รีวิว พาลูกไปทำฟัน กับหมอฟันเฉพาะทางเด็ก ที่ Edelweiss Dental House สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิว คลินิกทำฟัน ที่พาลูกสาวไปทำแล้วประทับใจค่ะ ห่างหายจากการรีวิวไปนานมาก เพราะโควิดไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเลย แต่เด็ก ๆ ก็ต้องพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเนอะ ไหน ๆ จำเป็นต้องออกมาแล้ว ก็ขอมาแชร์ประสบการณ์แบบจัดเต็ม สไตล์เรา เพราะคิดถึงการรีวิวมาก ๆ ^^ แอบมีคำแนะนำในการดูแลฟันเด็ก ๆ จากหมอฟันเด็ก มาฝากคุณแม่กันด้วยค่ะ เราพาลูกสาวมาทำฟันที่ “เอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์ - Edelweiss Dental House” คลินิกตั้งอยู่ใน กทม. ค่ะ บนถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้แยกสุทธิสาร เลยเซ็นทรัลลาดพร้าวมาไม่ไกล พิกัดคลินิก https://g.page/edelweissdentalhouse?share ซึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือ การใช้เทคโนโลยี - ระบบฆ่าเชื้อที่เทียบเท่าโรงพยาบาล และจะมีทีมแพทย์เฉพาะทางในแต่ละสาขา รวมถึงหมอฟันเด็กด้วยค่ะ (แต่ที่นี่หมอเด็กจะเข้าเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ นะคะ คิวจะฮอต ๆ หน่อย) เราได้มารู้จักคลินิกนี้ เพราะใกล้บ้านพี่สาวค่ะ คุณป้าของน้องก็ให้หลาน ๆ ทำที่นี่ เลยตาม ๆ กันมา ด้วยความที่แถวบ้านไม่มีคลินิกที่เป็นคุณหมอฟันเฉพาะทางเด็ก ที่ผ่านมาน้องก็จะหาหมอฟันที่เดียวกับคุณแม่ ไม่ได้มีคุณหมอประจำ ที่เอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์ จะเป็นระบบนัดหมาย 100% การให้บริการก็จะไม่ต้องรอคิว ไปตามเวลาได้เลย ซึ่งดีตรงที่ไม่แออัดค่ะ การรักษาของที่นี่ก็จะครอบคลุมทั้งการถอนฟัน รักษารากฟัน จัดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ทำรากฟันเทียม และทันตกรรมสำหรับเด็ก ไปจนถึงผู้สูงอายุ ในส่วนของอ. หมอเฉพาะทางในคลินิกแต่ละท่านก็จะมีข้อมูลในเว็บไซต์ของเค้าให้อ่าน (www.edelweissdentalhouse.com) บรรยากาศของคลินิกจะมีความผ่อนคลาย มีโซนนั่งรอกว้างขวาง (ถ่ายมาไม่หมดนะคะ เพราะมีคนไข้ท่านอื่นด้วย) กลางคลินิกจะมีต้นไม้ใหญ่ ให้บรรยากาศการหาหมอฟันไม่น่ากลัวสำหรับเด็ก ในคลินิกสะอาด และมีความเป็นส่วนตัวค่ะ เจ้าหน้าที่ก็น่ารัก บริการทั่วถึง สำหรับเด็ก ๆ นอกจากจะมีคุณหมอเด็กแล้ว เค้าก็มีห้องทำฟันของเด็กโดยเฉพาะด้วย เป็นธีมมิกกี้ เรากับลูกคุยกันว่าห้องน่ารัก คุณหมอเลยบอกว่า ถ่ายรูปได้นะคะ หมอไม่ว่า 55555 พอทำใกล้เสร็จ คุณแม่ก็เลยได้โอกาสถ่ายรูปห้องมาประกอบรีวิวนิดหน่อย โดยที่ไม่เป็นการรบกวนคุณหมอมากค่า วันนี้น้องมาทำเป็นโปรแกรมตรวจเช็กสุขภาพฟัน + เคลือบฟลูออไรด์ และคุณหมอก็แนะนำว่าควรเคลือบหลุมร่องฟัน 2 ซี่ที่เริ่มมีปัญหาหลุมร่องฟันลึก เพื่อไม่ให้เศษอาหารไปติด ป้องกันฟันผุ ระหว่างรอเคลือบฟันค่ะ ซึ่งการรักษากับคุณหมอเด็กก็จะมีความแตกต่างกับคุณหมอท่านอื่นตรงที่ คุณหมอเฉพาะทางเด็ก จะมีจิตวิทยาในการคุยกับเด็ก คุยสนุก มีวิธีการใช้คำพูดที่ทำให้เด็กผ่อนคลาย ไม่เครียด คุณหมอที่รักษาน้องใจดีมาก ๆ ให้น้องถือกระจกดูตอนทำฟันด้วยค่ะ 555 ตอนโทรมาคอนเฟิร์มนัด จนท. ก็แจ้งให้เตรียมแปรงสีฟัน ยาสีฟันมาด้วย เพราะคุณหมอจะแนะนำเรื่องการแปรงฟัน และดูว่าแปรงสีฟัน + ยาสีฟันที่ใช้อยู่ตอนนี้ โอเคสำหรับวัยน้องมั้ย เลยมีทริคจากคุณหมอมาฝากแม่ ๆ ด้วยค่ะ ลูกสาวเรา 8 ขวบ คุณหมอแนะนำว่า “เวลาแปรงฟันเสร็จให้บ้วนน้ำแค่ครั้งเดียว เพื่อให้เหลือฟลูออไรด์เคลือบในปาก เป็นการป้องกันฟันผุ” และน้อง 8 ขวบ สามารถใช้ยาสีฟันของผู้ใหญ่ได้แล้วค่ะ ^^ คุณแม่ก็มีปรึกษาเรื่องการขึ้นของฟันแท้น้อง ที่มันไม่เรียงกันเหมือนฟันน้ำนม กลัวฟันจะซ้อนเก คุณหมอก็ให้เวลา ให้คำปรึกษาจนเข้าใจค่ะ ไม่ได้รีบ ๆ ทำฟันให้จบไป ก็เลยประทับใจตรงนี้มากกก ตอนกลับบ้านจะได้นิทานของคลินิกด้วย 1 เล่ม ในเรื่องของราคา ก็ไม่แรงอย่างที่คิด วันนี้ค่าใช้จ่าย 2,600 บาทค่ะ พี่สาวบอกว่าโรงพยาบาลทันตกรรมใหญ่ ๆ ที่เคยไปก็ประมาณนี้ แต่ที่นี่จะไม่ต้องรอนาน ข้อดี :
ข้อเสีย :
|
บทความทั้งหมด
|