No Romance หยุดหัวใจที่เธอ - บทที่ 3 (YURI)

 

ร่มฉัตรกับชนมนไปถึงที่เกิดเหตุหลังเวที สองหนุ่มคู่กรณีโดนแยกไว้คนละทางโดยการ์ดร่างยักษ์ของร้านหกคน ขณะที่นักร้องสาวหน้าใหม่ยืนห่างออกไปไม่ไกลมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ยกมือป้องปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา ขณะที่ลูกจ้างชายหญิงอีกสิบกว่าคนอยู่ในเหตุการณ์คอยดูแบบสนใจตามประสาไทยมุง

“มีเรื่องอะไรกัน?” ชนมนพูดเสียงค่อนข้างดัง หลังกวาดตามองสองหนุ่มซึ่งเป็นลูกค้าที่แวะมาที่นี่หลายครั้ง

ผู้จัดการสาวทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามมวย จนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เดือนไหนไม่มีคนตีกันในร้านนับเป็นเรื่องมหัศจรรย์สุดๆ แทบอยากจะไปไหว้พระเก้าวัดแก้บนกันเลยทีเดียว

ร่มฉัตรกอดอกยืนดูเงียบๆ อยู่ด้านหลังเพื่อน ปรายตามองไปทางจีนที่หน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด

ทำไมเด็กนี่ถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้

รู้สึกแบบนั้น หลังเห็นหล่อนเจอปัญหาถึงสามครั้งในวันเดียว และหนึ่งในสามครั้งนั้นมีส่วนทำให้เราได้เจอกัน เธอเบนสายตาไปทางเพื่อนรักซึ่งกำลังทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย

“จีนต้องไปต่อกับผม” ชายเสื้อเชิ้ตสีขาวพูดเสียงอู้อี้ ดูก็รู้ว่าคงดื่มเข้าไปไม่น้อย มีเลือดไหลออกจมูก

“ผมขอก่อน จีนต้องไปกับผมต่างหาก” อีกคนในเสื้อสีฟ้าที่มีรอยฟกช้ำที่แก้มเถียง ดูแล้วเมาไม่น้อยกว่าคนแรก

“ต้องไปกับผม”

“ไม่ได้ ผมไม่ยอม”

สองหนุ่มเถียงกันไม่เลิก พยายามดิ้นจากวงแขนของการ์ดเพื่อไปตะบันหน้ากันอีกยก

กัดกันเป็นหมาเลย...ให้ตายสิ!

ชนมนนึกสมเพชในใจ กว่าครึ่งที่มีเรื่องในผับแห่งนี้ มักจะมาจากผู้หญิงสวยและแอลกอฮอล์

“หยุดเถียงกันได้แล้วค่ะ” ผู้จัดการสาวตวาดลั่น ทั้งสองจึงเงียบลง เพื่อนเธอหันไปทางจีนที่ยังคงอยู่ในชุดร็อคเกอร์สาว มีเหงื่อซึมหน้าผาก ใบหน้าที่ขาวเป็นสีน้ำนมดูขาวซีดกว่าเดิม

“ว่าไงคะจีน?”

จะให้ตอบอย่างไรละคะ?

สาวหวานทำหน้ายุ่ง เม้มปากแน่น ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ตอบแบบไหนก็มีแต่เสียกับเสีย เหมือนเป็นการแก้ตัว ทั้งที่ตนไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

“เอ่อ คือว่า...” พูดได้แค่นั้น แล้วก็ก้มหน้าต่ำ

เฮ้อ!

ร่มฉัตรถอนใจยาวเหยียด ดูแล้วพนักงานคนอื่นคงไม่มีใครอยากยื่นมือเข้าไปช่วยออกรับแทน เพราะเป็นคนใหม่ แถมเป็นคนต่างชาติพลัดถิ่นอีกต่างหาก

...ในใจจึงอดสงสารเด็กน้อยหัวเดียวกระเทียมลีบไม่ได้

ให้ตายเถอะ!

เธอก้าวออกมาหยุดยืนใกล้กับหล่อน ด้วยชุดและท่าเดินที่สะดุดตา ทำให้หลายคนต้องเหลียวไปมอง พนักงานของผับรู้ว่าร่มฉัตรเป็นใคร จึงอดฉงนฉงายไม่ได้ว่า จะทำอะไร?

“น้องจีนคะ”

เจ้าของชื่อหันมองคนเรียก เพ่งมองใบหน้าสวยคมของสาวในชุดเดรสสีสด รู้สึกคุ้นตามาก พอนึกขึ้นได้ก็ทำตาโต

“คุณ-”

หล่อนพูดได้แค่นั้น ก็โดนสาวร่างสูงจุ๊ปาก แล้วพูดแทรกขึ้น

“ไหนน้องจีนบอกว่าคืนนี้จะไปค้างกับพี่ไงคะ” น้ำเสียงอ่อนหวานเย้ายวน ประหนึ่งว่าเรามีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา แล้วหลิ่วตาให้อีกคน

หืม?

นักร้องสาวหรี่ตาเล็กน้อย แล้วเข้าใจทันที

“ขอโทษค่ะ จีนไม่ได้ลืมนะคะ แต่ว่าพวกเขา...” คนสวยปรายตาไปยังสองหนุ่มตัวปัญหา เหมือนเด็กน้อยกำลังฟ้องผู้ปกครอง

ร่มฉัตรยิ้มปลอบใจ เอื้อมมือไปกุมมือนิ่มของหล่อนไว้ สอดประสานนิ้วเข้าด้วยกัน ส่งสายตาหวานเชื่อม แล้วยกหลังมือขึ้นจุ๊บเบาๆ

“เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการเองค่ะที่รัก”

“ค่ะ” หล่อนรับคำเบาหวิว อุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

คำว่า ‘ที่รัก’ ทำให้พนักงานหลายคนตาโต โดยเฉพาะสาวๆ ที่เคยทอดสะพานให้เธอ แต่ไม่เคยได้รับความสนใจ รู้สึกอกเดาะในทันที

สาวในชุดเดรสหันไปทางขี้เมาสองคน ตาคมดูดุดัน แล้วเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ เพื่อจบปัญหา

“ฉันคงให้น้องจีนไปกับพวกคุณไม่ได้หรอกนะคะ น้องจีนเป็นคนของฉัน จบนะคะ”

คำพูดนี้ทำให้เกือบทุกคนเชื่อสนิทว่า นักร้องใหม่กำลังคบหากับร่มฉัตรจริงๆ

“เอ่อ ครับ” / “ครับ”

สองหนุ่มรับคำ คิดเสียดายที่อดงาบสาวสวย หลังถูกปล่อยเป็นอิสระก็เดินโซซัดโซเซไปทางใครทางมัน

พวกพนักงานที่ล้อมวงอยู่ก็ค่อยๆ สลายตัวไปทำธุระของตน

ไวจริงๆ นะแก ทำเป็นไม่รู้จัก เชอะ!

ชนมนบ่นเพื่อนในใจ ไม่รู้ว่าไปรู้จักกับนักร้องใหม่ตั้งแต่ตอนไหน

“ไปคุยกันหน่อยสิคุณเพื่อน”

“อือ” ร่มฉัตรรับคำ ยังคงไม่ยอมปล่อยมือหล่อน สังเกตเห็นอีกคนมีสีหน้าผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด จึงกระซิบว่า “ตามพี่มานี่ค่ะ”

จีนพยักหน้าน้อยๆ ปล่อยให้เธอจูงมือไปอย่างว่าง่าย ยังคงไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่ แค่เดาว่าผู้มีพระคุณของตนน่าจะยิ่งใหญ่ในผับแห่งนี้ไม่น้อย

 

“ไปรู้จักกันเมื่อไหร่?” ชนมนเริ่มสอบปากคำภายในห้องผู้จัดการ โดยมีร่มฉัตรกับจีนนั่งอยู่เก้าอี้ตรงข้าม ส่วนจงรักยืนฟังอยู่เงียบๆ หลังห้อง

ภายในห้องนี้ติดตั้งผนังกันเสียงไว้ เหมือนกับห้องพิเศษ หรือห้อง VIP ชั้นบน จึงไม่มีเสียงเล็ดรอดเข้ามามากนัก ประกอบกับชนมนพยายามกวดขันเรื่องเสียงดนตรีในผับไม่ให้ดังจนเกินไป ไม่อยากหูพังตั้งแต่ยังสาว

เผลอไม่ได้เลยจริงๆ ไวไฟเกิ๊น!

เพื่อนเธอถอนใจเบาๆ

ผู้หญิงคนนี้เจตนาไม่ดีกับคุณฉัตรรึเปล่า?

ลูกน้องสาวเป็นห่วง ไม่อยากให้ร่มฉัตรต้องผิดหวังกับความรักเหมือนที่ผ่านๆ มา จึงคอยทำหน้าที่สแกนสอดส่อง มองนักร้องใหม่อย่างจับผิด

“เจอกันเมื่อกลางวัน” เธอตอบ สังเกตเห็นหล่อนนิ่งเงียบ กุมมือที่วางหน้าตักแน่น คาดว่าคงกลัวโดนไล่ออก

เฮ้ย!

ผู้จัดการสาวอุทานในใจ เดาได้ทันที

“แปลว่าเมื่อกี้แกโกหก?”

“เออสิ ไม่งั้นจะให้ทำอย่างไร” สาวในชุดเดรสย้อนถาม ชำเลืองมองสาวสวยผ่านหางตา “แกไม่สงสารน้องจีนหรือไง? แค่นี้ก็ตกอกตกใจจะแย่แล้ว”

“มันก็จริง” ชนมนพึมพำ

ศึกชิงนางไม่ใช่เรื่องสนุก แม้จะทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกภาคภูมิใจที่มีคนมาชอบพอหลายคน แต่นั่นก็มีอันตรายแฝงอยู่ คนจำนวนไม่น้อยฆ่ากันเพราะฤทธิ์รักแรงหึง

...ความสวยงามของผู้หญิงจึงไม่ต่างจากดาบสองคม

“แล้วจะเอาไงต่อ?” เพื่อนเธอถาม “หากคืนนี้จีนค้างที่ร้าน คนคงรู้แน่ว่าแกโกหก” ผู้จัดการร้านไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียคำพูด เพราะนั่นจะทำให้ลูกน้องไม่เคารพเชื่อถือ และเสียการปกครอง

“จริงด้วย! ฉันลืมไป” ร่มฉัตรนึกอยากเอามือตบหัวตัวเอง “แล้วจะให้น้องจีนไปนอนที่ไหนละเนี่ย?”

“ขอโทษค่ะที่ฉันทำให้ยุ่งยาก” ลูกครึ่งสาวที่เงียบมาตลอดเปิดปากขึ้น รู้สึกผิดที่ตนนำเรื่องเดือดร้อนมาสู่ผู้มีพระคุณ

“ไม่ใช่ความผิดของน้องจีนหรอกนะคะ อย่าโทษตัวเองเลย”

สาวในชุดเดรสส่ายหน้าไม่เห็นด้วย บางปัญหาก็วิ่งมาหาเองทั้งที่อยู่เฉยๆ ...เช่น เรื่องถูกบังคับแต่งงาน

แต่เมื่อปัญหาวิ่งเข้ามา ก็ได้แต่แก้ไขไปตามสถานการณ์

“คืนนี้ฉันต้องไปค้างบ้านแม่ พรุ่งนี้ต้องไปโรงพยาบาลแต่เช้า คงพาจีนไปด้วยไม่ได้” ชนมนบอกเหตุผล ปรายตาไปทางเพื่อนสนิทเหมือนบอกให้รับผิดชอบ ฐานที่ไปพูดโป้ปดเอาไว้

แปลว่าฉันต้องรับผิดชอบสินะ

ร่างสูงอ่านสายตานั้นออก หลังไม่มีทางเลือก และเธอไม่ใจร้ายพอจะทิ้งหล่อนให้ออกไปหาที่พักกลางดึกแบบนี้

...มันอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงสวย

“น้องจีนไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนชุดเถอะ เดี๋ยวคืนนี้ไปค้างกับพี่ก็ได้...ถ้าไม่รังเกียจอ่ะนะ” ประโยคหลังพูดอย่างไม่มั่นใจนัก

“คุณพูดจริง?” จีนทำหน้าดีใจแบบไม่เก็บอาการ นัยน์ตาคู่สีฟ้าเป็นประกาย เผยยิ้มกว้างสดใสไม่ต่างจากที่เป็นเมื่อตอนกลางวัน รู้สึกเหมือนอีกคนเป็นแม่พระมาโปรด

“ค่ะ” สาวในชุดเดรสพยักหน้า แล้วยิ้มตาม ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกชอบรอยยิ้มของหล่อน และอยากเห็นอีกบ่อยๆ

คนอะไรยิ้มสวยชะมัด

“ขอสิบห้านาทีนะคะ” หล่อนบอก

“โอเคค่ะ”

พอนักร้องสาวออกไปจากห้อง จงรักก็เดินมาหาเจ้านายของตน

“แน่ใจเหรอคะ?”

“เรื่องอะไร?” ร่มฉัตรถาม

“เรื่องที่จะพาคุณนักร้องไปที่คอนโดน่ะสิคะ”

“ก็แล้วจะทำยังไง จะให้ฉันพาไปทิ้งไว้โรงแรมคนเดียวรึไง? น่ากลัวจะตายไป” เธอย้อนถาม

“แต่ฉันว่าอยู่กับคุณน่ะ น่ากลัวกว่า”

“พูดบ้าๆ ฉันจะไปทำอะไรน้องเขา”

“ไม่รู้สิคะ เรื่องพรรค์นั้นฉันไม่เคยทำ” จงรักตอบหน้าตาย

“ชิส์” สาวในชุดเดรสค้อนปะหลับปะเหลือก หลังเถียงไม่ออก

รอบนี้ยายรักชนะ

ชนมนหัวเราะคิก ที่เห็นร่มฉัตรโดนลูกน้องคนนี้เล่นงาน จนเป็นเรื่องปกติเพราะทำงานด้วยกันมานาน แทบไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องแล้ว

“ฉันฝากแกดูแลจีนด้วย ห้ามรังแกน้อง จำไว้ว่าเธอเป็นพนักงานที่มีค่ามากๆ ของเรา เข้าใจไหม?”

“รับทราบค่ะคุณชนมน” ร่มฉัตรแกล้งประชด “ฉันไปเปลี่ยนชุดได้รึยังคะ?”

“เชิญค่ะคุณร่มฉัตร” เพื่อนรักแกล้งรับมุก จึงได้รับค้อนมาเป็นรางวัลให้หัวร่ออีกรอบ

หลังร่างสูงเข้าห้องน้ำไปแล้ว จงรักก็พูดกับผู้จัดการสาว

“จะไหวเหรอคะคุณมน?”

“คงไหวมั้ง ฉัตรพูดเองนี่” ชนมนตอบพร้อมยักไหล่ ก้มหน้าลงเพื่อจะอ่านนิตยสาร

“คืนนี้ที่คุณฉัตรมาช้า หลุดปากบอกมาว่า ไปไหว้พระตรีมูรติมา สงสัยจะไปขอพรเรื่องคู่”

“จริงอ่ะ” ผู้จัดการสาวเงยหน้าขึ้นทันที แล้วผุดยิ้มเจ้าเล่ห์ “มาได้จังหวะเหมาะมาก”

รักแรกพบหรือเปล่า?

ชนมนคิดสงสัย มีผู้หญิงไม่กี่คนที่เพื่อนรักจะยอมให้เข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น ร่มฉัตรคงมีใจให้จีนบ้างไม่มากก็น้อย ถึงจะอ้างว่าสงสารก็เถอะ

...ผู้หญิงสวยน่ารักเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของสาวร่างสูง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะได้สิทธิพิเศษ

“รักอย่าไปก้าวก่ายเรื่องนี้เลย ปล่อยให้ฉัตรคิดเอาเองเถอะ” พูดจบ ก็พลิกอ่านหนังสือตรงหน้าต่อ ไม่สนใจคุยด้วยอีก

“ซะงั้น”

จงรักทำหน้าเซ็ง ที่อีกฝ่ายดันปล่อยให้จีนใกล้ชิดร่มฉัตร ทั้งที่ไม่รู้ประวัติของจีนเลยสักนิด

เกิดเป็นสายลับ คุณฉัตรก็แย่สิ

พอคิดแบบนั้นลูกน้องสาวก็ขมวดคิ้วแทบจะชนกัน

 

ขับรถสปอร์ตเหรอเนี่ย ตกลงผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?

จีนอดสงสัยไม่ได้ ขณะนั่งอยู่ในรถปอร์เช่ 911 สีแดงของร่มฉัตร พร้อมสัมภาระคือเป้สะพายหลังใบโตหนึ่งใบ กับกระเป๋าสะพายที่ติดตัว ส่วนจงรักขับรถเก๋งสี่ประตูตามมาเพื่อกลับคอนโด ในช่วงเกือบสี่ทุ่ม

“ขอบคุณค่ะที่คุณช่วยฉันไว้ตั้งหลายครั้ง” หล่อนเอ่ยขึ้นหลังนั่งเงียบอยู่หลายนาที ยามนี้ใบหน้าหวานของสาวลูกครึ่งปราศจากเครื่องสำอางจึงดูอ่อนวัย ไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่น

“ยินดีค่ะ”

“คุณเป็นใครกันแน่คะ?” จีนถามตรงๆ มองอีกฝ่ายที่เปลี่ยนมาแต่งเสื้อผ้าที่เห็นตอนกลางวัน ดูแล้วต่างกับตอนใส่ชุดเดรสเมื่อกี้แทบเป็นคนละคน

...ตอนนี้ดูอ่อนหวาน เมื่อกี้ดูเซ็กซี่เย้ายวน

“ขอโทษทีพี่ลืมแนะนำตัว พี่ชื่อร่มฉัตร จะเรียกว่าพี่ฉัตรก็ได้ค่ะ” คนขับตอบโดยไม่ละสายตาจากถนน “พี่เป็นเพื่อนสนิทกับคุณผู้จัดการ แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของ Paradise Pub ด้วย”

“หุ้นส่วน! งั้นคุณ เอ่อ พี่ฉัตรก็เป็นเจ้านายฉันด้วยสิคะ?”

“จะว่ายังงั้นก็ได้” เธอตอบกลั้วเสียงหัวเราะ “ไม่ต้องเกร็งค่ะ พี่ไม่ถือตัวมากขนาดนั้น เราเป็นคนเท่ากันค่ะ ถึงจะเป็นคนละเชื้อชาติก็ตาม”

“ฉันเป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน แม่ฉันเป็นคนไทยค่ะ”

“มิน่าพูดไทยคล่องมาก”

แม้หล่อนจะพูดไม่ชัดเป๊ะทุกคำ แต่โดยรวมถือว่าพูดได้ชัดเจนฟังรู้เรื่องไม่ต่างจากคนไทยนัก

“น้องจีนอายุเท่าไหร่คะ?” เธออดสงสัยไม่ได้ หลังเห็นใบหน้าสดของอีกฝ่ายดูอ่อนเยาว์มาก จนเดาอายุไม่ถูก

...เกรงจะเอาตัวเองเข้าตะราง โทษฐานพรากผู้เยาว์

“22 ค่ะ” สาวลูกครึ่งตอบ ก่อนถามกลับ “พี่ฉัตรล่ะคะ?”

“29 ค่ะ พี่แก่แล้ว” คนขับรถพูดยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“ไม่แก่สักหน่อย พี่ฉัตรสวยมากๆ ค่ะ” อีกคนรีบพูด ไม่อยากให้คู่สนทนาคิดมาก “สำนวนไทยว่ายังไงนะ... ‘อายุเป็นเพียงตัวเลข’ ใช่ไหมคะ?”

ฉันสวยเหรอ ดีใจจัง

ร่มฉัตรอมยิ้มในหน้า แม้จะรู้ว่าตนมีหน้าตาที่จัดว่าดีมาก แต่คำชื่นชมของจีน กลับทำให้มีความสุขมากมายเป็นทวีคูณ

“เก่งมากค่ะ” ไม่คิดว่าหล่อนจะรู้จักสำนวนไทยด้วย บ่งบอกว่าคนเป็นแม่ต้องสั่งสอนมาไม่น้อย “แล้วนี่มาเที่ยวคนเดียวเหรอคะ?”

“จะพูดอย่างนั้นก็ได้” จีนเม้มปากเรียวสวยรูปกระจับ นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ “จริงๆ คือจีนแอบหนีพ่อมาน่ะค่ะ”

“หืม ทำไมต้องหนีด้วย?” ร่มฉัตรเอียงหน้าไปมองเพื่อนร่วมทาง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใจกล้ามาก ถึงหนีมาไกลตั้งครึ่งค่อนโลก

“คือพ่อบังคับจีนแต่งงาน...เอ่อ เราไม่คุยเรื่องนี้ได้ไหมคะ?”

คนขับรถได้ยินชัดเจน แต่ไม่คิดก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว จึงเปลี่ยนเรื่องคุย

“หิวไหมคะ?”

“นิดหน่อยค่ะ” หล่อนตอบ หลังออกจากห้างสรรพสินค้า ได้แวะซื้อขนมปังทานก่อนร้องเพลงไปแค่ก้อนเดียว

“พอถึงห้อง น้องจีนอาบน้ำก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ทำอาหารง่ายๆ ให้ทาน อยากทานอะไรคะ ข้าวไข่เจียว ข้าวไข่ดาว หรือจะเอาข้าวต้มรอบดึกหน้าคอนโดก็มีขาย?”

“จีนรบกวนพี่ฉัตรอีกแล้ว” หล่อนเอ่ยอย่างเกรงใจ

“ไม่หรอกค่ะ พี่ยังไม่ได้ทานมื้อเย็นเหมือนกัน”

สาวลูกครึ่งนิ่งคิด ก่อนย้อนถาม

“แล้วปกติพี่ฉัตรทานอะไรคะ?”

“โจ๊กใส่ไข่กับนมสดหนึ่งแก้ว ไม่หนักท้องเกินไป ดึกแล้วไม่ควรทานมาก เสียสุขภาพ”

“งั้นจีนขอด้วย รบกวนด้วยนะคะ”

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

ร่มฉัตรไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้เป็นอะไรที่ยุ่งยาก เพราะทำแบบนี้จนเป็นความเคยชิน การมีหล่อนเพิ่มเข้ามาในชีวิต อาจทำให้ความน่าเบื่อน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจีนจะอยู่กับตนได้นานแค่ไหน

...อาจแค่เพียงคืนนี้คืนเดียวก็ได้

พอคิดถึงเวลาร่วมกันที่มีน้อยนิด เธอสลายรอยยิ้มลง แล้วตั้งใจขับรถต่อไป

 

ไม่ถึงสามสิบนาที ร่มฉัตรพาเพื่อนใหม่เข้าไปยังคอนโดหรูสูง 20 ชั้น ซึ่งตบแต่งเรียบง่ายแต่น่าอยู่ พนักงานกะกลางคืนมองสองสาวแบบงงๆ ด้วยจีนสะพายเป้ใบโตเหมือนนักเดินทาง ทั้งสองขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 19 แล้วนำไปยังห้องพักของตน เธอวางคีย์การ์ดที่ห้องเบอร์ 1909

ร่างสูงเปิดประตูกดเปิดไฟข้างทางเข้า ผายมือให้ลูกครึ่งสาวเข้าไปก่อน

“เชิญค่ะ”

ว้าว!

หล่อนกวาดตามองไปรอบๆ ห้องที่แบ่งเป็นโซนรับแขก มีโซฟาชุดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ถัดไปเป็นโซนครัวที่มีเคาน์เตอร์และบาร์เหล้าเล็กๆ โต๊ะอาหารสี่ที่นั่ง ทุกอย่างจัดวางค่อนข้างเป็นระเบียบ ยกเว้นมีหนังสือวางคว่ำอยู่บนโต๊ะกระจกเท่านั้น

“สวยน่าอยู่มากค่ะ”

“ห้องน้องจีนอยู่ทางซ้ายนะคะ ห้องน้ำก็ติดกัน ใช้ได้ตามสบายเลยค่ะ” เจ้าของห้องบอก “เดี๋ยวพี่จัดอาหารก่อน เสร็จแล้วเรามาทานพร้อมกัน”

“ขอบคุณค่ะ”

จีนสะพายเป้ใบโตเข้าไปยังห้องนอน เปิดไฟแล้วกวาดตามองรอบห้องนั้น ก่อนหลุดยิ้มกับตัวเองออกมา

หลังประสบโชคร้ายที่ทำกระเป๋าเงินหาย รู้สึกคิดผิดที่หนีออกจากบ้าน แต่โชคดีก็เข้ามาทดแทนเสมอ จากผู้หญิงสวยสง่าที่ชื่อร่มฉัตร ทำให้หล่อนอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนใจดีแบบนี้ พี่ฉัตรเหมือนเป็นนางฟ้าของฉันเลย

นักร้องสาวยิ้มกับตัวเอง เปิดเป้ใบโต หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่จะใช้เปลี่ยน พร้อมแปรงสีฟันยาสีฟัน เพื่ออาบน้ำแต่งตัว ไม่อยากให้เจ้าของห้องต้องรอนาน

OOOO

พี่ฉัตรแก้ปัญหาเก่งเนอะ สุดท้ายพาน้องจีนเข้าบ้านแบบงงๆ สองหนุ่มเจ็บตัวแต่รับประทานแห้ว 5555

นาง ^^

OOOO




Create Date : 01 พฤษภาคม 2564
Last Update : 1 พฤษภาคม 2564 19:01:18 น.
Counter : 660 Pageviews.

0 comments
อากาศร้อนเกินไป ปลายเทียน
(1 พ.ค. 2567 14:58:42 น.)
Wish อมยิ้มสีฟ้า
(1 พ.ค. 2567 00:31:12 น.)
แนะนำนิยาย : หลินตันตันเกิดใหม่มาสร้างครอบครัวที่ร่ำรวยในยุค80 (แฟนตาซี เกิดใหม่ สไตล์จีนโบราณ) เหมียวกุ่ย
(30 เม.ย. 2567 15:29:06 น.)
: รูปแบบของความปรารถนา : กะว่าก๋า
(29 เม.ย. 2567 05:52:35 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nuinang.BlogGang.com

นิ้วนาง-เดียนา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]

บทความทั้งหมด