No Romance หยุดหัวใจที่เธอ - บทนำ (YURI) บทนำ
เรียกมาเรื่องอะไรเนี่ย? ร่มฉัตรบ่นในใจอย่างเซ็งๆ ขณะเข้ามายังอาณาเขตบ้านหลังใหญ่ใจกลางเมือง อันเป็นบ้านของบิดา แม้นจะมีขนาดใหญ่โตน่าอยู่เหมือนคฤหาสน์ในหนัง ทว่าในความคิดเธอ ที่นี่หนาวเหน็บเยือกเย็น ไร้ซึ่งความอบอุ่น ไม่คู่ควรจะเรียกว่าบ้านนัก เธอไม่อยากย่างกายเข้ามาส่วนบ้านใหญ่ หากไม่ถูกโทรตามมา เกือบทุกครั้งที่มาจะเลยไปเรือนเล็กด้านหลัง ที่มารดาของตนพักอยู่ แวะมาเกือบทุกอาทิตย์ที่ว่าง หลังย้ายออกไปอยู่คอนโด เพื่อความสบายใจสบายหู ใจเย็นไว้ร่มฉัตร... สาวร่างสูงหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบใจ พอคิดว่าพร้อม จึงก้าวเข้าไปยังห้องรับแขกกว้าง ที่ราวกับหลุดมาจากละครไทยยุคโบราณ เฟอร์นิเจอร์และข้าวของที่ตั้งในห้องนี้มีราคามหาศาล หลายชิ้นเก่าแก่ไม่ต่างจากขุมสมบัติในพิพิธภัณฑ์ “สวัสดีค่ะ” เธอเอ่ยเสียงเรียบราบ ขณะทำความเคารพผู้ชายสูงวัยตรงหน้า ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขกไม้สัก ใบหน้าบิดาเฉยขรึม มีร่องรอยของอายุที่เพิ่มขึ้นจนเฉียดจะหกสิบ เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ดูน่าเกรงขามไม่น้อย มีเค้าหล่อเหลาในวัยหนุ่มเหลืออยู่บ้าง หญิงสาวหันไปไหว้ผู้ชายอีกคนในห้องนั้น น้องชายแท้ๆ ของพ่อ “สวัสดีค่ะอากิจ” “อือ” กิจจาพยักหน้าเล็กน้อย ไม่นับว่าสนิทสนมกับหลานสาวคนนี้ เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกเมียรองของพี่ชาย “นั่งสิ” กำชัยบอกลูกสาวคนเล็กเสียงเย็น ราวกับกำลังคุยกับลูกน้องมากกว่า ร่มฉัตรทรุดนั่งตรงข้ามกับบิดาอย่างสงบ โดยมีอานั่งอยู่ขวามือของพ่อ ...นี่ไม่ใช่การคุยประสาพ่อลูก แต่มาเพื่อรับคำสั่ง “จำคุณคีรีได้ไหม?” “ค่ะ” เธอพยักหน้า ผู้ชายร่างอ้วนคนนั้นเป็นมหาเศรษฐี เจ้าของธนาคารแห่งหนึ่งอันดับต้นๆ ของไทย เป็นเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจของพ่อ “แสดงว่ารู้จักคิรากร?” พ่อถามต่อ “ค่ะ เคยเจอเขาหลายครั้ง” ในรอบเดือนที่ผ่านมา คิรากรกับกลุ่มเพื่อนแวะมาเป็นลูกค้าที่ผับบ่อยๆ อาทิตย์ละหลายครั้ง เพื่อนแต่ละคนดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่น้อยกว่าเขานัก กำชัยเม้มปากหนาเล็กน้อย มีสีหน้าลำบากใจ “คุณคีรีบอกว่า อยากเป็นทองแผ่นเดียวกับเรา” หืม? ลูกสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฉัน “แปลว่าอะไรคะ?” “เขาอยากให้ฉัตรแต่งงานกับคิรากรน่ะสิ” กิจจาตอบแทน “หา!” ร่มฉัตรอุทานอย่างลืมตัว จากนั้นแค่นหัวเราะออกมา “ทั้งที่รู้กันทั้งเมืองว่า ฉัตรไม่ชอบผู้ชายเนี่ยนะคะ” “ใช่” คนเป็นอาพูดอย่างใจเย็น “พูดให้ถูก แค่การแต่งงานในนาม ต่างคนต่างอยู่น่ะ” แต่งงานในนาม? คนฟังหรี่ตาลงเล็กน้อยกับคำอธิบายนั้น มองออกว่าเรื่องนี้น่าจะซับซ้อน “เพื่ออะไรคะ?” “บริษัทกำลังมีปัญหาทางการเงิน” พ่อตอบเสียงแผ่ว ว่าแล้ว... หญิงสาวมองกำชัยด้วยสายตาที่ยากจะอ่าน ไม่คิดว่าเหตุผลในการแต่งงานจะบ้าบอขนาดนี้ “ฉัตรไม่ได้ทำงานที่บริษัท ไม่ได้ทำงานให้พ่อ พ่อลืมไปรึเปล่าคะ?” เธอค้าน บริษัทเงินทุนของพ่อเป็นแค่ธุรกิจบังหน้า เบื้องหลังคือธุรกิจปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด กับคนรากหญ้าที่ไม่มีทางเลือก พนักงานกว่าครึ่งของบริษัทคือ พวกนักเลงที่คอยตามเก็บหนี้รายวัน ดูแล้วไม่ต่างจากพวกมาเฟียนัก และเป็นไปได้มากว่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจมืดอีกหลายอย่างแบบไม่เปิดเผย ...หลังรู้ความจริงเรื่องนี้ ร่มฉัตรรู้สึกยอมรับไม่ได้ จึงหันไปสร้างธุรกิจของตัวเองแทน “แต่แกเป็นลูกฉัน” กำชัยพูดเสียงดังฟังชัด เหมือนทวงบุญคุณ เขามีภรรยาสองคน ภรรยาหลวงเสียชีวิตไปสิบกว่าปี มีลูกสาวชื่อปูชิตา กับลูกชายชื่อกนธี ภรรยาคนที่สองคือแม่ของร่มฉัตร...รยา มาจากครอบครัวผู้ดีตกยาก ซึ่งกำชัยหลงรักรยาตั้งแต่แรกเห็น จึงพาเข้ามาอยู่เรือนเล็ก จนมีร่มฉัตรเป็นลูกสาวคนเล็ก จากนั้นเขามีผู้หญิงอีกหลายคน แต่ไม่เอาเข้าบ้าน และไม่ยอมมีลูกอีก เพิ่งมาหยุดเจ้าชู้จริงๆ หลังปัญหาสุขภาพรุมเร้าหลายปีก่อน “ฉัตรทราบค่ะว่าฉัตรเป็นลูกใคร แต่ฉัตรไม่แต่งค่ะ” หญิงสาวสบสายตากับบิดาอย่างไม่เกรงกลัว ต่างจากลูกคนอื่น “ฉัตรไม่ได้มีชีวิตเพื่อเงินแบบพ่อหรอกนะคะ” เธอมองว่ากำชัยเห็นแก่ตัวในหลายเรื่อง โดยให้คุณค่ากับเงินเป็นอันดับหนึ่งเสมอ มองข้ามคุณค่าทางจิตใจไปสิ้น เป็นเผด็จการ ทำตัวไม่ต่างจากศูนย์กลางจักรวาล คิดไม่ถึงว่า เขาใช้ชีวิตผ่านมาเกินศตวรรษยังมองไม่ทะลุถึงความจริงข้อนี้ ตายแล้วจะขนไปได้กี่บาทคะ? นึกอยากถามแบบนั้นหลายครั้ง แต่ยังเกรงใจอยู่ “กะ แก...” เขาชี้หน้าลูกสาวคนเล็กอย่างขุ่นเคือง เจอหน้าทีไรก็มักจะมีเรื่องขัดตาขัดใจ ตั้งแต่รสนิยมทางเพศที่ทำให้กำชัยอับอายขายขี้หน้า จนถึงธุรกิจกลางคืนที่ไม่เหมาะกับเพศหญิง พูดจาอะไรก็แสลงหูไม่ชวนฟังแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะปูชิตาแต่งงานไปแล้ว เขาคงไม่ต้องบากหน้าขอให้ร่มฉัตรช่วย นึกเสียดายที่ตนมีลูกสาวน้อยเกินไป “หมดธุระแล้วใช่ไหมคะ?” ลูกสาวไม่คิดอยากจะต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายนานเกินไป หลังแม่เตือนว่าพ่อเป็นโรคหัวใจ แต่บางทีก็ต้องพูดบ้างเพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง ไม่เช่นนั้นก็จะถูกรังแกข่มเหงคล้ายๆ กับตอนนี้ “เดี๋ยวฉัตร” กิจจาเอ่ยรั้งหลานสาว เธอมองหน้าอา ซึ่งมีใบหน้าคลับคล้ายกับพ่อของตน แต่อายุอ่อนกว่าเกือบห้าปี “อะไรคะ?” “ไม่ลองกลับไปคิดหน่อยเหรอ งานนี้อาว่าคุ้มนะ” อีกคนพูดเกริ่น แล้วลดเสียงเบาลง “สินสอดห้าสิบล้านเชียวนะ มีทรัพย์สินพวกอสังหาฯ อีกต่างหาก ไม่สนใจบ้างรึไง?” คนเป็นอาคาดหวังว่า เงินก้อนโตจะทำให้หลานสาวคิดเปลี่ยนใจ แต่เขาเข้าใจผิด ค่าตัวฉันสินะ...ถูกชะมัด “แค่นั้นเองเหรอคะ” สาวหน้าคมเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ฉัตรว่าถูกไปนะคะ ถ้าเสนอสักสองร้อยหรือสามร้อยล้าน ฉัตรจะพิจารณาก็แล้วกัน” “หา! สองร้อยสามร้อยล้านเชียว” คนเป็นอาทวนคำอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าเธอจะตั้งราคาตัวเองสูงขนาดนั้น กำชัยพูดไม่ออก หลังโดนสายตาคู่คมที่เหมือนภรรยาส่งมาราวกับดูแคลนเขา จองหองพองขน! “ขอตัวนะคะ ฉัตรจะไปหาแม่” พูดจบ เธอลุกออกไป โดยไม่ไหว้ผู้ชายทั้งสอง “ลูกอกตัญญู!” บิดาเธอด่าลอดไรฟัน ถอนหายใจยาวอย่างสิ้นหวัง “แล้วจะทำไงล่ะทีนี้?” “ใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับพี่” กิจจาพูดปลอบใจพี่ชาย แต่ซ่อนยิ้มร้ายไว้ในหน้า เป็นแบบนี้สิดี เข้าทางฉันเป๊ะ OOOO พี่ฉัตรเป็นคนใจร้อนค่ะ เพราะมีปมตั้งแต่เด็ก ตอนหน้าจะเปิดตัวนางเอกอีกคนนะคะ นาง ^^ OOOO |
บทความทั้งหมด
|