อังคาร พาลูกบุกพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และ Akihabara เมื่อวานวันที่ 7 เดือน 7 วันนี้วันที่ 8 เดือน 7 ปี 2551 หรือ 2008 National Science Museum หรือ National Museum of Nature and Science, Tokyo. อยู่ใกล้สถานี Ueno ถัดจาก Art Museum ![]() //www.kahaku.go.jp/english/event/2007/theater360/index.html ![]() ด้านหน้ามีรูปหัวรถไฟ (รถจักรไอน้ำ รุ่นเก่า) เด็กไม่เสียค่าเข้าชม ผู้ใหญ่เสียคนละ 600 เยน และมีอุปกรณ์ให้ยืม (pda) เป็นคำอธิบายภาษาต่างๆ น้องนุ่นขอชุดบรรยายภาษาอังกฤษ เวลาเช้าไปในห้องต่างๆ จะมีตำแหน่งให้ยืน แล้วเครื่องจะรับสัญญาณของห้องนั้น บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับห้องนั้นๆ ช่างทันสมัยจริงๆ ที่น่าสนใจมีหลายอย่างด้วยกัน เขาจัดผังการแสดงได้น่าสนใจมากๆ อย่างเรื่องของอาณาจักรพืช ก็จะเริ่มจากเชื้อโรค มีภาพเชื้อโรคเป็นสามมิติ เชื้อรา ก็สวย อาณาจักรสัตว์ก็สวยงาม สัตว์ที่สตาฟไว้ดูแทบไม่ออกว่าจริงหรือปลอม หรืออาจเป็นหุ่นขี้ผึ่งก็ไม่อาจทราบได้ ในส่วนของคนญี่ปุ่นโบราณก็ใช้หุ่นขี้ผึ้งที่ปั้นได้เนียนมาก ละเอียดทุกรูขุมขน ฟัน ผิวหนัง เส้นผม เหมือนจริงมากๆ ![]() ![]() ห้องโรงหนัง 360 องศา ไม่ควรพลาด เป็นอะไรที่วิเศษมากๆ เข้าไปแล้วเหมือนได้เข้าไปในสถานที่นั้นจริงๆ เสียดายอย่างเดียวที่เขาบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น หาอ่านเพิ่มได้ที่ //www.kahaku.go.jp/english/event/2007/theater360/contents.html ![]() เพิ่มเติมนะคะ ไม่สามารถถ่ายภาพได้สวยงามเท่าในหนังสือ เลยถือโอกาส scan ภาพจากหนังสือมาให้ดูว่า เขานำเสนอได้อย่างสวยงามอย่างไร ![]() ชอบมากๆกับตรงนี้ เขาทำได้อย่างเห็นภาพเลยว่าดินบริเวณนี้เป็นดินประเภทไหน ต้นไม้ที่ขึ้นในบริเวณนี้ และมีสัตว์อะไรบ้าง ซึ่งพื้นดินจะแตกต่างกันไป ![]() อันนี้ก็ชอบเช่นกัน ในตู้กระจกมีพันธ์พืชจริงๆที่ทำให้แห้ง เป็นต้นไม้พื้นๆที่เจอบ่อยๆตามข้างทาง ![]() ดอกไม้ที่ทำให้แห้ง อยู่ในกระจกแก้ว ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ภาพไม่ค่อยชัด (มือสั่น) ![]() ตรงนี้เขาทำเป็นแท่นเปล่าๆ เข้าใจ(เอง)ว่าเขาพูดถึงมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งคือพวกเรา เลยได้นางแบบสาวรุ่น คนนี้มาแสดง (น้องนุ่นเอง) หลังจากเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์ร่วมสามชั่วโมง เข้าห้องน้ำไปสองครั้ง รับประทานอาหารกลางวันที่แสนอร่อย (ลืมถ่ายภาพ) สองคนสองวัยก็เมื่อย(มาก) จึงชวนกันกลับ ทั้งๆที่ยังมีอีกหลายห้องที่ไม่ได้เข้าไปชม เช่นห้องเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ห้องที่เกี่ยวกับอวกาศ และแร่ธาตุ ตารางธาตุ เขาเอาธาตุจริงๆ มาใส่ในตารางธาตุขนาดใหญ่ๆ ครั้งหน้าจะหาโอกาสพาน้องนุ่นมาชมอีก สวนสัตว์ก็ยังไม่ได้เข้าไป ไว้มาใหม่ช่วงหน้าหนาว อากาศดีๆ จะไม่เหนื่อยเท่าหน้าร้อน ได้นั่งพักบนรถไฟ ไม่กี่สถานีก็เริ่มมีแรง พากันไป Akihabara เพราะแม่ต้องการไปดูโน๊ตบุ๊ค อยากรู้ว่าตอนนี้เขาใช้อะไรกัน ![]() เข้าไปในห้างซึ่งมีหลายชั้น ที่น่าตื่นใจคือ PC ที่เขามี CPU เล็กๆ จอภาพสวย คล้ายๆทีวี LCD HD ยี่ห้อไหนๆก็คล้ายๆกัน ที่ใช้ได้ในญี่ปุ่น คีย์บอร์ดภาษาญี่ปุ่น ไม่มีแบบไหนที่จะหอบมาใช้ในไทยได้ เพราะผู้ใช้ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น โน๊ตบุ๊คก็บอบบาง มีตั้งแต่ 1 กก. เบาสวยน่าใช้มากๆ ไปดูเครื่องเขียนดีกว่า พวกกระดาษต่างๆ เคยซื้อมาใช้พิมพ์ภาพแล้วถูกใจมากๆ ภาพสดสวย เนื้อกระดาษดี บางเหนียว แล้วก็เจอนี่เลย หามานานแล้ว อุปกรณ์ทำสมุดอัลบัมด้วยตัวเอง ![]() ![]() ซื้อมาแล้วก็นึกได้ว่าหมึกพิมพ์ของบ้านเรามันแพง ทุกวันนี้พยายามไม่พิมพ์เอง แต่จะให้ร้านถ่ายรูปอัดภาพให้ คิดแล้วถูกกว่าทำเอง แต่ก็นั่นแหละนะ อะไรที่ทำเองก็มีความสุขกว่า ไปหาชมโน๊ตบุ๊คที่ร้านปลอดภาษีดีกว่า ดูร้านแรก ก็ไม่ถูกเงินเท่าไหร่ Toshiba รุ่นใหม่ บางมาก ราคาตั้ง 180,000-220,000 yen คิดเป็นเงินไทยก็ ห้า-หกหมื่น ใกล้เคียงกับเมืองไทย ทำไงดี ไม่มีคอมใช้ เพราะที่มีอยู่เกิดเสียขึ้นมา ส่งซ่อมอยู่กว่าจะได้ก็อีกหลายเดือน (สามีส่งซ่อมที่ apple เมกา) ไปร้านที่สอง อยู่ฝั่งตรงข้าม ไปดูกล้องถ่ายรูปด้วย ![]() ถูกใจเพราะที่ร้านมีรุ่นใหม่ให้เปรียบเทียบ เลยเลือกรุ่นที่ตกรุ่นแล้ว ไหนๆก็ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพขนาดใหญ่ๆ ของเดิมก็แค่ 6 ล้านพิกเซล อันนี้ 7 ล้าน ราคาคิดเป็นเงินไทยก็หมื่นนิดๆ (34,800 yen) ซูมได้ถึง 10X ลองถ่ายดู ก็ชัดมากๆ แล้วก็ไปปิ๊งโน๊ตบุ๊ค Toshiba รุ่น หนัก 2 กก. เป็น core 2 Duo 2.0 GB of ram เพิ่มได้ 4 GB of ram ราคาเบาๆ เพราะเป็นรุ่นปีที่แล้ว เรียกได้ว่าตกรุ่นแล้ว ถูกใจหน้าจอที่ให้ภาพสวย เป็นจอคล้ายๆจอแก้ว ที่ทนกว่า LCD ธรรมดา ยังไม่ทันดูอย่างอื่น คิดว่าตัวนี้แหละเหมาะแล้ว ถามอะไรคนขายก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เลยลองเล่นดู ร้านเขาก็ไม่มีเน็ตให้ใช้ (ส่วนใหญ่ร้านขายคอมจะมีเน็ตให้ทดลองใช้) อีกอย่างเขาใส่โปรแกรมมาให้ครบหมด รวมทั้ง MS office แต่ต้องลงทะเบียนภายใน 2 เดือน (เป็น OS window vista แท้) กลับมาถึงโรงแรมรีบ Charge แบ๊ต แล้วใช้เน็ต ต่อตรงกับ Lan ของโรงแรม ก็ใช้ได้นะ เร็วดี หรือเป็นเพราะเน็ตของโรงแรมเร็วมาก เช็คความเร็วดู ตั้ง 8000 mb น่ะ อยู่บ้านเราแค่ 2000 นี่ก็หรูแล้ว ที่บ้านใช้เน็ตทรู 3000 mb แต่จริงๆแล้วมันตกเหลือ 700-800 เอง รีบเข้าไปเช็คสเปคเครื่อง ปรากฎว่าที่เมกาขายเพียง 900-1000 USD แต่ไม่เห็นในเมื่องไทย (น่าจะเป็นเครื่องที่ส่งขายอเมริกา) ดูแล้วราคาแพงกว่าที่อเมริกาเล็กน้อย เอาเหอะ ยังไงก็ประหยัดกว่ารุ่นใหม่ที่หนัก 1 กก. น่ะ (ปลอบใจตัวเอง มาคิดๆดูก็น่าซื้อรุ่นที่ใหม่ที่สุดเหมือนกัน) |
บทความทั้งหมด
|