาซบกัน แล้วจูบเบาๆ ที่หน้าผากมน คำพูดของดลลชาไม่ต่างจากน้ำทิพย์ชโลมใจ ทำให้สาวร่างสูงยิ้มออกมาได้
มีสมาธิหน่อยญาณิน...เธอทำได้ หมอสาวแว่นปลุกปลอบตัวเอง ก่อนก้าวเข้าไปดูแลคนไข้ ...จุดมุ่งหมายคือรักษาคนเจ็บให้ปลอดภัยอย่างสุดความสามารถ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หมอญาณินกับผู้ช่วยทำแผลเสร็จ คนไข้เอ่ยขอบคุณ ร่างสูงยิ้มรับ เมื่อไม่มีอะไรก็เดินกลับไปนั่งที่ห้องพักแพทย์เวร หลังจากนั้นอีกไม่นาน มีคนเจ็บเลือดสาดเข้ามาอีกหลายราย จึงเป็นอีกคืนที่ยาวนานของเหล่าแพทย์กับนางพยาบาล ซึ่งเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส หลังหมดเวลาหัวหน้าแพทย์เวรที่แทบหมดแรง เอียงหน้ามาคุยกับเพื่อนร่วมรบที่เคียงบ่าเคียงไหล่กัน “เหนื่อยหน่อยนะครับ” “ค่ะ” เธอยิ้มออกมาได้ ดีใจที่คืนนี้ไม่มีคนไหนต้องสูญเสีย “ผมดีใจที่ได้เข้าเวรกับหมอนินนะครับ” ตอนแรกเขาไม่ถึงกับชอบแพทย์หญิงญาณินนัก หลังอีกฝ่ายเข้ามาทำงานที่นี่อย่างชวนสงสัยว่า...เป็นเด็กเส้น แต่หลังได้ร่วมทำงานกะดึกด้วยกันหลายครั้ง ความรู้สึกคลางแคลงใจก็จางหายไป หลังได้เห็นกับสองตาตนเอง ...เธอมีทักษะความรู้ไม่เหมือนแพทย์จบใหม่สักนิด แพทย์เวรมีโอกาสสอบถาม จึงรู้ว่าญาณินเคยทำงานเป็นแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินช่วงใช้ทุนที่โรงพยาบาลเก่า จึงไม่น่าแปลกใจที่จะรู้งานเป็นอย่างดี “นินก็ยินดีเช่นกันค่ะอาจารย์” “กลับบ้านดีๆ นะครับ โชคดีครับ” “ค่ะอาจารย์” เที่ยงคืนกว่า ร่างสูงขับรถญี่ปุ่นมือสองกลับคอนโดขนาดย่อม ที่เพิ่งดาวน์ตอนย้ายมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ กัดฟันซื้อเพราะอยู่ใกล้ที่ทำงานกว่าคฤหาสน์ของบิดาหล่อน เพื่อเพิ่มเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง เธอรีบอาบน้ำเพื่อเข้านอน หลังพลังงานในร่างกายต่ำจนตาแทบลืมไม่ขึ้น ก่อนเดินโซซัดโซเซขึ้นเตียง ...แต่ไม่ลืมที่จะคิดถึงดลลชาเหมือนทุกคืน ฝันดีนะคุณ
“อุ้มนึกออกแล้วค่ะว่า วันเกิดปีนี้จะขออะไรคุณพ่อ” ลูกเลี้ยงเอ่ยกับพ่อเลี้ยงในตอนเช้าอีกวัน “ว่ามาสิ?” นภดลยิ้มอย่างเอ็นดู “อุ้มขอจัดงานวันเกิดที่บ้านได้ไหมคะคุณพ่อ อุ้มอยากเชิญเพื่อนที่ทำงานมาสักยี่สิบคนก็พอ” “วันเสาร์นะ?” “ค่ะ” นภดลหันไปถามแม่บ้านคนเก่งที่ยืนอยู่ด้านหลัง “กัญไหวไหม?” “คุณอุ้มต้องการอาหารกี่อย่างคะ?” แม่เธอถามเจ้าของวันเกิด “สี่อย่างพอค่ะน้ากัญ เดี๋ยวอุ้มสั่งกับข้าวกับขนมเพิ่มอีกสองอย่าง จะได้ไม่เหนื่อยมาก” “ได้ค่ะ” กัญญารับปาก “งั้นฝากด้วยนะ” “ค่ะคุณท่าน” “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” ลูกเลี้ยงกล่าวอย่างยินดี ไม่มีใครใจดีกับตนเท่ากับพ่อเลี้ยงอีกแล้ว “อืม” หลังจากคุยเสร็จ พ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงขึ้นรถออกไปคนละคัน ส่วนดลลชากับนพคุณออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืด
“นิน...นิน...” ปัณรสเคาะประตูเรียกเพื่อนสนิท ก่อนชะโงกหน้าเข้าไป “อ้าว ยังไม่มา” เพื่อนสนิทจึงเดินออกไปถามนางพยาบาล “วันนี้หมอนินไม่มาเหรอคะ?” “วันนี้คุณหมอนินหยุดค่ะ” “เหรอคะ” ขณะที่ปัณรสกำลังยืนงงอยู่ตรงนั้น ก็มีใครบางคนปรากฏตัวขึ้น ทำให้หมอสาวกับพยาบาลหันไปมอง สวยมากๆ ใคร? เพื่อนรักเธอจ้องใบหน้าสวยหวานของผู้มาใหม่ ซึ่งสวมชุดกาวน์บ่งบอกว่าเป็นแพทย์เหมือนกัน “คุณหมอนินอยู่ไหมคะ?” ดลลชาถามนางพยาบาลเสียงไพเราะและสุภาพ “วันนี้คุณหมอนินหยุดค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” หล่อนพยักหน้าเข้าใจ แอบผิดหวังเล็กๆ ไม่ได้ คลาดกันอีกแล้วเหรอเนี่ย “ขอโทษค่ะ คุณเป็นหมอเหรอคะ?” ปัณรสถามขึ้นอย่างสงสัย ไม่คุ้นหน้าอีกฝ่าย จึงอยากทำความรู้จัก ร่างบางเหลียวมองคนถามด้วยสายตานิ่งๆ “ฉันดลลชา ฉันเพิ่งกลับมาค่ะ” “อ๋อ คุณหมอคนสวยนั่นเอง ฉันปัณรสค่ะเรียกรสก็ได้ ฉันเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับหมอนิน” “ค่ะ” หล่อนยิ้มบาง เพื่อนเธอยิ้มตอบ “ไว้ฉันจะบอกหมอนินให้นะคะว่า คุณหมอดลลชาตามหาอยู่” “ขอบคุณค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” สวยหยาดฟ้า แต่ดูหยิ่งชะมัด ปัณรสมองตามหลังแพทย์หญิงดลลชาจนผ่านประตูไป จึงหันไปถามนางพยาบาลที่ทำงานที่นี่มาสิบกว่าปี ที่เป็นแหล่งข้อมูลชั้นเลิศ “พี่พอรู้จักคุณหมอดลลชารึเปล่าคะ?” “คุณหมอดลลชาเป็นลูกสาวท่านผอ. ทำงานที่นี่อยู่หลายปี ก่อนลาไปเรียนต่อเฉพาะทาง” “หืม!” เพื่อนเธอทำหน้าสับสน ก่อนถามต่อ “คุณหมอดลลชาเป็นพี่สาวน้องอุ้ม?” “ไม่ใช่ค่ะ เธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของคุณหมอนพคุณ ส่วนคุณอุ้มเป็นลูกติดของภรรยาใหม่” “อ๋อ! มิน่าหน้าตาไม่เหมือนกันเลย” เพื่อนเธอเพิ่งถึงบางอ้อ นางพยาบาลหัวเราะเบาๆ “ว่าแต่คุณหมอจะรับกาแฟไหมคะ?” “เดี๋ยวรสชงเองค่ะ เชิญพี่ตามสบายเถอะ” “งั้นพี่ขอไปดูคนไข้ข้างนอกก่อนนะคะ วันนี้น่าจะเยอะ” “ค่ะ” เพื่อนรักเธอชงกาแฟไปก็ครุ่นคิดไป ถึงหมอดลลชาคนสวยที่เพิ่งแวะมาที่นี่ แล้วอดตั้งคำถามในใจไม่ได้ แสดงว่าคุณหมอพลลชาต้องสนิทกับนินด้วยสิ แต่ดูหยิ่งๆ แบบนี้ จะสนิทขนาดไหนกันนะ? ...มากหรือน้อยกว่าน้องอุ้ม? OoXoO ตอนนี้ญาณินกำลังเนื้อหอม โดนสาวจ้องตะครุบหลายคน ต้องลุ้นว่าจะรอดได้ยังไง? ตอนหน้าจะหวานแล้วค่ะ ใจเย็นๆ กันอีกนิดนะคะ เรื่องนี้ยังเขียนไม่จบนะคะ แก้พล็อตอีกแล้วค่ะ เขียนไปเขียนมาเหมือนจะไม่ค่อยขมเท่าไหร่ ไรท์ไม่ชิน ถ้าชอบก็เขียนคอมเมนท์ให้กำลังใจด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ นาง ^^ OoXoO |
บทความทั้งหมด
|